เก็บหมาหลงมาส่งบ้าน

1022 Words
“ไอ้หน้าอ่อน...หน็อยยยไอ้หรรมเล็ก!!!” “มึงเคยเห็นของกูเหรอ ลามกนะมึง” มังกรหัวเราะเสียงต่ำกวนอย่างกวนประสาท “ใหญ่กว่าของไอ้หน้าอ่อนนั่นแล้วกัน” ยิ่งเห็นลักยิ้มนั่นลมรำเพยยิ่งหงุดหงิด “ใครจะอยากเห็นของแก ว่าแต่ว่าใครหน้าอ่อนห้ะ! อย่าเอาปากหมา ๆ มาจ้าบจ้วงพี่สิงห์ของฉันนะ” หญิงสาวกัดฟันกรอด ด่าอีลมรำเพยยังไงไม่เคยว่า แต่มาด่าผู้ชายอีลมรำเพยไม่ยอมแน่ เธอยกเท้าทำท่าจะถีบแต่คนตัวสูงกลับหัวเราะร่วนแล้วโยกตัวหลบ เสียงกรี๊ดของหญิงสาวดังขึ้นพร้อมกับหัวที่ถูกขยี้จากชายหนุ่มที่ตามมาทีหลัง จนรถซวนเซเป็นงูเลื้อยด้วยความโกรธ “ไอ้มังกร!!!” “อีแว๊ดนี่เสียงดังจนคนเขาหูจะแตก” มังกร ลูกชายเจ้าของค่ายมังกรพยัคฆ์ ลูกชายตาติ๊ดที่สืบเจตนาลมของปู่ของมังกรประคับประคองค่ายมวยมา จนในที่สุดก็รุ่งเรืองได้เพราะมังกรที่ชกที่ไหนก็ชนะกลับมา แต่นอกจากจะเป็นค่ายคู่แข่งที่ลมรำเพยไม่ชอบแล้ว เพราะเธอกับเขาดันเรียนมาด้วยกัน ความเป็นศัตรูคู่แค้นตั้งแต่เด็กยันโตทำให้เจอที่ไหนก็ด่ากันที่นั่นเสมอ เพียะ!!! มังกรฟาดฝ่ามือลงท่อนขาเล็ก “โอ๊ยไอ้เวรมังกือ ไอ้หรรมเล็ก!” “ใส่ขาสั้นออกมาทำไม มีแต่ผีบ่อปลา บ่อกุ้ง บ่อดิน ขยันงัดนมงัดตูดนักนะมึง” ว่าพลางยกมือฟาดกลางกระหม่อมของหญิงสาวอีกที “ไอ้ปากหมานี่หนิ ปากแบบนี้เนี่ยแหละสมน้ำหน้าถึงโดนสมจี๊ดทิ้ง” “แล้วไงกูเสียใจเหรอ กูนอนอยู่เฉย ๆ ก็มีผู้หญิงปีนมาถึงห้องแล้ว” นั่นก็จริงเธอเห็นคนคุยกันทั้งตลาดว่าคืนวันลอยกระทงมีผู้หญิงปีนห้องมังกรจนตำรวจมากันทั้งโรงพัก ใครอยากให้มันหน้าตาดีกัน หญิงสาวเขม่นในใจ “ใส่ให้มันยาวกว่านี้แล้วจะตายรึไง” “เสือก!!! หลบไปเลยนะ พี่สิงห์วิ่งไปนู่นแล้วเอามือออกไป” “กูไม่เอาออก จะทำไม” สิ้นประโยคร่างสูงก็กระโดดขึ้นท้ายมอเตอร์ไซค์ก่อนจะคว้าเอวเล็ก รถที่เซถลาพร้อมเสียงกรี๊ดของลมรำเพยดังลั่นไปทั่วคลอง “กรี๊ดดดดไอ้มังกือ แล้วแกจะกระโดดขึ้นรถฉันมาทำไม ฉันจะไปฟ้องตาติ๊ดพ่อแกถึงค่ายมวยเลย” “ไปสิ กูติดรถไปด้วยขี้เกียจวิ่งแล้ว” “แล้วทำไมมึงไม่ไปวิ่งของมึงเล่า” “ขี้เกียจ” หญิงสาวกระทืบเท้าแกล้งขับรถแกว่งไปแกว่งมา แต่นอกจากมันจะไม่ลงแล้วยังกระชับเอวเธอแน่นอีก คอยดูเถอะเธอจะไปฟ้องตาติ๊ดพ่อมันให้เผ่นหัวกบาลสักทีให้ร้องจ๊ากเลย ลมรำเพยรีบขับรถไปเทียบกับร่างสูงตรงหน้า แค่เพียงขับรถไปเทียบรอยยิ้มหวานของหนุ่มเข้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนเขาก็ไม่เคยทำหน้าไม่พอใจเลย เธออยากกลับไปกราบตักพ่อสักทีสองทีที่ไปแย่งตัวสิงหามาอยู่ที่ค่ายได้ ยาใจอีรำเพยอย่างดี ต่อให้เหนื่อยจากเถียงกับไอ้เวรมังกือด้านหลังแค่ไหน “พี่สิงห์” “อ้าวมังกร มาวิ่งเหมือนกันเหรอ” นอกจากไม่ตอบมังกรยังเบือนหน้าหนี ถึงจะเคยขึ้นชกแค่ครั้งเดียวเขาก็ไม่ชอบขี้หน้า ถึงแม้ค่ายของเขาและค่ายของลมรำเพยจะไม่ได้เป็นศัตรูกันจริงจัง แต่คนที่อยู่บนสนามเดียวกันอย่างสิงหาก็ชวนให้อารมณ์เสียอยู่ดี รอยยิ้มซื่อ ๆ นั่นมีอะไรดีนักหนา “ไอ้มังกวย พี่สิงห์เขาทักแกทำไมไม่พูดห้ะ” “ขี้เกียจ” “พี่สิงห์อย่าไปพูดกับพวกสัมภเวสีเลยจ้ะ เดี๋ยวเพยเอามันไปส่งศาลบ้านตาติ๊ด แล้วจะกลับมารับพี่นะจ๊ะ” “จะอ้วก!” “หุบปาก” ลมรำเพยหันไปแว๊ดคนที่ซ้อนท้าย แล้วหันกลับมาทำเสียงอ่อนเสียงหวานกับสิงหา “เดี๋ยวเพยมานะจ๊ะพี่สิงห์” “เดี๋ยวพี่วิ่งกลับเองก็ได้ เพยเอานาฬิกามาให้พี่ก็พอ” “นี่จ้ะ เดี๋ยวเพยมารับ...” “ไปเร็ว ๆ” บรื๊นนน “กรี๊ดดดดไอ้มังกวย!!!” แค่เธอยื่นนาฬิกาให้กับสิงหา เท้าก็ถูกเตะออกจากเกียร์ ก่อนที่แผ่นหลังจะถูกอกเปลือยที่เต็มไปด้วยเหงื่อเบียดชิดเข้ามาจนติด แล้วแย่งแฮนด์มอเตอร์ไซค์จากเธอไป จนในตอนนี้เหมือนว่าเธอนั่งซ้อนหน้ารถของมังกร “นั่งดี ๆ ดิ๊วะ” เขาว่าพลางเกี่ยวเอวเล็กเข้ามาประชิดลำตัว ก่อนเสียงกรีดร้องจะดังเคล้าเสียงหัวเราะของชายหนุ่มไปทั่วทุ่งนาที่เงียบสงบในยามโพล้เพล้ ภาพชินตาของรถจักรยานยนต์คันเก่าของลมรำเพยเลี้ยวเข้าถนนคอนกรีต ไม่นานก็เข้าเขตย่านชุมชน ก่อนจะเลี้ยวเข้าในรั้วบ้านสีขาวข้างสนามมวยบ้านของมังกร ทั้งสนามมวย ค่ายมวย ต่างเป็นของบ้านเขาทั้งนั้น หากพูดถึงความรวยนับว่าค่ายเล็ก ๆ ของพ่อเธอเทียบไม่ติด ทันทีที่ขาตั้งแตะฟื้นเสียงดุก็เอ่ยไล่คนด้านหลังทันที “ลงไปเลยไป ป้าบัวจ๊ะหนูเก็บหมาหลงมาส่ง” “อ้าวววรำเพย มา ๆ มากินข้าวกันลูก” หญิงสาวยิ้มตอบแม่ของตัวที่เกาะติดหลังตัวเองพลางยิ้มแป้น หม้อข้าวขนาดเท่าหม้อวัดถูกนักมวยในค่ายพากันหิ้วออกมาจากในบ้าน ถึงจะมีผู้ชายหุ่นล่ำมากมายแต่เธออยากไปรับพี่สิงหาของเธอมากกว่า เลยได้แต่ส่ายหน้าตอบปฏิเสธ “หนูยังไม่หิวเลยจ้ะป้า เดี๋ยวหนูต้องไปรับ...” ป้าบ ยังไม่ทันพูดจบประโยค ฝ่ามือหนาฟาดลงกระหม่อมของคนตัวเล็กจนหัวโยก “ไอ้มังกร!” “มาแดกข้าว!!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD