ขณะที่สวรรค์สี สาวคู่ขาส่งกำลังใจมาให้ นัยน์ตาหล่อนปรอยส่งยิ้มหวานอยู่นอกกระจกใส
แต่เขา หนำซ้ำมามีเสียงโทรกวนใจอย่างนี้
“ใครกันวะ โทร.มาในเวลานี้”
เสียงพูดบ่นอย่างไม่พอใจ เหมือนหมีกินผึ้ง ดูเบอร์เครื่อง ตายแล้วนี่หว่า ใบฟาง
สาวสวยที่เขากำลังติดพันและกำลังโปรยเสน่ห์ความหล่อเหลา เพื่อให้หล่อนติดกับดัก
ก็เลยกดรับสาย ผละร่างของตนเองออกจากวงพนัน ก้าวห่างออกไป ในบริเวณที่โล่ง
ลดน้ำเสียงที่ฟังไม่ได้ศัพท์ จากคำพูดของนักพนันหลายคน
ที่มักพูดเสียงดังและไม่สุภาพนัก
เพราะนี่มันเป็นสถานที่อโคจร วาจานักพนันหรือนักเล่นที่ชอบได้เสีย ก็เป็นอย่างนี้ล่ะ
เขาต้องการปกปิดสาวสวย
เพราะเขาจะคายนิสัยแท้สันดานเดิมออกมาให้สาวสวยที่เขาหวังหมายร่วมชีวิตไม่ได้หรอก
เสียฟอร์มหมด เขาต้องเก็บซ่อนมันไว้ข้างใน
ผู้หญิงอ่อน..หลอกง่าย ไร้เดียงสาอย่างใบฟางตามเขาไม่ทันหรอก
ไม่ยอมให้หล่อนทราบความจริง ว่านอกจากเขาคบหล่อน
แล้วยังมีใครเคียงกายอยู่ข้างเตียงนอนแทบทุกคืน
หล่อนคนนี้รู้และเข้าใจถึงปรารถนารสชาติเกมรักได้เป็นอย่างดี ว่าเขาชอบแบบไหน
ดังนั้นจึงรีบรับสายพร้อมเอ่ยเสียงหวานหู ปรับคำพูดให้ดูน่าเชื่อถือและเจ้าเสน่ห์
ปดได้ก็ปดเลย เพราะคนอย่างเขา ก็เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์
“ฟางหรือจ้ะ มีอะไรจะคุยกับพี่ธีล่ะมันดึกแล้วนะเนี่ย พี่ธีนึกว่าฟางจะหลับแล้วเสียอีก หรือว่าคิดถึงพี่กันจ้ะ”
เขารู้จักวิธีการหยอดเสียงออดอ้อน
ใบฟางยิ้มผ่านมือถือ หล่อนเชื่อสนิทว่านั่นออกมาจากจิตใจแท้ของเขา
ขณะที่ใบหน้าของธีรคามหนุ่มนักพนันตัวยง ยิ้มหยันและกระหยิ่มที่เอาตัวรอดได้
ได้ยินเสียงหวานของเธอ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่ธีกลับถึงบ้านนานแล้วใช่ไหมคะ ฟางห่วงเท่านั้นเอง”
“อ้าว ห่วงพี่ด้วยหรือจ้ะขอบใจมากจ้ะพี่เองก็ห่วงฟางเหมือนกัน นี่ก็ถึงบ้านแล้ว อีกหน่อยคงนอน ขอบใจมากที่ฟางห่วงพี่ แบบนี้พี่ก็ปลื้มเหลือเกิน ที่มีแฟนห่วงถึงขนาดนี้”
หวานอย่างนี้น้ำเสียงอ้อนและพุ่งประเด็น เข้าในใจในความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา
ทำเอาสาวสวยเขินขึ้นมาทันที
ธีรคามมองออก
หล่อนยังอ่อนเยาว์วัย และอ่อนประสบการณ์ในด้านความรัก ถ้าเปรียบกับธีรคาม ชายผู้เจนจัดในความรัก
“ไม่รบกวนแล้วล่ะคะ แหมหวานเสนาะหูเชียว ระวังนะคะมดจะไต่มาตอมปากของพี่ธี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ พบเจอกันวันใหม่”
เท่านี้ใบฟางก็ปิดเครื่อง
และนี่ล่ะคือสิ่งที่ธีรคามต้องการ
หลังจากที่เขามีหน้าตาที่บึ้งตึง ซ้ำต้องมาปั้นคำหวาน จนตัวเองรู้สึกเอียนเหมือนกัน
กับวาจาเสแสร้งตลบตะแลงออกมา แต่จะทำอย่างไรได้
เขากำลังจับปลาสองมือณ ขณะนี้แล้วอีกอย่าง เขาอยากจะครอบครองตัวของใบฟาง
หยิบมือถือเก็บเข้าในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง แล้วเดินออกมาที่วงพนันเหมือนเดิม สีหน้ายังบึ้งตึงแบบเดิม
แถมหน้าตาอิดโรยเครียดตามมาอีก
สีสันบนใบหน้าแทบไม่มีความรื่นระเริง
นั่นเพราะรู้สึกเจ็บใจ ที่โดนฝ่ายตรงกันข้ามกินเรียบ แบบฟาดเรียบวุธ จนเขาได้แต่ยืนมองตาปริบๆ อึ้ง
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แม้รู้สึกเสียดาย
แต่นี่ ก็เป็นวิถีของนักพนัน คนที่แพ้ย่อมตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแก่ผู้ได้ ยิ่งเป็นเจ้ามือ
และนักเลง มาเฟีย มีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ เป็นคนคุมบ่อนพนันหรูนี้ด้วย
สวรรค์สีสาวใหญ่ผู้เจนจัด
หล่อนอ่านเกมอย่างทะลุปรุโปร่ง
เขา หนุ่มหล่อจับภาพนั้นตลอดเวลา
สายตาและหัวสมองของปางภูบันทึกเอาไว้
ไม่แน่หรอกว่า ภาพในบ่อนแห่งนี้จะโผล่ผ่านจินตนาการของเขา ถูกถ่ายทอดลงฉากต่างๆ ในหนังสืออีกครั้ง
สำหรับ หล่อนคนนี้ เขาไม่ชอบจริตผ่านทางสายตาที่ออกลักษณะยั่วยวนของสวรรค์สีเลย บ่งบอกเขารู้ทันหล่อน
ถ้าคิดจะเคี้ยวเขา มันไม่ง่าย เขาไม่ชอบประเภทเรี่ยราด
ไม่เสียยี่ห้อการเป็นนักเขียนหรอก
เจ้าของร่างสูงโปร่งโดดเด่นในชุดเชิ้ตสีเข้ม มีเรื่องอย่างอื่นต้องทำต่อไป
เมื่อเขามาเล่น ครั้นพอถึงเวลาก็คงกลับ
อย่างในเวลานี้เอมอิ่มแล้ว เพราะเขาไม่ถึงกับหลงใหลติดกับดักคำว่าพนัน
เหมือนบางคนที่ได้ไม่เคยพอ บางคนไม่เคยพอกับสิ่งที่ได้ บางครั้งบางคนได้ แล้วนึกย่ามใจทุ่มเทเล่นสุดตัว
อีกครั้งกลับกลายเป็นแพ้ มันตาลปัตรอย่างนี้นี่เอง
และนี่บ่งบอกให้รู้ ว่าเป็นรสชาติการพนัน
ผู้ชายรุ่นน้อง ที่มีสีหน้าเครียดเริ่มกุมขมับ เห็นสีหน้าไม่ดีอย่างนี้บอกได้เป็นอย่างดีว่า โชคร้ายชัวร์ จึงมีสีหน้าดวงตาที่ขวางคนอื่นไปหมด
หนุ่มหล่อเจ้าของดวงตาคมยิ้มเยาะ
เมื่อเขามองไปที่ธีรคาม ซึ่งกำลังกวาดตาหาเงินทุนใหม่จากคนที่รู้จัก แต่ดูเหมือนว่าธีรคามจะพุ่งเป้ามาที่เขา
ถึงแม้รู้จักก็ตาม แต่ก็ผิวเผิน
เพราะคนอย่างเสี่ยปางภู ไม่ยอมรับใครเป็นเพื่อนได้ง่ายนัก
โดยเฉพาะที่มาจากวงพนัน
คนพวกนี้เป็นทุษบุรุษทั้งนั้น คือบุรุษที่ไร้ความดี ฝักใฝ่แต่กีฬาบัตรความชั่วห้าจำพวก
เขาเห็นสีหน้าก็บ่งบอกถึงความปราชัยย่อยยับของนักเล่นหนุ่ม
ส่วนสวรรค์สีสาวใหญ่ท่าทางจริตจกร้านนั้น
หล่อนก็พุ่งสายตาเรียบเฉย มาที่เขา
ธีรคามตัดสินใจเดินมา
“จะกลับแล้วหรือครับเสี่ย”
ธีรคามมักเอ่ยชื่อเขาว่าเสี่ย ปางภูไม่ได้ว่าอะไร
แล้วแต่เรียก อาจจะเป็นเพราะมาดของเขาดูหรู
หรือทรงอิทธิพล กับข้อที่ว่าเข้ามาเล่นทุกครั้ง
เขาไม่เคยที่จะคว้ามือเปล่ากลับบ้าน
ธีรคามจึงเรียกอย่างยกย่องเทิดทูน ปางภูคิดอย่างนี้ล่ะ
“ก็คิดจะกลับเหมือนกัน”
เสียงทุ้มเนิบตอบ เป็นคำพูดที่เหมือนจะชั่งใจ
กำลังจะอ่านเล่ห์เหลี่ยมฝ่ายตรงกันข้ามออก
ผลจากการเล่น ที่ผ่านมาสองสามตา
เขาคว้าเงินจากบรรดาผีการพนัน มาครอบครองจนได้
พอเล่นอีกครั้ง กลับเสียไปนิดหน่อย ตัดสินใจเลิก อันที่จริงเป็นการแสร้ง แสดงของเขามากกว่า
ไม่อยากให้ผู้มีอิทธิพลเจ้าของบ่อนรู้ว่า เขามีแต่คว้าได้ ไม่มีเสีย
จะทำให้ถูกมองด้วยสายตาหมั่นไส้
ก็เลยต้องยอมเสียนิดหน่อย ติดตัวกลับบ้านไป
และนั่นย่อมไม่เป็นผลดีกับเขาอย่างแน่
อย่างที่เข้าใจดีว่า คนในวงการพนัน มันมีคนดีที่ไหน
คนเหล่านี้เต็มใจมั่ว เต็มใจถูกมอมเมา แล้วก็ลุ่มหลง
เพราะนี่คือกิเลสร้ายชนิดหนึ่ง ที่ผลของมันขนาดทำให้ชีวิตของคนๆหนึ่ง ไม่เหลืออะไรแม้แต่กางเกงในสวมใส่
ถ้าถึงขั้น บ้าการพนันอย่างหัวปักหัวปำ
เขายกตัวอย่างไปที่ธีรคาม
อย่างในเวลานี้มากกว่า เพราะอ่านเกมออก
“เล่นเสียอีกล่ะสิ”
อีกฝ่ายยิ้มแหย เมื่อคนพูดเป็นหนุ่มหล่อมาดหรูพุ่งประเด็นและเข้าใจความรู้สึกจากข้างในคนเล่นเสียตรงเป้า
แทบไม่ให้เขาตั้งตัวเลย
จึงหัวเราะแหะ ที่ดวงคมคมกริบของหนุ่มหล่อเหลา ช่างรู้และคาดเดาใจเขาได้
แต่คนอย่างธีรคามไม่มีล่ะ ที่จะหน้าบาง เขาหนาได้ทุกกาลเวลา
ก็แค่ให้มีเงินอยู่ในมือ สามารถเล่นต่อได้.. จะทำอะไรก็ตาม ต้องหาทางให้ได้
มองเห็นคนกระเป๋าหนักตรงหน้า พอที่จะร้องขอ หยิบยืม
“นายกำลังจะทำอะไรล่ะ”
“แหม เสี่ย นี่รู้ทันผมอีกแล้ว เอ้อ ผม ขอทุนอีกสิเสี่ย อีกครั้งน่า” ธีรคามอ้อนวอนเขา
“อะไรกัน นายจะขอทุน แต่ไอ้คราวก่อน ยังไม่คืนฉันเลยนะสี่หมื่น”
สิ่งที่จดจำอยู่ในหัวสมองของปางภู คือคำนี้