บทที่8 หางานให้

2380 Words
[เจ้านาย ขอทานคนนั้นตามมาเจ้าค่ะ] ดอกเหมยหันไปมองด้านหลัง เด็กหนุ่มที่เดินตามมารีบแอบหลบนั่งลง ราวกับกลัวว่าเธอจะเห็น ‘สั่งซื้อชุดสกินแคร์ชุดนึงก่อน แล้วในร้านมีอะไรบ้างยะ’ ดอกเหมยแหว ไม่ได้สนใจว่าเด็กหนุ่มจะตามมารึเปล่า เธอปักธงไว้แล้ว ยังไงเขาก็ต้องตามเธอมาล่ะถูกแล้ว ‘ฉันสวยและเก่งมาก ถึงไม่มีเงินฉันก็อยู่ได้... ไงล่ะพระเจ้าบ้า’ ดอกเหมยอดยิ้มขึ้นมาอย่างน่ากลัวไม่ได้ จนเหม่ยลู่เองเสียวสันหลังวาบ [ส่งให้ในย่ามแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้แนะนำตำราสกิลต่างๆ ซื้อตำราสกิลการเดินสักเล่มมั้ยคะท่านหญิง สวยๆ2500แต้ม] ดอกเหมยหันส่งสายตาค้อนเหม่ยลู่แทบไม่ทัน แปลว่าการเดินของเธอคงแย่มากจริงๆ ‘อืม เอามาสิ เหลือ200แต้ม ซื้อไรได้บ้างล่ะ’ ว่าแล้วก็หันไปมองด้านหลังอีกครั้ง เพราะตอนนี้พวกเธอออกมานอกเขตตลาดแล้ว เกือบจะเข้าป่าแล้ว นึกสังสัยว่าเด็กหนุ่มจะตามมาอีกมั้ย และแน่นอนว่าเด็กหนุ่มรีบหลบสายตาเธออย่างเร็ว ทำเป็นเดินชมนกชมไม้ เตะพื้นเล่น เพราะไม่มีอะไรใกล้ๆให้กำบังกายได้เลย ‘เออ ตามมาจริงๆแฮะ ตกเด็กนี่ง่ายจริงๆ’ ว่าแล้วก็เอามือขึ้นเกาคาง นึกไม่ถึงว่าจะมีคนบ้าจี้ตามเธอมาจริงๆด้วย เพราะสภาพเธอตอนนี้ ดูไม่ได้น่าเชื่อถืออะไรเลยสักนิด เพราะใกล้ค่ำเต็มที ดอกเหมยเร่งฝีเท้าอีก ต้องเดินเกือบหนึ่งเค่อเพื่อเข้าไปถึงต้นน้ำ ที่เธอพักมาตลอด5วัน ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะทำน้ำมันมะพร้าวเพิ่ม เพื่อเอามากลั่นน้ำมันหอมระเหยจากตระไคร้ นอกจากป้องกันแมลงแล้ว ดอกเหมยยังเปลี่ยนสูตร ใช้น้ำมันหอมละเหยแทนตระไคร้สดๆ ผสมในน้ำยาล้างหน้าแทน อ่อนโยนต่อผิวมากขึ้น ดอกเหมยนั่งตุบลงข้างลำธาร เด็กหนุ่มคนนั้นนั่งอยู่หลังต้นไม้ ไม่ห่างจากริมน้ำมากนัก แต่บอกเลยว่าพออาทิตย์ตกดินแล้ว เขาจะต้องลำบากแน่ๆ เพราะยิ่งอยู่ในป่า ยุงยิ่งเยอะเพราะลมโกรกไม่ถึง [ไม่เรียกเขามานั่งด้วยหรือคะ น่าสงสาร] เหม่ยลู่พูดขึ้น ดอกเหมยหันไปมองเด็กหนุ่มที่นั่งตบยุง จะสงสารก็สงสารล่ะ แต่คนเล่นตัวอย่างนี้มันน่า... ‘เดี๋ยวพอเขาเผลอ ก็จุดไฟเลยนะ ฉันไปเก็บสับปะรดมากินหน่อยดีกว่า’ วันนี้เธอว่าจะไม่ล่าปลา เพราะยังมีที่ห่อเก็บไว้เมื่อเช้าเหลืออยู่ แต่อยากกินของหวานมากกว่า สับปะรดที่นี่มีรสหวานและแสบลิ้นง่ายมาก ดังนั้นกินแค่นิดหน่อยก็พอดับกระหายได้แล้ว ถ้าไม่อยากแสบลิ้นล่ะนะ ดอกเหมยก้มๆเงยๆแถบกอสับปะรด ก่อนจะพยายามดึงหัวมันออกมา เพราะเป็นหัวใหญ่ที่หมายตามาหลายวันแล้ว และวันนี้มันก็สุกพอดี “อื้ด~” กัดฟัน หลับตาแน่น พร้อมกับทิ้งแรงกายทั้งหมดมาทางด้านหลัง เพื่อเอาชนะสัปปะรดจอมดื้อดึงให้ได้ ‘รู้งี้เอามีดมาดีกว่า’ ดอกเหมยอดที่จะโอดไม่ได้ “อร้าย!” พลั่ก เสียงเหมือนเธอกระแทกพื้นดังขึ้น ดอกเหมยค่อยๆลืมตาขึ้น ไม่รับรู้ถึงความเจ็บตูด เพียงแค่จุกๆเท่านั้น ที่สัมผัสที่อยู่ด้านหลังกลับนุ่มนิ่ม เธอเบิกตาโพรงเมื่อคิดว่ามีอีกคนที่อยู่ในป่า แถมตอนนี้สองมือเขาก็จับหน่มน้มของเธออยู่ “กรี๊ด! ปล่อยนะ” ดอกเหมยสะบัดตัว กลิ้งไปอีกทาง สัปปะรดก็กลิ้งไปอีกทาง เธอหันไปมองคนที่แสดงสีหน้าเจ็บปวด แต่ไม่พูดอะไรสักแอะ ‘ฮือ ฉันอ้วนจริงๆใช่มั้ย ถึงทำหน้าอย่างนั้น’ ดอกเหมยตั้งสติได้ คลานเข่าเข้าไปดูอาการเขา “เป็นไงบ้าง” ว่าแล้วมือก็จับหมับเข้าที่อกแน่นๆของเด็กหนุ่ม สายตาไล่มองสำรวจจากหน้า เรื่อยลงมาตามลำคอแกร่ง ผ่านไหปลาร้าที่เห็นชัดเพราะความผอม อกแกร่งกว้างขาวจัดจนแสบตา พรืด.... อย่างกับเขื่อนแตก ดอกเหมยรู้สึกเหมือนตัวเองเขินจนเลือดกำเดาแทบไหล หายใจแรงอย่างกับวิญญาณชะนีขึ้นคานตอนเจอผู้งานดี เข้าสิง ‘ใจเย็น ใจเย็น นี่เด็ก’ ท่องอย่างกับท่อง พุธ โธ “เป็นไงบ้าง ลุกก่อน ” ดอกเหมยพยุงเขาขึ้น หันหน้าไปอีกด้านไม่อยากจะเห็นเรือนร่างของเด็กหนุ่มอีกแล้ว เด็กหนุ่มๆนี่มันดีจังเลย คิดแล้วก็รู้สึกแปลกๆ นี่เธอกักเก็บความหื่นไว้ที่ไหนตลอด50ปีที่ผ่านมาในชีวิตกันเนี่ย [เจ้านาย เป็นอย่างไรบ้างคะ ทำไมออกมาสภาพนี้กันล่ะ ได้กันแล้วเหรอ หือ ไม่นิ แต้มไม่ขึ้น]เสียงนกเสียงกาดังขึ้นในหูเหมือนจะหลอกหลอน ตัวเหม่ยลู่เองก็บินวนหน้าวนหลัง พัลวัลไปหมด ‘เงียบๆก่อน เข้ามุมไปเลยหล่อน’ ดอกเหมยรีบปราม นกน้อยบินพรึ่บๆไปนั่งห่างๆ หันหลังให้ ก่อนจะหันมามองค้อนเจ้านายทีหนึ่งก่อนจะสะบัดหน้าหนีไป ‘เออ ขี้งอนชะมัดเลยผู้ช่วยตู’ ดอกเหมยได้แต่เกาหัว ก่อนจะมองเด็กหนุ่มที่มีรอยถลอกที่ข้อศอกทั้งสอง เธอเดินไปหยิบชามไปตักน้ำ ก่อนจะเดินไปเด็ดใบบัวบก นำมาขยำๆจนได้น้ำออกมา ก่อนจะใช้น้ำนั้นเช็ดแผลถลอกให้เขา “…” เด็กหนุ่มสะดุ้ง เมื่อความเย็นของน้ำแตะต้องแผล ก่อนจะนั่งนิ่งๆไม่ไหวติง ให้หญิงสาวทำแผลให้ ดอกเหมยโปะกากใบบัวบกที่ขยำลงบนแผล ก่อนจะเอาผ้ามาพันไว้ เป็นขั้นตอนสุดท้าย “เอาล่ะ ขอบใจนะที่ช่วยข้า ถึงจะไม่ค่อยจำเป็นก็เถอะ” คำหลังดอกเหมยพูดเบาๆ แต่ก็พอจะให้ฝ่ายตรงข้ามได้ยิน เด็กหนุ่มได้แต่ก้มหน้างุดๆ ดอกเหมยเดินกลับเข้าป่า ไปหยิบสับปะรดมาปอก ก่อนจะยื่นให้เด็กหนุ่ม พร้อมกับห่อปลาย่างอีกห่อ “ถ้าจะกินน้ำ ก็ใช้กระบอกไปตักกินที่ลำธารได้เลย ที่นี่เป็นต้นน้ำ” เธอยิ้มให้เขานิดๆ เด็กหนุ่มชะงักค้าง ก่อนจะหยิบกระบอกน้ำไปสองอัน ก้มลงตักน้ำ ก่อนจะเอามาวางไว้ให้หญิงสาวด้วย ‘อื้อ ค่อยคุ้มที่ลงทุนให้ข้าวให้ปลาหน่อย อย่างน้อยก็รู้จักตักน้ำให้กินแหะ’ ดอกเหมยพยักหน้ารับเบาๆ พอใจกับท่าทางตอบรับ ซึ่งแปลว่าเด็กหนุ่มจะยอมติดตามเธอแล้ว “ชื่ออะไร” หลังจากกินข้าวเสร็จ ดอกเหมยรีบถาม “...” เด็กหนุ่มส่ายหน้า “งั้นชื่อ หานตง เป็นยังไง” ดอกเหมยพูดพร้อมกับยิ้มพริ้ม จริงๆชื่อนี้เป็นชื่อที่เธอเตรียมใส่รายละเอียดตัวละคร คาแร็คเตอร์ของเด็กหนุ่ม ก็พอจะใส่ชื่อนี้ได้นะ เด็กหนุ่มมองหญิงสาว เจ้าชีวิตของเขาด้วยสายตาใสซื่อ นางงามจริงๆ ยิ่งพออยู่คนเดียวเดี่ยวๆ ไม่ต้องเปรียบเทียบกับผู้ใดแล้ว นางงามเกินที่จะเปรียบด้วยซ้ำ “ข้าชื่อ เหม่ยเสี้ยว หญิงอัปลักษณ์ล่มเมือง” คำหลังดอกเหมยแค่นยิ้ม ก่อนจะยิ้มกว้างๆให้เขา “ตามตัวเจ้ามีรอยฟกช้ำ คงจะโดนดังที่คนอย่างพวกเราโดนสินะ” ดอกเหมยเอ่ยถาม นิ้วเรียวไล้ผิวกายของเขาอย่างสงสาร แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับหน้าขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่ารัก อ่า เด็กหนุ่มๆนี่ดีจริงๆเลยนะ “ใช้น้ำนี้พอกไว้ทั้งตัว แล้วพรุ่งนี้เช้าจะค่อยๆทุเลาลง” ดอกเหมยยื่นน้ำในชาม ซึ่งเป็นน้ำใบบัวบก ก่อนจะบีบน้ำมะนาวใส่ลงไปด้วย “เจ้าเป็นชาย ผิวกายหยาบกว่าข้า ไม่ต้องคำนึงมากก็ได้มั้ง หรือจะใช้ด้วย” ดอกเหมยยกชามครีมทาผิวของเธอขึ้นมา เป็นครีมที่เธอทำขึ้นมาเอง แต่เพราะตอนนี้คงไม่ได้ใช้แล้ว เลยคิดจะยกให้เขา เด็กหนุ่มพยักหน้า ดอกเหมยเลยโยนทุกอย่างให้เขา ก่อนจะอธิบายวิธีใช้ เด็กหนุ่มได้แต่งง เขาไม่ได้บอกสักคำว่าจะทำ แต่หญิงสาวกลับคะยั้นคะยอ จะให้เขาทำตามที่เธอบอกให้ได้ เมื่อนายสาวสั่งแล้ว เขาก็ต้องทำตามด้วยสิ [ถึงเวลานอน!] เสียงกระแทกกระทั้นของนกน้อยที่ยังงอนอยู่ แถมตอนนี้ยังพ่วงตำแหน่งนกหัวเน่าไปด้วย เพราะดอกเหมยไม่สนใจคุยกับมันสักนิด ‘เดี๋ยวก่อน แล้วตำราสกิลการเดินเล่า ส่งมารึยัง’ ดอกเหมยพูดค้าน ก่อนที่ย่ามเธอจะตุงขึ้น นกน้อยเหม่ยลู่หันมามองค้อนนิดๆ ก่อนจะสะบัดคอหนี ทำเอาดอกเหมยคอเคล็ดแทน “วันนี้เข้านอนก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน” ดอกเหมยทิ้งตัวลงนอน พอได้ยินว่าเวลานอนทีไร ร่างกายของเธออย่างกับโดนปิดสวิตส์แน่ะ หนุ่มน้อยนอนมองหน้าเจ้าชีวิตของตนอยู่นานสองนาน โดยมีเพียงกองไฟเท่านั้นที่กั้นกลางระหว่างเขา กับเธอ จนกระทั่งเขาผล็อยหลับไป เนื่องจากเป็นวันที่ได้กินอิ่มท้องที่สุด ตั้งแต่จำความได้ .. ดอกเหมยตื่นมาในตอนเช้า ลงไปสระผมด้วยชุดสกินแคร์ที่ได้มาเมื่อวานอย่างสบายใจ ก่อนจะขึ้นมาทาครีม ไม่ลืมที่จะโปะตัวเองด้วยดินสอพอง เพราะวันนี้เธอไม่คิดจะออกจากป่าไป หานตงตื่นนานแล้ว แต่เพราะได้ยินเสียงนางอาบน้ำจึงทำเป็นหลับต่อ ให้นายของตนอาบน้ำให้สบายกายไปก่อน เมื่อเสียงเงียบไปเขาก็ลืมตาขึ้น ก่อนจะพบว่าเธอกำลังนั่งทาสิ่งที่เรียกว่าครีม อยู่ตรงหน้าเขา มือบางไล้เนื้อครีมไปตามผิวกาย เขาอดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้ ก่อนจะรีบหันตัวไปอีกด้านเพื่อจะได้ไม่เห็น “ตื่นได้แล้วหานตง นอนตื่นสายกว่าข้าได้ยังไงกัน” ดอกเหมยเอ่ยเรียกเด็กหนุ่ม ไม่ได้รู้เลยว่าเขาตื่นมาตั้งนานแล้ว นอกจากกายจะตื่น ตอนนี้ยังตื่นใจอีกด้วย “...” เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะรับเครื่องประทินผิวจากหญิงสาว เพื่อไปขัดผิวบ้าง ดอกเหมยมองชายหนุ่มที่เปลือยอกลงอาบน้ำ ค้างอยู่อย่างนั้น ถ้าเธอไม่ได้เจอเขาในสภาพขอทาน คงนึกว่าเขาเป็นคุณชายตระกูลไหนเข้า เพราะเขาผิวพรรณดีจนหญิงสาวอย่างเธอยังอิจฉา หานตงมองหญิงสาวที่โปะตัวด้วยอะไรสักอย่าง จนขาวโพลนทั้งตัว ดูไม่น่าดูเอาเสียเลย “ไม่ต้องมอง มานี่ เจ้าก็ต้องโปะ เอาไปโปะกายไว้ซะ” ดอกเหมยยื่นชามดินสอพองให้เขา ก่อนจะไล่ให้ไปทำธุระให้เสร็จ เธอพาเขาเดินเข้าป่า หลังจากแดดออกดีแล้ว จนถึงจุดที่เธอเก็บตระไคร้เป็นประจำ รวมถึงมะกรูดมะนาว และมะพร้าวด้วย “ข้าจะทำน้ำมันหอมขาย เริ่มจากกลิ่นนี้..” ดอกเหมยยื่นขวดยาซึ่งมีน้ำมันตระไคร้อยู่ด้านในค่อนขวดให้เขาดม หางตงพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะแบกของที่เก็บมาทั้งหมดให้ดีขึ้น ถึงจะหนักแต่เขาก็จะอดทน เพื่อเจ้านายของเขา หญิงสาวแสนใจดีที่หยิบยื่นชีวิตใหม่มาให้เขา ดอกเหมยมอบหน้าที่ปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว และตำสมุนไพรให้หานตง เขาไม่บ่นเลยสักคำ แถมยังอยากจะลงไปจับปลาเองเสียด้วย ดูเป็นเด็กดีสุดๆ “ดีมาก” ดอกเหมยยิ้มชม เมื่อเขาทำงานที่เธอสั่งเสร็จ เธอนำมะพร้าวขูดไปคั้นน้ำ ก่อนจะเอาไปพักไว้ “วันนี้หมดงานแล้วล่ะ อยากกินอะไรมั้ย ...” ดอกเหมยมองไปที่ริมน้ำ เขาคงจะชอบปลาย่างของเธอเอามากๆ สามารถกินปลาได้หมดเกือบครึ่งตัว “ปลาสินะ ได้ ข้าจะสอนจับให้” ดอกเหมยเดินไปหยิบไม้ไผ่ ก่อนจะเอามาเหลาให้แหลม เผาไฟนิดๆและขูดเบาๆบริเวณปลาย ก่อนจะถือสวิงและฉมวกไม้ไผ่ลงน้ำไป “มาดูใกล้ๆ” ดอกเหมยเรียกให้เด็กหนุ่มลงไปด้วย หานตงเดินเข้าไปใกล้ๆหญิงสาว เธอล้างดินสอพองออกหมดแล้ว เขาเลยล้างบ้าง ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆด้วยความสนใจ เพื่อดูวิธีการของเธอชัดๆ ตามที่เธอบอก “อ๊ะ” ดอกเหมยหันข้าง ก่อนจะพบว่าเขาใกล้มากจนหน้าแทบชิดกับหน้าเธอ ดอกเหมยเดินหน้าหนึ่งก้าว ก่อนที่จะก้าวพลาดเพราะด้านหน้าไม่มีหิน ทำให้ร่างเล็กทรุดลงไปในน้ำ หานตงรีบคว้าตัวร่างเล็กของนายสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะจับหันมาและมองเธออย่างเป็นห่วง “ไม่เป็นไร ถอยไปหน่อยสิ เจ้าใกล้เกินไป ข้าขยับตัวไม่ถนัด” ดอกเหมยเอ็ด ก่อนจะผลักให้เขาถอยไป หานตงปล่อยมือออกจากเอวคอดของหญิงสาวอย่างเสียดาย ดอกเหมยหันไปทางน้ำตกอีกครั้ง ก่อนจะเล็งปลาตัวใกล้ๆ เธอพุ่งฉมวกลงทีเดียวปักกลางลำตัวของปลา เมื่อปลาแน่นิ่งแล้วจึงเอาสวิงมาช้อน ก่อนจะเดินขึ้นจากน้ำ พร้อมปลาในสวิง หานตงเดินตามต้อยๆอย่างกับลูก เอาจริงๆถ้าเธอมีลูกก็คงมีหลานอายุเท่านี้แหละมั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD