Chapter 10
ตัวบิดา
@หมู่ 6 จังหวัดชัยภูมิ
เช้าวันเสาร์อันสดใสของชาวบ้านหลาย ๆ คนที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ที่บ้าน แสงแดดอ่อน ๆ ทำให้บรรยากาศเย็นสดชื่นจนแทบไม่อยากตื่นเพียงแต่…
แง้น!! แง้นน แง้นนนนนนนน~
“สิฟ้าวไปตายไสน้อซุมลูกเทวดาเอ้ย!!” (จะรีบไปตายไหนไอ้พวกลูกเทวดา!!) ยายจ่อยเพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่จากบ้านของฮักกำลังกวาดลานบ้านตะโกนไล่หลังเสียงรถมอเตอร์ไซค์ที่กำลังซิ่งแข่งกันอยู่ถนน
คันหนึ่งฟีโน่สีแดงแจ๋อยู่หน้าสุดห่างกันเพียงหนึ่งช่วงตัว อีกคันคือโซนิคสีน้ำเงินเข้มหมอบตามกันไปติด ๆ เสียงกระหึ่มของท่อดังคับถนนและคาดว่าคงดังไปทั้งหมู่บ้าน
“บักพากถั่งสูเอ๊ยยยย! วันหยุดสูกะบ่พักบ่ผ่อนแหน่เนาะ ตื่นเช้าแหกขี้ตามาซิ่งรถ แม่นพ่อแม่มันบ่สั่งบ่สอนบ้อ?” (ไอ้พวก….!! วันหยุดพวกมึงก็ไม่พักไม่ผ่อนหน่อยเหรอ ตื่นเช้าแหกขี้ตามาซิ่งรถ พ่อแม่ไม่สั่งสอนบ้างรึไง?)
“พ่อมันอยู่นี่ครับ” เฮงผู้เป็นกรรมการตัดสินการแข่งรถระหว่างฮันเตอร์กับฮักยกมือขึ้นยิ้มแฉ่ง วันนี้ลูกชายและหลานชายกลับมาจากกรุงเทพฯ ในวันหยุดจึงพากันนำรถออกมาเช็กเครื่อง สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะลองแข่งกันดูจนชาวบ้านด่าทออย่างที่เห็น
“บักเตอร์ชนะพ่อ” (ไอ้เตอร์ชนะพ่อ) ฮักขี่มอเตอร์ไซค์โซนิคแต่งของตนกลับมายังจุดเริ่มต้นที่พ่อของเขายืนอยู่ พร้อมกับฮันเตอร์ที่ขี่ฟีโน่แต่งตามมาติด ๆ ทั้งสองคันดูก็รู้ว่าจัดใหญ่จัดเต็มอะไหล่ชุบทั้งคัน
“สองร้อยเมตรกะแบบนี้ล่ะ ของเตอร์มันไล่ต้นมันต้องชนะอยู่แล้ว ของน้องฮักไล่ปลายต้องแข่งระยะไกล” (สองร้อยมันก็แบบนี้แหละ ของเตอร์มันไล่ต้นต้องชนะอยู่แล้ว ของน้องฮักมันไล่ปลายต้องแข่งระยะไกล)
“อีกรอบดุ๊ รอบนี้เอาสี่ร้อยเมตร” (อีกรอบเถอะ รอบนี้เอาสี่เมตร) ฮักเอ่ยชวนก่อนจะไถรถไปจอดรอที่เส้นเริ่มต้น
“บักน้องฮัก มึงบ่เห็นแม่ใหญ่จ่อยเลาป้อยมึงบ่?” (ไอ้น้องฮัก มึงไม่เห็นยายจ่อยแกแช่งมึงเหรอ?)
“ให้เลาออกกำลังกายปอดเลาแหน่กะได้ดอก” (ให้แกออกกำลังกายปอดแกบ้างก็ได้หรอก) ฮักไหวไหล่ไม่สนใจ มันก็เป็นปกติอยู่แล้วเวลาออกมาแข่งรถทีไรชาวบ้านต้องด่าทอทุกที ตัวบิดาของเขาก็อยู่ตรงนี้ยังจะต้องกลัวอะไรอีก?
“เออ ๆ มา ๆ” ฮันเตอร์เลิกสนใจยายจ่อยที่กำลังถือไม้กวาดมองพวกเขาด้วยหางตาจากนั้นก็ขับไปจอดยังจุดสตาร์ทเพื่อแข่งอีกรอบ
“3…2…1 ไป!!” เสียงทุ้มของเฮงให้สัญญาณ รถทั้งสองก็ทะยานออกไปด้วยความเร็ว ไม่นานรถของฮันเตอร์ก็แซงขึ้นไปก่อน
แง้นนนนนนนนน~
ผ่านไปสักพักช่วงระยะใกล้ถึงร้อยเมตรสุดท้ายรถของฮักก็แซงขึ้นจากนั้นก็เข้าเส้นชัยด้วยระยะห่างกันสองช่วงตัวรถ เป็นตามคำที่เฮงพ่อของเขาบอกจริง ๆ
“ชนะอีหลีพ่อ” (ชนะจริง ๆ พ่อ) เมื่อวนรถกลับมาถึงฮักก็ยกนิ้วให้ผู้เป็นพ่อด้วยความชื่นชม นี่สิเขาถึงบอกว่าตัวพ่อของแท้
“ไป ๆ เซาแข่งเถาะแม่ใหญ่จ่อยเฮ็ดหน้าซิกงิกแล้ว” (ไป ๆ เลิกแข่งเถอะ ยายจ่อยทำหน้าบูดบึ้งแล้ว) เฮงเห็นยายจ่อยเริ่มมองตาขวางก็แอบกลัวว่าแกจะโมโหจนเป็นลมเสียก่อน ตัดสินใจพาลูกและหลานเลิกแข่งรถ
“แม่ใหญ่จ่อยนี่ยอมรับเลาอีหลีวะ ป้อยจนจ่อยสมซื่ออีหลี” (ยายจ่อยนี่ยอมรับแกจริง ๆ แช่งจนผอมสมชื่อมาก) ฮันเตอร์ส่ายหน้าระอา
ทุกวันเสาร์อาทิตย์ที่ฮักและฮันเตอร์กลับบ้านพร้อมกัน บ้านทั้งสองก็ไม่ต่างจากวันรวมญาติเพราะต้องไปกินข้าวที่บ้านปู่กับย่า ที่กลับบ้านมาในครั้งนี้ได้ข่าวว่าเพื่อนในห้องสมัยมัธยมต้นของฮันเตอร์บวชจึงกลับมาร่วมงาน ซึ่งฮักก็ไม่ได้รู้จักแต่ก็จะขอไปด้วยคน
บ่ายโมง...
รถแห่เคลื่อนขบวนออกไปวัดพอดี รถเครื่องเสียงขนาดใหญ่เท่ารถบัสดังกระหึ่มไปทั่วทั้งตำบล ฮันเตอร์ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวเรือนผมสีเทาควันบุหรี่พร้อมกับแว่นกันแดดดูโดดเด่นจนใคร ๆ ต่างต้องมองเป็นตาเดียว ข้างกายคือฮักในชุดเสื้อคอจีนสีขาวแขนยาว แว่นกันแดดสีชาเรือนผมสีน้ำเงินหล่อเหลาดูสะอาดเหมือนอาบน้ำวันละสิบรอบ
ทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยความที่หน้าตาดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้ว่าฮันเตอร์จะดูเถื่อนแต่ยังคงความหล่อสะอาดตาเพราะบ้านนี้ผิวขาวมาตั้งแต่รุ่นปู่
เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานดังขึ้นเหล่าวัยรุ่นที่มาร่วมงานต่างออกสเต็ปให้งานมงคลเต็มไปด้วยความคึกคัก ไม่เว้นแม้แต่ฮันเตอร์ ทันทีที่ลงจากรถเขาก็ไปเต้นกับคนอื่นจนฮักต้องยกมือถือมาถ่ายวิดีโอเอาไว้
“อยู่กรุงเทพคือพี่ฮันเตอร์คนเท่ กลับบ้านมาเป็นบักเตอร์ให้แม่ใหญ่จ่อยป้อยแซ่ง” (อยู่กรุงเทพคือพี่ฮันเตอร์คนเท่ กลับบ้านมาเป็นไอ้เตอร์ให้ยายจ่อยสาปแช่ง)
ฮักจอดมอเตอร์ไว้ในร่มจากนั้นก็เดินไปร่วมขบวนกับฮันเตอร์ ไม่รู้ว่าฮันเตอร์ไปได้เหล้าขาวพร้อมแก้วป๊อกมาจากไหน เดินไปถึงก็เห็นฮันเตอร์มีขวดเหล้าขาวเหน็บข้างรักแร้พร้อมกับรินเหล้าขาวให้เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ว
เพื่อนกลุ่มนั้นคงจะเป็นเพื่อนของฮันเตอร์เพราะตอนเรียนมัธยมต้นทั้งสองเรียนคนละห้อง ฮักเห็นท่าเต้นฮันเตอร์ก็ได้แต่ส่ายหน้า
“ม้มตีนบ่น้อมื้อนี่” (จะพ้นตีนไหมวันนี้) เห็นฮันเตอร์สภาพนั้น ด้วยความเจ้าสำอางและไม่อยากมีเรื่องมีราวฮักจึงเลือกที่จะอยู่ห่าง ๆ กางร่มแล้วเดินตามฮันเตอร์ไป
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาจะคงความหล่อกลับกรุงเทพให้ได้!
ฮันเตอร์ยังคงสนุกสนามรินเหล้าไป เต้นไปกับเพื่อน ๆ จนระยะหนึ่งฮักสังเกตเห็นว่าฮันเตอร์เอาแต่มองสาวคนหนึ่งในชุดคล้ายกัน เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนสีซีด เรือนผมตรงยาวสลวยบนหัวมีแว่นกันแดดคาดอยู่
“ฮัก มึงไปขอเบอร์คนนั้นให้กูดุ๊ น้องมันซื่อหยังวะ ท่าเด้านั้นเร้าใจกูแฮง” (ฮัก มึงไปขอเบอร์คนนั้นให้กูหน่อย น้องมันชื่ออะไรวะ ท่าเด้านั้นเร้าใจกูมาก) กลิ่นเหล้าหึ่งปะทะจมูกจนฮักนิ่วหน้าก่อนจะเบือนหน้าหนี “มึงเห็นบ่เนี้ย?” (มึงเห็นไหมเนี้ย?)
“เออ เห็นแล้ว ซ่อยเอาปากเน่า ๆ ของมึงไปไกล ๆ กูนำ กลิ่นเหล้าสิติดหน้ากู” (เออ เห็นแล้ว กรุณาเอาปากเน่า ๆ ของมึงไปไกล ๆ กูด้วย กลิ่นเหล้าจะติดหน้ากู)
“มึงอย่าฟ้าวเปลี่ยนเรื่อง ไปถามให้กูดุ๊” (มึงอย่าพึ่งเปลี่ยนเรื่อง ไปถามให้กูหน่อย) ฮักปรายสายตาไปมองสาวที่กำลังเต้นไปรินเหล้าไปก็ถอนหายใจมองฮันเตอร์ทันที
“เทสมึงหนิเนอะ” (เทสมึงอ่ะเนอะ)
“เป็นหยัง ทีมึงยังมักอีหวึ่งแว่นนั่นเลย” (ทำไม ทีมึงยังชอบยัยเฉิ่มแว่นนั่นเลย)
“มึงคือรู้” (ทำไมมึงรู้?) ฮักถึงกับตกใจ เรื่องเขากับชานมไม่มีใครรู้และเขาไม่เคยพูดให้ใครฟังเลยสักครั้งจนอดแปลกใจไม่ได้
“กูเกิดมาพร้อมมึง เรื่องแค่นี้สิกล้ารอดสายตากูไปได้ติ” (กูเกิดมาพร้อมมึงเรื่องแค่นี้จะกล้ารอดสายตากูไปได้เหรอ?) ฮันเตอร์ไหวไหล่ วันนั้นบังเอิญเขาขับรถตามหลังฮักแล้วเจอตอนที่มันไปช่วยชานมไว้พอดี คนอย่างฮักไม่ไปสุงสิงใครโดยเฉพาะผู้หญิงแต่กลับไปยื่นเท้าหาเสี้ยนเพื่อช่วยชานม และที่สำคัญรายชื่อที่มันบันทึกไว้ว่า ‘หวึ่ง’ คือเบอร์ที่มันโทรออกมากที่สุดจนเขาต้องแอบเอาเบอร์ไปสืบว่าชื่อนี้คือใคร สุดท้ายก็ได้รู้ว่าคือชานมนี่เอง
ระดับโคนันตัวพ่อ จะรอดสายตาเขาไปได้ไง!
โอ้~ ไม่สิ ความจริงเขารู้ก่อนนั้นนี่นา รู้ตั้งแต่ที่ไอ้ฮักมันขอย้ายออกจากคอนโดขอไปอยู่ส่วนตัว ส่วนตัวที่ว่าคือข้างห้องยัยหวึ่งน้อยคนนั้น
ร้ายไม่เบา...
“บักห่าหนิ” (ไอ้เวรนี่) ฮักได้แต่ถอนหายใจสุดท้ายก็เดินเข้าไปขอเบอร์สาวให้กับฮันเตอร์อย่างจนใจ ไม่น่าเลย เขาไม่น่ากลับบ้านเลยอาทิตย์นี้
เดินไปถึงฮักก็สะกิดแผ่นหลังสาวที่กำลังเต้นอยู่ ผู้หญิงคนนั้นหยุดเต้นทันทีก่อนจะรินเหล้าแล้วยื่นจอกให้ ฮักเห็นก็ส่ายหน้า
“บ่ อีนางมีผัวหยัง บักนั่นมันให้อ้ายมาขอเบอร์ให้” (ไม่ น้องมีผัวยัง ไอ้นั่นมันให้พี่มาขอเบอร์ให้) ฮักชี้ไปยังฮันเตอร์ทันที จากนั้นคนขี้เก๊กที่กำลังเต้นยกแว่นมาคาดผมพร้อมกับตีคิ้วยียวน
“กินก่อนแล้วสิบอก” (ดื่มก่อนแล้วจะบอก) ฮักมองแก้วที่ยื่นมาตรงหน้าก็ได้แต่ถอนหายใจรับมาแล้วดื่มรวดเดียว “ยังบ่มีดอก” (ยังไม่มีหรอก) ใบหน้าสวยสบเข้ากับแว่นกันแดดที่มองเห็นดวงตาราง ๆ ของชายหนุ่มก่อนจะบังคับให้กินเหล้าทีแก้วเพื่อแลกกับเบอร์
ทีละตัว!
“สัด แม่งอีหวึ่งนั่นเหมาะกับมึงฉิบหาย” (สัด แม่งผู้หญิงคนนั้นเหมาะกับมึงฉิบหาย) แสบทั้งคู่ดูสมน้ำสมเนื้อดี น่าจะเอาคนกวนประสาทแบบไอ้เตอร์อยู่หมัด ฮักเดินไปเซไปพร้อมกับเบอร์มือถือยื่นให้ฮันเตอร์ดู
เหล้าเต็มจอกรินให้เขาเป็นสิบแก้ว ใครยืนนิ่งไหวก็จะเก่งเกินไปแล้ว ฮันเตอร์มองสภาพเพื่อนตัวเองก็ยิ่งชอบใจ
ชอบจริง ๆ เลยพวกผู้หญิงเล่นตัวแบบนี้
“ทำดี กลับไปเดี๋ยวกูช่วยดูเด็กมึงอีกแรง” ฮันเตอร์ตบไหล่ฮักก่อนจะกอดคอเต้นท่ามกลางแสงแดด ร่มที่ฮักถือมาไม่รู้เมาจนวางทิ้งไว้ตรงไหน
ขบวนแห่นาคยังคงสนุกสนานเดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงวัด ฮักและฮันเตอร์สามารถอยู่รอดปลอดภัยไม่เจอกระทืบก็นับว่าบุญเพราะหลังจากเหล้าเข้าปากก็หมดแล้วภาพลักษณ์หนุ่มหล่อ แค่ท่าเต้นก็ยียวนกวนบาทา หากไม่ติดว่าเพื่อนเยอะรับรองได้เลยว่าทั้งคู่คงไม่พ้นนอนคลุกฝุ่น
“เฮ้ บักเตอร์ กูขอบอกมึงไว้เลยนะว่ากูบ่ได้มักอีหวึ่งน้อยนั่น แล้วกูกะสามารถเอิ้นว่าหวึ่งได้ผู้เดียว มึงห้ามเอิ้นคือกู” (เฮ้ ไอ้เตอร์ กูขอบอกไว้เลยนะว่ากูไม่ได้ชอบยัยเฉิ่มนั่น แล้วกูก็สามารถเรียกว่าหวึ่งได้คนเดียว มึงห้ามเรียก) ฮักในสภาพถือจอกเหล้ายังประคองให้อยู่นิ่งไม่ได้ชี้หน้าเพื่อน ดวงตาคมกริบดั่งเหยี่ยวพยายามเปิดเปลือกตาจนสุดกำลัง ใบหน้าหล่อแดงขึ้นสีลามไปกระทั่งถึงคอ แม้แต่ร่างกายยังต้องให้ฮันเตอร์ช่วยพยุงเอาไว้
“บ่ได้มักแล้วมึงหวงหาสะแตกติ” (ไม่ได้ชอบแล้วมึงหวงหาพระแสงเหรอ?)
“นั่น กูบอกว่ากูบ่ได้มัก!” (นั่น กูบอกว่ากูไม่ได้ชอบ!)
“เออ ๆ บ่ได้มักกะบ่ได้มัก เดี๋ยวกูมักเอง” (เออ ๆ ไม่ได้ชอบก็ไม่ได้ชอบ เดี๋ยวกูชอบเอง) ฮันเตอร์คร้านจะต่อล้อต่อเถียงจึงยินยอมแต่โดยดี
“อ้าวบักนี่! มึงอยากซัดกับกูแม่นบ่?” (อ้าวไอ้นี่! มึงอยากซัดกับกูใช่ไหม?) ได้ยินว่าเพื่อนจะชอบอยู่ ๆ ฮักก็รู้สึกจี้ดขึ้นมาพยายามยันตัวให้ตรงก่อนจะซัดเข้าที่ปากของฮันเตอร์เต็มแรง
พลัก!!
“โอ๊ยยย! อ้าวบักนี่” (โอ๊ยยย! อ้าวไอ้นี่) ฮันเตอร์ปาดเลือดออกจากมุมปากพร้อมกับถุยน้ำก่อนจะยันเข้ากลางอกจนฮักที่เมาไม่รู้เรื่องหงายหลังไป ตามด้วยการสาวเท้ายาว ๆ ไปนั่งคร่อมแล้วกระชากคอเสื้อของฮักขึ้นมา ทว่าฮักดันหลับไปเสียก่อน
“แม่งเอ๊ยยย!” ฮันเตอร์กัดฟันกรอดเพราะทำอะไรไม่ได้...