ตอนที่ ๕ เป่าเป้ยสาวงามแห่งหยู่มู่หลาง 2

1145 Words
ตอนที่ ๕ เป่าเป้ยสาวงามแห่งหยู่มู่หลาง จวนตระกูลหยาง หยางฮุยหมิ่นหลังจากกลับจากตลาดเขาก็เอาแต่นึกถึงหน้าหญิงสาวที่วิ่งชนเขา “หญิงผู้นั้นเหตุใดถึงได้งามจนข้าอยากได้มาครอบครอง” หยางฮุ่ยหมิ่นนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างสุนทรี “ฮุ่ยหมิ่นพรุ่งนี้เจ้าต้องไปออกตรวจความเรียบร้อยหมู่บ้านหยู่มู่หลางแทนข้า” หยางซู่ฮุ่ยเจ้าพระยาแห่งตระกูลหยางบอกกับลูกชายคนโตของเขาให้ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบแทนเขา “ขอรับท่านพ่อข้าจะทำตามที่ท่านบอก” ฮุ่ยหมิ่นพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องพร้อมกับสั่งให้นางสนมมาปรนนิบัติเขา นางสนมของเขามีมากมายจนไม่ซ้ำหน้าช่างแตกต่างจากคุณชายรองยิ่งนัก หมู่บ้านหยู่มู่หลาง หยางฮุ่ยหมิ่นออกสำรวจหมู่บ้านตามที่พ่อของเขาสั่งพร้อมกับคนสนิทอีกหนึ่งคน “ท่านพี่เข้าเรือนกันเถอะข้ากลัวคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหยางข้าเคยได้ยินว่าถ้าเขาไม่พอใจเขาจะใช้ดาบฟันเราจนตายกับที่ข้ากลัวข้าขอเข้าเรือนดีกว่า” ชาวบ้านต่างหวาดกลัวเมื่อหยางฮุยหมิ่นเดินผ่าน “พวกเจ้าซุบซิบอะไรกันไม่เห็นหรือยังไงว่าคุณชายกำลังเดินมาอยากคอขาดหรือยังไงเงียบ ๆ ไว้” ชาวบ้านอีกคนเดินมาบอก เป่าเป้ยกับแม่ของนางเพิ่งกลับมาจากสวนผักจึงเดินสวนกันกับหยางฮุ่ยหมิ่นอย่างไม่ได้ตั้งใจเมื่ออุ่ยหมิ่นเห็นนางก็รีบคว้าแขนของนางให้หยุดเดินแต่แม่ของเป่าเป้ยจินซู่ฮุ่ยกลับตกใจอย่างมากเพราะเธอคิดว่าคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหยางจะจับนางไปฆ่าโทษฐานที่ไปวิ่งชนเมื่อวานนี้ “ปล่อยข้านะจับข้าไว้ทำไม” เป่าเป้ยพยายามสะบัดแขนของเธอให้หลุดจากหยางฮุ่ยหมิ่นแต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเหนื่อย “ปล่อยลูกของข้าแล้วจับตัวข้าไปแทนเถอะนะ” แม่ของนางร้องไห้อ้อนวอนให้หยางฮุ่ยหมิ่นปล่อยบุตรสาวของนาง “ข้าแค่อยากถามว่าเจ้าชื่ออะไรเหตุใดแม่ของเจ้าต้องร้องไห้ฟูมฟายจนชาวบ้านมามุงดูกันเต็มไปหมดบอกแม่ของเจ้าให้หยุดร้องไห้สักทีสิ “ช่วยด้วยช่วยด้วยชายผู้นี้จะจับตัวข้าไปช่วยด้วย ๆ ข้าไม่อยากไปกับเขาช่วยข้าด้วย” เป่าเป้ยไม่ทำตามที่หยางฮุ่ยหมิ่นสั่งแต่นางกลับร้องออกมาเสียงดังเพื่อเรียกให้คนช่วย “ปล่อยนางเดี๋ยวนี้นะ นางทำผิดอันใดเจ้าถึงต้องมาบังคับนางให้ไปกับเจ้าด้วย” ชายหนุ่มนิรนามที่มีผ้าปิดหน้าเห็นแค่ดวงตาเท่านั้นเดินออกมาพูดเสียงดัง “แล้วเจ้าเป็นใครเหตุใดต้องเข้ามายุ่งเรื่องของข้ากับแม่นางคนนี้ด้วย” หยางฮุ่ยหมิ่นถามกลับทันที “ข้าจะเป็นใครไม่เกี่ยวกับเจ้าแต่ตอนนี้เจ้าต้องปล่อยแม่นางผู้นั้นแล้วมาสู้กับข้าว่าเจ้าจะเก่งอย่างที่เก่งกับแม่นางผู้นั้นหรือไม่” ชายนิรนามพูดจบวิ่งออกไปจากตรงนั้น หยางฮุ่ยหมิ่นที่ได้ยินคำเหยียดหยามก็ไม่อาจทนต่อคำหยามเหยียดได้อีกวิ่งตามชายนิรนามผู้นั้นไปทันที “หยุดเดี๋ยวนี้เจ้ากล้าดียังไงมาพูดหยามศักดิ์ศรีข้าแล้วเจ้าดีเด่นอันใดถึงไม่กล้าเปิดหน้าเปิดตาออกมาสู้กับข้าหรือเจ้าอัปลักษณ์จนไม่กล้าให้ใครเห็นใบหน้าของเจ้า” “ถ้าข้าอัปลักษณ์เจ้าก็คงอัปลักษณ์ไม่แพ้ข้าเพราะใจของเจ้ามันอัปลักษณ์ยิ่งนักเจ้ากล้าทำลายแม้กระทั่งน้องในไส้ของเจ้า” ชายนิรนามพูดจบก็ชักดาบออกมาต่อสู้กับหยางฮุ่ยหมิ่น ทั้งสองต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายฝีมือดาบของทั้งสองไม่แพ้กัน คนที่ต่อสู้กับหยางฮุ่ยหมิ่นได้มีแค่หยางอู่เฌิ๋นน้องชายของเขาเท่านั้น หยางฮุ่ยหมิ่นที่มัวแต่คิดว่าชายคนนี้เป็นใครและเขานึกขึ้นได้ว่าฝีมือดาบที่เก่งกล้าขนาดนี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจากหยางอู่เฌิ๋นแต่กว่าที่ฮุ่ยหมิ่นจะได้สติเขากลับโดนอู่เฌิ๋นฟันไปที่แขนจนเป็นแผลฉกรรจ์ เมื่ออู่เฌิ๋นทำอย่างนั้นแล้วเขาก็รีบวิ่งหนีหายทันที “คุณชายรองท่านไปไหนมาแล้วทำไมเหงื่อถึงได้ท่วมตัวอย่างนี้” ซีซวนเอ่ยถามเมื่อเห็นเจ้านายของเขากลับมาสภาพเหมือนพึ่งกลับมาจากออกรบ “ข้าไปต่อสู้กับพี่ใหญ่มา” “ไอหยา คุณชายว่าอย่างไรนะขอรับ” “พี่ชายใหญ่จับแม่นางที่เข้าบ้านเราวันนั้นไว้ข้าเลยเข้าไปช่วยแต่พี่ใหญ่ไม่รู้ว่าเป็นข้า ข้าใช้ผ้าปิดหน้าไว้” “ค่อยโล่งใจหน่อย ข้าน้อยเตรียมอาหารยามอู่ไว้ให้ท่านแล้ว ข้ากำลังจะออกไปหาฟืนมาไว้ก่อไฟผิง” ซีซวนพูดจบกำลังจะเดินออกไป “ข้าไปด้วยข้ายังไม่หิวอีกอย่างข้าไม่อยากอยู่ที่นี้ถ้าท่านพี่มาเห็นข้าท่านพี่น่าจะไม่ปล่อยข้าไว้แน่” ทั้งสองออกเดินทางทันทีเป็นโชคดีของทั้งสอง หลังจากที่อู่เฌิ๋นกับซีซวนออกไปฮุ่ยหมิ่นก็เดินทางมาถึงท้ายหมู่บ้านแล้วออกจากหมู่บ้านไปอย่างรวดเร็วเพราะฮุ่ยหมิ่นมีแผลที่ค่อนข้างฉกรรจ์พอสมควร “ท่านแม่เหตุใดคุณชายผู้นั้นชอบมายุ่งกับข้าอยู่เรื่อยข้าไปทำอะไรให้เขานักหนาถึงต้องมายุ่งกับข้า ข้าเกลียดใบหน้าเคร่งขรึมของเขายิ่งนัก” เป่าเป้ยกำลังทำอาหารบ่นพึมพำให้แม่ของเขาฟัง “เจ้าไปวิ่งชนคุณชายใหญ่เขาถึงได้ตามมาจับตัวเจ้าอย่างไรล่ะโชคดีที่มีคนมาช่วยเจ้าไว้ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาเอาเรื่องเจ้าวันไหน” “เจ้าอย่าดื้อให้มันมากนะเป่าเป้ยพ่อกับแม่ก็แก่ชราขึ้นไปทุกวันไม่รู้จะอยู่กับเจ้าได้นานแค่ไหน ไม่มีพ่อกับแม่ใครจะมาปกป้องเจ้า” พ่อของนางหนักใจที่อยู่ ๆ บุตรสาวที่เคยเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้กลายเป็นสาวแกร่งเสียอย่างนั้น “ก็ชายหนุ่มหน้ากากดำผู้นั้นไงจะคอยปกป้องข้า ท่านพ่อท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก อีกอย่างข้าดูแลตัวเองได้สบายอยู่แล้ว”เป่าเป้ยพูดไปยกอาหารมาวางที่โต๊ะไปก่อนจะนั่งกินข้าวข้าง ๆ พ่อกับแม่ของนาง พ่อกับแม่ได้แต่ส่ายหัวให้กับความดื้อไม่รู้จักโตของนางตั้งแต่หายจากไข้ครั้งนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD