“แหม… พี่ใหญ่ทำเป็นเคร่งเครียดไปได้ ไปทำงานเถอะครับพลอย เดี๋ยวก่อนกลับผมจะแวะไปหาที่โต๊ะนะครับ”
“งั้นพลอยขอตัวก่อนนะคะคุณเล็ก”
ปรมัตถ์ส่งสายตาไม่พอใจไปให้หญิงสาว พูดกับเราใช้ดิฉัน แต่ดูสิ พอคุยกับนายเล็กนี่ยิ้มหน้าบานเชียวนะ แถมแทนตัวเองว่าพลอยอีก
สองมาตรฐานชัดๆ
แล้วใครคือน้องพรีม นายเล็กซื้อตุ๊กตามาให้น่าจะเป็นเด็กผู้หญิง อย่าบอกนะว่ายัยเลขานี่แต่งงานมีลูกแล้ว
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเราวะ? เธออาจจะเคยบอกเขาเรื่องนี้ แต่เขาไม่ได้ตั้งใจฟังจึงจำไม่ได้
“พี่ให้เวลานายอีกหนึ่งปี ต้องเข้ามาช่วยงานที่บริษัท”
“ทำไมเร็วจังอะพี่”
“เร็วอะไรตั้งหนึ่งปี ไปทานข้าวเที่ยงกันเถอะ”
“ดีครับผมคิดถึงพี่ใหญ่ ไม่เจอตั้งนาน แล้วคุณพ่อทำยังไงพี่ใหญ่ถึงยอมกลับเมืองไทยครับ”
“คุณพ่อแก่แล้ว พี่เป็นลูกก็ต้องกลับมาช่วยงาน” คนเป็นพี่ชายเอ่ยขึ้นมา
“รู้สึกพี่เป็นลูกชายที่ดียังไงก็ไม่รู้นะครับ” ปิยังกูลแซวพี่ชาย
“อือ… แล้วนายล่ะมีแฟนหรือยัง”
“ยังไม่มีเป็นตัวเป็นตนหรอกครับพี่ ผมเดินทางตลอดจะเอาเวลาไหนไปมีแฟน แล้วพูดยังกับผู้หญิงดีๆ จะหาง่าย”
“แล้วนายจีบเลขาของคุณพ่องั้นเหรอ” ปรมัตถ์ถามขึ้นตามที่มองเห็น น้องชายเขามองเธอด้วยสายตาเทิดทูนเหลือเกิน
“อุ้ย… ทำไมพี่ถามแบบนั้นล่ะครับ อย่าไปพูดให้เธอเสียหายเลยครับ เธออยู่สูงส่งเกินไป” ปิยังกูลตกใจที่โดนจับได้ คิดว่าตัวเองปิดความรู้สึกเก่ง แต่ก็ยังไม่พ้นสายตาพี่ชายไปได้
“ก็ดูสายตาที่นายใช้มองเธอ เหมือนหมาเห็นปลากระป๋อง ดูนายยกย่องเธอเหลือเกินนะ แล้วก็... เธออาจจะสนใจนายก็ได้ เห็นยิ้มไม่หุบเลยตั้งแต่นายเดินเข้ามา”
“เธอก็เป็นแบบนี้แหละครับ นางฟ้าจิตใจดี ผมเคยพยายามแล้ว เธอให้ผมเป็นได้แค่พี่ชายแค่นั้น” ปิยังกูลพูดออกมาเสียงเศร้า หน้าตาดูไม่มีแววขี้เล่นอีก ฉายชัดความเสียใจออกมาคล้ายคนอกหัก
“เหรอ แล้วทำไมเธอถึงปฏิเสธนายล่ะ พี่ไม่เคยรู้ว่านายจะมีรสนิยมชอบผู้หญิงลักษณะแบบนี้”
“เธอยังไม่พร้อมมีแฟนใหม่ครับ เพราะลูกสาวเธอยังเล็ก”
“ใช่ พี่ได้ยินว่าเธอมีลูกสาว แล้วนายรับได้เหรอ ที่จะเลี้ยงลูกคนอื่น”
“ใช่ครับ ลูกสาวเธอน่ารักมากครับ ผมเห็นแล้วยังหลงเลย ผมไม่ถือหรอกครับเรื่องลูกสาวเธอ เด็กเป็นผ้าขาวบริสุทธิ์ แกไม่ได้มีความผิดอะไร”
“คิดยังไงถึงไปตามจีบแม่เลี้ยงเดี่ยว ปกติผู้หญิงของนายมีแต่สวยอึ๋มไม่ใช่หรือไง”
“พี่ใหญ่ก็เพ่งมองเธอดีๆ สิครับ แล้วพี่ใหญ่จะเห็น บางทีพี่ใหญ่อาจจะตกหลุมรักเธอแบบผมก็ได้”
“ก็แค่ผู้หญิงที่แต่งตัวอย่างกับครูฝ่ายปกครอง แถมมีลูกติดอีก พี่คงไม่มีวันสนใจหรอก นายก็รู้ว่าพี่เรื่องมากจะตาย”
ปรมัตถ์พูดออกไป ทั้งที่ยังไม่ลืมวันที่ได้นั่งทานข้าวกับเธอ ในร้านอาหารญี่ปุ่นฉายซ้ำอีกรอบ เธออาจจะแต่งตัวเรียบร้อยเกินไป แต่ที่เขาบอกว่าเฉิ่ม มันก็แค่คำพูดที่ใช้ปกป้องตัวเอง
และใช่ เขารู้ว่าเธอน่ารักมาก
โดยเฉพาะเวลาที่เธอยิ้มจนเห็นฟันเรียงตัวสวย ยังเป็นภาพติดตาเขาจนถึงทุกวันนี้ แต่เพราะเขาเป็นคนมีอีโก้สูงจึงไม่กล้ายอมรับอะไรง่ายๆ ออกมา
“ผมจะรอดูครับ อย่ามาขอร้องให้ผมช่วยก็แล้วกัน แต่ทางที่ดี ปล่อยเธอไปเถอะครับ อย่าไปดึงเธอลงมาแปดเปื้อนเลย”
“พูดอย่างกับเธอมีดีอะไรมากขนาดนั้น” ปรมัตถ์พูดออกมาแบบไม่หนักแน่น น้ำเสียงที่ใช้มันจึงแผ่วเบาคล้ายเสียงกระซิบ
ปิยังกูลไม่ได้พูดอะไรตอบโต้พี่ชายอีก เพราะชมพลอยนี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเดินทางตลอด เขาหลงรักเธอตั้งแต่ตอนเขาเรียนอยู่ปีสาม
เธอเป็นน้องใหม่ ที่วันนั้นเขาและเพื่อนเดินผ่านที่คณะ เธอกำลังนั่งอยู่กับเพื่อนสนิท เธอยิ้ม และเพราะรอยยิ้มของเธอทำให้เขาถึงกับสะดุดรักเธอ จนมาเจอเธออีกครั้งตอนเธอมาทำงานเป็นเลขาพ่อของเขา เขาเลยตามจีบเธอ แต่ก็ผิดหวังเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะมีใคร
แต่ก็ยังดีที่เธอให้เขาอยู่ในชีวิตเธอ แค่นี้ก็ดีมากแล้ว เป็นพี่ชายที่คอยช่วยเหลือดูแลอยู่ห่างๆ
“ไปทานข้าวกัน เลี้ยงฉลองที่พี่กลับไทย”
“ไปสิ นายอยากทานอะไรล่ะ”
“อะไรก็ได้ครับ... แล้วนี่... พี่ไม่มีแฟนกลับมาด้วยเหรอครับ”
“พี่ไม่เคยมีแฟน และไม่คิดจะมี”
“อะไรกันครับ พี่หน้าตาดีขนาดนี้ ทำไมถึงไม่มีแฟน”
“ก็เพราะพี่หล่อนี่แหละ เลยต้องเลือกมากหน่อย พี่ยังไม่พร้อมมีแฟนหรอก อยู่แบบนี้สบายใจดี”
“เอาตามที่พี่สะดวกเลยครับ ยอมคนหล่อ... ว่าแต่พี่ได้เจอพี่เต้หรือยังครับ ตั้งแต่พี่เขาแต่งงาน ข่าวก็เงียบไปเลย ได้ยินข่าววงในเล่ามาว่ากำลังหลงเมียหนักมาก”
“เจอแล้ว ว่าจะนัดเจอกันอีกวันหยุดนี่แหละ นายจะไปด้วยหรือเปล่า”
“ถ้าว่างผมจะไปจอยครับ”
ทั้งสองหนุ่มเปิดประตูออกมา เดินผ่านโต๊ะของชมพลอย
“พลอยครับ ไปทานข้าวกับพวกเราไหมครับ วันนี้พี่ใหญ่เป็นเจ้ามือ”
ปิยังกูลแวะชวนชมพลอยไปด้วย แต่กลับโดนปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรค่ะ พลอยจะทานที่โรงอาหารค่ะ เชิญคุณเล็กกับคุณปรมัตถ์ตามสบายเลยค่ะ”
“ฝากบอกน้องพรีมด้วยนะครับ ว่าลุงเล็กคิดถึง”
“ได้ค่ะ”