2
วรวัชรยืนอยู่ในห้องบนชั้นยี่สิบ ซึ่งเป็นทั้งห้องพักและออฟฟิศ ที่จัดสรรปันส่วนพื้นที่ไว้อย่างลงตัว ในมือมีแก้ววิสกี้ชั้นดีถือไว้ ใบหน้าหล่อจนสาวๆ เหลียวหลังคอแทบจะหัก เวลาได้พบเจอนั้น กำลังมองผ่านผนังกระจกใสแจ๋ว จับจ้องอยู่กับรถญี่ปุ่นราคาไม่ถึงล้าน
แล่นไปยังประตูโรงแรม ที่พ่อกับอากงของเขาซื้อมาในราคาแค่หกร้อยกว่าล้านบาทเท่านั้น ซึ่งที่จริงถ้าไม่มีวิกฤตโรคร้าย เจ้าของเก่าคงไม่ขาย หรือถ้าขายก็คงจะเป็นพันล้าน
แต่ในสถานการณ์อันย่ำแย่แบบนี้ มันเป็นโอกาสทองของคนมีเงินในมือ ที่จะไปช้อนซื้อเอากิจการอะไรก็ได้ ซึ่งเจ้าของแทบจะคลานเข่า เอาใส่พานมาขายให้ด้วยซ้ำ เหมือนสองสามีภรรยา ที่เขาเพิ่งจัดงานเลี้ยงเล็กๆ เพื่อกล่าวคำลาเมื่อเที่ยงนี้ ที่พ่อกับอากงบอกว่าเพียรไปหาที่บ้านหลายต่อหลายรอบ เพื่อขอให้ท่านช่วยซื้อโรงแรมนี้ไว้
เพราะทั้งสองสายป่านหมดไปสองหลายเดือนแล้ว ถ้าขืนดื้อหรือยื้อต่อไป ก็มีสิทธิ์จะต้องขายที่ทางจากจีน เอามาอุ้มกิจการทางนี้ไว้อย่างแน่นอน ต่อให้เลื่อนการเปิดโรงแรมอย่างเป็นทางการออกไปแบบไม่มีกำหนด ต่อให้ลดคนออกมากกว่าครึ่ง หรือต่อให้มีแขกเข้ามาใช้บริการตั้งแต่เดือนก่อนยังไง แต่ค่าใช้จ่ายก็มากกว่ารายรับจนสู้ไม่ไหวอยู่ดี
ความจริงเขาเดาได้ว่า พ่อกับอากงคงหมายตาโรงแรมนี้ไว้ตั้งแต่คราวแรก ที่สองผัวเมียไปหาแล้ว แต่คงจะเล่นตัวเพื่อกดราคา นั่นคือสไตล์เฉพาะตัวของท่านทั้งสอง ที่เห็นจนชาชิน พอท่านคิดว่าได้ราคาตามที่ต้องการแล้ว ก็รีบสั่งให้เขาบินด่วนกลับมาทันที แล้วเรียกสองสามีภรรยามาเซ็นสัญญาซื้อขายภายในคืนนั้น และสั่งให้เขาเข้ามาจัดการต่อ
ผิดกับครั้งก่อนที่ท่านไม่ได้สั่งให้เขา บินด่วนไปจัดการกับโรงแรมในโตเกียว ที่ท่านกับเพื่อนสนิทได้มาในราคาเบาๆ จากการที่เจ้าของเดิมเจอวิกฤตการเงินในครอบครัวอย่างหนักแบบรายนี้เช่นกัน แต่ท่านกลับใช้วิธีหลอกล่อ ด้วยการเอาหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์มายั่วกิเลส จนแม่ต้องตาเหลือก ขอให้เขาไปเป็นเหยื่อของท่านแบบสมยอม
คราวนี้ท่านคงเห็นแล้ว ว่าฝีมือการบริหารโรงแรม ซึ่งเป็นงานใหม่สำหรับเขา ประสบผลสำเร็จอย่างดีเยี่ยม แม้จะเจอวิกฤตโรคร้ายเช่นนี้ โรงแรมที่โตเกียวก็แทบไม่กระทบ เพราะลูกค้าของเขาเป็นพวกเงินเหลือใช้ และกระเป๋าตุง เหมาห้องไว้เป็นรายปีแทบทั้งสิ้น เพียงเพราะอยากจะรักษาห้องชุดสุดหรูหรา กับบริการชั้นยอดเท่านั้น
และเขาก็จะทำให้ที่นี่เป็นแบบนั้นเหมือนกัน สามถึงสี่ปีไม่เกินนี้ VPotel Bangkok Suvarnabhumi Airport จะต้องเป็นที่รู้จักของลูกค้ากระเป๋าตุง ที่คลั่งไคล้กับการบริการชั้นยอด จนต้องบันทึกชื่อโรงแรมนี้ ไว้ในรายการที่พักของเมืองไทยอย่างแน่นอน
ต่อให้พ่อกับอากงยังไม่ได้บอก ว่าเขาจะได้อะไรจากการทุ่มเทในครั้งนี้ก็ตาม อย่างน้อยๆ มันก็การันตีฝีมือเขา ให้บรรดาเมียๆ ของพ่อ และลูกคนละแม่ของเขาได้รู้ ว่าอย่าได้มาสบประมาทเขาให้มากนัก
ชายหนุ่มสลัดเรื่องงานบริหารออกจากความคิด แล้วมองท้ายรถญี่ปุ่นที่ขับออกประตู ไปปะปนกับยวดยานบนท้องถนน ที่เคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ แม้จะไม่ได้เร็ว
แต่ก็ดีกว่าอยู่ตามถนนใจกลางเมืองกรุงก็แล้วกัน ที่การจราจรเรียกได้ว่าเป็นอัมพาต ในเวลาเย็นๆ อย่างนี้ เขาดีใจไม่น้อย ที่ตัดสินใจหอบเสื้อผ้ามาพักที่นี่ แทนการอยู่บ้านหลังโตของแม่
จะได้ไม่เสียเวลากับการเดินทาง ซึ่งเรียกว่าผ่าเมืองเข้าไปก็ไม่ผิดนัก อย่างน้อยๆ เขาคงจะต้องใช้สองหรืออาจจะสามชั่วโมงต่อวันในการเดินทางแน่ สงสารก็แต่แม่ ที่คิดถึงเขา อยากให้เขาไปอยู่ใกล้ๆ รู้ว่าท่านเหงา และต้องการเพื่อนไว้คอยช่วยคิด ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ แต่ไม่เป็นไร วันหยุดเมื่อไหร่เขาก็จะเข้าไปอยู่ด้วยได้ และจะอยู่จนแม่หายคิดถึงเลยทีเดียว
‘นัดดากร อมรรัตนโชติ’
ชื่อกับนามสกุลเจ้าของรถญี่ปุ่น ผุดขึ้นมาในหัวทันที ชายหนุ่มกระตุกยิ้มที่มุมปาก แล้วยกแก้วขึ้นจิบ จากนั้นก็เดินไปทิ้งกายอันสูงใหญ่กับชุดรับแขกหรูหรา ขาข้างหนึ่งยกขึ้นไปวางไว้บนเบาะนุ่มๆ อีกข้างพาดทับกันไว้ เธอเปลี่ยนมาใช้ชื่อนี้ คนของเขาถึงตามกลิ่นไม่เจอ
เพราะมัวแต่ไปค้นชื่อ ‘รดาวดี อมรโชติ’ นี่เอง สามปีที่เขาไม่เคยละความพยายามที่จะให้คนสืบหา แต่ไม่เคยได้ข่าวคราวของเธอเลย แม่ของเธอก็คงจะเปลี่ยนด้วยกระมัง ไม่งั้นคนของเขาคงจะสืบหาได้ในที่สุดแล้ว ว่าแต่ทำมิ หรืออะไรกันนะ ที่ทำให้เธอทิ้งชื่อกับนามสกุลเดิมไป มันจำเป็นขนาดไหนเชียว
เขายังจำภาพหญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดปลายๆ ในชุดนักศึกษา ที่ทำให้เขาต้องรีบออกจากห้องทำงาน ตรงไปฉกตัวเธอมาจากออฟฟิศพ่อของเขาได้ดี ราวกับเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันนี่เอง และเขาแทบจะนับครั้งได้เลย ว่าจะมีผู้หญิงคนไหนเตะตาโดนใจตั้งแต่แรกเห็น เธอเห็นหนึ่งในนั้น เขาเข้าใจพ่อก็วินาทีนั้นเอง ว่าทำไมถึงได้หลงเธอ และพร้อมจะจ่ายงามๆ เพื่อได้เธอมา
วาร์ปกลับไปเมื่อสามปีก่อน
เจ้าของร่างสูงยืนตะลึงชั่วครู่ อยู่หน้าประตูห้องทำงานของ วรเดช ปรีชาคุณานนท์ คณะกรรมการบริษัท/ประธานกรรมการบริหาร ผู้เป็นพ่อของเขา สายตาเขาจับจ้องไปยังหญิงสาวในชุดนักศึกษา มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นสถาบันไหน ตอนรับสายจากแม่
“มันหน้าด้านมากเลยนะ ที่บุกไปหาป๊าแกถึงออฟฟิศ แสดงว่ามันคงอยากได้อะไรสักอย่างแน่ๆ ไม่งั้นมันไม่ไปหรอก แกต้องไปลากมันออกมาให้ได้นะ แกจะเอามันไปเก็บไว้ที่ไหนก็เอาไป อย่าให้ป๊ารู้เด็ดขาดว่ามันไป ไม่งั้นเป็นเรื่องแน่ๆ ถ้าม้าไม่ติดว่ากำลังคุมป๊าแกอยู่ ม้าจะไปจัดการนังนั่นเองกับมือละ ม้าเกลียดมัน ผู้ชายหมดโลกแล้วหรือไง มันถึงจะมาแย่งผัวชาวบ้านอย่างนี้ ไปจัดการให้ม้าทีนะ เร็วๆ ด้วย ก่อนที่ป๊าแกจะไปเห็นมันอยู่ที่นั่น”