คุณหนูแปด

1267 Words
หญิงสาวมองบุรุษเบื้องหน้าตนเต็มสองตา ก่อนเอ่ยช้าๆ ด้วยเสียงเข้มงวดอยู่สักหน่อย “เจ้าเรียกข้าว่า คุณหนูแปด...” “มิผิด ข้าคือทาสเลี้ยงม้าโง่งม ที่บิดาคุณหนูซื้อไว้ กระทั่งวันหนึ่งได้ไถ่ถอนตัวเองสำเร็จ” “ขอบใจเจ้าที่ช่วยข้า ทว่าตัวข้า อดีตเคยเป็นทั้งคุณหนูแปด และสตรีในหอนางโลม แต่ยามนี้คืออนุสามของเจ้าบ้านมู่ เช่นนั้นอยู่หรือตาย ย่อมเป็นคนของสกุลมู่ เรื่องนี้ข้าจะผิดต่อสวรรค์มิได้” นางกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้เพื่อเตือนสติอีกฝ่าย และอยากรู้ว่าเขามีคุณธรรมในใจมากน้อยเพียงใด ม่อเส้าเฟิงผู้นี้ คือหมากตัวแรกที่นางวางแผนให้เขายื่นมือเข้าช่วยเหลือ ม่อเส้าเฟิงขมวดคิ้วมุ่น เขาตามหาเหมียวจื่อเผยมาหลายปี คลาดกันก็หลายหน อย่างไรเสีย นางควรรับรู้ถึงความจริงใจที่เขามีให้ อีกทั้งในอดีต คนทั้งคู่ต่างมีใจให้กัน ฝ่ายนางคลั่งไคล้เขามิน้อย หลายครั้งที่นางสั่งสาวใช้รุ่นเล็กส่งจดหมายมาให้ม่อเส้าเฟิง เพื่อเขากับนางจะได้มีช่วงเวลา ที่โลดโผนด้วยกัน!! “โถ อันที่จริงท่านสมควรตายไปแล้ว แต่ที่ยังมีลมหายใจอยู่ คงเพราะสวรรค์คงอยากให้พบกับบุรุษที่สามารถดูแลคุณหนูแปดได้ และแม้ตัวข้าจะต้อยต่ำ แต่ยามนี้ก็กล้าฝันที่จะอาจเอื้อมคว้าท่านมาเป็นฮูหยินตน สิ่งที่เคยลั่นวาจาไว้เมื่อหลายปีก่อน ข้ายังไม่ลืม” หญิงสาวมองคนเลี้ยงม้าผู้นั้น เขาตัวสูง ผิวคร้ามแดด อาจไม่หล่อเหลาชนิดที่เรียกว่ามองครั้งแรกก็หลงใหล แต่ดูซื่อ และยังมีความปรารถนาดีต่อนาง “หากเมตตาข้าจริง โปรดส่งข้าไปยังสกุลมู่ด้วยเถิด...” “เห็นชัดว่า แม่นางเหมียวยังปักใจต่อคนพวกนั้น ทั้งที่มีพวกเขาปองร้ายท่าน และสตรีในคฤหาสน์สกุลมู่ ล้วนหน้าเนื้อใจเสือ หวังปลิดชีพท่าน” ม่อเส้าเฟิง เปลี่ยนการเรียกหญิงสาวใหม่ น้ำเสียงเขาฟังแล้วไม่รื่นหู มันฉุนจัดสักหน่อย แต่เขาไม่ได้อยากหักหาญน้ำใจเหมียวจื่อเผย “แม้ข้าต้องการแม่นางเหมียวเพียงใด แต่คงไม่ทำตามใจตน อย่างไรเสียคงยอมให้ท่าน ได้กลับคืนเรือนสกุลมู่” เขาเอ่ยจบก็อุ้มนางขึ้น และเตรียมพาไปส่งสถานที่ซึ่งเหมียวจื่อเผยต้องการ แต่ในโลกคู่ขนานนี้ หญิงสาวตระหนักได้ว่า นางต้องล่าแต้มเหล่าบุรุษที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ด้วยนี้คือเหตุผลที่ทำให้ตัวละครของนาง จะสามารถโลดแล่นไปได้ตราบนานเท่านาน “ข้าสวมชุดเจ้าสาวก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่า ข้าจะตอบแทนน้ำใจเจ้าไม่ได้ ทาสเลี้ยงม้าผู้ซื่อสัตย์!” นางว่า แล้วอ้าขากว้าง เผยสัดส่วนที่เมื่อครู่นี้นิ้วหยาบกร้าน และริมฝีปากหนาชื้นจัด ได้ล่วงเกินนางไปอย่างย่ามใจ คำที่นางเอ่ย ทำให้ม่อเส้าเฟิง ไม่อาจเก็บความลิงโลดไว้ในใจ แต่เดิมเขายอมให้นางเฆี่ยน ให้นางระบายอารมณ์รุนแรงสารพัดบนเนื้อตัว เนื่องจากยามที่อยู่ในจวนสกุลเหมียว ดรุณีน้อยนางนี้ไร้มารดาคอยดูแล นางเป็นลูกฮูหยินใหญ่ก็จริง แต่เมื่อมารดานางป่วยและจากไป บิดากลับไม่โศกเศร้า ก่อนจะแต่งสตรีสูงศักดิ์เข้ามา และยกให้ฝ่ายนั้นเป็นฮูหยินใหญ่คนใหม่ ดั้งนั้นเหมียวจื่อเผย จึงกลายเป็นหมาหัวเน่า ถูกลูกอนุกลั่นแกล้งยังไม่พอ แม้แต่บิดายังชังน้ำหน้า เนื่องจากเหมียวจื่อเผย มักถูกใส่ร้ายว่าเป็นต้นเหตุทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อนอยู่เสมอ รวมถึงการที่บิดานางถูกข้อหากบฏ ซึ่งในวาระสุดท้ายต้องตายระหว่างการถูกเนรเทศ “โอ้...นายหญิง!” เมื่อม่อเส้าเฟิงเอ่ยเช่นนั้น ก็เป็นเหตุให้เหมียวจื่อเผย ซ่านใจ ร่างกายนี้เต้นระริก โดยเฉพาะส่วนหวานฉ่ำในร่มผ้า และยอดหน้าอกนางแข็งเป็นไต บริเวณท้องน้อยรู้สึกเสียวสยิว กระทั่งม่อเส้าเฟิง แลบเลียลิ้นสากๆ ของเขากับเท้าเรียวสวยของนางอีกหน เหมียวจื่อเผยก็ยากระงับความต้องการได้อีก และสิ่งที่ปรารถนาของเหมียวจื่อเผยตอนนี้คือ ทรมานม่อเส้าเฟิงอย่างที่สุด นางจะเฆี่ยมเขา ตบตีเขา พร้อมกันนั้นก็ทำให้เขาหลั่งออกมา อย่างล้นทะลัก โดยมีนางเป็นผู้ควบคุม “อย่างเช่นที่เราตกลงกันไว้ ข้าจะทรมานเจ้าให้ตายอย่างช้าๆ ตายด้วยไฟราคะที่ดำมืด ของเจ้าที่มีต่อข้า!” “คุณหนูได้โปรด...ให้ข้าได้ปลดปล่อยด้วยเถิด” “ร้องออกมาให้ดังกว่านี้ แล้วข้าจะยอมให้เจ้าเสร็จสักครั้ง!” เหมียวจื่อเผยกล่าวจบ นางก็ตบใบหน้าหยาบกร้านของม่อเส้าเฟิงไปสองหน เหมียวจื่อเผยลืมตาขึ้นอีกครั้ง แน่นอน สถานที่แห่งนี้มิใช่คฤหาสน์หลังงาม หากเป็นรถม้าที่มุ่งหน้าขึ้นเขาที่มีไว้สำหรับการพักผ่อนของเหล่าคุณชายในสกุลโม่ นางมาอยู่ที่นี่ ตามความต้องการของตน หลังจากทั้งขู่ และขอร้องให้ม่อเส้าเฟิง ช่วยเหลือนาง “คุณหนูเหตุใดถึงไม่ให้ข้า ไปส่งท่านที่คฤหาสน์สกุลโม่” ม่อเส้าเฟิงเอ่ยถาม หลังจากช่วยเช็ดเนื้อตัวหญิงสาว พร้อมสวมเสื้อผ้า และเขียนคิ้วโก่งให้นางงดงามยิ่งขึ้น “เกี้ยวของข้าไม่ได้ถูกพาเข้าไปในคฤหาสน์ ตามฤกษ์ที่วางไว้ เจ้ายังคิดว่า หากข้าเดินไปหน้าประตูใหญ่สกุลมู่ และแจ้งพวกเขาว่า ข้าคืออนุสาม คนเฝ้าด้านหน้า หรือแม้แต่คนงานคอยบอกเวลา จะไม่เอาไม้ไล่ตีข้าเหมือนหมูหมาหรอกหรือ ในเมื่อคนที่วางแผนให้ข้าต้องพบเรื่องร้ายแรง คือ อนุเฉิน หากนางรู้ว่าข้ายังมีชีวิตอยู่ ย่อมต้องหาวิธีปิดปากข้าเป็นแน่” “แล้วคุณหนูต้องการเช่นไร” “อีกไม่กี่วัน คุณชายทั้งสี่ ต้องเข้าคัดเลือกเจ้าบ้านน้อยคนใหม่ และข้าอยากพบพวกเขาสักเล็กน้อย ก่อนกลับคฤหาสน์หลังงามอย่างสมเกียรติ” เหมียวจื่อเผยกล่าวเช่นนั้น ด้วยนางรู้เรื่องราวในภายภาคหน้า ว่าจะมีสตรีหนึ่งคนที่ล่วงรู้แผนการลับๆ ของคุณชายทั้งสี่ และจากนั้นนางก็กลายเป็นอนุสุดที่รักของเจ้าบ้านมู่ “คุณหนู... หากทำเช่นนั้น จะไม่ผิดต่อศีลธรรมหรือ” หญิงสาวยิ้ม และริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสด เย้ายวนม่อเส้าเฟิงเหลือเกิน “อนุสามผู้นี้ อยากเป็นคนโปรดของบุรุษแซ่มู่ทุกคน และจากนั้นข้าจะก้าวขึ้นสู่จุดที่สูงสุด สำหรับเจ้า หากยังสนใจในตัวข้า ย่อมมีสักวันที่เราจะได้ถวิลหาความหลังด้วยกันอีก” ม่อเส้าเฟิงมองเหมียวจื่อเผยอย่างฉงน ก่อนเอ่ยถาม “แล้วคุณหนู จะปลอดภัยเมื่ออยู่ในตำหนักน้ำพุซีเฉอหรือ” “เมื่อข้าตัดสินใจใช้ชีวิตเช่นนี้ นอกจากชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ และเต็มไปด้วยคำครหา ข้าย่อมไขว่คว้าทุกอย่างได้ตามใจปรารถนาโดยใช้ความงามของตน” “คุณหนูมั่นใจถึงเพียงนั้น” “อาเฟิง...สตรี คนหนึ่งยอมแลกศักดิ์ศรีตนถึงเพียงนี้ ก็เพื่อนางจะก้าวสู่บัลลังก์ตั่งทอง นับจากนี้ ข้าจะเป็นนางพญา ที่ชี้นิ้วสั่งผู้อื่นให้นำสิ่งที่ข้าต้องการมากองแทบเท้า” ม่อเส้าเฟิงอึ้งอยู่สักหน่อย เหมียวจื่อเผยเป็นเพียงสตรี สิ่งที่ดีที่สุดของนางคือความงาม เช่นนี้นางจะก้าวขึ้นไปเป็นสตรีที่ทรงอำนาจได้อย่างไร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD