พุฒถามยิ้ม ๆ ถามอย่างคนไม่อนาทรร้อนใจกับเรื่องลับ ๆ ที่เขาทำกับเธอ ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นเต็มความสูง และขณะรอคำตอบจากแต้มรัก เขาก็ทำตัวเป็นคนดีช่วยจัดการเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อยดังเดิม
“ว่าไงครับ” พุฒเลิกคิ้วสูง เขาก้มสบตาคนที่สูงแค่อกเขาแล้วยิ้มมุมปาก
“คนเลว…”
“ผมไม่เคยบอกใครว่าผมเป็นคนดีสักหน่อย รีบตัดสินใจเร็ว ๆ คนสวย หรือคุณอยากให้คนอื่นรู้ว่าเล่นชู้กับเจ้านาย”
แต้มรักมองเขาผ่านม่านน้ำตา เธอเจ็บใจที่ทำอะไรเขาไม่ได้เลย เธอหวาดกลัวไปทุกอย่าง เธอสับสน ไม่รู้จะหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร ที่สำคัญเธอสงสารแฟนหนุ่มแสนดีที่ถูกเธอสวมเขาให้
“ไม่...อย่าให้ใครรู้นะคะ”
“ผมรู้...ผมเป็นชู้ สถานะชู้จะให้คนอื่นรู้ได้ยังไงล่ะ และแต้มก็คงไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีชู้ใช่ไหม...งั้นคืนนี้ไปนอนกับผมนะครับ” พุฒโอบเอวบางดึงหญิงสาวมากอดไว้แน่น
แต้มรักจำยอมพยักหน้ารับปากเขา
คนที่บังคับเธอได้ดั่งใจยิ้มพอใจ เขากระซิบบอกเธอว่า
“คืนนี้เจอกันนะครับ ที่รัก”
...ชู้รักของเธอออกจากห้องพยาบาลไปแล้ว แต้มรักจึงถอยกลับไปนั่งที่เตียง เธอมองประตูห้องอย่างหวาดหวั่น ตอนที่เขาเข้ามาหาเธอมีใครเห็นบ้าง จะมีใครสงสัยไหมว่า ทำไมเขาเข้ามาอยู่กับเธอตามลำพังนานเกินไป แต่เขาเป็นเจ้านาย คนอื่นคงคิดว่าเขาเข้ามาดูอาการของเธอในฐานะเจ้านายก็เท่านั้น ไม่มีอะไรต้องระแวง ไม่มีใครว่าอะไรหรอก
ประตูห้องพยาบาลถูกเปิดออกอีกครั้ง มันทำให้แต้มรักสะดุ้ง หญิงสาวเบิกตากว้างมองด้วยความตกใจ แต่พอเห็นคนที่เข้ามาในห้อง เธอก็ลอบถอนหายใจอย่างโล่งใจ
“แต้ม” เสียงนุ่มทุ้มแสนอบอุ่นของธนาทำให้แต้มรักฝืนยิ้มอ่อนหวานให้เขา ทั้งที่ในใจหวาดหวั่นและรู้สึกผิด
“พี่ธนา” หญิงสาวยิ้มให้แฟนหนุ่ม พอเขามานั่งลงใกล้ ๆ เธอก็ยิ้มกว้างขึ้นอีก
“เป็นอะไรมากไหมครับ ลากลับไปพักผ่อนที่คอนโดเลยดีไหม เดี๋ยวพี่จะบอกพุฒให้เอง”
ธนาเป็นเพื่อนกับพุฒ เขาสองคนรู้จักกันสมัยเรียนปริญญาโทที่อเมริกา และพอกลับมาทำงานที่ประเทศไทย เขาก็ได้มาทำงานที่บริษัทเดียวกัน ธนาเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด ออฟฟิศของเขาอยู่คนละชั้นกับฝ่ายที่แต้มรักทำงานอยู่ เขาและเธอได้รู้จักกันตอนที่เขามาหาบอสของเธอที่ชั้นสามสิบแปด เขาบอกว่าสะดุดตาเธอตั้งแต่แรกเห็น หลังจากนั้นเขาก็ตามจีบเธอ ความเป็นสุภาพบุรุษและความจริงใจของเขา ทำให้แต้มรักตกลงคบเป็นแฟนกับเขา หลังจากที่เขาตามจีบเธออยู่เกือบสี่เดือน
“แต้มโอเคแล้วค่ะ สงสัยพักผ่อนน้อย พอได้นอนพักแล้วก็ดีขึ้นค่ะ”
“ตัวร้อนไหมครับ”
ธนายื่นมือไปเพื่อจะแตะหน้าผากมน แต่แต้มรักหันหน้าหนี และรีบลุกขึ้นยืน
“แต้มหายดีแล้ว ขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะ”
“แต้ม…”
ธนามองหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
“เอ่อ...แต้มมีงานค้างเยอะเลยค่ะ ถ้าไม่รีบไปเคลียร์ เดี๋ยวบอสจะดุเอา”
“ถ้ามันว่าแต้ม พี่จะจัดการมันเอง” ธนาว่าพลางลุกขึ้นแล้วเดินเข้าใกล้หญิงสาว
แต้มรักรีบถอยหลังไปจนเกือบชิดประตู
“พี่ธนา”
แต้มรักเรียกเขาเสียงอ่อน เธอเคยบอกเขาแล้วว่า เธอเป็นลูกน้องของเพื่อนเขา เธอต้องทำตามคำสั่งบอส และเธอไม่อยากใช้ความเป็นแฟนของเพื่อนบอสมาเอาเปรียบเพื่อนที่ทำงาน
“โอเคครับ ไปทำงานก็ไปทำงาน พักเที่ยงค่อยไปกินข้าวด้วยกันนะครับ”
“ค่ะ”
แต้มรักรับปาก เธอยิ้มให้แฟนหนุ่ม แล้วรีบเปิดประตูเดินหนีออกจากห้องไปโดยไม่หันไปมองหน้าเขา เธอกลัวเขาจะเข้ามาใกล้ มาดึงเธอไปกอดปลอบเหมือนที่เคยทำ เธอไม่อยากให้เขาแตะต้อง เพราะเธอสกปรก เธอน่ารังเกียจเกินกว่าจะให้คนดี ๆ อย่างเขามาแปดเปื้อน
"แต้ม...เที่ยงนี้กินอะไรดี" พรีมเกาะฉากกั้นโต๊ะทำงาน แล้วชะโงกหน้ามาพูดคุยกับแต้มรักซึ่งนั่งโต๊ะติดกัน แต่มีฉากกั้นสูงระดับหน้าอกกั้นไว้
"พี่ธนาไลน์มาบอกว่า สั่งอาหารไว้ให้แล้ว" แต้มรักบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด เธอกลัวเพื่อนน้อยใจที่ไม่ได้ไปกินข้าวเที่ยงด้วย แต่พรีมกลับยิ้มกว้าง พยักหน้าเข้าอกเข้าใจ
"ดีแล้วแก สีหน้าแกก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ไม่ต้องลงไปตากแดดตากลม กินข้าวอยู่ที่ห้องแคนทีนก็ดีเหมือนกัน พี่ธนานี่สมกับเป็นแฟนแห่งชาติจริง ๆ สมกับที่ฉันไว้ใจยกแกให้เป็นแฟน"
แต้มรักยิ้มให้เพื่อนสาว เธอส่ายหน้าให้กับความมั่นอกมั่นใจในการคัดเลือกแฟนให้เธอของพรีม
พรีมเป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนรัก และเป็นเพื่อนที่เธอไว้ใจที่สุด ตอนที่พี่ธนาจีบเธอ พรีมช่วยตามสืบว่าเขามีใครอยู่หรือเปล่า โสดจริงไหม และเป็นคนดีน่าเชื่อถือแค่ไหน พรีมตามสืบกับหลายคนหลายฝ่ายในบริษัทจนมั่นใจว่า เขาโสดจริงและเป็นคนดี เพื่อนของเธอจึงสนับสนุนให้เธอคบกับพี่ธนา เพราะอยากให้เธอมีคนดี ๆ คอยดูแล
"แกจะกินด้วยกันไหม พี่ธนาคงซื้อมาเยอะ ฉันกินไม่หมดหรอก"
"ไม่อะ...ไม่อยากอยู่เป็นก้าง เชิญจู๋จี๋กันตามสบายเถอะ" พรีมมองค้อนคนมีแฟนใจดี เธอทำปากยื่นแล้วยิ้มล้อเลียนเพื่อน ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม
แต้มรักยิ้มกับท่าทางของพรีม แต่พอลับสายตาเพื่อน ใบหน้าที่ยิ้มอ่อนหวานเมื่อครู่ก็หม่นเศร้าลง เธอหวนนึกถึงเรื่องเลวร้ายในคืนนั้นอีกครั้ง