ทริคที่2 เสียงกระซิปหัวใจ

3588 Words
“อ้าว...พิกเล็ทรอพวกฉันด้วยสิ”เสียงเพื่อนๆเรียกไล่หลังฉันมา “ไปกินไอศครีมงั้นหรอ...”ฉันพูดอย่างใช้ความคิด “นี่ๆ...วันนี้เราไปกินไอศครีมกันเถอะ” “ไปสิๆ...*-*พอได้ยินว่าร้านไอศกรีม น้ำขิงก็ตาลุกวาวเลย “แหม...ตาเป็นประกายเชียวนะจ๊ะน้ำขิง”>ปาร์ตี้ “งั้นไปกันเลย...เดี๋ยวไม่ทันนะ”ฉันรีบลากมือเพื่อนๆ “เดี๋ยวๆ...เดี๋ยวนะไม่ทันนี่คืออะไร”น้ำขิงถามอย่างสงสัยเพราะไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของฉันนัก “อ๋อ...ก็...เดี๋ยวพี่เมลอนจะปิดร้านก่อนไง”ชิ! ขี้สงสัยจังเลย ขืนไปช้าปอร์เช่ต้องคิดว่าฉันจงใจไปเจอเขาแน่ๆเลย (ก็เธอจงใจจริงๆ-_-) ณ ร้านไอศกรีม... “พิกเล็ท...แกจะไม่สั่งอะไรหน่อยหรอ...ฉันเห็นแกนั่งชะเง้อคอมองนอกร้านอยู่นานแล้วนะ”>น้ำขิง “นั่นสิ แกมองหาอะไรหรอ”>มิวนิค “เหมือนรอใครเลยนะ เธอนัดกิ๊กไว้ใช่ป่ะ”ปาร์ตี้ถามทีเล่นทีจริง ยัยพวกนี้นี่ช่างสงสัยจริงๆเลย...หรือว่าท่าทางของฉันมันดูเด่นฉันแล้วก็ออกนอกหน้าเกินไปนะ “ฉันไม่ได้รอใครนะ”ฉันตอบอย่างร้อนตัว “สายตาแกมันฟ้องว่ะพิกเล็ท บอกฉันมาเลยนะว่าแกรอใคร”มิวนิคเริ่มจับผิดฉัน และตามด้วยคนที่เหลือ “นี่แกจะมาคาดคั้นฉันให้ได้อะไร เดี๋ยวเขามาแกก็รู้เองแหละ อุ๊บ!”หลุด หลุดพูดไปแล้ว>มิวนิค และไม่นานก็มีคนสองคนเดินเข้ามาในร้านไอศครีม แต่ไม่ใช่ร้านที่ฉันนั่ง ทำไมต้องไปร้านตรงข้ามฉันด้วย ไอ้บ้าเอ้ย ร้านนี้ก็มีทำไมไม่มา แล้วฉันก็นั่งรอไปเหอะ -___-“ “เดี๋ยวฉันไปสั่งไอศครีมก่อนนะ^^”ว่าแล้วฉันก็ลุกขึ้นเดินไปนอกร้าน “เฮ้ย เดี๋ยว...เคาน์เตอร์อยู่ทางนี้”น้ำขิงบอกพลางชี้ทางให้ฉัน “ฉันจะไปสั่งร้านนู้น...”จากนั้นฉันก็ผลักประตูออกมานอกร้านแล้วมุ่งตรงไปยังร้านตรงข้ามที่ปอร์เช่กับยัยเด็กผิงผิงนั่งอยู่ในร้าน กรุ๊ง กริ๊ง!! เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังขึ้นเมื่อฉันผลักประตูเข้ามาภายในร้าน ฉันคงดูบ้ามากเลยสินะ แต่ใครสนล่ะ ฉันไม่ปล่อยให้สองคนนี้เขาได้อยู่กันอย่างมีความสุขหรอก^___^ “สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ”พนักงานกล่าวถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “เอ่อ...”แล้วฉันจะกินอะไรล่ะเนี้ย ไม่ได้คิดมาซะด้วยสิ “เอ่อ...เอาชูวี่ช็อคกี้ แฟนซีก็ได้ค่ะ”ฉันเลื่อนมองเมนูก่อนที่จะสั่งออกไป “เชิญนั่งเลยค่ะ”นั่ง...นั่งอะไร...ฉันไม่ได้มานั่ง “เอ่อ...ค่ะ”นั่งก็นั่ง “พี่ปอร์เช่...นั่นเพื่อนพี่นี่คะ”ยัยผิงผิงบอกปอร์เช่ที่กำลังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ให้มองมาทางฉัน แล้วเขาจะคิดว่าฉันจงใจมานั่งที่นี่หรือเปล่านะ นั่งคนเดียวรู้สึกเกร็งจัง “อ้าวพิกเล็ท...รอนานไหมโทษทีนะที่พวกเรามาช้าน่ะ”เพื่อนๆที่ตามฉันเข้ามาในร้านเล่นละครถามฉัน ขอบใจมากเพื่อนที่ทำให้ฉันไม่เกร็ง^o^ เกือบเลิ่กลั่กแล้ว เพื่อนฉันคือสายซัพพอร์ตตัวจริงกระทิงแดงมาก “O_O”ถึงฉันจะตกใจกับการมาของเพื่อนๆ แต่ฉันก็ควรที่จะเล่นตามน้ำ แล้วทำเหมือนเรานัดกันมาจริงๆ “อ้าว...กว่าจะมา...ฉันคิดว่าฉันจะต้องมานั่งกินคนเดียวซะแล้ว^__^”ฉันตอบมิวนิคอย่างรู้กัน เธอก็เลยยิ้มให้ฉันพร้อมขยิบตาให้เป็นอันว่ารู้กัน “บ้าน่า ฉันไม่ปล่อยให้เพื่อนฉันต้องนั่งทานคนเดียวหรอกนะ...อ้าวปอร์เช่นายก็มาเหมือนกันหรอ...บังเอิญจังเลยนะ^^”มิวนิค ฉันว่าเธอเล่นละครเหมือนจริงเกินไปแล้วนะ ไปทักเขาทำไม!! “อื้ม...มิวแกไม่กลับบ้านกับพอร์ชหรอ”ปอร์เช่ถามมิวนิคอย่างงงๆที่ยังเห็นแฟนของเพื่อนอยู่ที่ร้านไอศครีมทั้งๆที่ควรจะกลับบ้านไปกับแฟนไปแล้ว “เฮ้ย...จริงด้วย^o^”ว่าแล้วมิวก็คว้ากระเป๋าขึ้นมาถือไว้ก่อนที่จะวิ่งออกนอกร้านไปอย่างรีบร้อน “ชูวี่ช็อคกี้ แฟนซีได้แล้วค่ะ” พอพนักงานเอาไอศครีมมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์ฉันก็รีบเดินไปรับทันที “ช็อคโกแลตซันเดย์ได้แล้วค่ะ”และเธอก็วางถ้วยไอศกรีมอีกถ้วยไว้ที่เคาน์เตอร์ คงจะเป็นของปอร์เช่แน่ๆเลย แต่เดี๋ยวนะทำไมต้องสองช้อนด้วย นี่เขากินถ้วยเดียวกันหรอ - -“ ฉันหยิบช้อนในถ้วยไอศครีมของปอร์เช่ออกหนึ่งช้อน เมื่อพนักงานหันหลังไปทำอะไรสักอย่าง ดูสิว่ามีช้อนเดียวจะกินกันยังไง ไม่ต้องคิดอะไรมากก็แค่ปอร์เช่เสียสละให้ยัยนั่นกินแค่คนเดียวไง ก็มันมีแค่ช้อนเดียวนี่นา >< นี่ฉันจ้องเขามากเกินไปหรอเนี้ย “O_O” “แล้วก็ เลิกทำได้และทริคอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระ!!”นี่...นี่เขา...เขารู้ได้ยังไงกัน “นายรู้O.O”น้ำเสียงฉันเริ่มสั่น “จะไม่ให้รู้ได้ยังไง...”อาการฉันแสดงออกขนาดนั้นเลยหรอT^T “ก็ฉัน...” “ทำกี่ทริค ฉันก็ไม่มีวันชอบเธอหรอกจำเอาไว้ยัยพริกขี้หนูสวน” ทำไมคำพูดของเขาถึงได้ทำร้ายจิตใจฉันขนาดนี้ แค่ฉันรักเขามันผิดหรอ ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจฉันบ้าง “นายไม่รักฉันก็ช่างหัวนายสิ แล้วฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน นี่มันตัวของฉันนายมีสิทธิ์ที่จะห้ามไม่ให้ฉันทำด้วยหรือไง-o-”ฉันตะโกนบอกเขาอย่างเหลืออด ก็ได้ ในเมื่อรู้แล้ว งั้นก็ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังเขาแล้วล่ะ “ทำไมเธอต้องใส่อารมณ์แบบนี้ด้วย...”สีหน้าเขาเริ่มกังวลที่ฉัน ใส่อารมณ์กับเขา “นี่เธอแค่ฝันเองนะ” วูบ! ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันทีที่ปอร์เช่บอกว่าฉันฝัน ตอนนี้เหงื่อท่วมตัวและใบหน้าของฉันเต็มไปหมด เห้อ! ที่แท้ก็ฝันไปนี่เอง เสียงกระซิบหัวใจหรอ เสียงกระซิบซาตาลล่ะสิไม่ว่า ‘3:45’ นี่เพิ่งจะตีสามเองหรอเนี้ย ฝันร้ายแบบนี้นี่มันเป็นลางร้ายชัดๆ ถ้าขืนฉันทำทริคนี้มีหวังได้เป็นแบบในฝันแน่ๆ ไม่เอาด้วยหรอก ฉันไม่กล้าเสี่ยง เหงื่อออกแบบนี้ฉันจะไปนอนต่อได้ยังไงล่ะ ไปอาบน้ำดีกว่าว่าแล้วฉันก็ลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วย่างก้าวเข้าไปในห้องน้ำทันที ขวับ! “เธอ...เข้ามาทำอะไรในห้องนอนของฉัน...แล้วนี่อะไร...อย่าบอกนะว่าจะมาอาบน้ำบ้านฉันด้วย”ก่อนที่เท้าของฉันจะแตะลงไปที่พื้นห้องน้ำก็ถูกปอร์เช่ที่มาจากไหนไม่รู้ดึงแขนฉันเอาไว้ก่อน ห้องนอนเขาO_O ว่าแล้วฉันก็มองไปรอบๆห้องนอนที่เป็นโทนสีขาวดำ นี่...ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง “ฉันถามยังไม่ตอบฉันอีก นี่ฉันยังไม่สะสางเรื่องที่เธอให้ฉันจ่ายค่าไอศกรีมคนเดียวเลยนะ”นี่เขาโกรธฉันเรื่องที่ฉันทิ้งภาระให้เขาหรอ “ฉันมาอยู่ที่ห้องนายได้ยังไง...” “ฉันควรจะถามเธอมากกว่าว่าเธอมาอยู่ในห้องของฉันได้ยังไง” “พี่ปอร์เช่ขา...พี่ปอร์เช่ทิ้งให้ผิงผิงนอนคนเดียวได้ยังไงคะ...ผิงผิงนอนไม่หลับเลยรู้ไหน”ร่างบางที่มีแค่ผ้าเช็ดตัวคุมร่างนั้นกล่าวด้วยเสียงอิดออดมีจริตจะกร้าน นี่เขาสองคน ทำไมถึงได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้ล่ะ ทำไมยัยนั่นถึงได้สวมใส่แค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวแบบนั้น “นี่มันอะไรกันน่ะ...T^T”ปอร์เช่หันไปมองร่างบางของยัยผิงผิงพร้อมกับใช้แขนอันแข็งแรงของเขารั้งเอวบางของยัยนั่นให้เข้ามาชิดกับร่างสูงของเขา เขาสองคน นี่เขาสองคนมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกันแล้วหรอ ที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้คือฉันรักคนที่มีเจ้าของหรอ ฉันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มทำอะไรเลยสินะ ทำไมต้องเป็นยัยเด็กนี่ด้วยT^T น้ำอุ่นๆที่เริ่มเอ่อล้นท่วมขอบตาทั้งสองข้างของฉัน ตอนนี้มันไหลรินลงมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉันยืนมองร่างทั้งสองที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงไปต่อหน้าต่อตาอย่างไม่เข้าใจนัก นี่เขาไม่คิดจะอายบ้างหรอ มีฉันยืนดูตรงนี้อยู่ทั้งคน “พี่ปอร์เช่น่ะเขาเลือกฉัน...คนอย่างพี่น่ะไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดรักพี่ปอร์เช่หรอก”ยัยผิงผิงหันมาพูดกับฉันอย่างเป็นผู้ชนะ น้ำเสียงเย้ยหยันของเธอมันเน้นย้ำให้ฉันรู้ว่าฉันแพ้ แล้วฉันก็ทนเห็นสองคนนี้ทำอนาจารต่อหน้าฉันไม่ได้ด้วย ฉันไม่อยากเห็น ฉันไม่อยากรับรู้ว่าทั้งสองคนรักกันขนาดไหน “ฉันไม่อยากเห็น...ฉันไม่อยากรู้...ฉันไม่อยากเห็นได้ยินไหม...กรี๊ด!!!!” ฉันกรีดร้องก่อนที่จะวิ่งออกมาจากบ้านของเขา “พิกเล็ท...พิกเล็ทตื่น...พิกเล็ท...หนูเป็นอะไร...ตื่นสิลูก” เฮือก!! “O_O”ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงแม่เรียกฉันพร้อมกับเขย่าร่างของฉันให้รู้สึกตัว เฮ้อ!! ที่แท้ก็ฝันไปนี่เอง “หนูเป็นอะไรลูก...”สีหน้าแม่เป็นกังวลมาก “เอ่อ...หนูแค่ฝันร้ายน่ะค่ะแม่...แม่คะนี่หนูตื่นแล้วใช่ไหม...หนูไม่ได้อยู่ในฝันใช่ไหมคะ”ฉันถามแม่เพื่อให้แน่ใจว่าฉันไม่ฝันจริงๆ ก็เมื่อกี้มันเป็นฝันซ้อนฝัน ฉันก็เลยกลัวว่ามันจะเป็นแค่ฝันอีก “โอ๊ย-o- แม่คะหนูเจ็บนะ”ฉันร้องทันทีที่แม่หยิกแก้มฉัน “เจ็บ...ก็แสดงว่าไม่ได้ฝัน...รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปทานข้าวได้แล้ว...เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ”สั่งเสร็จสรรพแม่ก็เดินออกไปจากห้องนอนของฉันทันที ภาพที่สองคนนั้นเขาทำอะไรต่อหน้าต่อตาฉัน มันยังคงติดตาตรึงใจฉันอยู่เลย ขอทีเถอะขออย่าให้เขาสองคนเป็นอย่างที่ฉันฝันเลย ฉันไม่อยากรักคนที่มีเจ้าของ แล้วมันจะยิ่งทำให้ฉันเสียใจเพราะฉันคิดว่าฉันได้ถลำลึกจนเกินที่จะห้ามใจให้หยุดรักเขาได้ ขอแค่ให้มันเป็นแค่ฝันเท่านั้น ถ้าจะทำร้ายจิตใจก็แค่ให้เป็นแค่ฝัน อย่าได้ริอาจที่จะเป็นความจริงเลย หลังจากฝันร้ายรวดเร็วถึงสองเรื่องราวในคืนเดียวกัน ฉันก็ขวัญเสียไม่กล้าที่จะทำทริคกระซิบนั่นเลย ฉันคิดว่ามันอาจจะเป็นลางไม่ดี แต่ก็ใช่ว่าฉันจะไม่ทำทริคอื่นสักหน่อย^-^ “เฮ้อ...”ฉันนั่งถอยหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อมานั่งอยู่ในห้องเรียน “พิกเล็ท...แกเป็นอะไรของแก...นั่งถอยหายใจมาตั้งแต่คาบแรกแล้วนะ”มิวนิคถามขึ้นอย่างสงสัย “มิว...แกว่าปอร์เช่มันจะรู้ป้ะว่าฉันทำทริคความรักนั่น”ฉันกระซิบถามมิวนิคอย่างกลัวๆ “โอ๊ย...มันไม่รู้หรอก...แกทำไปเหอะเชื่อฉัน”มิวนิคกล่าวอย่างให้กำลังใจ ปิ๊ง! ปอร์เช่ที่นั่งอยู่ด้านหน้าสุดหันหลังมามองฉัน เราสองคนสบตากัน ทำก็ทำ ฮึบ! ฉันตัดสินใจพูดในใจว่า ‘มีอะไรหรอ’ ตามที่ทริคความรักบอกไว้ ปอร์เช่เห็นท่าทางอันประหลาดๆของฉันก็ถึงกับขมวดคิดเหมือนตั้งคำถามอยู่ในใจ “นี่ยัยพริกแคระ...จะจ้องฉันอีกนานไหม” ไม่นะ! คำพูดนั้น...เหมือนในฝันเลย...อย่าบอกนะว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ “ไม่นะ! -o-”ฉันยกมือทั้งสองข้างปิดหูตัวเองทันที ฉันไม่อยากได้ยินคำต่อไปที่เขาจะพูดออกมา “ไม่อะไรของเธอ...ประสาท...อากาศร้อนจนเพี้ยนหรือไง-_-”ปอร์เช่ส่ายหัวไปมาอย่างเอือมๆก่อนที่จะหันไปนั่งจดอะไรขยุกขยิกต่อ “เฮ้อ! -o-”โล่งอกไปที ฉันคิดว่านายจะรู้ซะแล้ว “เลิกทำตัวแบบนี้สักที...เพราะถึงยังไงฉันก็ไม่มีวันรักเธอหรอก...ยัยโง่!”ยังไม่ทันที่ฉันจะได้หายใจหายคอดี ปอร์เช่ก็หันมามองฉันแล้วกล่าวคำพูดอันรุนแรงออกมาจากปากเขา นี่มันอะไรกันน่ะ “O_O”ฉันได้แต่อึ้งตาค้าง นิ่งชั่วขณะ “แล้วท่าทางแบบนั้นเลิกทำมันซะ มันไม่ได้ช่วยทำให้คนอย่างเธอดูดีขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ...เข้าใจไว้ซะว่าฉันรักคนอื่นไม่ใช่เธอ...” “เลิกพูดได้แล้วฉันไม่อยากฟัง...กรี๊ด!!!”ทำไมเขาต้องมาพูดจาร้ายกาจกับฉันแบบนี้ด้วย ฉันไม่อยากฟัง ฉันเอามือขึ้นมาปิดหูตัวเองทันที ตึกตักตึกตัก!! หัวใจของฉันเต้นแรงอย่างใจหาย ทั้งความรู้สึกรนรานที่ดูตื่นตูมของฉันมันทำให้คนที่สาดคำพูดต่างๆนานามากมายมองฉันด้วยความไม่เข้าใจ อะไรกันพูดจบแล้วก็งงเองเนี้ยนะ “นี่! อยู่เงียบๆไม่ได้หรอฉันกำลังซ้อมบทละครอยู่นะ...ไม่อยากฟังก็ไม่ต้องฟังสิ...โว๊ะ”เอ๋! ...ว่าไงนะ...บทละครงั้นหรอ “นี่พริกขี้หนู...ฉันรู้ว่าเธอเกลียดไอ้ปอร์เช่...แต่เรื่องไปแคสติ้งมันจริงจัง...ถ้ามันไม่ซ้อมมันก็คงแคสติ้งไม่ผ่าน”กราฟอธิบาย ที่แท้ก็ซ้อมบทละครเวทีนี่เอง เฮ้อ! โล่งอกไปที วันนี้จะมีเรื่องให้ฉันตกใจยิ่งกว่านี้ไหมนะ “หรอ...อ๋อ...เอ่อ...ก็...ก็ซ้อมไปสิใครว่าล่ะ^O^”ฉันบอกอย่างลั้นลาสบายใจ “อะไรของเธอ...อ๋อ...นี่อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้เธอคิดว่าไอ้ปอร์เช่พูดกับเธอ...ฮ่าๆๆ...ฝันแล้วล่ะอีหนูเอ๊ย”ไอ้บ้ากราฟ อ๊าย!!! ไอ้คนนิสัยไม่ดี เออก็ได้ฉันฝัน แต่คอยดูต่อไปความฝันของฉันมันจะต้องกลายเป็นจริงแล้วมันจะเป็นจริงแค่ฝันดีเท่านั้นย่ะ-O-
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD