เธอไม่ทราบว่าหงุดหงิดในเรื่องใด ไม่รู้สินะ
วันนี้ สิ่งที่เป็นความเบิกบานเพิ่มพูนในใจของหล่อน
คือรางวัลที่ชายหนุ่มคนรัก ตอบแทนให้แก่หล่อน อย่างไม่คาดฝันมาก่อน คุณสนมนาถยังไม่ทราบเรื่องนี้
นักเขียนหนุ่มใช้เวลาว่างหลังจากงานเขียนในแต่ละวันจบลงจนได้ ตามเป้าหมาย
เขามาสถานที่แห่งนี้ มันคือบ่อนสุดหรู การพนันยังมีอยู่ในหัวของเขา แค่เกมคลายเครียด
เขาไม่กล้าพนันขันต่ออย่างหนักหน่วงหรอก เอาแค่ความสนุกเท่านั้น
จู่ๆก็เห็นร่างของใครก้าวเข้ามา พร้อมด้วยคู่ขา
ที่ปางภูนอกจะพบเห็น ยังเป็นภาพที่ชินตาเขาทุกครั้ง
ที่เด็กหนุ่มวัยอ่อนกว่าเขาสามปี ท่าทางกร่างและบอกอาการเย่อหยิ่งไม่น้อย
ประสาลูกชายมหาเศรษฐี มักจะเหน็บเอาสาวสวยเข้ามาที่บ่อนไฮโซแห่งนี้ด้วยแบบไม่ซ้ำหน้า
บ่อยครั้งเห็นจะเป็น สวรรค์สี เพราะเขารู้จักดี ผู้หญิงคนนี้พยายามให้ท่าเขาด้วย แต่เขาทำสีหน้าหมิ่นเยาะหยันใส่อย่างไม่นึกพิศวาส จนหล่อนไม่กล้ามาป้วนเปี้ยน
แต่ไม่วาย ที่หล่อนแอบส่งสายตาเจ้าชู้มาทางเขา
ส่วนผู้ชายคนนี้ เป็นชายหนุ่มรุ่นน้องประมาณสามปี เขารู้จักดี
ธีรคามนี่เอง หรือที่เอ่ยเรียกไอ้ธี พบก่อนที่บ่อนพนันแห่งนี้ หลังจากเสร็จธุระ สมองของเขาโล่งโปร่งเช่นเดิม
เรื่องงานเขียนของเขา มีมุมเหมาะสม และช่วงจังหวะเวลาเขียนของมัน เขาจัดสรรทุกอย่าง
แม้แต่เวลาที่ออกมาปลดเปลื้องความเครียดระบายมันออกไปบ้างในวงพนัน
นั่นทำให้จิตใจของเขา ฮึกเหิมกล้าเสี่ยงและเพิ่มความดิบเถื่อนในหัวใจขึ้นมาอีกขั้น
ในเกมการพนันขันต่ออย่างมีรสชาติ เล่ห์เหลี่ยมกลโกง
และระดับเขาแล้วไม่เคยแพ้
ขึ้นชื่อว่าเซียนคนหนึ่ง ที่เซียนพนันคนอื่นย่อมครั่นคร้ามระย่อในฝีมือ
ในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มเป็นจุดเด่น แววตาที่หมายมาดบ่งบอกความชาญฉลาดทันเกมคนอื่น
ไม่วายที่จะมีเสียงโทร.ดังขึ้นขัดจังหวะเลยต้องกดรับ ที่แท้เป็นแม่บ.ก.สาวโสดจอมขี้บ่นแถมขยันทวงต้นฉบับนี่เอง
“ชั้นอยู่ในบ่อน”
เสียงนั้นดังออกมาไปทัน
ท่ามกลางฝูงชนที่เสียงเล็ดลอดผ่านหูและฟังไม่ได้ศัพท์
บ.ก.สาวพอจะทราบดี
“ย่ะ ฉันจะไม่กวนหรอก แค่โทร.มาถาม ว่าถึงบ้านแล้วหรือยัง”
เอ่ยถามด้วยความห่วงใย ก็เพราะห่วง
“ถึงตั้งนานแล้ว สักชั่วโมงได้ ทำไมไม่โทรเอาตอนทุ่มสองทุ่มเลยล่ะแซนดี้ แต่ก็ขอบใจนะที่ห่วง ถ้าแอบมาบ่นเรื่องต้นฉบับทวงอีกรอบ เลิกเลยนะ เวลานี้ฉันกำลังมัน”
แค่คำพูดของเพื่อนที่เอ่ยสาวบ.ก.พอจะทราบอยู่แล้วว่า ปางภูพิศวาสเรื่องการพนัน เขามีข้ออ้างว่าแก้เครียด
เธอยอมรับ เขาไม่เคยทำให้งานเสีย นักธุรกิจกับอีกร่างหนึ่งเป็นนักเขียนรับงานจ๊อบ
แต่จ๊อบที่ว่านี่ สร้างรายได้ไม่ต่างไปจากงานหลัก หล่อนเป็นบรรณาธิการ ก็ต้องรู้สิว่า ค่าเรื่องนักเขียนอย่างเขาอยู่ที่เท่าไหร่ ต่อตอน และต่อเดือน
ปางภูพึงพอใจ ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายมีอิสระ เขาเก่งกาจที่ดูแลธุรกิจเงินล้านของตนเองได้
“แหมแกแขวะฉันเลยนะไอ้ป้างรู้อยู่หรอกน่า ไม่มาทวงต้นฉบับแกหรอก รู้ดีอยู่แล้ว ว่าคนอย่างแกเคร่งครัดต่อเวลาและการทำงานที่สุด ฉันเชื่อมือแก”
“แล้วตอนนี้โทร.มา กวนจังเลย”
ออกเสียงบ่นใส่สาวใหญ่บ.ก.ผู้เป็นเพื่อน ท่าทางไม่จริงจังนักเย้าแหย่มากกว่า
“ย่ะ ไม่รบกวนหรอก แต่เล่นให้รู้จักบันยะบันยังหน่อยนะ เดี๋ยวจะหาว่าเพื่อนอย่างชั้นไม่เตือน”
“ขอบคุณที่เตือน แต่ว่ามืออย่างฉัน ไม่เคยพลาดสักนิด ไม่รู้เป็นไง ปราบเขาได้ทุกครั้ง”
หนุ่มหล่อทิ้งชีวิตนักเขียนชั่วคราว มาเป็นนักพนันเอ่ยกับเพื่อนท่าทางทะนงตัวเองเล็กน้อย
จากนั้นปางภูก้าวเข้ามาในวงอีกครั้งหลังจากที่ปิดเครื่องสนิทแล้ว ที่ตัดสินใจปิดเพราะไม่อยากให้ใครมารบกวนในเวลานี้อีก
สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างกว้างขวาง เป็นสถานที่มิดชิดตกแต่งอย่างสวยหรูคลาสสิก มีแอร์เย็นสบาย
ให้เหล่านักเล่นได้สำเริงสำราญ บางกลุ่มนั่งคุยกัน กินเหล้า ได้กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งปนกับควันบุหรี่
นักเล่นล้วนแต่เป็นหนุ่มสาวล้วนแต่เป็นระดับไฮโซคนมีฐานะเท่านั้น กับเซียนพนันตัวเป้งอีกสามคน
ปางภูสนุก แค่คลายเครียด ไม่ได้ถืออะไรมากมาย กลับไปนี่ต้องพักผ่อนเอาแรงอีกรอบ
ถ้าสมองไม่เหนื่อยล้ามากเกินไป ความเคยชินทำให้เวลาช่วงเที่ยงคืน จะต้องลุกขลุกมานั่งหน้าจอคอม เพื่อปั้นเรื่อง ครุ่นคิด จินตนาการ ประสานักเขียน ที่ไฟกำลังลุกโชน
ใบฟางอยู่ในห้องส่วนตัว ใจครุ่นคิดว่า ป่านนี้พี่ธีรคามคงหลับไปแล้ว และคงฝันถึงเธอ
เด็กสาวที่โลกสีชมพูหวานของความรัก พาใจให้เธอดูดดื่มในจินตนาการความคิด เนื่องด้วยความรักนี่ล่ะ
นี่คือรักแรกของเธอ ที่สาวสวยยอมรับอย่างเต็มใจ
ขณะที่เธอไม่ทราบสักนิด
ธีรคามตัดสินใจมายังสถานที่อโคจร แทนที่จะตรงกลับบ้าน
เพราะเป็นความเคยชินและเพาะพันธ์นิสัยของเขา ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงที่เขานัดมาด้วย หล่อนนั่งแท็กซี่มาพร้อมกับเขา และหล่อนมีชื่อว่า สวรรค์สี ที่คนในบ่อนหรูแห่งนี้ทราบว่าทั้งคู่เป็นคู่ขาตัวจริง
สวรรค์สีมีอาชีพเป็นสาวไซด์ไลน์ในผับหรู ถ้าจะว่าไปคำว่าโสเภณีชั้นสูง คงไม่แตกต่างไปจากหล่อนหรอก
เพราะหล่อนรู้กลวิธีที่จะมัดใจหนุ่มหล่อติดการพนันคนนี้ได้
ธีรคามจึงไม่ได้แวะไปรับประทานอาหารสวาท ที่ไหน
นอกจากหล่อน เพราะหล่อนป้อนปรุงเขาได้อย่างถึงพริกถึงขิงและเต็มที่
ผู้หญิงหน้าจืดหวานๆอย่างลูกสาวข้าราชการนั่นน่ะหรือ
ที่เขาเป่าหูให้หล่อนฟัง ว่าเขากำลังตกเบ็ดชิ้นนี้อยู่
หล่อนครุ่นคิดตาม เข้าใจว่าแม่เด็กสาวอ่อนวัยไร้เดียงสาอย่างใบฟาง
ก็หลงเข้ามาติดกับดักเสน่ห์
หล่อนอดหึงไม่ได้เหมือนกัน ในเมื่อเป็นผัวของหล่อน ไม่อยากจะแบ่งปันให้ใคร ดูเหมือนเขากำลังบอก เขากำลังหลอกเด็กนั่นอยู่
ฮึ ไม่รู้ว่าเขาหลงรักนังเด็กนั่นหรือเปล่า
สวรรค์สี เมื่อนึกถึงเรื่อง ที่ทำหล่อนขุ่นเคืองใจ
ใบฟางครุ่นคิด
ถ้าพี่ธีรคามเอ่ยขอหมั้นและแต่งกับหล่อนทันที
ไม่ใช่เพียงแค่สวมแหวนจอง เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
สาวสวยยังฝันหวานกับหมอนใบสีชมพูกับหมอนข้างแสนโปรดที่ขาดไม่ได้
นี่คือความปรารถนา เมื่อรักแล้วต้องการสมหวัง
เธอเทิดทูนธีรคาม เขาเป็นผู้ชายที่แสนดี เพื่อนสนิทของใบฟางนั้นแสนจะปลาบปลื้มแทน ว่าทุกคนจะได้ทราบข่าวดีสักวันหนึ่ง
อย่างไรเสีย เธอแน่วแน่ ค่อนข้างเชื่อมั่นในความรัก
สิ่งที่ปรากฏเป็นหลักฐาน แหวนเพชรบนนิ้วมือเรียวนี่ไง
ทำให้หล่อนจ้องมอง แล้วนึกถึงใบหน้าผู้สวมให้ทุกครั้ง
นี่แหละโลกของความรัก
เธอได้สัมผัส และเข้าใจถึงความรู้สึกผูกพันที่ก่อสานเอาไว้
ยังไม่ดึกสักเท่าไหร่
พรุ่งนี้ใบฟางต้องตื่นไปทำงานเช่นเดิม
เธอน่าจะโทร. ว่าเวลานี้เขาอยู่ไหนแล้ว
คงถึงที่พัก อาจจะเป็นห้องส่วนตัว ใบฟางพยายามคาดเดาเพราะน่าจะเป็นอย่างนั้น
นี่มันปาเข้าสองทุ่ม
ที่สาวสวยยังตรึงฝี เท้าชื่นชมความงามริมหน้าต่างของห้อง
มองไปรอบๆชมวิวตอนค่ำคืน กดเบอร์หาเขาในทันที
เสียงสัญญาณจากเพลงรอสายดังขึ้น
ขณะที่ธีรคามมีสีหน้าหงุดหงิดยิ่งนัก
หัวเสีย เพราะพ่ายเกมพนันรอบแรก ทำให้สีหน้าเขาถมึงทึงบึ้งเหมือนคนโกรธจัด และลมหายใจก็ร้อนรุ่มไปหมด
กำลังอยู่ในช่วงลุ้นตั้งแต่วินาทีแรก จนใกล้จบเกม อยากจะให้โชคเข้าข้างตัวเองบ้าง เล่นเสียไปสองตา
วันนี้ อะไร มันก็ไม่ได้เรื่องซักอย่าง
ขณะที่สวรรค์สี สาวคู่ขาส่งกำลังใจมาให้ นัยน์ตาหล่อนปรอยส่งยิ้มหวานอยู่นอกกระจกใส
แต่เขา หนำซ้ำมามีเสียงโทรกวนใจอย่างนี้
“ใครกันวะ โทร.มาในเวลานี้”
เสียงพูดบ่นอย่างไม่พอใจ เหมือนหมีกินผึ้ง ดูเบอร์เครื่อง ตายแล้วนี่หว่า ใบฟาง