Chapter 11 คิดถึง

1730 Words
Chapter 11 คิดถึง เช้าวันจันทร์ ร่างเล็กในชุดนักศึกษาทับด้วยเสื้อช็อปสีกรม บนหลังสะพายกระเป๋าเป้สีดำถูกระเบียบ เช้านี้ท้องฟ้าสดใสกว่าทุกวันบรรยากาศดูเย็นสบายพลอยทำให้ร่างกายสดชื่นไปด้วย ทว่าชานมกลับไม่ได้รู้สึกสดชื่นด้วยเลยสักนิด เธอต้องไปเรียนที่ดับเบิ้ลเอสเป็นวันแรกหวังว่าจะไม่ได้เจอกับคนสารเลวนั้นหรอกนะ เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมานับว่าเป็นครั้งแรกในรอบเดือนที่เธอได้นอนพักผ่อนอย่างสบายใจ ไม่มีใครมารบกวน เธอปรารถนาให้เป็นเช่นนี้ทุกอาทิตย์เลยก็ยิ่งดี บรื้นนนนน~ ระหว่างทางเลี้ยวเข้าวิทยาลัยเทคโนโลยีดับเบิ้ลเอส รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สีดำแถบน้ำเงินคุ้นตาเบิ้ลเสียงกระแทกใส่จนชานมสะดุ้งโหยง “ตายยากตายเย็น!” คิ้วสวยขมวดมุ่นแสร้งทำทีมองไม่เห็นฮักแล้วเดินตรงดิ่งไปโรงอาหารตามที่นัดหมายกับนินจาและควีนเอาไว้ ฮักจอดมอเตอร์ไซค์ที่โรงรถ นิ้วเรียวยาวถอดหมวกกันน็อกออก ดวงตาคมกริบจ้องมองแผ่นหลังเล็กที่ค่อย ๆ จากไป ไม่เจอแค่สองวันดูอวดดีขึ้นเยอะเลยนะ ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นลอย ๆ “หยุดเสาร์อาทิตย์ไม่เจอกันถึงกับเมินผัวเลยเหรอ?” “…” ชานมได้ยินชัดเต็มสองหูแต่ก็แสร้งหูทวนลมแล้วรีบเร่งฝีเท้าเพื่อหนีไปให้พ้น ๆ ตรงนั้น ฮักหัวเราะในลำคออย่างนึกสนุก ยัยลูกไก่คิดว่าจะหลบหน้าเขาไปได้นานแค่ไหนกัน เข้ามาถึงรังเขาขนาดนี้คิดว่าจะหนีรอดไปได้เหรอ? เจ้าของเรือนผมสีน้ำเงิน ตัวสูงโปร่งเดินตรงไปยังโรงอาหารเช่นเดียวกัน ใบหน้าหล่อโดดเด่นผิวขาวออร่ามาแต่ไกล ทันทีที่เห็นเขาเดินผ่านรุ่นน้องช่างกลต่างก็ลุกขึ้นจากโต๊ะก่อนจะค้อมหัวทักทายเสียงดัง “พี่ฮักหวัดดีครับ!!” ทักทายเสร็จก็นั่งลงกินข้าวกันตามปกติ ส่วนฮักเดินผ่านแผ่นหลังของชานมก็แสร้งทำทีไม่รู้จักกัน บริเวณมุมปากโค้งขึ้นดูอารมณ์ดีกว่าทุกวัน ดวงตาลุ่มลึกปรายมองคนตัวเล็กในชุดช็อปสีกรมของต่างสถาบันผ่านหางตาก่อนจะเดินผ่านอ้อมไปนั่งอีกโต๊ะโดยเลือกนั่งฝั่งตรงข้ามที่จะได้เห็นหน้าชานมชัด ๆ ในจังหวะที่ฮักเดินผ่าน ชานมประหม่าจนแอบกลั้นหายใจเกร็งไปทั้งตัว เธอกลัวเขาจะหยุดหาเรื่องตัวเองจนหัวใจเต้นโครมคราม ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ช้อนมองคนที่นั่งโต๊ะถัดไปอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ สุดท้ายก็ต้องหลบสายตาเพราะฮักกำลังจ้องเขม็งพร้อมกับรอยโค้งที่มุมปาก ตาบ้านี่คิดจะแกล้งเธอใช่ไหม! “เป็นอะไรหรือเปล่าชานม?” นินจาเห็นสีหน้าของชานมเปลี่ยนไปจึงเอ่ยถาม ซึ่งนั่นทำให้ควีนที่กำลังกินข้าวมองมาที่ชานมเช่นกัน “เปล่า…” “เธอกังวลเหรอ?” “อืม กังวลนิดหน่อย” ชานมพยักหน้าพร้อมกับก้มหน้าก้มตากินข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ซื้อมา ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอรู้จักกับฮักแล้วก็กลัวเหลือเกินว่าฮักจะเปิดเผยเรื่องที่รู้จักกัน “เอาน่า เดี๋ยวก็ชิน” นินจาปลอบใจ ยิ่งชานมเป็นคนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครด้วย การย้ายมาเรียนกะทันหันในสถาบันใหม่คงเป็นเรื่องลำบากใจไม่น้อย “อื้ม” ชานมพยักหน้าก่อนจะระบายยิ้มน้อย ๆ ให้เพื่อน ยังไม่ทันได้เอ่ยคำใดจู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มในชุดช็อปสีเลือดหมูเดินมาขยี้หัวนินจาก่อนจะแย่งช้อนจากมือแล้วตักข้าวในจานของนินจาเคี้ยวตุ้ย ๆ “โอ๊ยยยย! ไอ้พี่เวร หิวก็ไปซื้อเองสิ!” นินจาตวาดลั่นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจพร้อมกับมองไข่ดาวที่ถูกเจาะออกไปเหลือเพียงไข่ขาว “นิสัยแย่จริง ๆ” “แหม กับพี่ชายแบ่งปันไม่ได้เลยนะ!” “พ่อแม่ก็ให้เงินมาเท่ากันทำไมไม่รู้จักไปซื้อกินเอง อยู่ให้ห่าง ๆ ฉันเลยนะ ไม่งั้น…” “ฉันจะฟ้องพ่อแน่!!” ไม่รอให้นินจาพูดจบเขาก็แทรกขึ้นราวกับรู้ทัน ซึ่งยิ่งทำให้นินจาสีหน้ามืดดำด้วยความขุ่นเคือง “รู้แล้วก็ดี!!” “โอ้~ นี่เพื่อนของเธอเหรอแนะนำให้พี่รู้จักหน่อยสิ” ใบหน้าทะเล้นเจ้าของเรือนผมสีดำขลับกวาดสายตามองชานมและควีนด้วยความสนใจก่อนจะแอบทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ นินจาผู้เป็นน้องสาวซึ่งในตอนนั้นโชกุนก็เหลือบไปเห็นเพื่อนสนิทกำลังมองมาทางตัวเองอยู่พอดี “อ้าว ไอ้ฮักมึงก็อยู่นี่เหรอ?” “เออ” “มานั่งด้วยกันไหม น้องสาวกูกำลังจะแนะนำเพื่อน ๆ ให้ได้รู้จัก” โชกุนกระดิกนิ้วเรียกโดยไม่รู้เลยว่าฮักกำลังรอจังหวะนี้อยู่ “อืม” ร่างสูงโปร่งยันตัวลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ ชานมที่กำลังเกร็งไปทั้งตัวเพราะฝั่งนั้นมีทั้งควีน นินจาและโชกุน มีเพียงที่นั่งฝั่งของชานมที่ยังคงว่างอยู่… กลิ่นน้ำหอมสปอร์ตสดชื่นประจำตัวของฮักปะทะจมูกยิ่งทำให้ชานมราวกับโดนไฟช็อตแน่นิ่งไปชั่วขณะ ฮักนั่งใกล้เธอมาก มากจนแทบตัวติดกันจนชานมไม่กล้าแม้แต่จะหยิบข้าวเหนียวหมูปิ้งออกมากิน “อะไรของพี่เนี่ย ฉันไปบอกตอนไหนว่าจะแนะนำ” นินจาเอี้ยวตัวไปกระซิบกระซาบกันกับพี่ชายที่กำลังตีหน้ามึน “เอาน่า ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมาเพื่อน ๆ พี่จะได้ช่วยได้ไง” จังหวะที่ทั้งคู่กำลังกระซิบกันไปมา โรมเพื่อนสนิทของฮักและโชกุนก็เดินมาพอดีพร้อมกับหูฟังที่เสียบคาอยู่ที่หูก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างชานมเช่นเดียวกันซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับควีน “ไอ้ใบ้มาพอดีเลย เพื่อนเธอมีใครบ้างแนะนำตัวมาสิ” “เฮ้อ~ นี่ควีน” นินจาส่งสายตาไปยังควีนที่ทำหน้าเฉยชากำลังนั่งกินข้าวอยู่ ก่อนจะส่งสายตาไปยังชานมแล้วแนะนำเป็นลำดับถัดไป “ส่วนนี่ชานม” ชานมก็ได้แต่ค้อมหัวน้อย ๆ ให้กับโชกุน “โอเค ส่วนนี่คือโรมแล้วก็ฮักเพื่อนพี่เองถ้ามีปัญหาอะไรมาบอกพวกเราได้เดี๋ยวช่วยจัดการให้” โชกุนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรก่อนจะแอบลอบมองชานมพร้อมกับเลื่อนสายตาไปมองเพื่อนของตัวเองที่กำลังจ้องเธอไม่วางตา สายตาแบบนั้นมันยังไงกันนะ? “เอ่อ…พวกเรากินข้าวกันเถอะนั่งตรงนี้แหละ” เห็นสถานการณ์ดูอึมครึมแปลก ๆ โชกุนก็เริ่มทำตัวไม่ถูกก่อนจะลุกขึ้นไปหาซื้อข้าวมากิน “…” ส่วนชานมก็ได้แต่นั่งเกร็งเพราะเธอรู้สึกได้ถึงสายตาของฮักที่กำลังมองเธออยู่ สักพักเขาก็ขยับตัว ในจังหวะนั้นไม่รู้ว่าบังเอิญหรือตั้งใจแขนของฮักลากผ่านเรียวแขนของเธอไป ชานมนั่งตัวแข็งทื่อราวกับโดนกระแสไฟช็อตก่อนที่ฮักจะลุกขึ้นออกไปซื้อข้าว “เฮ้อ” ชานมถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก ทว่าก็ไม่ได้ถึงกับโล่งใจไปเลยทีเดียวเพราะด้านข้างของเธอยังคงมีชายหน้านิ่งนั่งอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับเสียงเพลงที่ทะลุออกมาจากหูฟังของเขา “เอ่อ ฉันว่าเรารีบไปหาห้องเรียนดีไหม?” “ดี” ควีนที่เพิ่งกินข้าวเสร็จก็รู้สึกอึดอัดไม่ต่างกันจึงพยักหน้าตอบรับ นินจาเองก็เห็นด้วยเพราะเธอรำคาญพี่ชายเหมือนกัน ทั้งสามลุกขึ้นยังพร้อมเพรียงก่อนจะเดินจากไปแบบเงียบ ๆ โดยไม่บอกกล่าวใคร สักพักโชกุนและฮักก็กลับมา “อ้าว น้องกูไปแล้วเหรอวะ?” มองซ้ายมองขวาไม่เห็นน้องอยู่ระแวกนี้โชกุนจึงเอ่ยถามโรมัน “…” โรมันเพียงพยักหน้าเบา ๆ “ทำไมรีบไปนักเนี่ย กูว่าจะไปส่งเสียหน่อยเผื่อมีคนแกล้งในห้องเรียน” “ผู้หญิงมาคงไม่มีใครแกล้งหรอก” ฮักเองก็คิดอยู่แล้วว่าชานมต้องหาเรื่องหนีเขาไปแน่นอน กลับมาไม่เห็นทั้งสามจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ ทางด้านทั้งสามสาวเมื่อถึงคาบเรียน อาจารย์ที่สอนคาบแรกก็ขอให้ทั้งสามแนะนำตัวก่อนจะปล่อยให้ไปนั่งเรียนตามที่นั่งที่ว่างอยู่ “คนใส่แว่นน่ารักว่ะ” “คนหน้านิ่ง ๆ นั้นก็สวยนะ” “กูชอบสาวหมวยคนนั้น” เสียงกระซิบกระซาบในชั้นเรียนกระทบเข้าถึงหูของทั้งสามขณะกำลังเดินไปนั่งประจำที่ซึ่งอยู่ด้านหลังสุด ชานมเองก็ทำตัวไม่ถูกได้แต่เดินก้มหน้าก้มตา ในห้องเรียนสาขาโยธาที่เธอต้องมาเรียนประจำในระยะหนึ่งเดือนมีสมาชิกในห้องที่เป็นผู้หญิงไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ “เอาล่ะตั้งใจเรียนกันได้แล้ว” เห็นสายตาของนักเรียนที่ยังคงให้ความสนใจกับเด็กใหม่ที่มาเรียนเพื่อสานสัมพันธ์อาจารย์ก็เคาะโต๊ะเพื่อเรียกสมาธิของนักศึกษากลับมา นี่เป็นครั้งแรกที่ชานมพึ่งรู้ว่าวิทยาลัยของเธอและของที่นี่เรียนเนื้อหาหลักสูตรรวมไปถึงตำราเรียนเหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะปรับตัวเข้ากับเนื้อหาในการเรียน แต่สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกว่ายากที่สุดก็คือการที่ต้องเผชิญหน้ากับฮัก… ในช่วงพักเที่ยงชานมเลือกที่จะปฏิเสธนินจากับควีนเพื่อไม่ไปกินข้าวที่โรงอาหาร เธอไม่อยากเผชิญหน้ากับฮัก ถ้าไปกินข้าวโรงอาหารเขาคงหาเรื่องให้เธอต้องกังวลแบบเมื่อเช้าแน่ สถานการณ์กดดันแบบนั้นเธอกินมาม่าดีกว่า.... Rrr Rrrr ฮักแทร่ : หลบหน้าทำไม คิดว่าจะหนีรอดเหรอ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD