หลังจากการประชุมที่แสนเครียดจบลงอย่างหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเป็นฝีมือใครกันแน่ คุณตาวิลเลียมน่าจะไม่รอดพอจะบอกว่าเป็นฝีมือใครด้วย ส่วนอาไชก็ไม่รู้เช่นกันเนื่องจากเส้นทางนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด พ่อก็ยังตามหามือปืนคนนั้นไม่ได้ ทุกอย่างเหมือนมืดแปดด้านแล้วรายต่อไปที่มันจะทำร้ายคือใครกัน
มันต้องการจะฆ่าหมดทุกคนเลยรึไง!
กล้ามากจริงๆ
หงส์นั่งกินอาหารค่ำกับครอบครัวและอาเกรนที่ไม่รู้จะติดสอยมาด้วยเหตุผลอะไรแถมยังจะขออาศัยอยู่ด้วยอีกหนึ่งอาทิตย์ เธอคงจะระเห็จตัวเองไปค้างที่คอนโดเพราะไม่อยากจะทะเลาะกับใครที่ไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไรหรือต่อให้มีเหตุผลพอฟังได้แค่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เราจะเข้ากันได้
ตอนนี้สิ่งที่อาเกรนทำไม่มีเหตุผลเลย
ตักกับข้าวให้ทำไม!?
"หงส์แน่ใจนะว่าจะไม่ค้างที่บ้านเรา?"
"แน่ใจค่ะ หงส์นอนคอนโดออกจะบ่อยไม่เห็นมีอะไรให้ต้องเป็นห่วง พี่เทพก็ค้างคอนโดเหมือนกันพ่อก็น่าจะถามถึงบ้างนะ"
"ยัยหงส์พี่เทพมีเมียแล้วก็ต้องอยู่กับเมียดิ เราน่ะโสดต้องอยู่บ้านกับพี่บ้าง!" มังกรบ่นเบาๆเพราะอยู่บ้านหลังเดียวกันแท้ๆแต่ว่าไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร น้องสาวเป็นคนขี้เบื่อมาก ว่างเมื่อไรเป็นต้องหาที่เที่ยวตลอดเลยต่างกับเขาที่ชอบนอนอยู่บ้านจิบไวน์อย่างสบายอารมณ์มากกว่า
"แล้วเมื่อไรพี่มังกรจะมีแฟน?"
"ไม่รู้ดิ ยังหาไม่ได้สักคนเลย"
"ไม่มีใครเอาก็พูดมาเถอะน่าไม่ต้องเขินหรอก หงส์เข้าใจดี"
"ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ เราเองน่ะมีแฟนแล้วรึไงถึงมาว่าพี่แบบนี้?"
"พอเลยทั้งคู่แล้วกินข้าวจะได้ไม่ต้องกลับดึกมาก" เทพพูดตัดจบทุกอย่างแล้วหัวเราะเบาๆด้วยความเหนื่อยใจ มังกรมันจะเอาเวลาไหนไปมีแฟนได้เล่าเห็นวันๆทำแต่งาน มีเวลาว่างก็อยู่ที่บ้านแทบจะไม่ออกไปไหนเลยถ้าไม่มีคนลากไปเที่ยวข้างนอก ส่วนหงส์ถึงจะมีว่าที่คู่หมั้นแล้วแต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหาเลยถ้าคิดจะมีใครสักคน เพราะเขารู้สึกว่าตัวปัญหาจริงๆมันคือบอดี้การ์ดตัวโตที่คอยกันท่าทุกคนออกห่างเสมอ มันชอบทำตัวเหมือนหมาหวงเจ้าของก็ไม่ปาน
ไอ้แบล็คนั่นแหละตัวปัญหาใหญ่ของหงส์!
"อาได้ข่าวว่าจะหมั้นเหรอ?"
"ไม่มั่นใจค่ะ"
"อะไรกันเรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องปิดบังเลย มิคาเอลอาก็รู้จัก"
"อาเกรนเนี่ยรู้จักไปหมดทุกคนเลยนะคะ"
"รู้จักทุกคนยกเว้น...หลานตัวเอง" นังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมตรงหน้านี่แหละที่เขารู้จักแต่ก็เหมือนว่าไม่รู้จักเลย ถ้าหากว่าเป็นเทพกับมังกรที่เจอตั้งแต่เด็กรู้นิสัยใจคอที่ต่างกันสุดขั้ว แต่พอเป็นหงส์แล้วกลับรู้สึกว่าอ่านไม่ออกว่าแท้จริงแล้วเป็นคนยังไงกันแน่ หงส์จะเป็นเหมือนแม่ที่ตายไปหรือได้พ่อมาก็ไม่รู้เลยจริงๆเพราะไม่ค่อยแสดงให้เห็นชัดเลยสักครั้ง
ช่างเป็นหลานสาวที่ลึกลับดีแท้!
"พ่อยืมตัวกาโม่กับโชมาดูแลอาเกรนหนึ่งอาทิตย์นะ"
"เอาพี่แบล็คไปด้วยไหมคะ?"
"คนรู้ใจลูกทุกอย่างขนาดนั้นพ่อไม่เอามาหรอกเดี๋ยวจะอารมณ์เสียเปล่าๆ"
หลังจากกินอาหารค่ำเรียบร้อยเธอนั่งรถกลับคอนโดเงียบๆพี่แบล็คขับรถนิ่งเหมือนทุกครั้งและไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนที่นั่งระหว่างเราจะห่างแบบนี้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาไม่เคยล้ำเส้นและไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาให้รู้สึกกังวลใจแล้วนี่คงเป็นเหตุผลที่ไว้ใจมากกว่าบอดี้การ์ดทุกคยรอบตัว แต่เพราะเราต่างคนก็ต่างมีความลับที่น่าหวาดหวั่นนั่นเลยต้องสร้างกำแพงกั้นเราออกห่างเพื่อลดทอนความเสียใจหากว่าเราจะเล่นงานกันเอง
หวังว่าสักวันเราจะไม่ยกปืนเข้าหากัน
"คิดอะไรอยู่ครับคุณหนู"
"คิดว่าพี่แบล็คคงต้องเบื่อแน่ที่ต้องอยู่กับหงส์หนึ่งอาทิตย์ แล้วยังไม่รู้ว่าอาเกรนจะอยู่เกินวันเวลารึเปล่า ปีที่แล้วก็อยู่ตั้งเดือนหนึ่งบ้านช่องไม่ยอมกลับ"
"คุณเกรนเอ็นดูคุณหนูมากนะ"
"ถึงยังไงหงส์ก็เป็นหลานทั้งคนจะไม่เกลียดก็คงไม่ใช่ แถมยังเป็นหลานสาวคนเดียวอีกด้วย"
เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอาหลานคู่นี้ถึงได้ตั้งแง่ใส่กันนักหนา คุณหนูพูดดีด้วยแต่แซะแทบทุกครั้ง ส่วนคุณเกรนก็ไม่อยากให้คุณหนูทำอะไรแต่พูดตรงๆไม่เป็นผลมันเลยออกมาคล้ายว่าดูถูกมากกว่าจะยอมรับในความสามารถ
แล้วเด็กอวดดีมีเหรอจะยอมรับ!
...ไม่มีทาง!!!
คืนนี้เขานอนค้างที่คอนโดของคุณหนูบนโซฟาตัวใหญ่ที่ประจำทุกครั้งแล้วก็ถอนหายใจเมื่อได้อ่านข้อความที่เด้งเข้ามากลางดึกจากคนน่ารำคาญ เขากดข้อความตอบสั้นๆก่อนจะลบทุกอย่างออกเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แล้วยกแขนก่ายหน้าผากด้วยความหนักใจมากับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เขาเป็นห่วงคุณหนูทั้งที่รู้ว่าเด็กอวดดีน่ะดูแลตัวเองได้ เขายังมีเรื่องให้ต้องสะสางที่ยังเคลียร์ไม่จบสักที
ระหว่างอำนาจกับความรักควรเลือกอะไรดี
ถ้าคุณหนูรู้คงจะโกรธมากแน่!
"นอนไม่หลับเหรอ?"
"คุณหนู!"
"ตกใจอะไรนี่หงส์ไม่ได้เป็นผีนะ หงส์แค่นอนไม่หลับเลยออกมาหาไวน์สักแก้วดื่มเฉยๆแล้วพี่แบล็คล่ะทำไมถึงยังไม่นอน"
"ก็มีเรื่องให้คิดมากนิดหน่อย"
"เรื่องที่เกิดขึ้นน่ะเหรอ?"
"ครับ"
"รู้ไหมว่าหงส์เกลียดพวกเลี้ยงไม่เชื่องที่สุดและหงส์หวังว่าพี่แบล็คจะไม่ทรยศหักหลังนะคะ"
"มั่นใจได้เลยครับ พี่ไม่มีทางทำร้ายคุณหนูอย่างแน่นอน"
"พี่เป็นของหงส์ พี่ต้องภักดีกับหงส์คนเดียว"
อีกแล้วเหรอว่ะเนี่ย!
ใจสั่นกับคำพูดอวดดีของเธออีกแล้ว!!
คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยก่อนจะเดินตามเด็กอวดดีที่อยู่ดีๆก็หงุดหงิดขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุอะไรเลย ความจริงเธอบอกว่าจะไปหาคนสำคัญที่สุสานแต่พอเกิดเรื่องขึ้นก็เปลี่ยนใจมาที่นี่แทน เขาไม่ถามเธอก็ไม่ตอบ แต่พอเขาถามก็ได้คำตอบที่ไม่เคยชัดเจนเหมือนเดิม
ถ้าคนที่สุสานนั้นสำคัญมาก
แล้วเขาล่ะ?
คิดมากไปก็ปวดหัวเพราะคุณหนูไม่เคยจะชายตามองกันเลยสักครั้ง ต่อให้เขายืนอยู่ตรงหน้าก็ยังสามารถมองข้ามกันไปได้อย่างเหลือเชื่อ แล้วคำพูดอวดดีอวดเก่งทั้งหลายนั้นก็เพราะว่าเธอเป็นเด็กขี้หวงเฉยๆหรอก
"จะเครียดอะไรมีพี่อยู่ทั้งคน"
"สักวันพี่แบล็คก็ต้องไปในทางของตัวเองอยู่ดี แล้วอีกอย่างหงส์นอนไม่หลับไม่ใช่เพราะเครียดมากหรอก แค่อยู่ดีๆก็มีเรื่องสงสัยเฉยๆ" เธอนั่งบนเคาน์เตอร์หินอ่อนภายในห้องครัวที่เย็นเยือกแล้วดื่มไวน์ต่อ พี่แบล็คก็เทให้ตัวเองแล้วยืนอยู่แค่ตรงหน้าแถมยังใส่แค่กางเกงขายาวเหมือนว่าอยู่ที่บ้านอย่างนั้นแหละ
"ยังไงซะคนร้ายมันต้องเผยตัว"
"ก็ใช่ค่ะ แต่ทำมันถึงเลือกทำร้ายพวกคนแก่ด้วยล่ะ หงส์ พี่เทพแล้วพี่มังกรปลอดภัยดีทุกอย่างแถมยังได้มีพิรุธอะไรให้น่าสงสัยด้วย ส่วนคนอื่นๆก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปรกติอยู่เลย พวกไม้ใกล้ฝั่งแบบนั้นต้องมีอะไรเป็นความลับแน่นอนแล้วไม่ยอมให้เรารู้เฉยๆ" มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ เพราะในตอนที่เราประชุมกันอยู่พ่อแอบมองเธอบ่อยมาก ส่วนอาไชก็แทบจะไม่พูดถึงรายชื่อคนนอกแต่มุ่งเป้ามาที่คนในราวกับว่ารู้ตัวคนทำแต่ก็ไม่รู้นี่ แล้วอาเกรนยังไม่อยากให้เธออยู่คนเดียว สิ่งที่พวกเขาแสดงออกถึงแม้ว่ามันจะเล็กน้อยแต่พอรู้ว่าเรื่องนี้อาจจะมีเธอเกี่ยวข้อง
หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องเมื่อสิบปีที่แล้วนะ
"นั่นสิ!"
"พี่ว่าใครจะเป็นคนต่อไป?"
"วันนี้คุณเมฆไม่มาไม่ใช่เหรอครับ?"
"จริงด้วย...อาเมฆไม่ได้มา"
คุณหนูชักสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยคล้ายว่ากำลังคิดอะไรอยู่แต่ความเผลอไผลจนเผลอตัวแบบนี้มันไม่ดีเลย เขารีบยกไวน์ขึ้นมาดื่มแทนการแอบมองหน้าอกอวบกระเพื่อมขึ้นลงตามลมหายใจและอาจจะจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะทำเรื่องผิดพลาดลงไปในช่วงที่คุณหนูหลับ
ทำให้เขาอารมณ์ขึ้นแล้วไม่เคยรับผิดชอบ