"คืนนี้พี่จะไปข้างนอกแล้วน่าจะกลับเช้านะ"
"ตามสบายเลยค่ะ ยังไงพรุ่งนี้หงส์ก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว พี่แบล็คไปจะพักสักวันสองวันก็ได้"
"คุณหนู…"
"คะ?"
"เปล่าครับ พี่แค่อยากจะบอกว่าฝันดี"
"นึกว่าจะบอกรักหงส์ซะอีก"
"พูดเล่นแบบนี้ได้กับพี่คนเดียวนะ"
"ก็เมื่อก่อนพี่ยังเคยพูดเลยว่ารักและเอ็นดูหงส์มากที่สุด ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่เคยพูดอะไรอ่อนหวานเหมือนเมื่อก่อนบ้างล่ะ จะว่าไปก็ตั้งแต่หงส์กับเมลคบกันพี่ก็เริ่มทำตัวห่างเหินออกไป"
"ตอนนั้นคุณหนูมีแฟนจะทำอะไรพี่ก็ต้องเกรงใจกันบ้างเดี๋ยวจะมีคนเข้าใจผิดเอาได้ อีกอย่างคุณเมลเป็นผู้ชายที่ดีมากเหมาะสมกับคุณหนูทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฐานะเงินทอง การศึกษาหรือหน้าตาทางสังคม พี่อยากให้คุณหนูใช้เวลาอยู่กับคนดีๆให้มากที่สุดด้วย"
"เป็นคนดีแล้ว...ตายไวจัง!"
"คุณหนู…"
"หงส์ทำใจเรื่องเมลได้แล้วค่ะไม่ต้องห่วงนะ หงส์เก่งพอจะยอมรับความจริงได้ทุกอย่างแล้วชีวิตหงส์มันก็สูญเสียจนเคยชินไปแล้ว"
"ที่บอกว่าจะเปิดใจมีความรัก เจอรึยังครับ?"
"ยังค่ะ...ยังไม่เจอเลย"
มองข้ามเขาไปอีกแล้วสินะ!
เขาล้างแก้วไวน์ของตัวเองเรียบร้อยแล้วก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าใส่เดินออกจากห้องนี้ไป ความจริงก็ควรจะชินที่อยู่สถานะที่ไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วเขาก็ควรจะยอมรับความจริงว่าระหว่างเราเป็นเหมือนเส้นขนานถึงแม้ว่าเคียงคู่แต่ไม่มีวันมาบรรจบกันได้อย่างแน่นอน
เขาควรจะหักห้ามใจให้มากกว่านี้!!
"นึกว่าจะมาไม่ได้ซะแล้ว"
"มีอะไร?"
"คือว่าพ่ออยากเจอ พ่อกำลังจะตายแล้วรอแค่พี่ไปดูใจเท่านั้นเอง"
"อย่าเลย"
"พี่ยังโกรธพ่ออยู่เหรอ?"
"กับผู้ชายคนนั้นจะให้เรียกว่าพ่อได้เหรอ? เขาทำอะไรกับพี่กับแม่ไว้บ้างล่ะ แล้วชีวิตของพี่ก็ไม่เคยรู้สึกถึงคำว่าพ่อเลยสักครั้ง เขาแค่รู้สึกผิดเลยอยากให้พี่ให้อภัยแต่คนอย่างเขาควรอยู่กับความรู้สึกผิดนั้นจนตายไปเถอะ!"
"แต่พ่ออยากเจอพี่มากกว่าใครนะ พ่ออยากให้พี่เข้ามาทำงานกับเรามากกว่าเป็นบอดี้การ์ดแบบนั้น พี่ลองคิดถึงอนาคตตัวเองบ้างสิ พี่เป็นบอดี้การ์ดแล้วจะตายวันไหนก็ยังไม่รู้เลย แล้วคนพวกนั้นมันเห็นหัวพี่บ้างไหมล่ะ ถ้าพี่เลือกทำงานกับเรา พี่ก็จะมีทุกอย่างทั้งอำนาจทั้งเงินทอง"
"พี่…"
"ผมขอร้องนะพี่แบล็ค กลับบ้านไปเจอพ่อสักครั้งก่อนตายเถอะ"
ไบร์ทมองหน้าพี่ชายด้วยความหนักใจแล้วจ่ายค่าเครื่องดื่มเมื่อพี่แบล็คพยักหน้าเบาๆคล้ายว่าเหนื่อยหน่ายกับเรื่องนี้แล้วใจอ่อนให้บ้าง สิ่งที่พ่อทำกับพี่แบล็คนั้นหนักหนามากจริงๆแล้วกว่าจะสำนึกได้ก็ตอนที่เห็นว่าพี่แบล็คไปทำงานให้กับผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งด้วยฐานะที่ไม่เหมาะฐานะแท้จริงเลย หน้าที่นั้นคือลูกน้องแทบจะปลายแถวที่ค่อยๆไต่ระดับมากจนถึงวันนี้กลายเป็นหัวหน้าทีมบอดี้การ์ดแล้ว
ก็ยังดีที่เรายังนับถือกันเป็นพี่น้องบ้าง
แม้ว่าจะคนล่ะแม่!
แบล็คเดินไปขึ้นรถคันหรูที่มีลูกน้องคอยดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดีโดยปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิดเพื่อที่ความลับจะยังเป็นความลับต่อไป เขาไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปที่บ้านหลังนั้นมาสิบกว่าปีได้แล้วมั้ง ส่วนผู้ชายคนนั้นก็แทบไม่พบเจอและโอกาสจะพูดคุยแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ
เขาปกปิดฐานะตัวเองทุกอย่างและเข้าไปทำงานเป็นลูกน้องปลายแถวเพื่อเอาตัวรอดไปวันๆและหาเงินรักษาแม่ที่ป่วยบ่อยมากจนเมื่อสองปีก่อนเสียชีวิตไปอย่างสงบไร้ญาติขาดมิตรมีเพียงลูกชายอย่างเขาและคุณหนูที่ไปเคารพศพเพราะบังเอิญรู้เข้า
ตอนนี้เขาไม่มีครอบครัวให้กลับไปหาแล้ว
เขาเป็นแค่หมาที่เจ้าของชื่อหงส์เท่านั้น
รถแล่นเข้ามาสู่บ้านพักหลังใหญ่โตที่เขาไม่เคยมีโอกาสมาอยู่เลยสักครั้ง ลูกน้องที่รายล้อมต่างมองด้วยความระมัดระวังส่วนคนที่ยืนรออยู่ตรงบันไดก็ยังคงมีสีหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม
บลูมอายุมากกว่าเขาแค่หนึ่งปีในตอนนี้ควบคุมแทบทุกอย่างของที่นี่แล้ว เขาไม่ได้คิดจะทวงคืนสิ่งที่ควรได้แค่อยากมาเห็นจุดจบของชายที่ชื่อว่านรดิศเท่านั้นเองแล้วจะรีบกลับไปดูแลคุณหนูต่อทันที
"นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว"
"ก็ไม่ได้คิดว่าจะมาตั้งแต่แรก"
"พ่อรอมึงแค่คนเดียว" น้ำเสียงแข็งกระด้างพูดออกไปด้วยท่าทีนิ่งสงบหากแต่แววตาดุดันจ้องมองน้องชายคนล่ะแม่ที่ใจแข็งมากซะเหลือเกิน ที่ผ่านมาเราเจอกันบ้างตามงานเลี้ยงแต่อยู่คนล่ะฐานะ แบล็คไปในฐานะบอดี้การ์ดส่วนเขากับครอบครัวไปในฐานะแขกผู้มีเกียรติ และมีหนึ่งครั้งที่เกือบพลาดถูกจับได้ว่าเป็นอะไรกันแค่ดีที่ไหวตัวทันทำให้ความลับก็ยังเป็นความลับอยู่แบบนั้น เราเป็นพี่น้องกันดังนั้นอำนาจที่อยู่ในมือที่ถือครองอยู่ก็พร้อมแบ่งปันอย่างไม่เสียดายเลย
แบล็คล่ะจะรับไว้ไหม?
บลูมมองน้องชายคนเล็กที่ทำหน้าเหนื่อยล้าแต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก ไบร์ทจะคุยกับแบล็คเป็นส่วนใหญ่ดังนั้นหน้าที่การเกลี่ยกล่อมนี้เลยส่งให้น้องชายเป็นคนทำแทน ส่วนเขาจะคอยดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อยเอง
แบล็คเดินไปถึงหน้าประตูห้องแล้วชะงักเล็กน้อยไม่รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ถูกรึเปล่า สุดท้ายก็เดินเข้าไปภายในห้องสะอาดแล้วมองเตียงสีน้ำตาลอ่อนที่มีชายวัยกลางคนนอนนิ่งอยู่ รอบตัวมีอุปกรณ์ทางการแพทย์และพยาบาลคอยดูแลไม่ห่างกาย แต่มองด้วยตาเปล่าแล้วอีกไม่นานก็คงจะตาย
นี่สินะจุดจบของชายที่ชื่อนรดิศ
"แบล็ค...มาหาพ่อสิ"
"พ่อรอแกมานานเหลือเกิน...เข้ามาใกล้ๆ"
น้ำเสียงแผ่วเบาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าไม่ได้สะเทือนความรู้สึกที่นิ่งสงบได้เลย เขาเคยเห็นภาพแบบนี้ซ้ำๆแต่นั่นคือแม่ไม่ใช่ชายคนนี้ และแม่ไม่ได้ใช้ชีวิตสบายแบบนี้ด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าคนบนเตียงจะใกล้ตายแล้วแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีคำว่าให้อภัยอยู่ดี
ครั้งหนึ่งชายคนนี้ทรมานเขา
ครั้งหนึ่งชายคนนี้ทำร้ายแม่