ปึ้ง! ปึ้ง! ปึ้ง!
เสียงโต๊ะประจำตำแหน่งของครูผู้สอนดังขัดบทสนทนาขึ้น นักเรียนทุกคนก็ต่างมากันวิ่งไปนั่งประจำที่ของตัวเองอย่างรวดเร็วด้วยความกลัวเกรง
“นักเรียนเคารพ”เสียงอันทรงพลังของหัวหน้าห้องดังขึ้น พร้อมกับเสียงทักทายของนักเรียน
“ค่ะ...สวัสดีค่ะนักเรียน...ครูแบ่งกลุ่มให้ห้องหนูหรือยังลูก”ครูน้ำตาลผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษถามขึ้น
“ยังค่ะ/ยังครับ”
“งั้น...แบ่งกลุ่ม...กลุ่มละแปดคนเขียนชื่อมาให้ครูแล้วเดี๋ยวครูจะบอกงานนะคะ^o^”
“พอดีเลย...คบแก๊งเราพอดีเลย”อยู่ๆปอร์เช่ก็เสนอตัวว่าเป็นแก๊งเดียวกับฉันอย่างหน้ามึนเฉยเลย
“ใช่หรอปอร์เช่- -“”มิวนิคถามอย่างประชด
“ใช่...เนี้ยเราแก๊งเดียวกัน...เอาน่าเขียนชื่อๆ”ปอร์เช่ไม่พูดพร่ำทำเพลง แต่กลับดึงกระดาษที่อยู่ในมือของมิวนิคไปเขียนชื่อของตัวเองและชื่อเพื่อนของเขาอีก2คน ฉันและเพื่อนๆมองการกระทำอันมัดมือชกนั้นอย่างงงๆ
“ต๊าย...นายนี่มันหน้ามึนจริงๆเลยนะ...พูดเองเออเองได้ด้วย”ไม่รู้ทำไมปากฉันถึงได้ไวแบบนี้ ตายแล้ว นี่เขาจะโกรธฉันหรือเปล่านะO.O
“พิกเล็ท...วันนี้เธอน่ารักขึ้นนะ^_^”>///ปอร์เช่
“พูดมากหน่า ไม่ไปก็ออกจากกลุ่มไปแค่นั้น...จบป้ะ!”ฉันหันไปตอบปอร์เช่อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่
“โธ่! นี่เธอจะตัดฉันออกจากกลุ่มได้ลงคอเลยหรอ ฉันอยู่แก๊งเดียวกับเธอนะ”ไม่มีใครหน้ามึนได้เท่าเขาแล้วล่ะ ให้ตายสิ! ยัดเยียดเอาตัวเองเข้ากลุ่มจนได้ ถามความสมัครใจกลุ่มฉันบ้างหรือเปล่าว่าต้องการเขาไหม
“แก๊งเดียวกัน กล้าเนอะ”ฉันประชด แต่ก็ดูเหมือนเขาจะไม่สะทกสะท้านอะไร ก็แน่ล่ะ เขาเคยแคร์อะไรที่ไหนล่ะ
“แล้วนี่เราจะไปทำวันไหนกันล่ะ”ไม่น่าเชื่อ ว่าคนอย่างกราฟจะสนใจงานด้วย เอ๊ะหรือเขากลัวว่าจะทำงานไม่เสร็จตามกำหนดกันแน่
“วันเสาร์นี้ไหม”มิวนิคเสนอ
“เอ่อ...แล้วบ้านพิกเล็ทอยู่ไหนหรอ”โนริถาม
“อ๋อ...เดี๋ยวฉันบอกอีกทีก็แล้วกันนะ”
“โอเค...งั้นวันเสาร์นี้ทำตัวให้ว่างๆและกันนะใครไม่ว่างก็ไม่ต้องเอาคะแนน ตัดออกจากกลุ่ม”เด็ดขาดมากๆเลยปาร์ตี้
วันเสาร์...
“พิกเล็ท...ตื่นได้แล้วลูกวันนี้เพื่อนๆจะมาบ้านไม่ใช่หรอ”แม่ปลุกฉัน ตายแล้ว!! วันนี้ฉันนัดเพื่อนๆไว้นี่นา
“ค่ะแม่ ตื่นแล้วค่ะ”
จากนั้นฉันก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวให้พร้อม เตรียมต้อนรับการมาเยี่ยมเยียนของเพื่อนๆ ความจริงแล้วฉันก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรนักหรอกถ้าหนึ่งในนั้นไม่ใช่ปอร์เช่ เพราะเพื่อนๆในกลุ่มฉันก็เคยมาบ้านฉันบ่อยจนชินแล้ว
ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง!!
สงสัยจะมาแล้วแน่ๆเลย ตายแล้วฉันยังไม่แต่งตัวเลย
“แม่ขา...สงสัยเพื่อนหนูมาแล้วแม่วานไปเปิดประตูให้หน่อยได้ไหมคะ”
“...”หลังจากที่ตะโกนออกไปก็ไม่มีแม้แต่เสียงที่จะตอบกลับมาเลย
“แม่ขา...แม่ได้ยินพิกเล็ทไหมคะ”ฉันตะโกนออกไปอีกครั้ง
“...”และก็เป็นอีกครั้งที่เงียบฉียบ
ปิ๊งป่อง! ปิ๊งป่อง!
นี่ก็กดอยู่นั่นแหละ สงสัยพวกมิวนิคแน่ๆเลย เพราะมันไม่มีทางที่นายพวกปลิงนั่นจะมาก่อนแน่ๆ ทำไมน่ะหรอ เพราะช่วงเวลางานแบบนี้ทีไรนายพวกนั้นก็จะมาสายและไม่สายธรรมดานะแต่เป็นสายชนิดที่ว่าคนอื่นเขาทำกันจวนจะเสร็จแล้ว เป็นไงล่ะดูความน่ารักของนายพวกนี้สิ - -“
ฉันรีบคว้าผ้าคุมมาคุมไหล่ ตอนนี้ในร่างกายของฉันก็มีแค่เพียงผ้าเช็ดตัวที่ห่อเป็นกระโจมอกกับผ้าคุมบางๆแค่นั้น แล้วนี่แม่ไปไหนนะ ลำบากฉันเลยที่ต้องมาเปิดประตูทั้งๆที่ตัวยังโล่งโจ้งแบบนี้
ครืด!!
เสียงเลื่อนประตูรั้วหน้าบ้านที่ฉันพยายามใช้แรงดันให้มันเปิดออก สงสัยคงต้องหยอดน้ำมันบ้างและ ฝืดจริงๆ
“นี่มาแต่...เฮ้ย O0O”อ๊าย>///ปอร์เช่
“O___O”กราฟและนิกกี้
“เอ่อเชิญตามสบาย”จากนั้นฉันก็รีบวิ่งเข้าบ้านทันที และวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะวิ่งได้
แล้วแบบนี้ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี้ย ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเขาจะต้องมาเจอฉันอยู่ในสภาพที่วาบหวิวแบบนี้ เอาล่ะรีบจัดการแต่งตัวแล้วก็ลงไปต้อนรับแขกได้แล้ว
เห้อ!! ชุดไหนดีน้า ชุดนี้ก็ได้...และแล้วฉันก็ได้ชุดเดรสสีหวานแขนตุ๊กตายาวเหนือเข่าขึ้นมาพอประมาณ นี่ฉันจะไปทำอาหารหรือว่าจะไปออกเดทกันแน่นะ
หลังจากที่เสียเวลาขึ้นไปแต่งตัวก็ได้ฤกษ์ที่ฉันจะต้องเสด็จลงมาสิงสู่ด้านล่างแล้ว แต่เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมนายสามคนนี้ถึงได้มองหน้าฉันแปลกๆล่ะ โอ๊ย! หวังว่าภาพคุมผ้าเช็ดตัวเมื่อกี้ฉันคงดูไม่หน้าเกลียดนะ รู้สึกกดดันยังไงพิกล ฉันไม่ชอบสายตาแบบนี้เลยมันทำให้ฉันรู้สึกตัวเล็กลงไปทันทีเลยนะT^T
เวลาผ่านไปไม่นาน เพื่อนๆกลุ่มที่เหลือก็มาจนครบ แต่ก่อนที่เราจะลงมือทำงานอะไรสักอย่างนั้นมันต้องมีอุปสรรคเสมอ
“นี่! เป็นเจ้าบ้านภาษาอะไรเนี้ย...ไม่คิดจะถามแขกหน่อยหรอว่ากินอะไรมาหรือยัง”นี่เป็นคำพูดของนิกกี้ที่นั่งอยู่บนโซฟาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่
“ใช่ๆ นี่พวกฉันยังไม่กินอะไรเลยนะ จะทำงานโดยที่ยังไม่ได้กินอะไรได้ยังไง ไม่เคยได้ยินว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้องบ้างหรอ”ตัวปัญหาอย่างกราฟพูดขึ้นอีกคน
“นั่นสิ บ้านเธอมีไรกินบ้างล่ะ...เนี้ยพวกฉันอุตส่าห์ทำท้องให้ว่างๆเพื่อมาฝากท้องบ้านเลยนะ”ปอร์เช่กล่าวอีกคน
“บ้านนายไม่มีข้าวกินหรอปอร์เช่- -“”ฉันล่ะเพลียกับพวกนายจริงๆเลย ภาระอีกแล้ว
“มีสิ! แต่ไม่อยากกินมันเปรือง...มากินบ้านเธอดีกว่า”
“นึกว่าไม่มีข้าวกินเพราะนิยมกินอาหารเม็ดซะอีก^o^”คริคริ
“นี่!”ปอร์เช่ยังไม่ทันที่จะพูดจบก็ถูกฉันแทรกขึ้นก่อน
“หยุดเลย! ถ้าหิวก็ไปหากินเองฉันไม่ใช่เจ้าบ้านที่ดีนักหรอกนะ”พูดจบฉันก็เดินไปเตรียมของมาทำงานโดยไม่สนใจนายสามตัวนี้เลย
“ใจร้ายชะมัดเลย”ปอร์เช่ตะโกนตามหลังฉัน
“ถ้าไม่ทำให้ฉันกินฉันจะไม่ทำงาน”นิกกี้ต่อลอง
“ก็ลองดูสิ ถ้าไม่อยากได้คะแนน”
“ดุชะมัดเลย มีลูกขอตัวนึงนะ”
“นายปอร์เช่!”ฉันเอ็ด
“งั้นก็ได้ ทำเองก็ได้แต่ขอยืมครัวหน่อยก็แล้วกันนะ”ปอร์เช่เดินตามมาในครัวอย่างนอยด์ๆ
“เร็วๆและกัน เดี๋ยวงานจะเสร็จช้า”
นี่ฉันคิดดีแล้วหรอเนี้ยที่เอานายสามคนนี้เข้ามาในกลุ่ม เอ๊ะ! ไม่สิต้องบอกว่านายพวกนี้ยัดเยียดเอาตัวเองเข้ามาในกลุ่มของฉันมากกว่า ฉันเริ่มเหนื่อยแล้วนะ- -“
10นาทีผ่านไป
“พิกเล็ท แกได้กลิ่นอะไรหอมๆป้ะ”มิวนิคซึ้งได้กลิ่นอาหารลอยออกมาจากครัวถามขึ้นมาระหว่างที่เรานั่งดูทีวีรอนายพวกนั้น
“หอมบ้าอะไรล่ะมิว นี่มันกลิ่นไหม้ชัดๆ”น้ำขิงบอก
ฉันสูดหายใจเข้าหนึ่งทีเพื่อพิสูจน์กลิ่น กลิ่นไหม้จริงๆด้วย ไม่ได้ล่ะเห็นทีต้องวิ่งเข้าไปดูในครัวซะแล้ว
แคร่กๆๆ
ฉันสำลักครัวที่ตอนนี้มันลอยอบอวนไปทั่วห้องครัว
“นี่พวกนายจะเผาบ้านฉันหรอ แค่ฉันไม่ทำอะไรให้นายกินถึงกับจะเผาที่อยู่ของฉันเลยหรือไง...”
“หยุดบ่นได้ป้ะ มาช่วยหน่อย”ปอร์เช่ตะโกนบอกฉันผ่านกลุ่มควันพวกนั้น
“ก็ได้ๆ”
นี่มันอะไรกันเนี้ย พวกนายนี่มันเอาแต่คอยสร้างปัญหาให้ฉันอยู่ตลอดเลย ทำไมฉันจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยนะ ถ้าแม่กลับมาเจอสภาพห้องครัวแบบนี้ฉันต้องโดนดุแน่ๆเลย โธ่เอ๋ย!!
ใช้เวลาไม่นานนักฉันก็จัดการทำความสะอาดห้องครัวให้กลับมาใสปิ๊งเหมือนเดิม แต่ฉันไม่ได้ทำคนเดียวนะ ฉันบังคับให้นายสามคนนี้ทำต่างหากล่ะ
“โอ๊ย! เหนื่อยจัง”ปอร์เช่บ่นเบาๆขณะที่เอาร่างอันอ่อนแรงแนบลงบนโซฟา
“แล้วมันเป็นเพราะใครล่ะ พวกนายก็เหมือนกันสนุกมากไหมที่คอยสร้างแต่เรื่องให้ฉันเนี้ย”
“นี่...โทษพวกฉันไม่ได้นะ...ก็เธอไม่ยอมไปทำให้ฉันเอง...ถ้าเธอไปทำให้พวกฉันตั้งแต่แรกครัวก็คงไม่เละ”>นิกกี้
“โทษฉันอีก...นี่สรุปฉันผิดงั้นหรอ-o-”
“นี่ๆ ฉันว่าเลิกเถียงกันได้แล้ว อะกินซะ”มิวนิคตัดบทพร้อมกับวางข้าวผัดสองจานลงบนโต๊ะชาด้านหน้าโซฟา ตามมาด้วยอีกจานที่ปาร์ตี้ยกมาวางอีก
ลืมไปเลยว่ายัยมิวนิคทำอาหารเป็น พอเห็นอาหารวางลงบนโต๊ะเท่านั้นแหละ จากที่อ่อนแรงก็กลับพุ่งเข้ามาหยิบจานข้าวผัดกันอย่างกับฝูงจิ้งจอกที่หิวโหย
“โห อร่อยอ่ะ^o^”กราฟทำหน้าเคลิ้มกับรสชาติของอาหารที่ได้ลิ้มรส
“ก็นะ^^”>มิวนิคไม่ค่อยถ่อมตัวเลย
“มิวนิคนอกจากเธอจะสวยแล้วเธอยังน้ำใจงามอีก ไม่ผิดเลยที่พอร์ชเป็นแฟนเธอ”ปอร์เช่ชม
“นี่ อย่ามายอ...รีบๆกินเข้าไปจะได้รีบทำงานฉันอยากกลับบ้าน”