“พี่สิงห์สู้เขาาาาา”
“หนวกหูโว้ย เงียบดิ๊!!!”
“พี่สิงห์เก่งที่สุดเลย กะ...”
“กูบอกว่าหนวกหู มึงจะส่งเสียงแว๊ด ๆ อีกนานไหม”
“งั้นก็หุบหูไปสิจะได้ไม่ต้องได้ยิน ใครใช้ให้มานั่งตรงนี้ละ พี่สิงห์สู้ ๆ” ร่างเล็กตบมืออย่างชอบอกชอบใจ เมื่อปลายนวมของสิงหาในกางเกงมวยสีน้ำเงิน กระแทกเข้าปลายคางของฝ่ายแดง การรุกไล่ของมวยบนเวทีแบบกินกันไม่ลงเริ่มจริงจังมากยิ่งขึ้น
แม้จะเป็นการฝึกซ้อมระหว่างค่ายเขี้ยวพยัคฆ์กับค่ายมังกรพยัคฆ์ แต่ก็ดูเหมือนจะกินกันไม่ลงเลย
“เออพี่มังกรมึงก็หุบหูดิวะ” เด็กในค่ายมังกรพยัคฆ์ที่นั่งอยู่ข้างหลังยื่นหน้ามาหัวเราะคิกคัก
สำหรับพวกเขาดูมังกรตีกับลมรำเพยสนุกกว่ามวยบนเวทีเยอะ ยกเว้นสองเจ้าของค่ายมวยที่นั่งอยู่ขนาบข้างทั้งสองคนที่เริ่มขมวดคิ้ว เพราะรำคาญลูกสาวและลูกชายที่เจอกันที่ไหนตีกันที่นั่น
“หุบพ่องมึงสิ มึงน่ะหุบปากซะบ้างอีรำเพย วัน ๆ แหกปากร้องเรียกแต่ผัว ๆ ๆ มึงไม่อายพ่อมึงบ้างรึไง” คนที่นั่งพันผ้าอยู่ด้านข้างหันมากระซิบเสียงดุ
ลมรำเพยหันมองคนข้างตัวที่ไม่รู้แทรกเข้ามานั่งข้างเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ด้วยท่าทีเฉยเมย แต่นอกจากจะพกกลิ่นน้ำมันมวยที่ฉุนจมูกมาด้วย ยังเอาความน่ารำคาญมาด้วย
“ชิ”
“อ้าวอีนี่”
หญิงสาวจึงเลือกเมินเขาและขยับกายเข้าไปกอดออเซาะคนเป็นพ่อ
“พ่อจ๋าพี่สิงห์หล่อเนาะ ขนาดเหงื่อออกขนาดนั้นยังหล่อเลยพ่อ”
“วะ! เอ็งมาดูมวยหรือมาดูคนหล่อ”
“มาดูคนหล่อสิจ๊ะ”
“พูดอะไรของเอ็ง อายไอ้มังกรมันบ้าง” คนเป็นพ่อปรามลูกสาวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“อายทำไมพ่อ ไอ้มังกรดิต้องอาย...ก็มันหล่อไม่เท่าพี่สิงห์...อื้ออ่อยยย (อื้อปล่อยยย )”
คนที่ถูกว่าไม่หล่อหันไปมองหญิงสาว ก่อนจะฉีกยิ้มร้ายกาจ ยกมือคว้าใบหน้าเล็กจนนิ้วกดลึกเข้าไปในแก้มจนบู้บี้ แล้วจับหันมามองหน้าเขาใหม่
“กูให้มึงพูดใหม่”
ลมรำเพยสะบัดใบหน้าออกจากฝ่ามือ “มึงไม่หล่อ พี่สิงห์หล่อกว่า”
“มึงแน่ใจใช่ไหมว่าเอาตาดู เฮ้ย! ไอ้หนูมาดิ๊ จด ๆ เฮียลงฝั่งไอ้เมฆร้อยหนึ่ง” เขาจิ้มลงไปบนกระดาษที่ถูกพับและคลายหลายรอบจนยู่ยี่ เด็กน้อยหน้าตาแป้นแล้นยิ้มรับ ที่จริงนอกจากการซ้อมแล้ว การพนันพอเอาค่าขนม ก็ทำให้เย็นวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนของสองค่าย ครื้นเครงกันทุกเดือน
“ทางมวยไม่เห็นได้เรื่องไอ้เมฆชนะยกหลังแน่ ชอบอะไรมันนักหนาวะ”
“ทุกอย่างที่แกไม่มีไง”
“อะไรที่กูไม่มีแล้วมันมี ตรงนั้นก็เหมือน ๆ กันนั่นแหละ”
โป๊ก! โป๊ก! โป๊ก! โป๊ก!
“ไม่-ต้อง-เสือก-จ้า”
“อีรำเพย!”
“ชอบก็แปลว่าชอบดิต้องมีเหตุผลรึไง รีบออกไปนั่งห่าง ๆ เลยไป รำคาญ!” ร่างบางเบ้ปากก่อนจะหัวเราะคว้าขวดน้ำข้างตัวเคาะลงบนหัวตามคำพูด
คนฟังได้แต่ขมวดคิ้วตามเขาไม่เห็นจะเข้าใจ
รู้แต่ว่าเขาเนี่ยแหละเกลียดขี้หน้าไอ้สิงหานั่นอย่างไม่มีเหตุผล
หมั่นไส้โว้ยยย
ใบหน้าหล่อส่งเสียงเข่นเขี้ยวจนแก้มบุ๋ม ยกมือปัดขวดน้ำออก แล้วหันไปฟ้องตาเขี้ยวเสียงหวาน
“พ่อเขี้ยวจ๋า รำเพยมันเอาขวดน้ำมาโขลกหัวหนูจ้ะพ่อ”
“หนูบ้าอะไรตัวเท่ายักษ์ ตาติ๊ดไอ้มังกรมันพูดมากจ้ะ”
“นั่นสิ นมกูใหญ่กว่ามึงด้วย เกิดมายังไงให้นมหดเหลือแค่นั้นวะ” สายตาไม่โลมเลียแต่กลับมองอย่างพิจารณาทำคนโดนมองหน้าร้อนผ่าวไปทั้งสองหน้าแก้ม ไม่รู้ว่าโกรธหรืออายแต่เธออยากจะเผ่นหัวกบาลไอ้ปากหมานี่ให้ร้องเอ๊งนัก
“หน็อยยยไอ้เวรนี่ ตาติ๊ดไอ้มังกรมันด่าว่าหนูนมเล็ก”
“พ่อเขี้ยว ๆ ช่วยหนูด้วยจ้ะพ่อ อีรำเพยมันจะทำหนูอีกแล้วพ่อ”
“ไม่ต้องไปฟ้องพ่อเลย ไอ้มังกวยหรรมน้อยศิษย์ตาติ๊ดไอ้ปากหมา”
นับวันฉายาเขาที่หลุดจากปากลมรำเพยชักจะยาวขึ้นทุกที
“เออ! เอา! ไอ้สองคนนี้ นักมวยต่อยกันอยู่บนเวทีมาทะเลาะกันอยู่ข้างเวทีอยู่ได้ แต่งงานกันไปได้ลูกหัวปีท้ายปีพอดี” บิดาของชายหนุ่มได้แต่ส่ายหัว
ตีกันมากี่ปีกี่ปีไม่เห็นมันเคยหยุดตีกันสักวัน
“ไม่เอาหรอกพ่อ ถ้าชอบอีรำเพยหนูยอมอมตีนหมาดีกว่า”
“ใช่ตาติ๊ด ถ้าคนอย่างอีรำเพยชอบไอ้หรรมน้อยลูกตาติ๊ดนะ ให้ไอ้มังกรอมตีนหนูได้เลย”
“แล้วทำไมกูต้องอมตีนมึง มึงเป็นหมารึไง”
“ไม่ได้เป็นหมาแต่ได้เป็นเมียมึงแน่พี่มังกร พี่รำเพยเป็นแฟนพี่มังกรเถอะ มันดี” เท่านั้นคนที่ได้ยินก็พากันหัวเราะลั่นแล้วหันไปตีกัน
“หุบปากเลยไอ้ยาวไอ้เวร ใครจะเอามันทำเมีย”
“แล้วใครจะเอามึงทำผัว”
“ทำกับข้าวก็ไม่เป็น กูไม่ต้องหุงหาข้าวให้มันกิน ตามซักกางเกงในมันรึไงวะ”
“พี่สิงห์ทำกับข้าวก็เก่ง แถมยังเป็นสุภาพบุรุษไม่เคยขึ้นกูมึงไออีสักคำ”
“กูก็ทำเป็น แถมยังเก่งกว่าไอ้หน้าอ่อนนั่นด้วย”
หมับ!
“ว่าผู้ชายของใครหน้าอ่อนห้ะ!!!” ร่างบางไม่พูดพร่ำทำเพลงลุกขึ้น กำเส้นผมกระชากหัวคนข้างตัวจนนักมวยที่ผ่านมาหลายเวทีทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด
“อ๊ากกกกกกอีรำเพย นี่หัวกูนะไม่ให้หัวหมา”
“เอ๊อ!!! ซัดกันเข้าไปไอ้สองตัวนี้ กูไม่ต้องดูกันแล้วมงมวย”
เสียงหัวเราะครื้นเครงดังไปทั่วสนามมวย ไม่นานนักมวยผู้แข็งแกร่งก็ถูกลมรำเพยคร่อมแล้วพลักลงจนล้มคว่ำ ก่อนจะถูกแย่งนวมคู่ใจที่เผลอหิ้วมาด้วยใช้ฟาดไปที่ศีรษะคนที่ยกการ์ดสู้ไม่ยั้งแรง
แรงผู้หญิงบ้าอะไรถึงซัดเขาจนหน้าชาขนาดนี้
อีลมรำเพย! ให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีวันชอบผู้หญิงอย่างมันเด็ดขาด
ไอ้มังกร! ชาตินี้อย่าหวังจะได้แอ้มอีลมรำเพยเลย
“ตายซะเถอะ!”
“เฮ้ยยยยย”
ไม่ทันที่ลมรำเพยจะฟังเสียงคนทั้งสนามที่หันมาตะโกนห้ามเธอเสียงหลง ก็จัดการเสยศอกเล็กสอยจมูกโด่งของมังกรเต็มรัก
พลั่ก!!!
“อีรำเพย…จมูกกู!!!”
“เอ่อ...พ่อ...ไอ้มังกรเลือดกำเดาไหลพ่อ!!!”