ตอนที่ 13

1654 Words
ชายบนเตียงไม่เคยเรียกเขาว่าลูกเลยสักครั้ง ตั้งแต่จำความได้ก็มีแค่แม่ที่คอยดูแลด้วยความยากเย็น ต้องอยู่อย่างลำบากแทบจะอดมื้อกินมื้อเลยด้วยซ้ำ ถูกคนอื่นทำร้ายร่างกายแล้วยังถูกพ่อแท้ๆสั่งฆ่านับครั้งไม่ถ้วนเพียงเพราะไม่ต้องการให้มีชีวิตอยู่ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับความแค้นที่เขาไม่สนใจด้วยซ้ำ ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทุกลมหายใจคือความเสี่ยง เขาตัดสินใจเดินในเส้นทางสีเทาตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบสามปีด้วยซ้ำ ทั้งขโมยของ ทั้งส่งยา ทั้งดูต้นทางและทำอีกมากมายเพื่อให้ได้เงินมาดูแลตัวเองและแม่ที่ป่วยบ่อยมากขึ้น เขากับแม่ต้องระหกระเหินหนีไปหลายปีเพราะคำสั่งเดียวคือไม่ต้องการให้แม่มีชีวิตอยู่ต่อและกำจัดเขาไปพร้อมด้วยเลยเพื่อจะได้ไม่มีการแก้แค้นตามหลัง จนกระทั่งเมื่อเขาอายุสิบแปดปีในขณะที่ต่อยมวยใต้ดินอยู่นั้นก็พบเจอกับคุณท่านที่หยิบยื่นโอกาสให้ได้ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปบ้าง งานเริ่มจากลูกน้องปลายแถวธรรมดาไต่ระดับไปช้าๆจนได้รับความไว้ใจให้เป็นบอดี้การ์ด เขาพยายามฝึกฝนโดยไม่สนใจต่อความเจ็บปวดและใช้เงาใต้ปีกที่ยิ่งใหญ่ของคุณท่านปกปิดตัวตนทุกอย่างให้รอดพ้นจากสายตาชายคนนี้อยู่หลายปี จนวันหนึ่งชีวิตหมาจรจัดได้พบเจอกับคนที่ทำให้จำนนโดยไม่ต้องออกแรงและยอมก้มหัวให้ใส่ปลอกคออย่างง่ายดาย เขาเกลียดทุกคนที่นี่และไม่มีวันให้อภัย คืนนี้แค่แวะมาดูเฉยๆว่าจะตายยังไง! "พ่อขอโทษที่ทำแบบนั้น พ่อทำผิดต่อแกมาจริงๆ พ่อน่าจะดูแลแกให้ดีกว่านี้ น่าจะส่งเสียให้แกได้เรียนสูงๆ พ่อ..." "แค่กๆแกไม่ต้องยกโทษพ่อเลยก็ได้แบล็ค แต่ที่นี่คือบ้านของแกและ...บลูมกับไบร์ทคือพี่น้องของแก" "หึ! ป่านนี้แม่ของแกคงหัวเราะเยาะพ่ออยู่แน่ สุดท้ายพ่อก็พ่ายแพ้...สุดท้ายพ่อก็ต้องการแกอยู่ดี" "พ่อ…อยากพูดคุยกับแกนานกว่านี้ อยากรู้จักแกให้มากขึ้น แต่เวลาของพ่อมันกำลังจะหมดแล้วคงจะ...ไม่มีโอกาสนั้นอีก" "ลูกเอ๋ย...รักกันเข้าไว้อย่าทำพลาดแบบพ่อ" "พ่อ...รักพวกแกนะ" ชายสูงวัยพูดจบก็หลับสนิทไปตลอดกาล เขายืนนิ่งไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกใดออกมาเพราะไม่ได้รู้สึกเศร้าหรือเสียใจแม้สักนิด ต่างกับไบร์ทที่ล้มตัวลงกอดร้องไห้เบาๆส่วนบลูมก็นั่งจับมือใหญ่นิ่งเงียบแต่มีน้ำตาเอ่อคลอเบ้า แต่คิดว่าคงจะทำใจเอาไว้กันแล้วถึงได้เก็บความเสียใจเอาไว้ได้ดีขนาดนี้ "คืนนี้ค้างที่นี่ก่อนสิแบล็ค" "มีงานต้องทำ" "แค่สักคืนเถอะ ตอนนี้พ่อตายแล้วนะ เราเหลือกันแค่สามคนพี่น้อง ถึงจะยอมรับหรือไม่ยอมรับแต่เราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน" "แล้วยังไง?" "คืนนี้คุยเรื่องพินัยกรรมที่พ่อทำไว้ให้ก่อนสิ ถึงมึงจะไม่ได้ให้อภัยและไม่ยอมรับว่าพ่อเป็นพ่อ แต่นี่คือสิ่งที่พ่อตั้งใจยกให้" "อืม เดี๋ยวออกไปรอข้างนอก" เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความรายงานคุณหนูให้รู้ว่าพรุ่งนี้อาจจะกลับช้าหน่อยเพราะติดธุระ เธออ่านข้อความแล้วตอบกลับมาสั้นๆเพียงเท่านั้นก็เรียกรอยยิ้มออกมาได้แล้ว คิดถึงเด็กอวดดีแล้วสิ! บลูมเดินตามออกมาพร้อมกับไบร์ทที่นัยน์ตาแดงก่ำ พวกเขาทำใจเอาไว้รอแล้วนับตั้งแต่วันที่รู้ว่าพ่อเป็นโรคร้ายในระยะที่รักษาไม่ได้แล้วยังทรุดหนักมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย พ่อถามถึงแบล็คค่อนข้างบ่อยมากเพราะว่ารู้สึกผิดในสิ่งที่เคยทำลงไปในอดีต เขาส่งไบร์ทให้เกลี่ยกล่อมแต่ไม่เคยสำเร็จจนกระทั่งคืนนี้ที่ยอมใจอ่อนมาด้วยจนได้ อย่างน้อยก็ได้ร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย พินัยกรรมที่พ่อทำไว้ให้นั้นครบถ้วนทุกอย่างและเขาไม่ได้ขัดแย้งอะไร พ่อสั่งเอาไว้ให้ดูแลน้องชายทั้งสองคนดีๆและหากแบล็คใจอ่อนยอมกลับมาสู่ฐานะที่แท้จริงก็ให้จัดการทุกอย่างให้เหมาะสม ทั้งเงินทอง ทั้งอำนาจพร้อมจะแบ่งปันเสมอ "แค่นี้ใช่ไหมที่จะคุย?" "มึงดื่มก่อนไหนๆเราก็มีโอกาสพูดคุยกัน เป็นไงบ้างล่ะ?" "ก็ดี" "กูได้ข่าวว่าคุณหนูหงส์จะหมั้นกับมิคาเอลเหรอ?" "แล้วไง?" "แต่มันมีเมียอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?" "เมีย…" "อืม กูเคยเห็นน่ะแต่ไม่มั่นใจว่าตอนนี้เลิกรึยัง" "เรื่องนี้กูจัดการเองได้" "มีอะไรให้ช่วยก็บอกถึงยังไงเราก็เป็นพี่น้องกัน" "อืม" "เดี๋ยวกูพาไปห้องนอนของมึงแล้วกัน พรุ่งนี้ก็อยู่กินข้าวเช้าก่อนค่อยไปทำงานมันน่าจะไม่ทำให้เสียเวลามากนักหรอก" นี่เป็นครั้งแรกที่ได้นอนค้างที่นี่เลยรู้สึกไม่คุ้นเคยเท่าไร เขาใส่ชุดนอนของบลูมเพราะหุ่นใกล้เคียงกัน ในขณะที่นั่งดื่มบรั่นดีมืออีกข้างก็เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์มองรูปที่แอบถ่ายอย่างช้าๆจนมาถึงรูปที่ทำให้ใจเต้นแรงและหุบยิ้มไม่ได้เลย รูปนี้คุณหนูสวยมากแล้วยังยิ้มกว้างคู่กับเขาอีกด้วย มือวางแก้วเหล้าลงยกขึ้นมาลูบต้นคอแผ่วเบายังจดจำสัมผัสจากมือเล็กๆได้แม่นยำราวกับว่ามันพึ่งเกิดขึ้นทั้งที่ผ่านมาแล้ว เป็นหมาที่มีปลอกคอมันดีแบบนี้นี่เอง จะทำอะไรก็คิดถึง! วันต่อมาแบล็คนั่งรถมาถึงคอนโดพร้อมกับขนมที่คุณหนูน่าจะชอบ วันนี้เธอบอกว่าไม่ได้ออกไปไหนนั่นแสดงว่าคงจะนอนตื่นสายอีกแน่นอน แต่พอมาถึงห้องทุกอย่างกลับผิดคาดเพราะว่าภายในห้องนั้นว่างเปล่าไม่มีคนอยู่เลย เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาทันทีเพราะสถานการณ์แบบนี้ไม่น่าไว้วางใจ เพียงไม่กี่นาทีข้อความในโทรศัพท์ก็ดังขึ้นบอกให้รู้ว่าอยู่ที่ไหน อยู่กับใครและให้ไปรับกี่โมง "คุณมังกรมารับไปทำอะไรแต่เช้าว่ะ!" "แล้วขนมนี่ล่ะใครจะกิน?" เขาเก็บขนมไว้ในตู้เย็นด้วยความมั่นใจว่าคืนนี้คงจะนอนค้างที่นี่แน่นอน คุณหนูไม่ค่อยชอบคุณเกรนถ้าอยู่บ้านหลังเดียวกันก็จะทะเลาะกันไม่หยุด เขากลับไปที่บ้านเพราะคุณหนูจะกลับไปบ้านช่วงบ่ายและน่าจะกินอาหารเย็นจากนั้นถึงมาค้างที่คอนโดต่อหรือไม่ก็แวะไปที่บาร์เพื่อหาอะไรดื่ม ตอนนี้อยากรู้ว่าเมียคุณมิคาเอลคือใคร? คุณหนูเดาทางในเรื่องนี้ถูกว่าต้องมีเมียซุกซ่อนอยู่และน่าจะหาประโยชน์จากข้อนี้เพื่อยกเลิกงานหมั้น เขาจะไม่ยอมให้คนชาติชั่วอย่างมันได้แตะต้องคุณหนูแสนสูงส่งของเขาเด็ดขาด ในเมื่อมีเมียแล้วก็ไม่สมควรจะหมั้นหมายกับคุณหนูไม่ว่าจะเหตุผลทางธุรกิจ หรือเหตุผลอื่นๆก็ไม่มีทางยอมรับหรอก ถ้าหากว่าคุณท่านยังจะดื้อด้านดันทุรังเรื่องนี้เพื่ออำนาจอันน้อยนิดนั่นล่ะก็คงได้เห็นดีกันแน่นอน เขาก็จะทำให้มันไม่มีตัวตนอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป เขาจะทำลายงานหมั้นทิ้งเพื่อคุณหนู "ไอ้เหี้ยแบล็คกูนึกว่ามึงอยู่กับคุณหนูซะอีก" "คุณหนูอยู่กับคุณมังกร" "อ่อ แล้วนี่มึงว่างป่ะ?" "ทำไม?" "คุณท่านจะให้ดูเด็กใหม่หน่อย เห็นว่าจะให้ช่วยงานมึงตอนพวกกูไม่ว่าง" "กูคนเดียวก็ดูแลคุณหนูได้" "เอาน่า ถือซะว่าสอนงานเด็กมันหน่อยแล้วกัน" "ไปเรียกมาดิ เดี๋ยวกูดูแลเอง" เขาเปลี่ยนชุดแล้วเดินนำไปที่ยิมสำหรับฝึกซ้อม ที่นี่มีเด็กเข้าออกไม่มากทำให้คุ้นหน้าตากันดี บอดี้การ์ดที่มาใหม่จะต้องผ่านการฝึกให้มั่นใจก่อนว่ารับมือไหวและหน้าที่นี้ก็เป็นของหัวหน้าทีมต้องตรวจสอบด้วยตัวเอง เขาวอร์มร่างกายรอไม่นานกาโม่ก็เดินมาพร้อมกับเด็กใหม่หน้าตาดี อายุน่าจะยี่สิบต้นๆคงจะรุ่นราวคราวเดียวกับคุณหนู ไม่ชอบให้ผู้ชายคนอื่นอยู่ใกล้เธอเลย! "ชื่ออะไรแล้วอายุเท่า?" "ออกัสครับ อายุยี่สิบห้าปี" "เคยทำงานแบบนี้มาก่อนรึเปล่าท่าทางรนๆนะ" "ก็...เคยดูแลโกดังครับ คุณมังกรส่งให้มาที่นี่แล้วคุณท่านก็บอกว่าจะให้ดูแลคุณหนูคู่กับพี่แบล็คในช่วงนี้ที่คุณเกรนอยู่ ฝากตัวด้วยนะครับ" "มาลองดูฝีมือก่อนว่าจะผ่านไหม" "ครับพี่แบล็ค" เขาไม่ได้ทำอะไรนอกจากยืนนิ่งเปิดโอกาสให้เด็กใหม่เป็นคนเริ่มเอง การทดสอบฝีมือแบบนี้ทำมาบ่อยครั้งแต่ก็ไม่รู้สึกว่าจะมีใครน่าสนใจเลย เขาเอียงตัวหลบ ยกมือปัดป้องและสวนกลับไม่รุนแรงมากนัก ทักษะของเด็กใหม่ค่อนข้างดีแต่ฝีมือยังต้องพัฒนาอีกเยอะ และถ้าหากว่าคุณหนูเบื่อๆอยากลองเชิงขึ้นมาเด็กใหม่คงจะเจ็บตัวหนักแน่เพราะเด็กอวดดีออมมือไม่เคยเป็นหรอก แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่อยากให้ใครยุ่งกับเธอ เขาคนเดียวก็พอ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD