Chapter 5
“กรี๊ด!!! ไทน์ ไทน์ลูกแม่ อย่าเป็นอะไรไปนะ” ธัญญาเรศกรีดร้องและรีบวิ่งมาดูลูกชาย เพราะได้ยินสาวใช้คุยกันว่าคชากำลังต่อยธนาจนเลือดกบปาก เธอกรีดร้องสุดเสียงอย่างตกใจเมื่อร่างของลูกชายล้มลงกระแทกพื้นและหมดสติไป
“รีบพาธนาไปหาหมอ เอารถออกเร็ว ๆ” คันสรหันไปสั่ง
“จะพามันไปหาหมอทำไม ให้มันตายซะก็ดี ไอ้คนสารเลวแบบนี้”
“แกนั่นแหละสารเลว” คันสรตบหน้าลูกชายอีกรอบ
“นี่พ่อตบผมอีกแล้วเหรอ พ่อรักมันมากกว่าผม”
“ฉันรักและเป็นห่วงแกไง เลยทำให้แกได้สติ ถ้าธนาเป็นอะไรขึ้นมา แกได้ติดคุกหัวโตแน่”
“พ่อมีเงิน จะยอมให้ลูกชายคนเดียวอย่างผมติดคุกอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ ถ้าแกยังขืนทำร้ายคนอื่นแบบขาดสติแบบนี้อีก”
“นี่พ่อรักมันขนาดนี้เลยเหรอ หรือว่ารักแม่มันจนโงหัวไม่ขึ้น ผู้หญิงดี ๆ เยอะแยะมีไม่เอา ไปเอาแม่หม้ายเคยมีผัวมาแล้วไม่รู้กี่คนต่อกี่คน ไม่นึกรังเกียจเลยหรือไงครับ”
“นี่แกหุบปากนะ อย่ามาดูถูกเมียฉันนะ”
“ก็มันจริง อายุเท่าพ่อ รวยขนาดนี้จะหาเมียเด็กไม่เคยผ่านผู้ชายมายังได้เลย อ้อ... ผมลืมไป มันก็คงไม่แซ่บเหมือนไก่แก่แม่ปลาช่อนอย่างนังนี่”
“เจ้าคิง!” คันสรโกรธจนหัวฟัดหัวเหวียง
“ยังไงผมก็ไม่ยอมรับผู้หญิงเลว ๆ คนนั้นมาเป็นแม่เลี้ยงของผมแน่”
“นั่นแกจะไปไหน แกจะทำอะไร”
“ผมมันเลวในสายตาพ่ออยู่แล้ว ผมก็จะทำให้ดูว่าผมเลวได้แค่ไหน และเลวกว่าที่พ่อคิดอีก” คชาเดินขึ้นไปบนห้องของบิดา ก่อนที่จะกระชากเสื้อผ้าข้าวของของธัญญาเรศออกมาจากตู้
“นี่แกหยุดนะ แกทำบ้าอะไร”
“ทำบ้าอะไรอย่างนั้นเหรอ ก็ทำแบบนี้ไง” คชาทิ้งข้าวของของธัญญาเรศลงทางหน้าต่างห้อง ก่อนจะทิ้งเสื้อผ้าลงบนพื้นแล้วจุดไฟเผา
“ไอ้คิง!” คันสรโกรธจนขาดสติ ตรงเข้าตบลูกชายเต็มแรง
“โอ๊ย! พ่อตบผมหลายครั้งแล้วนะ พ่อหลงมันสองแม่ลูกจนกล้าตบผมอย่างนั้นเหรอ”
“ตบให้แกได้สติไง”
“คนที่ไม่มีสติคือพ่อ แล้วสักวันพ่อจะรู้ว่าไอ้สองแม่ลูกนั่นไม่ได้ดีอย่างที่พ่อคิด” คชาเดินออกไปจากบ้านอีกครั้ง
“นั่นแกจะไปไหน”
“ผมจะไปจากที่นี่ ถ้าพ่อยังคิดจะเลี้ยงสองแม่ลูกนั่นอีก พ่อก็จะไม่ได้เห็นหน้าผมอีก”
“ถ้าแกกล้าออกไปจากบ้านหลังนี้ ฉันจะตัดหางปล่อยวัดแก อายัดบัตรเครดิตแก ยึดทุกอย่างที่แกใช้อยู่ให้หมด”
“ยึดเอาไปให้ลูกชายคนใหม่อย่างนั้นเหรอ ก็เอาเซ่ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าพ่อจะทำอะไรกับผมบ้าง อยากยึดก็ยึดไปเลย ผมก็จะไม่เรียนต่อแล้วเหมือนกัน”
“แกอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ” เพราะเคยรับปากภรรยาที่ล่วงลับไปแล้วว่าจะดูแลลูกชายให้ดีที่สุด เขาจึงไม่อยากให้ลูกชายหมดอนาคตเช่นนั้น
“ทำไมล่ะครับ กลัวไม่มีคนสืบทอดกิจการหรือไง ก็ได้ลูกชายคนใหม่แล้วนี่ ผมจะไปมีความหมายอะไร”
“ถ้าไม่เพราะแม่แก ฉันคงไม่ทนให้แกมายืนด่าฉันปาว ๆ อยู่แบบนี้หรอก”
“เอาสิครับ พ่อทำอะไรก็ได้อยู่แล้วนี่” คชาพูดจบก็เดินออกไปจากบ้านในทันที
“น่ากลัวจัง” สาวใช้วิจารณ์กันอย่างหวาดกลัวที่เห็นพ่อลูกทะเลาะกันเอาเป็นเอาตาย
ธัญญาเรศโล่งใจที่ลูกชายปลอดภัย เธอจึงรีบแจ้งเรื่องนี้กับคันสรที่ตามมาดูอาการ
“ธนาพ้นขีดอันตรายแล้วค่ะ ปากแตก จมูกแตก กำเดาไหล แล้วก็น็อกจนสลบไป”
“ผมขอโทษแทนลูกด้วยนะ”
“ฉันต่างหากต้องขอโทษ เพราะฉันกับลูกเข้ามาอยู่ในบ้านเลยทำให้คุณกับลูกต้องทะเลาะกัน”
“คุณอย่าพูดแบบนี้สิ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะความเอาแต่ใจของคชาลูกชายของผม ไม่ใช่ความผิดของคุณกับลูกเลย เพราะผมรักคุณ ถึงอย่างไรผมก็ไม่มีวันทิ้งคุณเด็ดขาด”
“แต่คุณจะมีปัญหากับลูกของคุณแบบนี้เหรอคะ ฉันไม่สบายใจเลย ให้ฉันกับลูกออกไปจากบ้านของคุณเถอะค่ะ” ธัญญาเรศมีสีหน้าหมองเศร้า
“คุณห้ามไปไหนเด็ดขาด เรื่องลูกของผม ผมจะจัดการเอง ต่อจากนี้ไปผมจะไม่มีวันให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
ปลายฝนที่ยืนอยู่อีกด้าน มองธัญญาเรศอย่างเห็นใจไม่น้อย
“หนูปลายอุตส่าห์มาเป็นเพื่อนที่โรงพยาบาล ขอบใจมากนะจ๊ะ” ธัญญาเรศหันไปเอ่ยขอบใจอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ พี่ไทน์เป็นรุ่นพี่ที่ปลายนับถือ ไม่น่ามาเจอเรื่องแบบนี้เลยค่ะ”
“ไม่มีอะไรแล้ว หนูกลับไปพักเถอะจ้ะ น้าขอบใจมาก ส่วนไทน์น้าจะอยู่เฝ้าเอง ตอนนี้หมอให้ยานอนหลับไปแล้ว คงอีกนานกว่าจะตื่นจ้ะ”
“งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ แล้วหนูจะมาเยี่ยมใหม่นะคะ”
“ขอบใจมากจ้ะ” ธัญญาเรศเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มขอบคุณ
“ปลายกลับยังไงล่ะ กลับกับฉันไหม” ประโยคของคันสรทำให้ธัญญาเรศแอบขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอคิดไปไกลว่าคันสรอาจจะแอบชอบเด็กในบ้าน เพราะดูเอ็นดูมากเป็นพิเศษ ที่สำคัญปลายฝนก็หน้าตาดีใช้ได้
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูนัดเพื่อนคุยเรื่องรายงานกันน่ะค่ะ งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ” เธอยกมือไหว้ คันสรก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรอีก
ปลายฝนเดินออกมาจากโรงพยาบาลไม่ทันจะได้ข้ามถนน รถสปอร์ตสีแดงเพลิงก็วิ่งมาทำท่าจะชนเธอ
เสียงเบรกรถดังสนั่น เธอล้มลงไปหน้ารถคันนั้นอย่างตกใจ
ก่อนที่เจ้าของรถจะเปิดประตูรถลงมากระชากเธอไปขึ้นรถ
“นี่ปล่อยนะคะคุณคิง”
“เดินยังไง เกือบโดนรถชนแล้วเห็นไหม”
“คุณตั้งใจขับรถมาชนฉันมากกว่า”
“แล้วชนหรือยังล่ะ” เขาล็อกประตูรถแน่นหนา ก่อนจะกระชากรถออกไปจากหน้าโรงพยาบาล
“ก็เกือบชน นี่คุณคิงจอดรถเดี๋ยวนี้นะ คุณจะพาฉันไปไหน”
“ไปไหนดีล่ะ”
“คุณอย่ามาแกล้งกันแบบนี้นะ”
“เธอกล้าดียังไงถึงได้เป็นห่วงเป็นใยไอ้หมอนั่น”
“พี่ไทน์น่ะเหรอ ฉันเป็นห่วงเขาก็เพราะว่าเขาเป็นคนดียังไงล่ะ ไม่เหมือนคุณ ทำร้ายคนอื่นปางตายสำนึกสักนิดมีไหม”
“แล้วมันตายหรือยังล่ะ”
“ถึงยังไม่ตายก็เกือบตาย ถ้าเขาตายขึ้นมา คุณเคยคิดบ้างไหมว่าจะรับผิดชอบยังไง”
“ทำไมต้องรับผิดชอบ พ่อฉันรวย ก็เอาเงินฟาดหัวแม่มันไปสิ”
“คุณคิดได้แค่นี้จริงๆ น่ะเหรอ ลูกเขาทั้งคน ถ้าตายขึ้นมา คุณรับผิดชอบยังไงก็ทดแทนชีวิตคนทั้งคนไม่ได้หรอกค่ะ”
“ปากดีจริงนะ” เขาเบรกรถก่อนที่จะบีบปลายคางของเธอจนเจ็บ
“โอ๊ย! เจ็บนะคะ”
“ฉันเห็นว่าเธออี๋อ๋ออยู่กับมันในสวน ชอบมันมากนักเหรอไอ้ธนาน่ะ” คชาคาดคั้นเอาคำตอบ
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย”
“ก็ตอบมาสิ ว่าเธอชอบหมอนั่นนักหรือไง”
“ฉันไม่ตอบ” เธอเสียงแข็งใส่เขา