EP 18

1229 Words
วาร์ปกลับมาในปีปัจจุบัน เช้านี้นัดดากรไม่ได้หันไปมองหมู่บ้านโครงการหรูหรา ขณะนั่งรอไฟเขียวอยู่ท้องถนนเหมือนวันอื่นๆ เพราะมีเรื่องให้ต้องขบคิดมากมาย และเรื่องหลักๆ นั้น ก็มาจากเจ้านายคนใหม่ ที่ส่งสัญญาณมาบอกเธอกรายๆ ถึงสองรอบ ว่าเขาจำเธอได้ ต่อให้เธอเปลี่ยนชื่อกับนามสกุล และย้ายจากนนทบุรี ข้ามเมืองมาอยู่ถึงบางนา แต่เขาก็จะจำได้แน่ๆ เพียงแต่เขายังไม่พูดออกมาตรงๆ เท่านั้น “แกจะลาออกทำไมวะเค้ก? งานตอนนี้ไม่ได้หาง่ายๆ นะแก แล้วแกก็ได้ตำแหน่งสูงขึ้นด้วย วันนี้ถ้าเขานัดคุย ฉันว่าเขาก็คงจะขึ้นเงินเดือนให้แกด้วยแหละ ไม่มีเจ้านายที่ไหนจะให้งานลูกจ้างเพิ่มเยอะแยะ แล้วไม่เพิ่มเงินหรอก” รุ่งฤดีแต่งหน้าไปด้วย ปากก็บอกเพื่อนไปด้วย เพราะไม่เห็นดีเห็นงามกับความคิดของเพื่อน ที่จะลาออกแค่เหตุผลที่กลัวโจทก์เก่าจะจำได้ “แต่เขาเหมือนจะจำฉันได้นะแก” “จำได้แล้วไงล่ะ? แกไม่ได้ทำผิดสัญญานี่นา แกไม่ได้ไปข้องเกี่ยวกับคนของเขานะเว้ย เขาเองนั่นล่ะ ที่มาข้องเกี่ยวกับแกเอง แล้วแกจะลาออกเพื่อ?” “ไม่ลากออกแล้วจะให้ทำยังไงล่ะแก?” “ไม่รู้ แล้วถ้าไปทำงานที่อื่น เกิดเขาไปเทคโอเวอร์กิจการที่นั่นอีก แกไม่ต้องลาออกไปหางานใหม่อีกเหรอวะ?” “แหม...คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้งแก” “ว่าได้เหรอ ดูอย่างนี่สิ ใครจะไปรู้ ว่าเขาจะมาซื้อที่นี่ล่ะ? คนรวยมีเป็นล้านๆ คน แต่ทำไมดันเป็นเขาล่ะ แกว่ามันเพราะความบังเอิญมั้ยล่ะ?” “ก็จริงว่ะ” “เพราะงั้น แกไม่ต้องลาออก ถ้าเขาจำแกได้จริงๆ ก็บอกไปสิ ว่าแกไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเขา กับพ่อเขา หรือกับคนในโคตรเหง้าศักราชของเขาสักหน่อย เขาต่างหากที่มาซื้อกิจการแล้วไม่ดูให้ดี ว่ามีใครทำงานที่นี่บ้าง ชื่อพนักงานก็มีบอกอยู่แล้วนี่ เสือกโง่ไม่อ่านเองทำไมล่ะ” “คนมีเงินใครจะสนใจว่ามีพนักงานชื่ออะไรล่ะแก หรือต่อให้เขาดู เขาจะรู้เหรอว่าเป็นฉัน?” “เอ่อว่ะ แกเปลี่ยนชื่อกับนามสกุลแล้วนี่น้อ ฉันนี่ก็นะ สะหมงสมองไปหมดแล้ว เมื่อวานงานยุ่งจนเบลอละ นี่ก็ยังกองท่วมหัวอยู่เลย กลับไปนี่ก็คงจะได้ตายคางานกันพอดี” “ไม่หรอกน่า วันนี้จะช่วย แล้วก็ขอโทษด้วยที่เมื่อวานมัวแต่ประชุม แกก็เลยต้องรับสายให้ทั้งแผนกเลย” “จะขอโทษทำไมวะ? นั่นมันหน้าที่ฉันนี่นา ว่าแต่ถ้าเขาให้แกรับผู้จัดการเพิ่ม ฉันสมัครได้ป่าววะ? เบื่องานเลขาจะแย่แล้วว่ะแก” เพราะตอนมาสมัครงานด้วยกันนั้น รุ่งฤดีก็สมัครเป็นผู้จัดการฝ่ายขายเหมือนกัน แต่ทำได้ไม่กี่วัน ก็ดันถูกโยนตำแหน่งเลขามาให้ทำแทน เมื่อเจ้านายเจอวิกฤตโรคร้าย จนโละคนออกเกินครึ่ง ใครอยู่ก็ต้องทำงานเยอะขึ้น แต่รับเงินเดือนเท่าเดิม หรือบางคนก็ได้น้อยลงด้วย จะไม่เอาก็ไม่ได้ เพราะงานหายาก เลยต้องยอม “แกไม่บอกฉันก็จะชวนอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก รอให้เขาเปิดรับจริงๆ ก่อนเถอะ รับรองแกได้เป็นผู้จัดการสมใจแน่” “แท๊งกิ้วนะเพื่อนเลิฟ ไม่เสียแรงที่คบกันมานาน งั้นเช้านี้ฉันเลี้ยงนะแก จอดร้านประจำโลด” ไม่กี่อึดใจรถญี่ปุ่นก็จอดเทียบร้านเบเกอรี่ รุ่งฤดีวิ่งหายเข้าไปสักพัก ก็กลับออกมาพร้อมถุงเมนูโปรดหลายอย่าง ไว้กินกับกาแฟในออฟฟิศ เพราะง่ายสุด สะดวกสุด และเอามานั่งกินที่โต๊ะกับทำงานไปด้วยได้เลย ดีกว่าต้องเสียเวลาเดินไปกินที่แคนทีน “เอ๊า...ข้าวของฉันหายไปไหนวะแก?” แต่พอไปถึง โต๊ะทำงานของนัดดากรดันโล่งโจ้ง ไม่มีอะไรทั้งบนและใต้โต๊ะ แม้กระทั่งรองเท้าแตะที่ซุกไว้ใส่ในออฟฟิศหลายคู่ สายตาเพื่อนร่วมงานแผนกอื่นๆ ปรายไปยังห้องของลีลาวดี ซึ่งนัดดากรมักจะเข้าไปประชุมในนั้นบ่อยครั้ง ทั้งสองเลยเดินไปดู ก็เห็นเจ้านายคนใหม่เดินออกมาพอดี มีผู้ช่วยทั้งสองตามหลังมาไม่ห่าง “มาแล้วเหรอครับ?” “ค่ะ” “ผมกำลังจะให้คนไปบอกคุณเค้กอยู่พอดี ว่าย้ายของมาออฟฟิศใหม่ให้หมดแล้ว เชิญเข้าไปจัดของก่อนครับ เดี๋ยวสักพัก เราค่อยมาคุยรายละเอียดงานในตำแหน่งใหม่ ว่าคุณเค้กจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง เชิญครับ” นัดดากรยืนอึ้งอยู่นาน จนรุ่งฤดีเป็นฝ่ายดึงแขนให้พาเข้าไปในห้องทำงานใหม่ ที่มีความเป็นส่วนตัวกว่าที่เดิมเอามากๆ “แกๆๆๆ มันเริดมากๆๆๆๆ ฉันอยากได้แบบนี้บ้างว่ะแก ว้าวๆๆๆ” พอเจ้านายใหม่เดินไปไกลแล้ว และได้เข้าไปอยู่ในห้องทำงานเพื่อนแล้ว รุ่งฤดีก็แทบจะกรี๊ดออกมา เพราะดีใจแทนเพื่อน ก็ห้องทำงานของลีลาวดีนั้นตกแต่งสวยงาม กว้างขวาง นอกจากจะมีเก้าอี้สองตัวหน้าโต๊ะแล้ว ยังมีชุดรับแขกตรงทางเข้าประตูอีก ถ้าวันไหนเลิกงานแล้วยังไม่อยากกลับ ก็จะได้เข้ามานั่งเมาส์มอยกันในนี้ต่อให้คนอื่นอิจฉาเล่นๆ “แล้วแกว่ามันไม่แปลกหน่อยเหรอวะ?” นัดดากรเห็นอาการดีใจเกินเบอร์ของเพื่อนแล้วก็ส่ายหน้า ขณะเดินเอากระเป๋าไปบางไว้บนโต๊ะใหม่ มองของใช้ที่ถูกย้ายมาไว้แล้ว ก็อดสงสัยไม่ได้ “แปลกตรงไหนวะแก?” “ก็อยู่ๆ ฉันได้เลื่อนตำแหน่ง แล้วยังได้ห้องส่วนตัวด้วย มันจะเว่อร์วังอลังการไปหน่อยมั้ยวะมึง?” “ว่งเว่อร์ที่ไหนกันล่ะ ก็แกทำงานเก่งไง พี่วดีอาจจะบอกเขาไว้ก็ได้ แกก็เคยเข้ามานั่งประชุมในนี้กับพี่แกบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ?” “มันจะใช่เหรอวะ?” “ฉันว่าใช่ว่ะ อีกอย่างตอนนี้ไม่มีพี่วดีแล้ว ในแผนกเรา แกก็เก่งสุดนะ มันจะแปลกตรงไหนล่ะ ถ้าเขาจะโปรโมตแกขึ้นมาอะ อย่าคิดมากเลยแก ฉันไปชงกาแฟก่อนนะ จะยกมานั่งกินตรงนี้ ให้พวกฝ่ายขายขิงข่าตะไคร้กัน จนอกแตกตายไปเลย โดยเฉพาะยัยลิสนะ ฉันอยากเห็นหน้ามันจริงๆ เลยว่ะ” “เอาไว้ให้มันมีอะไรแน่นอนก่อนค่อยขิงแก เดี๋ยวคนจะโห่เอา” “ได้ห้องอย่างนี้ถ้าแกคิดว่าไม่แน่นอน ฉันก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรแน่นอนอีกแล้วล่ะ ไปละ เหลืออีกตั้งสี่สิบนาทีกว่าจะถึงเวลางาน แกก็ดูข้าวของรอไปละกัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD