ถูกเล่นงานจากหลายฝ่าย ก็ทั้งฝ่ายในและนอกนั่นแหละ ก้อ พวกศรศิลป์ไม่กินกันกับฝ้ายนิล
ซึ่งมันดูจะเป็นเรื่องธรรมดาปกติแล้ว
ที่ฝ้ายนิลเองก็สงบใจ ไม่ถือสาหาความ
ถึงไม่ขยันไปหาเรื่อง แต่เรื่องก็แล่นแจ้นมาถึงตัวหล่อนจนได้ เพราะคนมันอยากจะหาเรื่อง
หากฝ้ายนิลนั้นทำตัวให้เยือกเย็น และสงบใจได้อย่างดี
และดูเหมือนจะบ่อยครั้ง ที่ฝ้ายนิลนั้นก็มักจะพูดในเชิงปลงๆกับเพื่อนสาวอย่างปวีณา
“งั้นยายมอส ฉันว่า เห็นที พวกเราต้องทำใจเอาไว้ล่ะ นอกจากจะใจเย็นลงกว่าเดิม เพราะไม่งั้นอารมณ์จะขาดผึงง่ายๆ”
น้ำเสียงของฝ้ายนิลที่เข้มแข็งและแข็งแกร่ง
และภาพเบื้องหน้านั่นเอง ที่เห็น คือรถยนต์คันสีดำที่แล่นปราดตรงหน้า
ทำให้เด็กสาวรู้สึกเคยคุ้น กับใบหน้าของคนขับ และเมื่อมองจ้องเหลือบไปดูท้ายรถหมายเลขทะเบียน
หญิงสาวยิ่งแน่ใจ ว่าใช่เมธา
พี่เขยจอมร้ายของหล่อนอย่างแน่นอน
มีผู้หญิงสาววัยขบเผาะหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งเคียงเป็นตุ๊กตาหน้ารถด้วย
หากว่าตอนนี้ นายเมธาจะมุ่งรถไปทางไหนกันล่ะ
เพราะนี่ตอนกลางวันแสกๆทีเดียว เขายังคิดกล้าที่จะทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงให้เห็นอีก ด้วยการพาผู้หญิงเข้าโรงแร ม
“มีอะไรหรือฝ้าย นั่นเธอพยายามมองหาอะไร”
“นั่นไง มอส ฉันมองเห็นนายเมธา ไอ้พี่เขยตัวร้าย ที่เวลานี้กลางวันแสกๆแท้ๆ ทำจู๋จี๋หนุงหนิงกันกับ แม่สาวคนไหนไม่รู้ ยังกะหนุ่มสาว นี่ ฉันจะขับรถตามไปดูเลยนะมอส ฉันอยากรู้นัก ทำไมมันต้องจองกรรมจองเวรกับพี่สาวของฉันแบบนี้ ฮึ ไม่มีความซื่อสัตย์ให้พี่สาวฉัน มันออกลายอย่างนี้ แล้วก็มีข้ออ้างให้ พี่พินทุมาลย์ของฉันว่ามันทำงานหนัก”
เมธา พี่เขยจอมร้าย ที่ฝ้ายนิลนั้นได้มองเห็นถนัดชัดเต็มตาทีเดียว ว่ามัน กำลังจะพาขับรถพาผู้หญิงเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด
นี่จิตใจมันเป็นคนหรือเปล่า มันคงจะจงใจ ที่จะทำให้พี่สาวของหล่อน นั้นล้มป่วยลงและให้ตายไปไวๆ
อ้อ มันจะได้หาใหม่น่ะสิ
และฝ้ายนิลนั้นทั้งแสนแค้น และเจ็บปวดแทนพี่สาวอย่างมากที่สุด
คิดว่ากลับไปถึงบ้านคืนนี้ หล่อนจะไปรออยู่ที่บ้านพี่สาว เพื่อดักพบมัน และก็รีบกระชากหน้ากากเลวๆออกมา ให้พี่สาวรับรู้จะได้ตาสว่าง
ขึ้นอยู่ที่พี่สาวจะรับรู้แค่ไหน มันคงจะส่อพิรุธออกมา ให้หล่อนได้สังเวชใจอีกครั้ง
แล้วฝ้ายนิลจะจ้องมองดูหน้าของมัน ว่าจะรู้สึกเป็นอย่างไร
จะปฏิเสธความจริงที่มันทำขึ้นมาไหม
ค่ำนี้เมื่อถึงเวลาที่จะต้องชำระความกับนายพี่เขยตัวแสบ และวันนี้เป็นไงก็เป็นกันสิ
หล่อนจะทำให้มันอับอายกับพฤติกรรมของมันเลยล่ะ นอกจากมันจะหน้าหนาหน้าด้านจริง
ถึงไม่ยอมรับกับการกระทำ คอยดูเถอะ
“พี่มิ้มคะ”เมื่อฝ้ายนิลเอ่ยขึ้น
ฝ่ายพินทุมาลย์รับรู้ว่าน้องสาวมาหาถึงบ้าน
“อ้าว ยายฝ้าย”
“ใช่ ค่ะ ฝ้ายเองมาเยี่ยมพี่มิ้ม”
และพินทุมาลย์ มีอาการเหมือนคนอ่อนเพลีย ขยับเนื้อตัวไม่ค่อยจะได้ ทำงานหนักไม่ได้
และหน้าตาดูซีดราวกับแผ่นกระดาษ เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้แล้ว
ก็เกิดความสงสารพี่สาวขึ้นมาอย่างจับใจ
และพี่สาวของหล่อนยังโดนนายเมธานั้นหลอกลวงอยู่ร่ำไป
มันหลอกด้วยความรัก ความหลง กับความเห็นแก่ตัวของมนุษย์เพศผู้
ที่ไม่อิ่มในกามรส ทำไม ผู้ชายพรรค์นี้
ช่างตายยากตายเย็นเสียจริงหนา
เพราะหล่อนคิดอย่างเหลืออด
แล้วนี่ นายเมธา ทำตัวเฟี้ยวฟ้าว อวดร่ำรวย ออกไปสุขสบาย
สำเริงสำราญอยู่นอกบ้าน
ทำตัวกระชุ่มกระชวยเหมือนเป็นหนุ่มวัยรุ่น
แต่ที่แท้เป็นโคแก่หาเคี้ยวหญ้าอ่อน
การที่ฝ้ายนิลมาที่นี่ เพื่อที่จะบอกกล่าวให้เมธารู้ ว่าคนอย่างเขาสมควรได้รับบทเรียนบ้าง
“แล้วนี่ เธอกินข้าว กินปลามาแล้วหรือยังล่ะยายฝ้าย”
และน้ำเสียงที่ค่อนข้างแหบ เหมือนไม่มีพลังในน้ำเสียงสักเท่าไหร่
ก็ยังดีที่พินทุมาลย์ยังสามารถพูดคุยได้
“แล้วนี่ เธอนอน ไม่หลับใช่ไหม ถึงได้มาหาพี่”
“ค่ะ เพราะฝ้ายยังไม่กลับเข้าบ้านเลย จะขอแวะเยี่ยมพี่ที่บ้านก่อน ”
“อ้าว แล้วกันนี่ มาแบบดึกๆอย่างนี้ ”
ทุกครั้งหากเป็นยามนี้นั้น ที่ห้องเช่าของฝ้ายนิล ก็จะเป็นช่วงที่หล่อนกำลังหลับพักผ่อนอย่างสุขารมย์
หรือไม่ก็ง่วนอยู่ที่หน้าโต๊ะเขียนหนังสือ เขียนบันทึกโน่นนี่ไปตามเรื่อง กับจัดข้าวของกะจุกกะจิกเล็กน้อยของผู้หญิงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
“ตอนนี้คุณ เมธา ยังไม่กลับ พี่เขยเธอ เขาบอกพี่ว่า เขาติดประชุมจ้ะ และก็ จะมีงานเลี้ยงสังสรรค์ต่อสักเล็กน้อยก่อนแล้วก็จะกลับ พี่เลยอยู่คนเดียว ”
และพินทุมาลย์พูดเหมือนคนอ่อนล้า ทั้งแสนเพลีย ละเหี่ยใจอยู่บ้างไม่น้อย พยายามนึกคำพูด ก็เพื่อไม่ให้น้องสาวสงสัย เรื่องในครอบครัว
แต่ผิดคาด เพราะว่าดวงตาของฝ้ายนิลนั้นมองมายังพี่สาว ด้วยความสงสัย และหล่อนก็นึกฉุนขึ้นมาอีก
ทันที นี่หนอ พี่สาวของหล่อน ก็ยังไปปกป้อง ไอ้คนเลวแบบนั้น ไว้อีกหรือ
พี่มิ้ม เพราะว่าหล่อนนั้นได้รู้เห็นมาแบบตำตาเลยว่า นายเมธาคิดไม่ซื่อ ไปทำระยำตำบอน ด้วยการพาผู้หญิงเข้าโรงแรม
นี่หล่อนก็กลัวว่าพี่สาวจะไปติดเชื้อโรคร้ายมาจากมันโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว และขณะนี้ตัวมันยังมีหน้ามาโกหกภรรยาที่บ้าน ว่าติดงานประชุม
“อ้อ งั้นคงได้ ติดประชุมกันทั้งเดือนนะสิคะพี่มิ้ม”
และฝ้ายนิลก็เอ่ยว่าอย่างประชดใส่
“ค่ะ แต่ ฝ้ายไม่รู้ว่าไปติดการประชุมหรือว่าแอบติดอย่างอื่นกันแน่ เอ คิดว่า เขาอาจจะกำลังติดสัดแทนติดการประชุมค่ะ เพราะฤดูนี้เป็นฤดูที่พวกสัตว์มันผสมพันธ์ก็เลยติดสัดไงคะ ไม่คิดเลยหรือคะว่า เขาอาจจะโกหก กุเรื่อง ขึ้นมาหลอกพี่”
และพินทุมาลย์ก็นิ่ง รู้ว่าน้องสาวพูดอะไรออกมา ซึ่งหล่อนพอเข้าใจ
เพราะฝ้ายนิลก็กระแทกแดกดันอย่างหนัก เพราะคิดว่าการที่หล่อนขี้โรค ทำให้สามีจึงไม่ดูแลเอาใจใส่เหมือนอย่างเดิม
ส่วนฝ้ายนิลเห็นว่า พี่สาวของหล่อน ออกจะใจเย็นมากเกินไป
ฝ้ายนิลรู้สึกร้อนรุ่มในใจ
เพราะสงสาร ในความอาภัพและรู้สึกสังเวชพี่สาว ที่ตกอยู่ในบ่วงกรรมแบบนี้ กับสามีเจ้าชู้ ที่แทบจะหาส่วนดีไม่ได้เลย
และหล่อนเลยแปลกใจนักว่าทำไมพี่พินทุมาลย์ พี่สาวจึงได้อดรนทนอยู่กับผู้ชายแบบนี้ได้หนอ
ฝ้ายนิลยอมรับหล่อนอยากจะแฉพฤติกรรมของเมธา
เพราะพินทุมาลย์นั้น ยังไงก็พี่สาวหล่อน
และหล่อนก็ไม่มองเห็นใครดีกว่า พี่สาวในไส้ของตัวเองแน่นอน
แล้วผู้มีร่างกายอ่อนแออย่างพินทุมาลย์ก็พูดขึ้นมาบ้าง
“นี่ วันนี้ เธอพูดแปลกนะยายฝ้าย รู้สึกว่าวันนี้เธอพูดแรงไปนะ”
อันที่จริง ฝ้ายนิลเองก็ต้องการจะลองถามเพื่อทดสอบจิตใจ
และอยากรู้สติสัมปชัญญะของพี่สาว เรื่องในการรับรู้ว่า ยังพอที่จะฟังและสามารถเข้าใจได้ไหม
ด้วยความขมขื่น และกล้ำกลืนที่รุมเร้า