พี่ธนาเป็นคนดี เขาเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติเธอเสมอมา เธอควรระวังตัวและถนอมตัวไว้เพื่อเขา แต่กลับกลายเป็นว่า เธอเสียตัวให้เพื่อนของเขาบนเตียงของเขา เธอเลวยิ่งกว่าเลว สองวันที่อยู่คนเดียวและคิดไตร่ตรองเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น ทางออกหนึ่งที่เธอคิดไว้คือ เธอจะบอกเลิกและถอยห่างมาจากเขา เธออยากให้เขาได้พบคนที่ดีกว่า คนที่คู่ควรและเหมาะสมกับคนดีอย่างเขา ที่ไม่ใช่ผู้หญิงสกปรกอย่างเธอ
"ซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ แต้มกินไม่หมดแน่ ๆ"
แต้มรักขมวดคิ้วเรียว และกวาดสายตามองบนโต๊ะรับประทานอาหาร เขาเตรียมอาหารไว้รอเธอหลายอย่างเลย
"เยอะแยะที่ไหนกันครับ นิดเดียวเอง แต้มต้องกินเยอะ ๆ นะครับจะได้มีแรงทำงาน มีน้ำส้มคั้นสดด้วย พี่ไปยืนต่อคิวตั้งนานกว่าจะได้มา ร้านนี้คนต่อคิวเยอะมาก พี่อยากให้แต้มดื่ม จะได้สดชื่น"
ธนาว่าพลางจัดช้อนส้อมใส่จาน แล้ววางจานลงตรงหน้าหญิงสาว เขาเลื่อนแก้วน้ำส้มไปใกล้ ๆ เธอด้วย
"ขอบคุณค่ะ" ยิ่งเขาแสนดี ยิ่งเขาดูแลเธอแบบนี้ แต้มรักก็ยิ่งรู้สึกผิด แต่เธอไม่อยากทำให้เขาไม่สบายใจ หญิงสาวจึงฝืนยิ้มสดใสให้เขา และชักชวนเขารับประทานอาหารด้วยกัน
ภายในห้องแคนทีนมีโต๊ะรับประทานอาหารอยู่สี่โต๊ะ วันนี้นอกจากโต๊ะของธนากับแต้มรักแล้ว ยังมีพนักงานอีกสามคนนั่งรับประทานอาหารที่โต๊ะถัดไป แต่พวกเขาทั้งสามคนรับประทานอาหารเสร็จและเดินออกจากห้องแคนทีนไปแล้ว ตอนนี้จึงมีเพียงธนากับแต้มรักอยู่ด้วยกันสองคน
"แต้มเก็บเองค่ะ พี่ธนาเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวแล้ว นั่งเฉย ๆ เลยค่ะ" แต้มรักบอกพลางลุกขึ้นยืน หญิงสาวเก็บจานชามไปวางไว้ที่ซิงค์เพื่อรอให้แม่บ้านมาจัดการต่อ พอเก็บจานชามออกจากโต๊ะหมดแล้วเธอจึงเดินกลับมาถามเจ้ามือใจดีเลี้ยงข้าวเธอว่า
"พี่ธนาดื่มกาแฟไหมคะ แต้มจะชงให้ค่ะ"
ธนานั่งมองเธอเดินไปมาระหว่างโต๊ะกับซิงค์อย่างเพลินตา พอเธอเก็บจานเสร็จแล้วเดินกลับมาถามว่าจะดื่มกาแฟหรือเปล่าเขาก็ตอบรับยิ้มกว้างตาเป็นประกาย "ครับ"
แต้มรักเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์อีกครั้ง เธอหยิบถ้วยกาแฟมาวางลงบนเคาน์เตอร์ เปิดกระปุกกาแฟ น้ำตาล และครีมเทียม ก่อนตักส่วนผสมลงในถ้วย ตามปริมาณที่เขาชื่นชอบ
พอเก็บกระปุกกาแฟ ครีมเทียม และน้ำตาลเรียบร้อย แต้มรักก็ยกถ้วยกาแฟขึ้นแล้วกดน้ำจากกระติกน้ำร้อนใส่ หญิงสาวหยิบช้อนมาคนกาแฟในถ้วย
"อุ๊ย !" ขณะที่เธอกำลังคนกาแฟอยู่ คนที่นั่งรอให้เธอเอากาแฟไปเสิร์ฟก็ลุกขึ้นมายืนซ้อนหลัง เขาชะโงกหน้าข้ามบ่าของเธอมาสูดดมกลิ่นกาแฟ
"กาแฟหอมจัง"
แต้มรักผงะเอนตัวหนีไปด้านข้าง เธอเบี่ยงหน้ามามองสบสายตาเขาด้วยความตกใจ ธนายิ้มใส่นัยน์ตาคู่สวย วงแขนแข็งแรงข้างหนึ่งกอดเอวเธอไว้หลวม ๆ เขายื่นหน้าเข้าใกล้ใบหน้าเธอ
"แต่พี่ว่า แต้มหอมกว่า"
ธนาว่าพลางโน้มใบหน้าเข้าใกล้อีกนิด จนจมูกโด่งเกือบประทับลงบนแก้มนวล ทว่าแต้มรักกลับยกมือขึ้นมาดันบ่าเขาไว้แล้วเบี่ยงหน้าหลบเสียก่อน
"พี่ธนา...นี่ห้องแคนทีนนะคะ เดี๋ยวมีใครมาเห็น" ไม่ใช่เลย...นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เธอไม่อยากให้เขาหอมแก้ม เพราะเหตุผลจริง ๆ แล้วคือ เธอไม่อยากให้เขาแตะต้องร่างกายที่สกปรก ร่างกายที่ถูกคนอื่นสัมผัสลูบไล้ทิ้งรอยราคีไว้ทั้งตัว
"ไม่มีใครสักคนเลยแต้ม พี่ขอชื่นใจหน่อยนะครับ แต้มอย่าใจร้ายกับพี่นักเลย" ธนาอ้อนเสียงน่าสงสาร คนถูกเขาอ้อน ยิ่งรู้สึกผิดไปกันใหญ่ แต้มรักหันมามองสบตาเขา
"ขอหอมนิดหนึ่งนะครับเด็กดี" คำว่าเด็กดีที่เขาใช้เรียกเธอทำให้แต้มรักสะอึก เธอไม่ใช่เด็กดีของเขาอีกต่อไปแล้ว เธอเป็นผู้หญิงสารเลวที่เสียตัวให้เพื่อนของเขา แล้วยังมีหน้ามายืนให้เขากอดอีก ทั้งที่ควรจะพาตัวที่แสนสกปรกไปให้ห่างเขา แต่เธอก็ยังทำใจไม่ได้ เขาแสนดีจนเธอไม่กล้าทำให้เขาเสียใจ
"นะครับ...ขอพี่ชื่นใจหน่อย ของขวัญวันเกิดก็ยังไม่ได้ แต้มยังจะมาหวงแก้มไม่ให้พี่หอมอีกเหรอ"
คำตัดพ้อของเขาทำให้แต้มรักสะท้านในอก ความรู้สึกผิดที่มีต่อเขา และสายตาอ้อนวอนน่าสงสารของเขา ทำให้เธอพยักหน้า ยอมให้เขาหอมแก้ม
"เด็กดีของพี่" ธนารั้งเอวคอดเข้ามาแนบชิดอีกนิด เขาโน้มใบหน้าลงจนเกือบจะได้หอมแก้มสาวแล้ว ทว่าบานประตูห้องแคนทีนที่เปิดออกพร้อมกับเสียงเรียกดังลั่นทำให้ชายหนุ่มผละออกมาจากแฟนสาว
"ไทเกอร์ ! อ้าว...โทษที จู๋จี๋กันอยู่เหรอ" คนไร้มารยาทที่เพิ่งตะโกนเรียกเสียงดังพูดหน้าตาย เขาสาดสายตาคมมองคนที่ยืนพิงเคาน์เตอร์ชงกาแฟแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสบตาเพื่อนแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้อย่างล้อเลียน
"ฮันเตอร์ ! มึงเข้ามาทำเหี้ยอะไร"
"กูควรเป็นคนถามมึงมากกว่า มึงมาทำเหี้ยอะไรในห้องแคนทีนของฝ่ายกู นี่มันฝ่ายบริหารการลงทุน ไม่ใช่ฝ่ายการตลาดของมึงนะครับ...คุณธนา" พุฒกอดอก เขาพิงสะโพกกับขอบโต๊ะที่อยู่ใกล้ พยักหน้า เลิกคิ้วสูงท่าทางกวน ๆ
“กูมากินข้าวกับแฟน” ธนาพูดพร้อมกับคว้าเอวแต้มรักดึงเธอมากอดแนบตัว