EP. 10 การพบกันอีกครั้ง
“ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าปางไม้ที่คุณพูดถึงจะสวยงามขนาดนี้” ไม่รอช้ามาร์ธาเดินไปหยุดยืนอยู่ใต้ต้นพญาเสือโคร่ง แหงนหน้ามองดอกสีชมพูสะพรั่งราวกับซากุระก็ไม่ปาน เธอเดินไปเรื่อยๆ สูดอากาศบริสุทธิ์และต้นไม้ร่มรื่นอย่างเพลิดเพลิน เพราะเธอเกิดและเติบโตในเมืองใหญ่ที่แออัด เมื่อมาเจอสวนสวยราวกับสวนสวรรค์เธอจึงไม่อาจละสายตาที่จะชี้ชมสัมผัสกลีบดอกไม้อย่างสนุกสนาน
พ่อเลี้ยงมองมาร์ธาแล้วส่ายหน้าน้อยๆ นี่เป็นข้อดีของผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงดูมากับคนต่างชาติ เพราะพวกเธอจะมีอิสระเป็นของตัวเอง และไม่ตามติดผู้ชายจนคล้ายตุ๊กแกเกาะไม่ยอมปล่อย เขาคงปล่อยให้เธอเดินเล่นทั่วปางไม้ เพราะที่นี่มีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้หลายคน เนื่องจากที่นี่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาพักเสมอๆ
เจ้าของปางไม้เดินทอดอารมณ์ไปเรื่อยๆ หวนคิดไปถึงวันที่ได้เจอสาวน้อยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นก็เป็นช่วงฤดูหนาวเช่นนี้ พญาเสือโคร่งผลัดใบทิ้งจนหมดต้น เหลือไว้เพียงดอกสีหวานละมุน สองเท้าหยุดชะงักเมื่อมองไปยังโรงเรือนกุหลาบทางซ้ายมือ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งก้มๆ เงยๆ อยู่ในโรงเรือน ทั้งที่โรงเรือนแห่งนี้ปักป้ายเอาไว้ว่าห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปยกเว้นเจ้าหน้าที่เท่านั้น
นั่นเพราะเป็นแปลงดอกไม้ที่มารดาของเขาปลูกเอาไว้ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต เขาจึงเฝ้าทะนุถนอมจ้างคนสวนเพื่อดูแลโรงเรือนกุหลาบแห่งนี้โดยเฉพาะ แต่คนของเขากลับละเลยปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในโรงเรือน ไวเท่าความคิดพ่อเลี้ยงหนุ่มก้าวเข้าไปในโรงเรือนทันที
หญิงสาวผู้ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกจ้องมองอย่างไม่พอใจกำลังก้มลงใช้กรรไกรตัดกิ่งกุหลาบอย่างอารมณ์ดี เธอสวมเอี๊ยมกางเกงยีน มัดเปียสองข้างไว้ด้านหลัง มือข้างหนึ่งคล้องตะกร้าซึ่งมีกุหลาบสีแดงสดเต็มตะกร้า
“ผมคงต้องขอความกรุณาให้คุณออกไปจากโรงเรือนกุหลาบ เพราะที่นี่เป็นเขตหวงห้าม” พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยอย่างใจเย็น ทั้งที่ยามนี้เขาอยากลากตัวเธอออกไปแล้วต่อว่าที่นอกจากเธอจะไม่สนข้อความห้ามเข้าด้านหน้าแล้ว เธอยังริอ่านตัดกุหลาบของมารดาอย่างย่ามใจ
แต่ก็ได้แค่คิด...ยังไงเธอก็เป็นลูกค้าในรีสอร์ต อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เจ้าของมือบอบบางชะงักด้วยความตกใจ เธอหมุนตัวกลับมาแล้วปล่อยตะกร้ากุหลาบและกรรไกรตกลงบนพื้นข้างตัว ดวงตาสวยเบิกกว้างมองชายหนุ่มตรงหน้าราวกับไม่เชื่อสายตา
“อาน่าน!”
เจ้าของร่างสูงชะงัก จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะคิดหรือพูดอะไรออกไปหญิงสาวก็กระโดดกอดเขาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คนที่ยังไม่ทันตั้งตัวหงายหลังล้มลงไปไม่เป็นท่า กระนั้นแสงดาวก็ยังคงกอดชายหนุ่มเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“อาน่านกลับมาแล้ว…” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือขณะกอดอาหนุ่มเอาไว้แน่น
“แสงดาว”
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแสงดาวจะโตเป็นสาวสะพรั่งได้ถึงขนาดนี้ แค่เพียงสองปีเหตุใดร่างกายของผู้หญิงจึงเปลี่ยนไปอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะขนาดของหน้าอกที่เดาว่าน่าจะคัปซีเบียดรัดอยู่บนแผงอกของเขาในตอนนี้ ทำให้เขายิ่งตระหนักว่าเขาจะวางตัวต่อแสงดาวเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
“ดาวดีใจที่อาน่านกลับมา”
คนตัวเล็กปล่อยโฮออกมาเสียดื้อๆ ขณะที่เธอยังคงนอนทับเขาโดยไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้น พ่อเลี้ยงหนุ่มทำตัวไม่ถูกจะปลอบเธอราวกับเธอเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็ตะขิดตะขวงใจในเมื่อเธอร้องไห้โฮไม่ต่างจากเด็ก
“อากลับมาแล้วดาวจะร้องไห้ทำไม” เขาถามด้วยเสียงอ่อนนุ่ม ก่อนจะหยัดตัวขึ้นนั่งโดยมีคนตัวเล็กที่กอดเขาไม่ยอมปล่อย จึงกลายเป็นว่าเขานั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นหญ้าแล้วมียัยตัวแสบนั่งอยู่บนตัก โดยสองมือของเธอยังคงกอดเขาเอาไว้แล้วซุกหน้าลงกับแผงอก
เขารับรู้ได้ว่าเธอร้องไห้จนน้ำตาเปียกเสื้อ ซึ่งไม่กล้าเดาต่อว่าจะมีแค่น้ำตาหรือมีน้ำมูกปนมาด้วย
“ก็ดีใจเลยร้องไห้ออกมาเอง” หญิงสาวเถียงเสียงอู้อี้ ตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมต้องร้องไห้ แต่พอเห็นหน้าพ่อเลี้ยงน่านฟ้าทำนบกั้นน้ำตาก็พังทลายลงทันที พอร้องออกไปแล้วก็อายไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาพ่อเลี้ยง เพราะกลัวว่าจะโดนล้อที่ยังร้องไห้เป็นเด็กๆ
“ถ้าไม่หยุดร้องอาจะกลับอเมริกาแล้วนะ”
“อย่านะคะ!” แสงดาวรีบเงยหน้าขึ้นห้ามทันที และนั่นทำให้ใบหน้าของเธออยู่ห่างจากพ่อเลี้ยงน่านฟ้าไม่ถึงคืบ ปลายจมูกรั้นแดงก่ำ ดวงตาคู่สวยเคลือบหยาดน้ำตาเอาไว้ ริมฝีปากอิ่มเผยอเล็กน้อยด้วยความตกใจ ทั้งหมดทั้งมวลที่รวมอยู่บนใบหน้าได้รูปทำให้พ่อเลี้ยงน่านฟ้าถึงกับแทบหยุดหายใจ
“สวย...”
“อะไรนะคะอาน่าน” แสงดาวทวนถามอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงพ่อเลี้ยงรำพึงออกมาแผ่วเบาจนฟังไม่ถนัด
พ่อเลี้ยงหนุ่มได้สติจึงเบือนหน้าหนีแล้วพูดเรื่องอื่นกลบเกลื่อนความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจทันที “หนัก! ลุกได้แล้ว”
“ดาวไม่ลุก! บอกแล้วไงคะว่าดาวจะกอดรัดอาน่านให้กระดูกหักเป็นท่อนๆ เลย” แสงดาวไม่ได้พูดเฉย เธอทำอย่างที่เธอพูดทันที เธอรวบรวมแรงทั้งหมดแล้วกางสองแขนโอบกอดรอบลำตัวของอาหนุ่มเอาไว้แน่น พยายามกอดแรงๆ หมายจะให้อีกฝ่ายโอดครวญขอร้องให้เธอปล่อย
แต่เธอคงไม่รู้ว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการปลุกเสือร้ายให้ตื่นจากการหลับใหล สองแขนที่โอบกอดจนอกอิ่มเย้ายวนเบียดชิดแผ่นอก สะโพกผายได้รูปที่นั่งอยู่บนตักเขาในยามนี้บดเบียดบางสิ่งบางอย่างที่ขึงขังอยู่ใต้กางเกงยีนราวกับต้องการจะยั่วเสียอย่างนั้น
ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไป เธอยังคงพยายามกอดรัดเขาพร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจราวกับเด็กๆ เขาไม่น่าปล่อยให้แสงดาวเรียนโรงเรียนสตรีล้วนเลย มันทำให้เธอไม่รู้จักระมัดระวังตัวจากเพศตรงข้าม เธอไว้ใจ และไม่ระวังเนื้อระวังตัวเลยสักนิด
จู่ๆ เขาก็รู้สึกโกรธเมื่อคิดเตลิดไปว่าเธอจะทำแบบนี้กับเพื่อนผู้ชายที่มหาวิทยาลัยเธอบ้างหรือเปล่า!
ไม่ได้การ แบบนี้เขาควรไปแอบดูเธอที่มหาวิทยาลัยบ้างแล้ว แสงดาวยังเด็กไม่ควรมีเพื่อนชายหรือคนรัก เธอควรเรียนให้จบ ทำงานสัก 5-6 ปีแล้วแต่งงานกับผู้ชายที่คู่ควรตอนที่เธออายุราวๆ 30 ปี ชายหนุ่มกะเกณฑ์อนาคตให้หญิงสาวในใจ แต่แล้วความคิดก็ต้องกระเจิงเมื่อเธอดิ้นไปมา นั่นยิ่งทำให้บั้นท้ายกลมมนของเธอท้าทายพ่อเลี้ยงน้อยของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ