“แล้วพี่ไม่หล่อเหรอ” ปกรณ์ค่อยๆ โน้มใบหน้าคร้ามเลยผ่านเคาน์เตอร์ไปใกล้อัญชิสา ทิ้งสายตาคมให้หล่นตุ้บลงบนสายตาเอียงอายของหญิงสาว
“หล่อ...แต่น้อยกว่าเจ้านายพี่” นิชานันท์ซึ่งนั่งฟังการสนทนาของสองหนุ่มสาว อดไม่ได้จึงแย้งขึ้นบ้างด้วยตามด้วยเสียงกลั้วหัวเราะสบายอารมณ์
“เห็นด้วย เต็มร้อยเลยนิ” อัญชิสาหันไปทางนิชานันท์ยกฝ่ามือตบกันแบบกิ๊ฟมีไฟว์ (วัยรุ่นซ้า)
“พี่ไม่คุยด้วยล่ะ แพ้เจ้านายทุกที” ทุกครั้งที่ตามเจ้านายมา เขาต้องแวะหยอกล้อสองสาวนี้ จนเกิด ติดใจอัญชิสาสาวหน้าหวาน บางครั้งแอบคิดเข้าข้างตัวเองจะลงมือจีบเธอจริงจังบ้างสักครั้ง แต่ด้วยหน้าที่การงานที่เสี่ยงอันตราย จึงทำให้เขาไม่กล้าพาผู้หญิงคนไหนให้ก้าวเข้ามาร่วมชีวิต เขาได้แต่เดินเลี่ยงออกจาก เคาน์เตอร์ ไม่ลืมส่งสายตากรุ้มกริ่มให้อัญชิสา
“บ๊ายบายค่ะ พี่เท่ห์” อัญชิสาโบกมือร่ำลาอย่างหยอกเย้า ทีเล่นทีจริง ความจริงเธอพอใจกับชายหนุ่มมาดเท่ห์คนนี้ไม่น้อย แม้จะรู้มาเหมือนกันว่าชายหนุ่มมีใจให้ แต่เขากลับไม่ลงมือจีบเธอจริงจังเสียที ครั้นจะเข้าไปจีบก่อนดูเหมือนว่าจะเสียเครดิตหญิง จึงได้แต่ลอบยิ้มกับตัวเอง
“ครับ พี่ไปนะครับ เดี๋ยวจะแวะมาให้ว่าใหม่” ชายหนุ่มหันหลังกลับ เมื่อได้รับยิ้มหวานจากสาวเจ้า
“น้อยๆ หน่อยยัยอัญ แกนี่เห็นผู้ชายไม่ได้”
“พี่ปกรณ์เขาเท่ห์ นิสัยดี น่ารัก ผูกสัมพันธ์ไว้ไม่เห็นเสียหายเลยนี่”
“หวังล่ะสิท่า ส่วนฉันหวังไกลกว่านั้น เพราะฉะนั้นพี่ปกรณ์ฉันยกให้แก” นิชานันท์นึกถึงใครบางคน ที่สูงศักดิ์ ซึ่งเขาไม่เคยหันมาแลเธอ แต่มันเป็นความสุขของเธอใครจะทำไม
ฮัดชิ้ว
“อะไรวะอาร์ม นายไม่สบายหรือไง” เสียงจามดังห้องแทบร้าว อณวัฒน์รู้สึกทั้งขำและห่วงเพื่อน แม้จะไม่เคยเห็นเพื่อนรักล้มหมอนนอนเสื่อ แต่ไอ้การจามเสียงดังขนาดนั้น ถ้าไม่ได้มาจากความเจ็บป่วย คงมีใครนินทาตามที่คำโบราณบอกไว้
“เปล่าว่ะ แต่อยู่ๆ ก็จามซะงั้น” ไม่ใช่แต่อณวัฒน์ที่แปลกใจ เขาเองก็ยังรู้สึกได้ “ออฟฟิศแกสกปรกหรือเปล่า” เขาแกล้งว่า ทั้งที่รู้ดีว่าที่นี่สะอาดดี จนไม่กล้าย่างเท้าเข้ามา
“หาเรื่อง สาวๆ กำลังคิดถึงแกอยู่หรือเปล่า” อณวัฒน์ว่า มือหนาหยิบแฟ้มงานไปพร้อมกัน ค่อยๆ วางลงตรงหน้าแง้มเปิดดูรายละเอียดภายใน ไม่ใส่ใจคำพูดตัวเองที่ว่าเพื่อน
“พอเถอะ เข้าเรื่องประชุมดีกว่า” พงษ์ระพีตัดบท กับอาการเล็กๆ น้อยๆ ของเขา
หัวข้อการประชุมวันนี้ รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในแฟ้มวาระการะประชุม ไม่ว่าจะเป็นการประเมินผลการดำเนินงาน โครงการใหญ่ รับสมัครมัณฑนากรคนใหม่ และวาระอื่นๆ องค์ประชุมได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จนครบทุกวาระ กระทั่งได้ผลสรุปในการประชุมปรึกษาหารือ ใช้เวลาร่วมสามสองชั่วโมงจนครบทุกวาระ
“เอาล่ะการประชุมวันนี้ ได้บทสรุปแล้วนะครับ” อณวัฒน์ประธานในที่ประชุมกล่าวสรุป เมื่อมาถึงนาทีสุดท้าย
“ค่ะ / ครับ” องค์ประชุมพร้อมใจกันตอบรับ เมื่อผ่านการระดมความคิดจนได้ข้อสรุป
“เอาเป็นว่าสรุปตามนั้น ผมขอปิดการประชุม ทุกคนแยกย้ายกลับไปทำงานที่ได้รับมอบหมายได้แล้วครับ เราจะพบกันอีกครั้งเมื่อบริษัท วรสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ประมูลงานได้ ขอบคุณทุกท่านที่เข้าประชุมวันนี้นะครับ” อณวัฒน์กล่าวปิดประชุม หลังจากทุกวาระการประชุมมาถึงบทสรุป
ทุกคนแยกย้ายทยอยกันออกจากห้องประชุม ด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ ไม่เครียดขึงอย่างการประชุมเช่นทุกครั้ง ที่พยายามห้ำหั่นกัน จนบรรยากาศการประชุมตึงเครียด
“รับสมัครมัณฑนากร ขอผู้หญิงนะเว้ย โครงการของฉันมันต้องร่วมงานกันนาน โครงการฉันมันใหญ่” คล้อยหลังองค์ประชุมคนอื่นๆ พงษ์ระพีซึ่งยังนั่งติดเก้าอี้พูดกับเพื่อนรักขึ้นด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ พร้อมแววตา กรุ้มกริ่ม
“แหม...เอาเชียว ผู้ชายมันก็ทำงานได้ จะให้รับสมัครพนักงานหรือรับสมัครเมียวะ” อณวัฒน์ฟังและมองตามแววตาเจ้าเล่ห์ของเพื่อน
“ทำไม หรือแกไม่ชอบวะวัฒน์ สดใสจะตาย เห็นของสวยๆ งามๆ ในที่ทำงาน รึว่าแกจะรับแต่พวก ไอ้ถึก มองแล้วเซ็งตาย ขืนแกรับผู้ชายเข้ามา ฉันจะไม่เข้ามาที่นี่ รับได้แล้วอย่าลืมแกต้องส่งเข้าทำงานโครงการใหม่ของฉันล่ะ ตกแต่งรีสอร์ตพันดาว” โครงการที่เขาเริ่มต้นคิดตั้งแต่รับงานต่อจากบิดา แต่จนป่านนี้มันยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ยังอยู่ในขั้นตอนประมูลที่ดินแถบปราณบุรี
“เออ เออ ว่าแต่แกเถอะ เมื่อไหร่จะเปิดซองประมูลวะ เห็นว่าไอ้เสี่ยคู่อริแกเข้าร่วมประมูลด้วยหรือวะ ไอ้นี่มันกัดไม่ปล่อยเลยว่ะ” อณวัฒน์นึกไปถึงหนุ่มใหญ่พุงพลุ้ยเชื้อสายจีน ที่สวมวิญญาณเป็นไม้เบื่อไม่เมากับเพื่อนของเขาทุกโครงการ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดกลางเมือง หมู่บ้านชาญเมือง หรือหลายโครงการ แทบทุกครั้ง พงษ์ระพีจะเป็นผู้นำเสี่ยพุงพลุ้ยดังกล่าว เพราะความที่เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง แนวความคิดจึงมีแต่ความ สดใหม่ที่สามารถเป็นความจริงได้
“อีกสองวันที่จะถึงนี่แหละ ฉันกับยัยแอนเตรียมทุกอย่างพร้อม กะว่ามีทั้งแผนหลัก แผนรอง กะว่าไม่ให้พลาด ที่สำคัญฉันต้องชนะไอ้เสี่ยนั่น” เขาบอกด้วยแววตามุ่งมั่น
“ได้ข่าวว่า เสี่ยวิบูรณ์เข้าร่วมประมูลด้วยนี่หว่า ถ้ามันได้งานนี้ โครงการทุกอย่างเราพับเลยนะเว้ย” อณวัฒน์รู้สึกกังวล เพราะบริษัทของเสี่ยวิบูรณ์มักจะเข้าร่วมประมูลงานแทบทุกครั้งที่บริษัท วรสิทธ์อสังหาริมทรัพย์เข้าประมูล หรือมักเสนองานทับซ้อนกันอยู่บ่อยๆ ทั้งสองบริษัท จึงเป็นคู่แข่งที่แข่งกันทุกๆ งานอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ฉันไม่กังวล เราเตรียมงานทุกอย่างพร้อมและเป็นความลับที่สุด แผนแรกไม่ผ่าน เรามีแผนสองรองรับ ฉันเชื่อฝีมือยัยแอน” พงษ์ระพีย้ำความพร้อมของตัวเอง และความเข้มแข็งของทีมงาน
“ดี ฉันจะเอาใจช่วย” อณวัฒน์ตบไหล่เพื่อนเบาๆ “ดูแลนายแกดีๆ นะปกรณ์ ไอ้วิบูรณ์มันน่าจะเล่นไม่ซื่อ” หันหน้ามากำชับให้บอดี้การ์ดคู่คิดของเพื่อนรัก
“ครับ ไม่ต้องห่วงครับ” ปกรณ์ก้มหน้ารับอย่างนอบน้อม
“เดี๋ยวฉันขอกลับก่อนนะ จะแวะเข้าไปเคลียร์งานในออฟฟิศ มีอะไรแกจัดการไปเลยละกัน ไอ้กรรมการผู้จัดการ” ก่อนกลับพงษ์ระพีไม่วายล้อตำแหน่งซึ่งได้มาจากการถือหุ้นมากกว่าตน เพราะตั้งแต่ที่เพื่อนรักของเขาชวนให้เขาเข้ามาร่วมหุ้นตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในทั่วราชอาณาจักร
เขาจึงตัดสินใจทั้งที่ต้องบริหารกิจการของครอบครัวที่บิดาโอนทุกอย่างมาให้บริหาร แม้มันจะหนักหนา เขาก็สามารถเป็นผู้นำ ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ เป็นบริษัทระดับแนวหน้าด้านอสังหาริมทรัพย์เสมอมา เป็นความชอบส่วนตัวเพราะเรียนมาโดยตรงด้านออกแบบ
เมื่อเพื่อนขอให้เข้าร่วมหุ้นจึงไม่รอช้า เพียงแต่บทบาทการบริหารพงษ์ระพีจะมอบให้เป็นหน้าที่ของอณวัฒน์อย่างเต็มตัว ส่วนบริษัท วรสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งกิจการอีกหลายอย่าง ครอบครัวตั้งแต่รุ่นปู่ มาถึงรุ่นบิดาแห่งตะกูล กระทั่งมาถึงรุ่นหลานอย่างเขา
ซึ่งมีพี่น้องสามคน ส่วนพี่ชายคนโต รายนั้นจะไม่ค่อยเข้ามาเกี่ยวกับกิจการของครอบครัว เพราะหันไปให้ความสนใจการเหินเวหาซะมากกว่า ศิวกกร วรสิทธิขจร ชื่นชอบการขับเครื่องบินเป็นชีวิตจิตใจ จึงสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนสอนขับเครื่องบิน และได้บรรจุเข้าทำงานเป็นนักบินของสายการบินดัง คบหากับผู้หญิงในวงการเดียวกัน
อีกไม่นานอาจจะมีข่าวดีแต่งสะใภ้แอร์โฮสเตจสาวสวยเข้ามาในสกุลวรสิทธิขจร รายนี้รักจริงหวังแต่งกว่าน้องชายที่รักจังหวังเคลม
ศิวกรคบใครคบจริงไม่เจ้าชู้ จริงจังมาดนิ่งเข้มขึง ต่างจากน้องชายซึ่งทำตัวกะล่อน เพลย์บอยไปวันๆ แต่กลับเอาจริงเอาจังในเรื่องงานอย่างหาตัวจับอย่าง ด้วยเพราะมีรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ เป็นทุนทำให้ชายหนุ่มติดนิสัยเสียๆ แบบนี้
บิดามารดาได้แต่แอบหวังว่าจะมีผู้หญิงสักคนที่สามารถกำราบนิสัยเสียของลูกชายได้ จนแล้วจนรอดยังไม่เห็นเขาจริงจังกับผู้หญิงคนไหน แม้จะตกเป็นข่าวกับผู้หญิงไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งที่คบหา ควงกันไปกันโฉบตามงานต่างๆ เป็นเพียงแค่คู่ควงข้ามคืน บิดามารดาแอบหวังไว้ว่าเขาจะพาผู้หญิงดีๆ เข้าบ้าน ให้ทางบ้านรู้จัก สุดท้ายลงเอยด้วยคำว่า แค่เพื่อนกันครับแม่