“โยเกิร์ตในตู้เย็นก็มีนะครับ คุณอยากได้มั้ยครับ? ผมจะไปหยิบให้”
ปกติแล้ววรวัชรก็ไม่เคยได้ทำอะไรให้ผู้หญิงที่เขาใช้บริการในยามค่ำนัก ส่วนมากจะถูกอีกฝ่ายจัดการให้ทุกอย่างมากกว่า แต่สำหรับคนนี้ เขาทำให้เพราะใจอยากทำ จะเรียกได้ว่าเขารู้สึกผิดที่ว่าเธอเสียๆ หายๆ เมื่อคืน และทำรุนแรงกับเธอในตอนแรกๆ ก็ได้ ยังดีที่เขารู้ว่าไม่เคยจริงๆ เลยรีบมอบความนุ่มนวลให้เธอแทนหลังจากนั้น
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ฉันก็กินไม่หมดแล้วค่ะ”
“ตอนเที่ยงผมคงมากินข้าวกับคุณไม่ได้ โทรสั่งจากร้านเอาเองนะ”
“ค่ะ”
รดาวดีรับคำไปอย่างนั้น ทั้งที่คิดว่าคงไม่เหลือท้องไว้ใส่มื้อเที่ยงแล้วล่ะ ถ้ากินหมดนี่ แล้วตอนนี้ก็สายมากๆ ด้วย ไม่น่าจะหิวในเวลาสี่หรือห้าชั่วโมงต่อจากนี้แน่ๆ
“ตอนเย็น ถ้าเสร็จงานแล้ว ผมจะรีบกลับมากินคุณ”
วรวัชรหยุดไว้แค่นี้ แล้วมองคนตรงหน้าพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ให้ด้วยความอารมณ์ดี พอเห็นหน้าสวยๆ มองมาหาด้วยสายตาแปลกๆ
“คะ?”
“เอ๊ย...ผมหมายถึงว่า ผมจะรีบกลับมากินมื้อเย็นกับคุณครับ”
รดาวดีรู้สึกว่าสองแก้มกำลังร้อนผ่าวๆ ลามไปถึงใบหูเลยทีเดียว เพราะรู้ดีว่าเขาจงใจจะทำให้เธอเข้าใจผิด เลยไม่คิดจะต่อปากต่อคำ นอกจากกินเท่านั้น
เพราะเมื่อวานมีแค่กาแฟกับขนมปังปิ้งทาแยมแผ่นเดียว ที่ได้กินก่อนออกจากบ้าน นอกนั้นก็ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย เพราะไปเรียนแล้วก็รีบไปออฟฟิศพ่อของเขา
ตอนคนของเขาพาไปซื้อเสื้อผ้าก็ไม่ได้กินอะไร เพราะเห็นอีกฝ่ายรีบๆ เธอก็เลยต้องรีบซื้อตามบ้าง มาถึงก็อาบน้ำแล้วก็นอนคิดเรื่องแม่กับเรื่องพี่ ความเหนื่อยกับอะไรต่อมิอะไร ทำให้เผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ถ้าเขาไม่มากวน ก็คงจะได้หลับแบบสบายๆ จนเช้า
“แต่ถ้าคุณอยากจะออกไปไหน ก็ให้ทนๆ เอาหน่อยนะครับ วันนี้ผมงานยุ่งนิดหน่อย คนของผมก็ไม่ว่าง ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่พาคุณไปไหนได้จริงๆ”
วรวัชรส่งเสียงเรียบและสีหน้าจริงจังไปหา จะให้เธอไปไหนคนเดียวในตอนนี้เขาก็ทำไม่ได้ เพราะพ่อกับแม่ยังอยู่ที่นี่อีกวัน หรืออาจจะสอง เขาเลยจำเป็นต้องให้เธออยู่แต่ข้างในนี้ โดยมีคนของเขาคอยเฝ้าอยู่ข้างนอกตลอดเวลา กันพลาด ถ้าเธอรู้ว่าพ่อไม่ได้ไปเมืองนอกอย่างที่โกหกไป
เขามั่นใจว่าเธอคงไม่ว่าอะไรแน่ ก็แม่กับพี่เธอนั้น เขารับปากจะช่วยแล้ว แต่ฝ่ายพ่อเขานี่สิ ถ้าลองได้เห็นเธอเข้า และรู้ว่าเขาตัวการ คือมารขัดความสุขของพ่อ ก็คงเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เขาคงถูกลงโทษอย่างหนัก ซึ่งเดาไม่ออกว่าโทษนั้นจะเป็นอะไร แต่คงหนัก และอากงก็คงจะช่วยปกป้องเขาไม่ได้ด้วย
“ไม่เป็นไรค่ะ แล้วฉันจะกลับไปเยี่ยมแม่ได้เมื่อไหร่คะ?”
รดาวดีเสียงสั่นเครือ เมื่อเรื่องของแม่วกกลับมาในความคิด แล้วไหนจะพี่ชายอีก น้ำตาก็พานจะไหลออกมาให้ได้ อาหารในปากก็พาลไม่อยากจะกลืนด้วยซ้ำ นั่นทำให้วรวัชรรู้สึกผิดไม่น้อย และเข้าใจเธอดีว่าห่วงแม่ ลองเป็นแม่เขาอยู่ในสภาพแบบนี้ เขาก็คงจะห่วงเช่นกัน
ส่วนน้องๆ ของเขา ถ้าเป็นน้องคนที่เขารัก ได้เข้าไปอยู่ในคุกบ้าง เขาก็คงจะห่วง แต่ถ้าเป็นน้องคนที่เขาไม่ชอบใจ เขาก็ตอบไม่ได้ ว่าจะห่วงหรือปล่อยให้นอนคุกให้เข็ดก่อน ค่อยไปช่วยดี
“ผมขอโทษจริงๆ ครับ ที่ต้องให้คุณอยู่ที่นี่กับผมไปอีกสักสามสี่วัน พอกลับกรุงเทพฯ แล้ว ผมหรืออาจจะเป็นคนของผม จะพาไปเยี่ยมแม่คุณเองนะครับ แต่คุณก็จะต้องไปอยู่ที่คอนโดกับผมก่อนนะครับ คุณเข้าใจใช่มั้ยครับ?”
“ค่ะ แล้วฉันจะต้องอยู่ถึงเมื่อไหร่ล่ะคะ?”
“ก็ตามสัญญานั่นล่ะครับ ผมยังตอบแน่ชัดไม่ได้”
“ค่ะ”
“คุณไลน์ไปลาออกจากงานแล้วใช่มั้ยครับ?”
“ค่ะ”
“วันนี้คนของผมจะเข้าไปดูบ้านคุณ แล้วจะเข้าไปติดต่อกับแบงก์ เสร็จเรื่องแล้ว ผมจะโอนเงินค่าบ้านเข้าบัญชีคุณเลย ระหว่างอยู่กับผม คุณไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ผมจัดการให้หมด หน้าที่คุณคืออย่าติดต่อกับพ่อผมแค่นั้น”
“ค่ะ”
“แล้วถ้าพ่อคุณไปหาฉันที่มหา’ ลัย วันที่ฉันไปสอบล่ะคะ?”
“ถ้าจำไม่ผิดช่วงนั้น คุณพ่อน่าจะไปญี่ปุ่นหรือประเทศไปสักที่ครับ และก็คงจะดูงานอีกหลายวันกว่าจะกลับ คุณคงสอบเสร็จพอดี ผมจะให้คนของผมขับรถส่ง ตั้งแต่ออกจากคอนโดจนถึงห้องสอบเลย พอสอบเสร็จคุณก็ต้องรีบกลับมาขึ้นรถ ไม่ต้องไปไหนกับใคร หรือบอกใครเลย ทำทุกอย่างให้เป็นปกติครับ”
“ค่ะ”
“ย้ำนะครับว่าห้ามบอกใคร แม้แต่เพื่อน ว่าแต่คุณมีเพื่อนที่สนิทๆ เป็นพิเศษหรือเปล่าครับ?”
“ไม่มีค่ะ”
รดาวดีไม่กล้าบอกเขา ว่าได้เผลอเล่าให้รุ่งฤดี ซึ่งเป็นเพื่อนรักและเพื่อนที่สนิทคนเดียวฟังไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอไม่จำเป็นต้องเล่า เพื่อนก็เดาออกเองได้ เลยจำต้องโกหกเขาไป เพราะกลัวเขาจะยกเลิกสัญญา
หรือเธอเองก็เดาไม่ออก ว่าเขาจะตามไปสั่งให้เพื่อนปิดปากเงียบเหมือนสั่งเธอหรือไม่ หรือหนักไปกว่านั้น อาจจะถึงขั้นสั่งให้เพื่อนเธอ ตัดขาดจากญาติพี่น้อง ให้ลาออกจากงาน แล้วให้เงินมาใช้จ่ายแทนก็ได้
ในเมื่อเจ้าสัววรเดชรู้ดี ว่าเธอกับเพื่อนเรียนที่เดียวกัน คณะเดียวกัน และเป็นเพื่อนกัน ทำงานที่เดียวกัน ตั้งใจว่ากินข้าวเสร็จ เธอจะรีบส่งไลน์บอกให้เพื่อนปิดปากเงียบเอาไว้ ใครไปหา ใครไปถาม ก็ให้บอกแค่ไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้น
โดยเฉพาะเจ้าสัว หรือคนของเขา ยิ่งจะต้องปกปิดเป็นการใหญ่ ไม่แน่ เธออาจจะต้องให้เพื่อนลาออกจากงาน ให้เงินเพื่อนไว้ใช้สักก้อน ระหว่างหางานใหม่ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดภายหลัง ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร รู้แต่ว่ามันจะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ