"ลองเป็นคู่ซ้อมไหม?" น้ำเสียงเหนื่อยหอบถามเพื่อนออกไป
"เชิญมึงรับหน้าที่นี้คนเดียวไอ้แบล็ค แม่งคุณหนูอย่างโหด!"
"นี่ว่าออมมือแล้ว"
"ใครออม? มึงหรือว่าคุณหนู"
"ทั้งคู่" พูดจบก็ล้มตัวลงนอนเพราะเหนื่อยจัดแต่ก็ถือว่าดีที่ได้เห็นพัฒนาการก้าวกระโดดของเด็กอวดดี เขาหลับตานิ่งอยู่เกือบห้านาทีก็มีผ้าเย็นกลิ่นหอมอ่อนๆโยนลงมาปิดหน้าแล้วคนที่ทำแบบนี้ก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ
อัดเขาซะน่วมพึ่งรู้เหรอว่าต้องดูแล
"ไหวไหม?"
"ไหวครับ"
"ให้พักอีกยี่สิบนาทีแล้วเจอกันที่ร้านกาแฟข้างหน้านะ"
เขารู้ว่าเธอยืนอยู่ข้างๆเลยยื่นมือออกไปคว้าข้อเท้าเล็กกำไว้ไม่แน่นมาก มืออีกข้างก็หยิบผ้าเย็นออกจากหน้าแล้วยิ้มกว้างให้ คุณหนูหรี่ตามองคล้ายสงสัยว่าเขาจะพูดอะไรออกไปได้อย่างน่าเอ็นดู
"เดินไปพร้อมกันเลยก็ได้ครับ พี่นอนพักพอแล้ว"
"งั้นปล่อยมือออกจากเท้าหงส์แล้วไปล้างตัวเถอะ"
"ครับ"
เพียงไม่กี่วินาทีเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปพร้อมกันแต่แยกตรงส่วนของห้องน้ำ เธอใช้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนชุดไม่นานมากพอออกมาก็เจอพี่แบล็คยืนคุยกับพี่กาโม่และพี่โชรอแล้ว พวกเขาคงคุยรายละเอียดแผนงานวันนี้หรือไม่ก็คุยเรื่องฝีมือของเธอเพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้ซ้อมมือกับใครนอกจากพี่แบล็คคนเดียว
มองเธอแบบนี้กำลังนินทาอยู่แน่นอน
"ค่ำนี้คุณเทพจะไปช้าหน่อยนะ"
"คงอยู่กับแก้วตานั่นแหละ เบื่อจริงๆไอ้พวกคนมีความรัก"
"เดี๋ยวคุณหนูก็มีครับ"
"อย่าโยงไปหาพี่มิคาเอล เพราะนั่นไม่ใช่คนรักและไม่มีวันเป็นได้ด้วย"
"มั่นใจจัง"
"ถ้าให้หงส์รักพี่มิคาเอล สู้หงส์รักพี่แบล็คไม่ดีกว่าเหรอ!?"
เอาอีกแล้วนะเด็กบ้านี่!!!
พูดจาส่งๆแบบนี้ทำไมกันว่ะ หรือว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาถึงสิบปียังเห็นหัวใจเขาเป็นของเล่นไม่พออีกเหรอถึงเล่นไม่ปล่อยให้พักเลย เธอพูดจบแล้วเดินนำไปด้วยท่าทีเฉยชาในขณะที่เขาแทบจะหัวใจวายตายอยู่ตรงนี้แทบไม่มีแรงพอจะก้าวขาเดินต่อไปด้วยซ้ำ
"หน้าแดงเลยนะมึง เขินอ่อ?" โชกระซิบเบาๆ
"เขินพ่อมึงดิ!!" ใครจะไปยอมรับว่ะ
"ถ้าคุณหนูพูดจริงล่ะ?" โชยิ้มกริ้มถามซ้ำก่อนจะโดนฝ่ามืออรหันต์ตบเข้ากลางกระบาลจนหัวแทบทิ่ม! เขาเบ้ปากมองเพื่อนที่หน้าแดง หูแดงแล้วยังหน้าตึ้งยิ่งกว่าฉีดโบท็อกมาซะอีก
ไอ้แบล็คมันเขินมากแน่นอนถึงคุณหนูจะพูดส่งๆก็เถอะ
เมื่อไรมันจะกล้ายอมรับว่ารักว่ะ
ผลั๊ว!!
"โอ๊ยไอ้เหี้ยผมเสียทรงหมด!"
"สมน้ำหน้าไปแซวมันดีนัก!"
"อย่าให้ถึงทีมึงนะไอ้กาโม่"
แบล็คเดินออกมาที่ร้านกาแฟแล้วอดจะมองหน้าคุณหนูแสนน่ารักไม่ได้เลยจริงๆ เธอยังไม่ได้แต่งหน้านั่นยิ่งน่ามองเข้าไปใหญ่ แล้วภาพเด็กวัยสิบสามปีคนนั้นก็ซ้อนทับมาจนหลุดยิ้มกว้างออกมา คุณหนูของเขาโตมากแล้วจริงๆแต่ก็ยังอวดดีไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ผิวสีขาวแดงระเรือเพราะพึ่งจะออกกำลังกายแล้วผมตรงยาวสีดำขลับนี้ก็ตัดกับสีผิวอย่างชัดเจน ริมฝีปากอวบอิ่มกำลังกินเค้กอยู่นั่นน่าสัมผัสมากเสียจนกลัวว่าจะตบะแตกเข้าสักวันถ้ายังหวั่นไหวจนเกือบจะข้ามเส้นอยู่แบบนี้ ลิ้นชมพูที่เผลอเลียปากแล้วฟันที่ขาวขบกับกลีบปากอวบก่อนจะเม้มแน่นแล้วดูดกาแฟต่อก็อยากน่าจูบจริงๆ
นี่คุณหนูกำลังยั่วกันรึเปล่านะ?
"ไม่กินเหรอ?"
"กินยังไงให้เค้กเลอะปากแบบนี้"
"ก็…" เธอยังไม่ได้พูดอะไรออกมาเป็นประโยคมือใหญ่ก็เช็ดออกให้อย่างช้าๆให้อย่างอ่อนโยน นิ้วโป้งร้อนกดลงที่มุมปากลากไปช้าๆทั่วทั้งกลีบปากก่อนจะยิ้มกว้างให้กัน แต่ว่าทำไมไม่ใช่กระดาษทิชชูล่ะ หรือไม่ก็ให้เธอทำเองก็ได้
เขายิ้มกว้างปรายตามองนิ้วโป้งที่เปื้อนครีมเค้กสีขาวอยู่เสี้ยววินาทีไม่ให้เธอจับได้ เสียงเพื่อนที่เดินตามมาคุยกันเสียงดังเรียกความสนใจจากคุณหนูให้มองดู และในตอนนั้นก็ยกมือขึ้นมาแตะปากตัวเอง กดนิ้วโป้งลงที่กลีบปากแล้วดูดเบาๆตวัดลิ้นเลียเอารสชาติหวานที่ติดเล็กน้อยเพียงเสี้ยววินาทีก็แกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อยากดูดปากอวบอิ่มให้บวมเจ้อไปเลย
สิบปีแล้วที่อดทน
หงส์นั่งเล่นโทรศัพท์คุยกับพี่ชายผ่านข้อความแล้วอดจะแซวคนมีความรักไม่ได้เลยจริงๆนะเพราะตัวติดกันตลอดเวลาแถมพี่ชายยังติดเมียมากอีกด้วย เธอคุยกับแก้วตาต่อเพราะว่าไม่ได้เจอกันมาเกือบอาทิตย์แล้วมั้งส่วนดวงใจก็ไม่ตอบข้อความอะไรเลยจนน่าแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ชักถามให้ต้องรำคาญ
เมื่อคืนที่ไปบาร์ก็บังเอิญเจอพี่มิคาเอลแล้วแก้วตารู้เลยแซวเบาๆแต่ใครจะยอมรับล่ะว่าอยากเจอเขาในเมื่อไม่เคยอยากเจอเลย พี่เทพก็ตอบข้อความกลับมาว่าคืนนี้คงไม่ได้กลับบ้านส่วนเธอก็บอกแค่ว่าจะค้างที่คอนโดไม่ได้กลับบ้านเหมือนกัน
มีแค่พ่อกับพี่มังกรชอบอยู่บ้าน
เวลาล่วงเลยจนถึงกำหนดเข้าประชุมแล้ววันนี้บอดี้การ์ดค่อนข้างเยอะมาก ทุกคนที่มาก็พกคนดูแลความปลอดภัยมาหมด แล้วเรื่องการประชุมก็ค่อนข้างน่าหวั่นใจเพราะมีศึกจากภายในที่อาจจะดึงคนนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยจนวุ่นวาย
ดังนั้นต้องหาทางตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
มีคนในห้องนี้อยากเป็นผู้นำแทนพ่อ
"ความจริงน้องหงส์เป็นผู้หญิงน่าจะอยู่บ้านทำตัวว่านอนสอนง่ายรอวันแต่งงานมากกว่าจะมาอยู่ตรงนี้นะ"
"หงส์ยังมีแรงทำงานไม่จำเป็นต้องอยู่บ้านเฉยๆนี่คะ อาเกรนอายุก็ปาเข้าไปห้าสิบแล้วน่าจะอยู่บ้านเลี้ยงหลานดีกว่ามาอยู่ที่นี่นะคะ ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นเดียวจะหัวใจวายตายเปล่าๆ"
"หงส์!"
"ใจเย็นๆสิคะอาเกรน หงส์พูดไปเพราะเป็นห่วงนะไม่ได้แช่งให้ตายไวๆซะหน่อย"
เกรนเบ้ปากไม่อยากจะเถียงกับลูกสาวของพี่ชายคนโตมากกว่านี้แต่ต้องพยายามใจเย็นให้มากที่สุด เห็นๆกันอยู่ว่าหงส์เป็นเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมด้วยซ้ำแต่ปากดีเหลือทน ปีกยังไม่กล้าขายังไม่แข็งมากพอจะโบยบินได้ด้วยตัวเอง แล้วถ้าหากว่าเกิดเหตุอะไรก็น่าจะตายเป็นคนแรก
เขาไม่ชอบนังเด็กนี่เลยจริงๆ
การประชุมค่อนข้างด่วนครั้งนี้สืบเนื่องมาจากตาวิลเลียมถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัสที่บ้านพักส่วนตัวที่ต่างประเทศและมีการลอบทำร้ายอาไชขณะเดินทางไปประชุมงานเมื่อสามวันก่อนแต่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด ส่วนผู้นำอย่างสายฟ้านั้นก็มีมือปืนซุ่มยิงแต่ทำพลาดเลยรอดมาได้
กลิ่นควันบุหรี่ลอยตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้องประชุม ความเคร่งเครียดเพิ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อไม่รู้ว่าใครเป็นตัวการกันแน่ เกรน อาไช สายฟ้าและเมฆ คือผู้ที่รู้ว่าอดีตเคยมีเรื่องกับใครบ้างและภายในเคยขัดแย้งอะไรกันบ้างกว่าจะมาถึงวันนี้ ในขณะที่เด็กรุ่นลูกยังไม่รู้อะไรมากเท่าไรนัก บางเรื่องจบไปตั้งแต่เมื่อสิบปีที่แล้ว
สิบปีที่แล้วสูญเสียหลายอย่างไปตลอดกาล
เหลือแค่หงส์คนเดียว