“ไม่ต้องมาย้อนถาม ไอ้เสือบอกมาซะดีๆ แกกำลังจะไปไหน” อีกฝ่ายพยายามคาดคั้น แม้จะไม่แน่ใจคำตอบ ว่าอีกฝ่ายจะตอบว่าอย่างไร แค่ถามไปอย่างนั้นเอง ด้วยน้ำเสียงแจ่มใส
“จะเข้าออฟฟิศ” พงษ์ระพีแสร้งบอก ทั้งที่รู้ว่าเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขเขาคนนี้ รู้ไส้รู้พุงแทบทุกเรื่อง
“โกหก....”
“แกก็รู้ว่าฉันโกหก แล้วเสือกถามทำแป๊ะไมวะ” ชายหนุ่มที่เพื่อนๆ เรียกไอ้เสือ ลูบไล้คางทั้งริมฝีปากตัวเองไปมา อย่างอารมณ์ชื่นมื่น แววตาเจ้าเล่ห์
“กอดน้องขิงอยู่หรือวะ” อณวัฒน์เข้าประเด็น เพราะตัวเขาเองเพิ่งแยกจากน้องกีตาร์ ที่เมื่อคืนพากันดีดสีตีเป่าจนลืมบ้านเลขที่
“เปล่า....แยกกันแล้ว” พงษ์ระพีว่าพลางยิ้มมุมปาก นึกถึงบทรักเร่าร้อนในค่ำคืนที่เพิงผ่านมา แถมตอนนี้เขากำลังจะไปหาของหวานกินมื้อเช้าอีกต่างหาก
กระทั่งบทสนทนา ดำเนินไปตามประสาวัยหนุ่มคะนองปาก ทั้งสองไม่ใช่ประเภทกินในที่ลับไขในที่แจ้ง ความสุขที่ผ่านมามันก็คือผ่านมา หากแต่คะนองปากพูดเล่นเรื่อยเปื่อย
กระทั่งรถยุโรปคันหรูเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าแมนชั่นหรู ที่เขาเองให้บอร์ดี้การ์ดหนุ่มจัดการหาเช่าให้หญิงสาวที่เขาเจอและคบหาเลี้ยงดู ใช้พักอาศัยในช่วงที่เขาแวะมาหาความสุขกับเธอ “เออๆ...วัฒน์แค่นี้ก่อนว่ะ ขอจัดการธุระหน่อย” ธุระที่เขาว่าคือธุระในการแจกจ่ายความสุข เรื่องพวกนี้ไม่เคยขาดหายไปจากชีวิตวัยหนุ่ม วัยสามสิบต้นๆ ของเขาเลย
“อืม แกจะไปทำอะไรก็เชิญ ฉันเองจะพักหน่อยเหมือนกันสายๆ กะว่าจะเข้าบริษัท” ปลายสาย จากอณวัฒน์ตัด เสียงดัง ตุ๊ดๆๆ หลังจากสิ้นประโยคสุดท้าย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ตามด้วย เสียง แอ๊ด.........
เมื่อประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกด้วยมือบางของเจ้าของห้องที่ชายหนุ่มคุ้นเคย พงษ์ระพีปรากฎกายด้วยมาดเท่ห์ ราวกับตัวเองกำลังถ่ายมิวสิควีดีโอเพลงเกาหลี ใบหน้าถูกบังด้วยถุงกระดาษ ภายในมีของฝากอย่างดีจากต่างแดน มันเป็นของที่เขาตั้งใจหาซื้อมาฝากสาวน้อย กว่าจะควานหาพบ เพราะเมื่อคืนมันตกลงจากเบาะหลังที่เขาวางมันไว้
“พี่ระพี....เอ๋...อะไรคะนั่น” สาวน้อยมองผ่านถุงกระดาษใบย่อม เห็นมันบังหน้าเจ้าของถุงแค่เสี้ยว เขายื่นถุงกระดาษใบดังกล่าวส่งให้สาวน้อย เธอค่อยคลี่มันออกดูของภายใน พร้อมทั้งเชื้อเชิญชายหนุ่มให้เข้ามาในห้อง
“เปิดดูสิจ๊ะ ไม่รู้ถูกใจน้องน้อยของพี่ระพีหรือเปล่า” ชายหนุ่มก้าวเข้าไปภายในห้องจนเต็มตัว มือหนาไม่รอให้เอวบางเป็นอิสระคว้าเข้ามากอด จมูกสูดดมเอาความหอมเข้าปอด หญิงสาวอยู่ในชุดกางเกงผ้ายืดสีขาวขาสั้นจู๋ เสื้อสายเดี่ยวรัดรูปสีเดียวกับกางเกงยั่วยวนไปอีกแบบ หญิงสาวบ้องแบ๊วสดใส ต่างจากนันทิสา
“ชื่นใจจัง” เมื่อสูดความหอมจากแก้มสาวลงปอดจนพอใจ เขาเงยหน้าสบตา เพื่อบอกอะไรบางอย่างผ่านแววตา
“แหมพี่ระพีก็....ซุกซนตามเคยนะคะ” ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่ชอบกับการกระทำของชายหนุ่ม เธอปรารถนาในตัวเขาไม่แพ้กัน เธอหยิบของฝากในถุงออกมาแกะกล่อง “น้ำหอม ว้าว !!! กลิ่นที่จ๊ะจ๋าอยากได้พอดีเลยค่ะ” สาวน้อยกระโดดโหยงเหยงแสดงท่าทีดีอกดีใจ เมื่อได้ของที่ตัวเองเคยบอกว่าอยากได้ ก่อนเขาจะเดินทางไปต่างประเทศ
“ก็...จ๊ะจ๋าอยากได้ พี่ระพีเลยหาซื้อมาให้ไงจ๊ะ” สำหรับเขาน้ำหอมราคาไม่กี่พันบาท คงไม่ใช่ปัญหา มันเล็กน้อยมากๆ เพื่อแลกกับความพอใจที่เขาจะได้รับตอบมา “รอพี่แป๊บนะจ๊ะ” พอนั่งลงที่โซฟาหนานุ่มได้ เขาหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อ และค้นหาเบอร์บอร์ดี้การ์ดหนุ่มคู่ใจ “ปกรณ์”
“ว่าไงครับบอส” บอดี้การ์ดผู้ทำหน้าที่หลากหลาย เขาเป็นทั้งบอดี้การ์ดและเลขานอกสถานที่
“มีงานด่วนมั้ย” เขาถามออกไปทันที ในเมื่อวันนี้เขาคงยุ่งกับภารกิจส่วนตัว ยากจะปลีกตัวเข้าไปบริษัท
“มีแค่งานเซ็นอนุมัติครับ รอได้ ส่วนเรื่องด่วนคุณแอนจัดการเรียบร้อยแล้วครับ ท่านรองไฟแรงน่าดู เคลียร์งานทุกอย่างแทนบอสได้ไม่มีปัญหา” เขากล่าวถึงหญิงสาว แพรทิวาน้องสาวของพงษ์ระพีด้วยความ ชื่นชมทั้งๆ ที่หล่อนเพิ่งจบมาใหม่ ไฟแรงทำงานแทนพี่ชายได้ทุกอย่าง ไม่มีขาดตกบกพร่อง
“ดีมาก ฝากบอกยัยแอนด้วยนะ มีเอกสารเซ็นอนุมัติให้จัดการได้เลย ถ้าจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ จะรีบเข้าไป ฝากนายด้วยนะ แค่นี้ละกัน มีปัญหาอะไรโทรมาล่ะ” เขาสั่งงานลูกน้องคนสนิทเรียบร้อย ตัดสายสนทนาหันมาให้ความสนใจสาวน้อยตรงหน้าอีกครั้ง
“ครับ” ชายหนุ่มกำยำเลขาคนสนิทรับครับ
“เรียบร้อยแล้วจ้ะ พี่ระพีสั่งงานลูกน้องเสร็จแล้ว” เขาเปลี่ยนสีหน้าเรียบขรึมเมื่อครู่ กลับมายิ้มแย้มให้สาวน้อย
“กาแฟกับคุกกี้ค่ะ พี่ระพี” สาวน้อยวางแก้วกาแฟพร้อมจานคุกกี้ ลงบนโต๊ะตรงหน้าชายหนุ่ม
“น่าทานดีนะ แต่....” เขาส่งตาวาววาม ยิ้มหวานกรุ้มกริ่มให้สาวน้อย บอกความนัยในสายตาคมคู่งาม
“แต่อะไรคะ” สาวน้อยรู้สึกร้อนในกายวูบวาบ เมื่อมือหนาสัมผัสหัวไหล่เปล่าเปลือย เพราะสวมเสื้อสายเดี่ยวเส้นบาง กางเกงขาสั้นตัวจิ๋ว
“คือว่า...พี่ระพีอยากทานอย่างอื่นมากกว่ากาแฟกับคุ๊กกี้” เขาทำท่าปูไต่เล่นไล่ไปตามไหล่มนนวลขาวสะอาด
“อะไรล่ะคะ ทานข้าวดีมั้ย” สาวน้อยแสร้งไร้เดียงสา ไม่รู้เรื่องที่ชายหนุ่มพยายามสื่อ
“ไม่” เขาเค้นเสียงออดอ้อน
“อ้าว....แล้วจะทานอะไรล่ะคะคนดี” สาวน้อยกำลังตามความคิดชายหนุ่มต่อคารมเพื่อชวนคุย บิดตัวหนีปูตัวใหญ่ ที่กำลังไต่ป้วนเปี้ยนตามร่างกาย
“พี่ระพีอยากทาน.....น้องจ๊ะจ๋า” ประโยคสุดท้าย ของหนุ่มไฟแรงสูงลุกโชนตลอดเวลาอย่างเขา ก็เอื้อมมือหนาคว้าเอวบางคอดกิ่ว เข้ามาในอ้อมกอดอย่างเป็นเจ้าของ
“อุ๊ย พี่ระพี....อย่าสิคะ เล่นเซี้ยวอีกแล้วนะ” สาวน้อยแกล้งตีลงมือหนาเบาๆ เมื่อมือหนาแตะเข้าที่เอวบาง
ชายหนุ่มไม่สนใจการห้ามปรามของเธอ เขาประคองดวงหน้าสาวน้อยให้อยู่นิ่งในอุ้งมือหนา ให้จ้องมองที่เขา บรรจงมอบจุมพิตแผ่วเบา จากนั้นแปรเปลี่ยนเป็นรุ่มร้อน ดุจพายุโหมกระหน่ำ จนหญิงสาวหายใจ หายคอแทบไม่ทัน
ทั้งที่ตั้งใจต้อนรับเขา แม้ว่าเขาจะมาไม้ไหน ลิ้นอุ่นค่อยๆ แทรกผ่านกลีบปากบาง เพื่อลิ้มรสความหวานจากกลีบปากที่คุ้นเคย ยั่วเย้าหยอกล้อจนสาวน้อยสั่นสะท้าน หายใจหอบกระหาย มือหนาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างว่องไว เค้นคลึงดอกบัวตูมอย่างคุ้นมือ ปลายนิ้วกดเน้นที่ปุ่มยอดดอกบัวที่ชูชันรอการสัมผัส
เมื่อเขาถอนริมฝีปากหญิงสาวถึงกับหน้าแดง ช้อนตามองเขาอย่างค้นคว้า อีกทั้งเสียดายรสจุมพิตร้อนแรงดังพายุทอนาโดจากชายหนุ่มนั้น
“เปลี่ยนที่นะวันนี้” เขาจ้องใบหน้าเนียนของสาวน้อย
“ที่ไหนคะ” สาวน้อยยังคงเอียงอายทั้งที่คุ้นกันหลายครั้ง
“ห้องน้ำ” เขาบุ้ยหน้าไปยังจุดหมายที่ตัวเองต้องการ
“หือ...” สาวน้อยได้แต่นึกตาม ถึงบทรักบทใหม่ที่เขาชี้ชวน วันนี้เขาจะมาไม้ไหนอีกนะ แต่ละครั้งเขาขอรักเธอไม่ซ้ำที่เลยทีเดียว ห้องรับแขก ห้องครัวเล่นกวาดเครื่องครัวจากโต๊ะลงไปกองบนห้องซะ ก็เคยมาแล้ว ห้องนอน คราวนี้ห้องน้ำ มันจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ หญิงสาวคิดตามรู้สึกวาบหวามในใจ
ชายหนุ่มค่อยๆ ช้อนร่างสาวน้อยขึ้น และเดินตรงไปยังห้องน้ำสีขาวสะอาดตา เพื่อเริ่มสอนบทรัก บทใหม่ให้สาวน้อยหน้าหวาน ซึ่งเขาคบมาราวสี่เดือน เขาทำหน้าที่ปลดปล่อยอาภรณ์แต่ละชิ้นของสาวน้อยออกจากร่าง เพราะมีเพียงอาภรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยเท่านั้น ง่ายต่อการถอดเสียนี่กระไร