ตอนที่ 5

1340 Words
ซึ่งจะว่าไปไม่มีใครดูน่าสงสารเท่าพี่สาวของหล่อนแล้วในขณะนี้ “ค่ะพี่มิ้ม” หญิงสาวพยักหน้ารับกับความจริง “ก็เพราะฝ้ายได้ไปเห็นมากับตาไงคะ นาย เมธา มันหลอกพี่ พอดีว่าหนูกับมอส ได้ขับรถผ่านไปเห็นเข้า ก็เลยรู้ว่า นายเมธามันขับรถพาอีหนูเข้าโรงแรมม่านรูด เรื่องแบบนี้ มันเลวร้ายมากนะคะ เพราะถ้าขืนปล่อยไว้ไม่จัดการ” และในขณะนี้น้ำตาของพินทุมาลย์ ได้ไหลและขังคลออยู่ข้างใน มีแต่ความขมขื่นและไม่อยากจะให้ฝ้ายนิลน้องสาวได้เห็น ซึ่งคำพูดแบบนี้ นั้นกรีดแทงใจคนเจ็บป่วยได้เจ็บแสบมากเหลือเกิน ที่น้องสาวพูด มันต้องมีมูลความจริงอย่างแน่นอน ปกติ น้องสาวไม่ใช่เป็นคนโกหกหล่อน แต่ถ้าเมธาคิดจะทำอย่างนั้นหรือทำมานานแล้ว หล่อนจะไปหวงห้ามอะไรเขาได้ เพราะพินทุมาลย์ ไม่มีปัญญาทำอะไรเขา อีกทั้งเรี่ยวแรงจะเดิน และกำลังวังชา ก็ไม่พร้อมที่จะสู้รบตบมือกับใครได้ “เชื่อ ฝ้ายเถอะนะคะ ฝ้ายไปเห็นอย่างนั้นจริง ตัดสินใจหย่าเถอะค่ะ เผื่อมันจะดีขึ้น สำหรับชีวิตพี่เอง ไอ้ ผู้ชายพรรค์นั้น ปล่อยมันไปตามเรื่องตามราวตามเวรตามกรรมของมันเถอะค่ะ อย่างน้อยพี่มิ้ม ก็ยังมีพ่อและแม่ แล้วก็หนู ที่ยังรักพี่อยู่เสมอ” หากฝ้ายนิลก็บอกออกมาจากความรู้สึกส่วนตัวในใจลึกๆด้วยจริงใจ ให้พี่สาวได้รับรู้ และในเวลาต่อมา ได้เสียงรถยนต์ ที่แล่นใกล้เข้ามาแล้ว เป็นรถของเมธาอย่างแน่ ในยามดึกนี้ เมื่อเด็กรับใช้เดินไปเปิดประตู แล้วรถคันนั้นก็แล่นเข้ามาจอดภายในโรงรถ หากว่าฝ้ายนิลนั้นได้เดินมาหยุดบริเวณที่มีแสงสว่างสาดส่องหน้าระเบียงบ้าน เป็นเทอเรซเล็กปลูกดอกไม้ประดับประดาสวยงาม เงาของคนที่เห็นนั้น ทำให้เมธามองแล้วก็กระพริบตา ครั้นเมื่อฝ้ายนิลมองเห็นร่างของเมธา พี่เขยที่เพิ่งพาตัวเองเดินสะโหลสะเหลกลับเข้ามาที่ประตูรั้วหน้าบ้านอีกครั้ง และเขาไขประตูเล็กเข้ามา เมื่อฝ้ายนิลมองเห็นร่างนั้นเดินมาตามทางยาวของพื้นคอนกรีต เงาร่างนั้นก็เห็นเด่นชัดแล้วว่าเป็นใคร เพราะสารรูปแบบนั้น เลยทำให้ฝ่ายนิลนั้นก็แทบที่จะเบือนใบหน้าออกไปทางด้านอื่น นี่ หากถ้าไม่มีเรื่องบางอย่าง ที่จะมาตกลงกับเมธาแล้วล่ะก้อ จ้างให้หล่อนจะไม่เสียเวลา หรือเสียสละตัวเอง เพื่อนั่งรอคอยผู้ชายพรรค์นี้หรอก เนื่องจากฝ้ายนิลรู้สึกขยะแขยงเต็มทีเลยล่ะ ในพฤติกรรมลวงโลกของนายเมธา นั่นเป็นเพราะพี่สาวของหล่อนได้หลวมตัวไปแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ มันรักพี่สาวของหล่อนหรือเปล่า? หรือหวังแค่ปอกลอกทรัพย์สมบัติ ถ้าขืนปล่อยเอาไว้นาน นายเมธาอาจจะเหลิง และเหิมเกริมทำตัวให้เรื่องมากกว่านี้ และตอนนี้เมธาทำตัวเหมือนจะยิ่งใหญ่คับบ้าน “อ้อ น้องเมียคนสวยนี่เอง ทีแรกนึกว่าจะใครเสียอีก มาเยี่ยมพี่สาวหรือจ้ะ อ๊ะ หรือว่า อยากจะมาเห็นหน้าพี่เขยอย่างพี่” และฝ้ายนิลนั้นก็แทบจะอดรนทนไม่ได้กับวาจาแทะโลมของมัน แต่ต้องอดทน ดูเข้าเถอะ ปาก อัปรีย์ของมัน ช่างพูดจาอุบาทว์หยาบคายได้ถึงเพียงนี้ ทำให้ฝ้ายนิลต้องกลั้นลมหายใจ ขยะแขยงเต็มที่ เพราะต้องมายืนอยู่ใกล้มัน กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งไปหมด “อ้าว ไม่ยอมพูดอีก” นั่นมันจงใจ ที่จะยียวน กวนหล่อนอีก “ปกตินี่ ปากจัดไม่ใช่หรือ หรือว่าเปลี่ยนใจจะมาทำดีพูดดีกับพี่เขยคนนี้เสียแล้วใช่ไหมหนูฝ้าย” แค่คำพูดคำจาก็น่าเกลียดยิ่งนัก ฝ้ายนิลอุตส่าห์อดกลั้น อารมณ์ของฝ้ายนิล มันไม่ได้ใจเย็นอย่างที่หล่อนพยายามข่มเอาไว้เลย มีแต่อยากจะด่ากราดคนเบื้องหน้า แต่ต้องรอจังหวะ ตบมันซักฉาดดีไหม จะได้รู้รสมือหล่อน ด้วยสายตาหยาบคายแบบนั้นผ่านเนื้อตัวหล่อน จะมีอะไรน่าเกลียด ขยะแขยงเท่านี้ไหม? ฝ้ายนิลเอง ชักไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว แต่ถ้าหล่อนยังพูดธุระไม่จบ หล่อนก็คิดว่า ยังกลับไม่ได้เช่นกัน เพราะเท่าที่ตั้งใจอยู่เพื่อกระชากหน้ากากของเมธา เท่านั้นเอง ฝ้ายนิลใช้ความเงียบชั่วครู่ก่อนจะเอ่ย และสำหรับเมธานั้นไม่ได้ทำให้หล่อนกลัวมันเลยสักนิดเดียว “ความจริง ฉันไม่มีธุระอะไรจะพูดกับคนอย่างแกหรอก ถ้าหากมันไม่จำเป็นจริงๆ และก็จะไม่มานั่งถ่างตาเพื่อรอคุยธุระกับแก” หากฝ้ายนิลเป็นฝ่ายเริ่มเปิดฉากขึ้นมา แววตาของหญิงสาวดุวาวหล่อนเขม็งจ้อง เหมือนนางเสือร้ายมุ่งไปทางเมธา เลยทำให้เมธาตกใจไปครู่หนึ่ง “นัง ฝ้าย” เมธาอุทานพร้อมขบกรามบดเข้าหากัน ก่อนจ้องเขม็งใส่หล่อน “ฮึ แล้วทำไม ไอ้พี่เขยใจชั่ว เพราะวันนี้ฉันจะลากไส้เน่าๆขุดเอาสันดานของแกออกมาให้หมด” ครั้นเมื่อตีสีหน้าเขม็งแล้ว เมธาคิดว่าเขาน่าจะใจเย็น ใจอ่อนลงมากกว่านี้ เพราะมันเป็นวิธีการที่หลอกเหยื่อให้ตายใจได้ง่าย ตอนนี้เขาเหมือนกับถูกน้องสาวภรรยาตบหน้าไปหนึ่งฉาด แล้วอีกอย่างนั้นเขาก็เกรงกลัวฝ้ายนิลเหมือนกัน ไม่กล้าพอที่จะเข้าใกล้ ฝ้ายนิล น้องสาวของภรรยานั้นใจแกร่งใจแข็งยิ่งกว่าภรรยาเขาเสียอีก “นี่พูดไม่เพราะเลย นะน้องสาว กับพี่เขยของตัวเองนี่ ฉันจะบอกให้ แกอย่าลืมนะ นังฝ้ายว่า ฉันเป็นผัวของพี่สาวแก ถ้าจะพูดจาอะไรให้ระวังปากบ้าง” “อ๋อ ไม่หรอกนะ ฉันคิดว่าแกเป็นสุนัขขี้เรื้อนตัวหนึ่งมากกว่า และคนอย่างแก มันห่างไกลจากคำว่าสามีที่ดีนักนัก อย่าเอาคำนี้มาใช้ดีกว่า คนที่เหมาะกับแก มากที่สุดคือ สุนัขจิ้งจอก ฉันไม่อยากให้พี่สาวของฉัน ทนอยู่กับพวกสัตว์ที่คลำไม่เป็นหาง เป็นรวบเอามาทำเมีย” และแววตาของหญิงสาวไม่ได้สะทกสะท้าน แม้แต่เพียงนิด มันเหมือนใบมีดโกนที่บาดคมกริบใจของคนฟัง “แล้วอย่านึกนะว่า ฉันจะไม่รู้เรื่อง ระยำตำบอนของแก ที่พาผู้หญิงเข้าโรงแรม” ฝ้ายนิลก็ใส่อย่างไม่ยั้งอีก ฝ่ายเมธาถึงกับผงะ และตกใจเหมือนกัน ที่ฝ้ายนิลน้องสาวของภรรยาไปเห็นภาพนั้น มันถึงกับขบกรามแน่นบดเข้าหากันอีกครั้ง จนขึ้นเป็นสันนูนอย่างเห็นได้ชัด “อย่านะ อย่ามาเล่ห์เหลี่ยม ใช้วิธีสกปรก ขืนแก แตะต้องตัวฉันละก็ ฉันจะขอสู้แค่ตาย” ซึ่งฝ้ายนิลกล่าวเสียงเข้มออกไปทันที เพราะรู้ว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง หล่อนจะป้องกันตัวเองให้ถึงที่สุด และรู้อยู่ว่าคนขี้ขลาดตาขาวอย่างเมธา มันไม่กล้าทำอะไรหล่อนหรอก อีกอย่างในกระเป๋าสะพายของหล่อนมีอาวุธปืนอยู่ ถ้ามันกล้าแหยมเข้ามา ก็จะได้ลองของดีอย่างแน่นอน เมธาถึงกับกระฟัดกระเฟียดขึ้นมาทันที นี่ น้องเมียของเขา ชักจะรู้เรื่องมากเกินไปแล้ว เมธาทั้งพลุ่งพล่านในใจ และกระสับกระส่าย เหมือนคนวัวสันหลังหวะ เมื่อถูกจับผิดได้ แต่คนอย่างเมธาหรือจะยอมรับออกมา ได้อย่างง่ายดาย “ชะ ช้า นี่ แกมีหลักฐานอะไรที่จะมาปรักปรำให้ร้ายใส่ฉันว่าฉันพาผู้หญิงเข้าโรงแรม ฮึ นังฝ้าย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD