EP. 9 เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก
‘หายโกรธแล้วค่ะ’ แสงดาวยิ้มอย่างพอใจ ปัดความรู้สึกหัวใจกระตุกรัวออกไปอย่างไม่เข้าใจนักว่าทำไมแค่พ่อเลี้ยงหอมแก้ม หัวใจของเธอถึงกระตุกวูบก่อนจะเต้นระรัวถึงเพียงนี้
‘ถ้าอย่างนั้นเรามาดูผลการเรียนกันดีกว่า ไหนดูซิว่าวิชาภาษาอังกฤษกับวิชาภาษาญี่ปุ่นได้เกรดอะไร’ ชายหนุ่มผละจากหญิงสาวแล้วหยิบผลการเรียนของเธอขึ้นมาดูอย่างพยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากแก้มอิ่มของเธอแต่ให้ตายเถอะ! เขาอยากจะบ้าตาย!
หนึ่งชั่วโมงนับจากนั้นที่ต้องอยู่ในห้องรับรองพูดคุยกับเธอ สายตาของเขากลับจดจ่ออยู่ที่แก้มสีมะปรางสุกและริมฝีปากสีแดงคล้ายผลเชอร์รี่ในฤดูหนาว เขาเหมือนคนโลภที่ไม่รู้จักพอเมื่อได้ลิ้มชิมมะปรางหอมหวานแล้วก็ย่ามใจคิดอยากเด็ดผลเชอร์รี่มาเชยชม
“แสงดาว...อาจะพยายามรักษาความไว้เนื้อเชื่อใจที่หนูมีต่ออาให้มากที่สุด เรื่องราวไม่เหมาะไม่ควรจะไม่มีวันเกิดขึ้น” ชายหนุ่มรำพันกับตัวเองแผ่วเบาก่อนจะพับจดหมายใส่กลับลงไปในซอง หยิบผ้าพันคอสีฟ้าขาวจากในกล่องพัสดุขึ้นมาแล้วจดปลายจมูกลงไป
แล้วเจอกันแสงดาว...
“ไฮ...น่านฟ้า”
ลูกครึ่งสาวแสนสวยยืนโบกมือให้พ่อเลี้ยงหนุ่มที่สนามบิน เธอยิ้มกว้างอย่างคนเปิดเผยแม้จะเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน แต่กลับถูกอบรมเลี้ยงดูไปทางฝรั่ง ทำให้นิสัยแตกต่างจากคนไทย เธอกล้าคิด กล้าทำ และกล้าแสดงออก ไม่พ้นแม้แต่เรื่องของความรัก เธอรักมิสเตอร์น่านฟ้า เมื่อรักก็แสดงออกชัดเจนให้ทุกๆ คนรู้ จนสาวๆ ในเมืองชิคาโกไม่มีใครกล้ายุ่งกับชายหนุ่ม ด้วยคิดว่าทั้งสองคนคบหาดูใจกันอยู่นั่นเอง
“มาร์ธา!”
พ่อเลี้ยงอุทานชื่อหญิงสาวออกมาด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดโค้ตสีแดงหรูสะดุดตา ผมสีน้ำตาลอ่อนรับกับผิวขาว เธอตัวสูงหุ่นดีเพราะเป็นนางแบบ เขาได้พบกับเธอที่งานเลี้ยงนักเรียนไทยที่ชิคาโก แล้วตั้งแต่นั้นเธอก็มักตามเขาไปไหนมาไหนเสมอๆ
“เซอร์ไพรส์ค่ะ”
หญิงสาวลากกระเป๋ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ก่อนจะโผเข้ากอดชายหนุ่มอย่างสนิทสนม พ่อเลี้ยงน่านฟ้าได้แต่ยืนนิ่งขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจ
“คุณหมายความว่ายังไงมาร์ธา”
“ก็หมายความว่าฉันจะกลับเมืองไทยไปพร้อมกับคุณไงคะ เห็นมั้ยว่าคุณต้องเซอร์ไพรส์ ฉันเตรียมการมาหลายเดือนแล้วค่ะ คิดไว้อยู่แล้วว่าคุณต้องดีใจจนตะลึงไปเลยที่เห็นฉันที่นี่” เธอเกาะแขนชายหนุ่มเอาไว้แน่นแล้วเอนศีรษะซบลงบนบ่าของเขา
“แต่คุณเคยบอกผมว่าคุณไม่มีบ้านอยู่ที่เมืองไทย”
“ใช่ค่ะ เพราะฉันจะไปขอพักที่ปางไม้ของคุณ” หญิงสาวบอกความต้องการของตนเองโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะอึดอัดและลำบากใจกับความต้องการของเธอหรือไม่
“ผมเกรงว่าจะไม่เหมาะ คุณเป็นผู้หญิง...”
“คุณรังเกียจฉันหรือคะ ฉันก็แค่อยากไปเห็นเมืองไทยบ้านเกิดของคุณแม่ก็เท่านั้นเอง”
“ผม...”
ชายหนุ่มไม่อาจปฏิเสธได้ ด้วยรู้ว่ามารดาของหญิงสาวเสียไปหลายปีแล้ว เธอคงอยากไปเมืองไทยเพื่อระลึกถึงท่าน เขาควรช่วยเพื่อนมากกว่าจะคิดถึงความเหมาะสม
“ถ้าอย่างนั้นผมจะจัดบ้านพักให้คุณ ในรีสอร์ตของผมมีบ้านพักหลายหลัง คุณสามารถอยู่ได้นานเท่าไหร่ก็ได้จนกว่าคุณจะพอใจ”
“คุณน่านใจดีที่สุดเลย” มาร์ธายิ้มกว้างอย่างร่าเริงก่อนจะเดินกรีดกรายลากกระเป๋านำชายหนุ่มไป พ่อเลี้ยงหนุ่มได้แต่เดินตามแล้วมองด้านหลังของหญิงสาวอย่างครุ่นคิด
เขาไม่ได้ชอบมาร์ธาและไม่เคยแสดงออกสักครั้งเลยว่าชอบ ก่อนหน้านี้เขาคบอยู่กับอมีเลียหญิงสาวจากอังกฤษ คบกันได้สองปีก็เลิกร้างกันไปโดยเปลี่ยนจากสถานะแฟนเป็นเพื่อน เพราะหญิงสาวมีความฝันคือการอยากท่องเที่ยวรอบโลก เธอไม่ชอบการผูกมัด ส่วนเขาเองก็ยังไม่คิดจะลงหลักปักฐานกับใคร หลังจากนั้นมาร์ธาก็ก้าวเข้ามาในชีวิตเขา เธอสวยหมดจดแทบไม่มีที่ติ แต่เขากลับไม่อาจเปิดใจรับเธอเข้ามาในชีวิตได้นั่นก็เพราะว่า...
แสงดาว...
การหอมแก้มเธอในครั้งนั้นทำให้สองปีต่อมาเขาไม่เหลือสายตาไว้มองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ดังนั้นการพยายามพิชิตใจเขาของมาร์ธาหรือผู้หญิงคนไหนๆ จึงสูญเปล่า แต่เขารู้ดีว่าเขาจะปล่อยให้ตัวเองทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดไม่ได้ เขาควรคบหากับใครสักคนอย่างเปิดเผย
ซึ่งเขาคิดว่าเขาจะลองให้โอกาสมาร์ธาดูสักครั้ง ถ้าเธอทำให้เขารู้สึกดีกับเธอระหว่างที่เธอพักอยู่ที่ปางไม้ เขาอาจขอเธอแต่งงานแล้วสร้างครอบครัวเสียที เพราะตอนนี้เขาอายุ 35 ปีแล้ว ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่จะลอยชายเป็นพ่อพวงมาลัยไปวันๆ ตระกูลวงศ์ภูริจำเป็นต้องมีทายาท แต่ใครเล่า...จะมาเป็นแม่ของลูกให้เขา
มาร์ธาจะมีคุณสมบัติพอหรือไม่ เขาคงต้องลงมือพิสูจน์เพื่อประกอบการตัดสินใจ
และกลับไปครั้งนี้เขาควรอยู่ห่างจากแสงดาวให้มากที่สุด เพื่อเป็นผลดีต่อตัวเธอเอง เขาควรคิดกับแสงดาวอย่างน้องสาวคนหนึ่ง แล้วช่วยเธอฟื้นความทรงจำ รวมทั้งตามหาครอบครัวของเธอให้พบเสียที เพราะถ้าหากครบ 5 ปีที่เธอหายไปจากบ้าน เธอจะกลายเป็นบุคคลสูญหาย ซึ่งเขาไม่อาจปล่อยให้เธอเป็นเช่นนั้น
แสงดาวเป็นแค่น้องสาว...ท่องเอาไว้นะน่านฟ้าว่าแสงดาวเป็นแค่เพียงน้องสาวเท่านั้น!
รถลีมูซีนจากสนามบินแล่นเข้ามาในเขตรั้วปางไม้วงศ์ภูริ พ่อเลี้ยงน่านฟ้าบอกกับทุกคนว่าเขาจะกลับประเทศไทยอาทิตย์หน้า แต่เขากลับเดินทางมาก่อนเพื่อหมายจะเซอร์ไพรส์ทุกคนที่ปางไม้ แต่ดูเหมือนทุกคนคงได้ตกใจกับเซอร์ไพรส์แน่เมื่อการกลับมาครั้งนี้ของเขามีแหม่มลูกครึ่งแก้มแดงกลับมาด้วย
“จอดตรงนี้ก่อน ส่วนของท้ายรถนายขับเอาไปไว้ที่หน้าบ้านได้เลย” พ่อเลี้ยงน่านฟ้าบอกคนขับรถลีมูซีนที่จ้างมา ซึ่งคนขับรถก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนแต่เป็นลูกชายของอดีตคนงานปางไม้ที่เกษียณอายุงานไปแล้วนั่นเอง
“ครับพ่อเลี้ยง”
“เดี๋ยวสิคะคุณน่าน รอฉันด้วยค่ะ” มาร์ธารีบก้าวลงจากรถทันทีแต่แทนที่เธอจะปราดเข้าหาเขา เธอกลับหมุนมองไปรอบๆ ตัวด้วยท่าทางตื่นตาตื่นใจ