EP 8

1195 Words
“จะให้ผมจัดการยังไงครับม้า?” “ทำยังไงก็ได้ แต่อย่าให้มันมายุ่งกับป๊าหรือกับพวกเราอีก แกจะเอาเงินฟาดหัวมันก็ได้ เดี๋ยวม้าจ่ายให้เอง เท่าไหร่ม้าก็ไม่เกี่ยง ขอแค่ให้มันไปให้พ้นๆ ป๊าแกก็พอ แกรู้มั้ยว่าถ้าป๊ารู้ว่ามันไปหา รับรองว่ามันจะได้จากป๊าไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ก็หลังมาจนขนาดเอามาเพ้อให้ม้าได้ยินอย่างนี้ รีบๆ จัดการให้ม้านะ เดี๋ยวม้าจะคอยกันป๊าแกไว้ก่อน แต่คงกันได้ไม่นานหรอก” “ครับๆ” เขาอารมณ์เสียไม่น้อยกับคำของสั่งของแม่ และเหนื่อยจริงๆ เพราะกำลังยุ่งกับงานจนแทบไม่มีเวลากินข้าว ไหนจะต้องมายุ่งกับเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนี้อีก จะเมินเฉยก็สงสารแม่จับใจ เลยจำต้องรับปากจะจัดการให้อย่างเสียไม่ได้ ในใจก็เบื่อกับพวกผู้หญิงที่รักสบาย หาเงินใช้ด้วยวิธีง่ายๆ แต่พอได้เห็นใบหน้าเรียวรูปไข่ ที่บอกได้คำเดียวว่าสวยออร่าเบ่งบานขนาดนี้ กับผิวขาวๆ ราวไข่ปอกขนาดนี้ ความเคืองที่มีในใจกลับหายไปเกือบครึ่งแล้ว คนที่เขามองนั้น ตอนแรกนั่งอยู่ชุดรับแขก พอเห็นเขาเลยลุกขึ้นยืน พร้อมกับทำหน้าตาแปลกๆ เขาดูออกแหละว่ากำลังงง อันที่จริงคนที่ควรเปิดประตูเข้ามาน่าจะเป็นพ่อเขามากกว่า ‘เธอคงหวังไว้แบบนั้น’ เขามองช่วงขาขาวที่สาวๆ พากันขนาดนามว่า ‘โอโม่เรียกพี่’ มีกระโปรงจับจีบพีทรอบตัว ความสั้นนั้นเหนือเข่าขึ้นไปเล็กน้อย เสื้อสีขาวก็เข้ารูปพอดิบพอดี หรือถ้าได้จามสักที ก็น่าจะมีกระดุมหลุดออกมาบ้าง ผมยาวปะหลังนั้นปล่อยไว้ ส่วนปลายถูกดัดหรืออาจจะใช้เครื่องม้วนเป็นลอนใหญ่ๆ พาดอยู่ไหล่ข้างหนึ่ง อีกข้างไปรวมกลุ่มกันอยู่หลังใบหูขาวสะอาด รองเท้าแทนที่จะเป็นคัชชูมันวาว เหมือนที่เคยเห็นน้องสาวชอบใส่ แต่รายนี้กลับเป็นผ้าใบสีครีมแทน “คุณรดาวดี อมรโชติเหรอครับ?” ถึงจะอึ้งในความสวย แต่รองกรรมการหนุ่มหล่อก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเครียดนิดๆ อีกฝ่ายก็เหมือนจะมีสีหน้าเครียดไม่น้อย หรืออาจจะมากกว่าในความคิดเขา “ค่ะ แล้วคุณ...” นักศึกษาสาวเอ่ยเสียงเบาๆ ราวกับไม่มั่นใจอะไรสักอย่าง แต่วรวัชรยังไม่ทันได้วิเคราะห์ ก็เห็นรัศมี ผู้เป็นเลขาหน้าห้องของพ่อ เขาเองก็เพิ่งรู้จากแม่เมื่อตอนโทรมาหานี่เอง ว่าอีกตำแหน่งที่เป็นความลับสุดยอดของรัศมีก็คือ เป็นสายลับของคุณนายเรณู ผู้เป็นคณะกรรมการบริหารของ VP Group ด้วยนั่นเอง มิน่าล่ะ แม่ถึงได้รู้ความเคลื่อนไหวของพ่อไปทุกเรื่อง และเอาไปบอกเขาได้อย่างแม่นยำ เพราะอย่างนี้เอง “นี่คุณวรวัชร ปรีชาคุณานนท์ เป็นรองกรรมการ ผู้จัดการสายงานการตลาดและสายงานพัฒนาความยั่งยืนแห่ง VP Group ค่ะน้อง แล้วก็เป็นลูกชายคนโตของท่านประธานกรรมการบริหารค่ะ ตอนนี้ท่านไปต่างประเทศ เลยมอบหมายให้ลูกชายท่าน มาคุยกับน้องแทนค่ะ น้องมีอะไรก็บอกท่านรองได้เลยนะคะ” รัศมีมองเด็กสาวด้วยสายตาที่วรวัชรอ่านออก ว่ากำลังเหยียดอย่างไม่ปิดบัง และเขาเดาว่าอีกฝ่ายก็อ่านออก “ขอบคุณครับคุณหมี” เขาหันไปยิ้มให้เลขาร่างเล็ก แต่ความสามารถใหญ่หลวง และทำงานกับพ่อมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีแล้ว จากนั้นก็หันไปมองคนในชุดนักศึกษา ที่ทำหน้างงๆ อยู่ “บังเอิญผมมีธุระต้องไปข้างนอก คุณคุยกับผมได้ตอนเรานั่งรถไปด้วยกัน เชิญครับ คนของผมรออยู่แล้ว” เขาเห็นอีกฝ่ายยังทำหน้างงไม่เลิก เลยตัดสินใจเดินไปคว้าเอาข้อมือเล็กๆ แล้วพาไปเดินอ้อมโต๊ะทำงานพ่อไปทางทางต้นปาล์มใหญ่ ตั้งเรียงรายอยู่ ตรงนั้นมีช่องเล็กๆ ให้เดินไปจนถึงประตูลิฟต์ ติดกันคือประตูห้องนอนส่วนตัวของพ่อ ที่มีไว้พักผ่อน หรือทำงานดึกๆ แล้วพ่อขี้เกียจกลับบ้าน เขาพาคนข้างๆ เข้าไปในลิฟต์ส่วนตัวของพ่อ และมีไม่กี่คนที่จะได้รหัสเปิดมา จากนั้นก็รีบกดหมายเลขอย่างคล่องแคล่วและเร่งรีบ หนึ่งคือมีงานค้างจริงๆ สองคือเขากลัวน้องต่างแม่คนใดคนหนึ่งจะมาเห็นเข้า เพราะเขาไม่แน่ใจ ว่าใครจะรู้นักศึกษาสาวคนนี้พ่อหมายตาอยู่หรือไม่ แต่ก็ขอหลบเอาไว้ก่อน ถ้าน้องๆ พวกนั้นรู้ แล้วคาบเรื่องไปบอกพ่อ รับรองว่าเขาเจอคดีหนักแน่ๆ โดยเฉพาะ ‘ไอ้กันต์’ ขอแค่เขาเผลอเผยช่องโหว่นิดๆ เท่านั้น รับรองมันได้เล่นงานเขาอ่วมเลยล่ะ ดีหน่อยที่ออฟฟิศพ่อจะอยู่ชั้นบนสุด รวมกับผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ ชั้นถัดลงไปเป็นฝ่ายงานที่เขารับผิดชอบ ถัดลงไปอีก ถึงจะเป็นชั้นของฝ่ายที่ ‘ไอ้กันต์กับยัยกาญจน์’ รับผิดชอบ โอกาสที่ทั้งสองจะขึ้นมาเห็นจึงมีน้อยลง แต่ถ้าลองเขาจูงแขนเล็กๆ ไปใช้ลิฟต์รวม มีสิทธิ์ความแตกแน่ๆ รดาวดีอยากจะดึงแขนออกจากมือเขาไม่น้อย แต่ก็ไม่กล้า และเขาก็กำแน่นกว่าเดิม ราวกับกลัวว่าเธอจะวิ่งหนีไปเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกยังไงยังงั้น ลิฟต์ไม่ได้จอดที่ชั้นหนึ่งหรือชั้นจีอย่างที่เธอคิดไว้ แต่เป็นชั้นจีสอง หรือถ้าจะให้เดาก็น่าจะเป็นชั้นใต้ดินที่สองของอาคารนี้ อาคารที่เธอเองก็เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก และถ้าไม่มีเรื่องคอขาดบาดตาย เธอไม่มีทางจะมาแน่ๆ หรือถ้ามา ก็คงจะเป็นด้วยเหตุผลอื่นและดีกว่านี้แน่ๆ ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด รดาวดีก็เห็นรถ ด้านหน้ามีดาวสามแฉกติดไว้จอดรอยู่ ชายร่างสูงในสูทภูมิฐาน ถึงแม้จะดูดีและดูภูมิฐานน้อยกว่าคนที่ยึดข้อมือเธอเอาไว้ แต่อีกฝ่ายก็ยังดูดีอยู่ เขาเปิดประตูหลังรอ แล้วมองมาหาเธอหน้านิ่งๆ ไม่เอ่ยอะไรเลย “เชิญครับ” แม้จะฟังเป็นคำเชิญ แต่ความเป็นจริงก็คือ ร่างเล็กๆ ผอมๆ บางๆ ของเธอ ถูกคนตัวใหญ่แทบจะจับยัดเข้าไปในรถมากกว่า ในใจนั้นเคืองไม่น้อย แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอเป็นรองไปแทบทุกด้าน ต่อให้เขาพูดไม่เพราะกว่านี้ หรือจับเธอโยนใส่ในรถ เธอก็ยังคงจะต้องยอมอยู่ดี เพราะนี่ถือเป็นความหวังที่เป็นไปได้มากสุดแล้วในตอนนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD