“ก็ดีแล้ว ถือเสียว่าฟาดเคราะห์ไปก็แล้วกัน” “แล้วผมก็ให้นามบัตรเขาไปแล้วครับเผื่อมีอะไรเกิดขึ้นอีก ก็ให้ติดต่อมา” “ต๊าย แกนี่ จ่ายแล้วก็ถือว่าจบ ยังอยากจะเสียเงินซ้ำซาก เอานามบัตรไปให้เขา” คุณปานนิตย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงดุอย่างไม่พอใจ “แกถือว่าตัวเองเป็นพ่อพระหรือยังไงรังสินัยถึงได้เที่ยวทำตัวเองเป็นมูลนิธิสังคมสงเคราะห์ ” คุณปานนิตย์อดไม่ได้ที่ลูกชายนั้นหวังดีเกินเหตุ “แต่ผมเป็นคนขับรถเฉี่ยวเขานี่ครับผมต้องรับผิดชอบเต็มที่” “ย่ะพ่อพระพ่อสุภาพบุรุษ เชิญแกคิดอย่างนั้นเถอะย่ะ” คุณปานนิตย์ค้อนสีหน้าปะหลับปะเหลือกใส่ลูกชายที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านอย่างน่าหมั่นไส้ หล่อนประสบพบเหตุอะไรที่เพิ่งเกิดขึ้นหนอ และมณีรัชดาก็จับคลำที่ข้อเท้าของหล่อน เห็นว่ามีอาการบวมช้ำเล็กน้อย หลังจากที่นวดด้วยยาคลายกล้ามเนื้อที่นายแพทย์ให้มา อาการของหล่อนก็พอทุเลาขึ้น นึกถึงใบหน้าของชายหนุ่มที่มีน้ำใจที่ไม่ทอ