“ยิ้มแบบนี้อย่าบอกนะว่าเราชอบเขา” สารินดักคอ
“พี่สารินน่ะไม่ใช่สักหน่อย” ปลายฝนรีบปฏิเสธ เพราะมารดาก็หันมามองเหมือนอยากรู้ด้วยเช่นกัน
“ท่าทีแบบนี้ไม่ใช่แล้วมั้ง” สารินยังจับผิด ทำให้ปลายฝนเขินอายยิ่งนัก
“ไม่มีอะไรจริงๆ จ้ะ”
“ก็ขอให้ไม่มีจริง ๆ เราอายุแค่นี้เอง ยังเรียนอยู่แค่มัธยมปลาย จะไปคิดเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ได้อย่างไรกัน” ปภาพรทำเสียงดุใส่ลูกสาว ท่าทีจริงจังของมารดา ทำให้ปลายฝนหัวหด
“หนูไม่ได้คิดเรื่องมีแฟนอะไรหรอกจ้ะแม่ แต่ก็ยอมรับว่าแอบปลื้มพี่ไทน์น่ะค่ะ เพราะพี่เขานิสัยดี เป็นสุภาพบุรุษ แล้วก็มีน้ำใจมาก ๆ เลยค่ะ”
“ฮันแน่ ในที่สุดก็ยอมรับว่าปลื้มเขา”
“ก็แค่ปลื้มละค่ะ” ปลายฝนหันไปมองหน้ามารดา เพราะเกรงใจ มารดาสอนเสมอว่าให้ขยันเรียน จะได้มีงานดี ๆ ทำ เลี้ยงตัวเองได้ ชีวิตจะได้ไม่ลำบาก เธอเองก็ไม่อยากทำให้มารดาต้องเสียใจ
“ต่อไปเขาก็จะมาเป็นเจ้านายของเราอีกคน อย่าไปคิดหวังสูงเลย” ปภาพรไม่อยากให้ลูกคิดเรื่องแบบนี้ อยากให้เรียนให้จบและทำงานก่อน แต่ถ้าหากมีผู้ชายดี ๆ มีฐานะมาชอบ ก็ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต แต่ก่อนถึงเวลานั้น นางก็อยากให้ลูกสาวทำตัวให้มีคุณค่าไม่ไปเป็นของเล่นของผู้ชายก่อนถึงเวลาอันควร
“ค่ะแม่” ปลายฝนรับคำเสียงอ่อย เธอเข้าใจความหวังดีของมารดา
มารดาเคยบอกเธอว่าหากมีผู้ชายดี ๆ มารักมาชอบก็ให้ทำให้ถูกต้อง ไม่ต้องจัดงานใหญ่โตอะไรก็ได้ ขอแค่ทำให้คนอื่นรับรู้ เข้าตามตรอกออกตามประตู ไม่ใช่ไปแอบกินกันจนท้องก่อนแต่งหรือเสียตัวให้ผู้ชายก่อนแต่งงาน แบบนั้นเรียกผู้หญิงใจง่าย และถ้าผู้ชายคนนั้นรักเราจริงก็ต้องรอให้ถึงวันและเวลาที่เหมาะสมได้
“ปลายฝนน่ะเป็นคนดี น้าพรไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ” สารินรีบพูด เพราะเห็นว่าปลายฝนเป็นแบบนั้นจริงๆ
หลายวันต่อมาปลายฝนก็เห็นว่าธนากับธัญญาเรศย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน ในขณะที่คชาหายเงียบไปเลย เธอคิดว่าอีกฝ่ายคงไปอยู่ที่คอนโดฯ ส่วนตัวแน่ ๆ
คันสรให้คนจัดห้องให้สองแม่ลูกอย่างดี โดยธัญญาเรศนั้นนอนห้องเดียวกับคันสร เป็นอันรู้กันว่าหล่อนจะมาเป็นคุณผู้หญิงคนใหม่ของบ้าน หลังจากบ้านหลังนี้ร้างคุณผู้หญิงมานาน
“คุณเรศกับคุณไทน์นี่นิสัยดีนะ ไม่ถือตัว เป็นกันเอง แถมยังมีน้ำใจอีก” พวกคนใช้ในบ้านคุยกัน
“ก็ต้องไม่ถือตัวอยู่แล้ว ก็เห็นว่าเคยลำบากมาก่อน” อีกคนพูดขึ้น
“แต่บางคนเคยลำบากมาก่อน พอได้ดิบได้ดีก็กลายเป็นคางคกขึ้นวอนะ”
“ก็จริงนะ”
“คุณเรศทำอาหารอร่อยมาก เห็นว่าเคยเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงมาก่อน”
“ก็อาหารพื้น ๆ นั่นแหละ อาหารหรู ๆ ดี ๆ น่าจะทำไม่เป็น”
“อย่าพูดไปเชียว ถึงจะเป็นอาหารพื้น ๆ แต่พอจัดจานสวย ๆ มีเครื่องเคียงมีผักก็ดูดีได้เหมือนกัน หรือแกว่าไม่จริง”
“ก็จริง ยอมรับว่าทำอร่อยก็ได้ คุณท่านเองก็ดูชอบอาหารที่คุณเรศทำ”
“นี่คุณคิงรู้หรือยังว่าสองแม่ลูกย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว”
“น่าจะยัง เห็นทะเลาะกัน หนีออกไปอยู่คอนโดฯ ตั้งแต่ตอนนั้น”
“ถ้ารู้น่าจะบ้านแตกแน่ ๆ” สาวใช้คุยกันก่อนจะรีบเร่งทำงานบ้าน นั่นทำให้ปลายฝนรู้สึกเป็นกังวลไม่น้อย
“ให้พี่ช่วยทำอะไรไหมครับ”
“อุ๊ย! ไม่ต้องหรอกค่ะพี่ไทน์” ปลายฝนสะดุ้ง เพราะเธอกำลังเก็บผักสวนครัวอยู่ในสวน ใจก็คิดกังวลเรื่องที่สาวใช้ในบ้านกำลังคุยกันอยู่
“ทำอะไรอยู่ครับนี่”
“กำลังเก็บผักสวนครัวน่ะค่ะ”
“ดีจังเลยนะ ที่นี่ปลูกผักสวนครัวด้วย”
“ใช่ค่ะ พวกเราช่วยกันปลูกน่ะค่ะ นอกจากเอาไว้ทำกับข้าวให้พวกคุณ ๆ แล้วก็ทำกินกันเองค่ะ คุณท่านใจดีไม่ได้ว่าอะไร แถมยังสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ให้พวกเราปลูกผักสวนครัวทุกชนิดเลยนะคะ”
“ดีครับ เมื่อก่อนบ้านพี่ก็ปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษไว้ทำอาหารด้วยครับ มาครับพี่ช่วยเก็บ วันนี้ทำเมนูอะไรกันบ้างครับ”
“ทำหลายเมนูเลยค่ะ เห็นแม่บอกว่าจะทำแกงส้มชะอมไข่ด้วยค่ะ แล้วคุณเรศบอกว่าจะทำหลนเต้าเจี้ยวน่ะค่ะ"
"เรียกแม่พี่เหมือนเดิมดีกว่าครับ อย่าเรียกคุณเลย”
“ไม่ได้หรอกจ้ะ แม่ของพี่เป็นถึงภรรยาของคุณท่านซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน จะให้ปลายตีตัวเสมอท่านได้ยังไงคะ”
“พี่กับแม่เป็นแค่คนธรรมดาคนนึงเท่านั้นครับ เวลาอยู่กับพี่กับแม่ก็เรียกเหมือนก่อนเถอะครับ”
“จะดีเหรอคะ”
“ดีครับ แต่ต่อหน้าคนอื่นถ้าปลายไม่สะดวกใจก็แล้วแต่ปลายเลย แต่ถ้าเราอยู่กันเป็นส่วนตัว เราก็เป็นกันเองเหมือนก่อน พี่ไม่อยากให้ปลายคิดว่าพี่กับแม่เป็นเจ้านายนะครับ”
“แบบนั้นก็ได้ค่ะ” เธอรับคำพลางเอ่ยยิ้มให้เขา ธนาเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลาย นั่นยิ่งทำให้เธอปลื้มเขาเข้าไปอีก
“แกเข้ามาทำอะไรในบ้านของฉัน” เสียงของคชาดังขึ้น ก่อนที่จะกระชากไหล่ของธนาเต็มแรง
“ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะคุณคิง” ปลายฝนรีบพูดอย่างตกใจ
“คนแบบเธอมีสิทธิ์พูดอะไรด้วยเหรอ” คชาผลักร่างของปลายฝนจนกระเด็น
“ฉันถามว่าแกมาทำอะไรในบ้านของฉันไอ้สลัม” คชากระชากคอเสื้อของธนาเต็มแรง สีหน้าโกรธจัด แต่ธนาไม่พูดจาโต้ตอบอะไรออกไป ได้แต่นิ่งงัน สีหน้ากวนบาทาสุด ๆ
“แกจะกวนตีนแบบนี้ใช่ไหม ได้เลยแกต้องการแบบนี้ใช่ไหม” คชาปล่อยหมัดใส่ธนาเต็มแรง
“กรี๊ด!!!” ปลายฝนกรีดร้องอย่างตกใจ เธอจะรีบเข้าไปห้ามแต่ชะงัก คิดว่าเธอเข้าไปคงโดนผลักจนกระเด็นเหมือนเคย สิ่งที่ต้องทำก็คือวิ่งไปตามคนมาช่วย
ปลายฝนคิดได้ดังนั้นก็ตามไปคนมาช่วยธนาทันที
“ตอนแรกกูก็ไม่ได้อยากเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้หรอก” ธนาพูดขึ้นเมื่ออยู่กันสองคน
“นี่มึงเข้ามาอยู่ในบ้านของกูแล้วอย่างนั้นเหรอ” เจอกันที่โรงเรียน เขากับธนาไม่ได้คุยกันเพราะว่าไม่กินเส้นกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แถมเขาเองก็ยังไม่ได้กลับบ้านอีก จึงไม่รู้ความเป็นมาเป็นไปของที่บ้านเลยแม้แต่น้อย
“ใช่ ตอนแรกกูก็ไม่อยากให้แม่มีผัวใหม่ แต่พอรู้ว่าผัวใหม่แม่คือพ่อของมึง กูก็เลยยุให้แม่ยอมเป็นเมียพ่อมึงเลยว่ะ”
“ไอ้สารเลว”
ผั้วะ!!! คชาปล่อยหมัดใส่ธนาไม่ยั้ง แต่ธนาไม่ได้โต้ตอบ เขารอเวลาสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
“ฉันจะเอาทุกอย่างที่เป็นของแกมาให้หมด แกชอบดูถูกคนอื่นมากนักใช่ไหม ฉันจะทำให้แกไม่เหลืออะไรเลยไอ้คิง”
“ไอ้สารเลว นี่คือสันดานที่แท้จริงของแกใช่ไหม” คชาง้างหมัดเตรียมกระแทกหน้าของธนาอีกครั้ง แต่เสียงเข้มของคันสรดังขึ้นเสียก่อน
“หยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้าคิง ใครใช้ให้แกทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้แบบนี้” คันสรตรงเข้าไปตบหน้าลูกชายจนหน้าหัน เลือดกบปาก ก่อนจะประคองร่างของธนาที่ยืนโงนเงนเลือดไหลออกมาจากปากและจมูกขึ้นมาจากพื้นหญ้า