bc

จอมขวัญเมียบรรณาการ

book_age18+
152
FOLLOW
1K
READ
drama
sweet
lighthearted
like
intro-logo
Blurb

จอมขวัญถูกหลอกให้มาทำงานกับภูเบศ

หารู้ไม่ว่าเขาเพียงต้องการย่ำยีร่างกายของเธอ เพื่อแก้แค้นศัตรูคู่อาฆาตเพียงเท่านั้น

บางช่วงบางตอนจากเนื้อเรื่อง

.

“เวลาคุณภูทำตัวไม่น่ารัก สัญญากับคุณภูอีกข้อได้ไหมว่าจะไม่โกรธ ไม่เกลียดคุณภู”

“ค่ะ หนูสัญญา”

คนขอคำมั่นจอมปลอมที่ตัวเองสร้างขึ้นมาหลอกเด็กสาวตวัดรัดศรีษะนุ่มหอมมากอดแนบแน่น ยิ้มอย่างมาดร้ายที่ดักทางจอมขวัญเอาไว้จนได้ เขามั่นใจว่าในวันข้างหน้า เธอจะไม่มีวันโกรธหากเขาเผลอพูดอะไรเลวๆออกไปอีก และหากเขาเผลอบ่อยๆก็จะใช้ข้ออ้างแบบเดิมๆนี้ไปเรื่อยๆ รับรองว่ายัยเด็กนี่ตามเขาไม่ทันแน่

chap-preview
Free preview
บทนำ
ภาพเด็กสาววัยเพียงสิบแปดปีในชุดเสื้อนักเรียนคอบัวแขนยาวสีขาว กระโปรงจีบรอบสีกรมท่า ผมสีน้ำตาลเข้มของเจ้าตัวถูกแบ่งออกถักเปียยาวสองข้างเว้นหางพอประมาณ ผูกด้วยริบบิ้นสีเดียวกับกระโปรง ดวงตาสีเดียวกับผม คงเฉกเช่นเดียวกับมารดาของเธอที่เป็นหญิงสาวชาวรัสเซีย ส่วนบิดานั้นมีเชื้อสายไทยจีนอย่างละครึ่ง จึงทำให้เธอเป็นผลผลิตที่ดูสวยหวานกว่าหญิงสาวที่เคยเห็นมา สาวน้อยกำลังวิ่งตรงมาที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นสนด้านหลังภายในโรงเรียนประจำที่บิดานำเธอมาฝากไว้กับซิสเตอร์ ตั้งแต่เธออยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ห้า จนถึงบัดนี้ใกล้จบออกไปเต็มทีแล้วก็ยังใช้ชีวิตเป็นนักเรียนประจำอยู่ เด็กสาวหยุดที่ม้านั่งหินอ่อนแล้วถามคนที่นั่งรออยู่ด้วยน้ำเสียงตื่น ๆ “พี่เด เอามาไหม ของที่ขวัญฝากน่ะค่ะ” “นี่ไง” ชายหนุ่มผิวขาวสะอาด ใบหน้าหล่อเหลาคมคายบอกพร้อมชูถุงกระดาษในมือขึ้น ตาเป็นประกายวาววามเมื่อได้คุยกันใกล้ชิดกับเด็กสาวแสนสวยที่ตนตามเฝ้าตามประกบ ไม่ให้แมลงมดตัวใดมาวอแวกับเธอได้แม้แต่ตัวเดียว “โอย...ขอบคุณมากค่ะ นี่ขวัญแอบออกมานะคะ ถ้าซิสเตอร์เห็นต้องบ่นอีกแน่ ๆ เลย” เจ้าตัวบอกเสียงใส ยื่นมือออกไปรับของที่ฝากให้เขาซื้อติดมาให้ เมื่อตอนที่เขาบากหน้ารบกวนบิดาของเขาเองให้ช่วยต่อสายหาเธอเมื่อคืนวานเพราะอยากได้ยินเสียง ไม่อย่างนั้นคงไม่ผ่านด่านของครูผู้คุมหอจนได้คุยกับเธอ หญิงสาวไม่ถามอะไรเขาเลย ได้แต่ฝากให้เขาซื้อมันมาให้หากวันใดจะแวะมาหา “จะไปแล้วใช่ไหมครับ” เสียงถามของชายหนุ่มมีแววตัดพ้อเล็กน้อยเมื่อเห็นเด็กสาวหันรีหันขวางท่าทางจะจากไปได้ทุกขณะ “ค่ะ พี่เด มีอะไรอีกไหมคะ” “ไม่มีครับ พี่แค่เอาของที่ขวัญสั่งไว้มาให้ แล้วก็อยากเห็นหน้าด้วย...พี่ คิดถึง” เสียงทุ้มของชายหนุ่มบอกอ่อย ๆ ในตอนท้าย สาวน้อยเลยมุ่ยหน้าหน่อยหนึ่งใส่คนพูด ไม่ได้นึกเขินอายอีกฝ่ายสักนิด แม้เขาจะเกี้ยวพาราสีเธอตลอดก็ตาม แต่กลับไม่เคยทำอะไรเกินเลยมากไปกว่านั้น วันนี้เขาสุดกลั้นแล้ว อยากขยับเข้าไปใกล้เธอมากกว่านี้อีกนิด เลยทำทีเป็นชี้มือบอก “นั่นน่ะ เสื้อไปเลอะอะไรมา ให้พี่เดดูหน่อยซิ” เด็กสาวเอี้ยวมองตาม ถามไปพลาง “ไหนคะพี่เด” “มานี่ พี่ดูให้” พอหันหลังให้ชายหนุ่ม ก็ถูกอีกฝ่ายยกมือแตะเสื้อนักเรียนข้างหลังปัดเบา ๆ อยู่ครู่ แล้วโน้มกายลอบเข้าไปสูดดมพวงผมให้สมกับที่ใจนึก แม้จะไม่ได้ถึงเศษเสี้ยวที่อยากทำกับเธอก็ตาม “ไหนคะพี่เด มีอะไรติด ให้ขวัญดูหน่อยสิ” ชายหนุ่มรีบคืนสติบอกปัดอย่างหน้ามึน “ไม่มีแล้วครับ” “งั้นขวัญไปนะ” เขามีค่าแค่นี้สำหรับเธอเท่านั้นล่ะมั้ง แม้จะมีสาว ๆ สวย ๆ เวียนมาและเวียนไปหลายคนตลอดเวลา แต่เทวาก็เฝ้ามองเด็กสาวที่ชื่อจอมขวัญคนนี้เพียงคนเดียว จอมขวัญเป็นบุตรสาวของนายไพฑูรย์ เพื่อนสนิทที่สุดกับบิดาของเขา ทั้งสองทำธุรกิจร่วมกันมานาน ทั้งยังตั้งใจให้บุตรธิดาของตนได้แต่งงานกันในอนาคต พูดง่าย ๆ ว่าตั้งใจจับคลุมถุงชนกันไว้นั่นเอง เทวารู้เรื่องนี้มานานเพราะมารดาพูดติดตลกอยู่ตลอดว่าเขาคงไม่เล่นด้วยกับการคลุมถุงชนในครั้งนี้ เพราะจบการศึกษาจากเมืองนอกเมืองนา มีความคิดเป็นของตัวเอง ทั้งยังไม่ชอบนักกับการถูกบังคับแบบนี้ ไหนจะวัยที่ห่างกันเหลือเกินระหว่างเทวากับจอมขวัญ ท่านจึงไม่คิดว่าบุตรชายที่เป็นหนุ่มเพลย์บอยรักสนุกจะชอบพอสาวน้อยไร้เดียงสาได้ลงคอ แม้อีกฝ่ายจะรูปโฉมสวยงามมากก็ตาม แต่พอเทวาได้เจอจอมขวัญที่งานศพของนายไพฑูรย์เมื่อสามปีก่อน หัวใจหนุ่มรักสนุกไม่ผูกพันก็สั่นระรัวแทบบ้าคลั่ง เพราะหลงรักเด็กสาวจอมขวัญเข้าอย่างจัง สามปีก่อนเธออายุเพียงสิบห้าปี แต่ด้วยความเป็นลูกเสี้ยว ไทย จีน รัสเซีย จึงทำให้เธอดูโตกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันนัก เขาหลงใหลใบหน้าซีดไร้สีที่มีดวงตาแดงก่ำ เพราะร้องไห้อยู่ตลอดเวลาที่หน้าโลงศพของบิดาของเธอ เด็กสาวดูน่าสงสาร น่าทะนุถนอม และน่ารักน่าใคร่เหลือเกิน หลังจากวันนั้นเทวาจำได้มั่นว่าเขาเข้าไปบอกกับบิดาทันทีว่ายินยอมแต่งงานกับจอมขวัญ ตามที่ผู้ใหญ่พูดคุยกันไว้ ตอนแรกที่ท่านได้ยินยังนึกขำว่าเขาอำเล่น แต่แล้วท่านก็ขำไม่ออกเมื่อเขาจริงจังจริง ๆ   ‘ผมจะรอน้องจนกว่าจะเรียนจบครับ’ ‘แต่เด็กนั่นไม่มีอะไรเหลือแล้วนะ สมบัติก็หายไปหมดแล้ว เพราะไพฑูรย์ล้มละลายไม่เป็นท่า’ ‘นั่นแหละครับ ผมจะอุ้มชู ถนอมให้เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวของผมจนวันตาย’ ‘แกแน่ใจนะเด’ ‘แน่ใจอย่างที่สุดครับ’ ‘เด็กมากเลยนะ’ ท่านยังย้ำอีกครั้ง ‘ผมจะตามเฝ้าตามดูแลน้องเองครับ’ ‘เอาเถอะ แกว่ายังไงพ่อก็ว่าตามแก’   เขานึกถึงบทสนทนาวันนั้นแล้วอดยิ้มตามแผ่นหลังสาวน้อยไปไม่ได้ เธอยังเด็กอยู่มากอย่างที่พ่อเขาว่านั่นล่ะ แล้วนี่ที่แอบลงมาหาเขาคงเพราะสั่งให้เขาเอาอาหารหมามาให้เท่านั้น ดีที่เธอยังไม่รู้จักรักชอบพอใคร และเขาเองจะได้สอนเธอในเรื่องนั้น จอมขวัญรักสัตว์ทุกชนิด เทวาเคยแอบตามเธอไปด้านหลังโรงเรียนประจำที่เธออยู่และเห็นสาวน้อยของเขาเอาอาหารไปให้พวกหมาแมวจรจัดอยู่บ่อย ๆ นึกแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ ว่าที่ภรรยาของเขาช่างน่ารัก ใจดี มีเมตตาเสียนัก ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ ที่ผู้ใหญ่จับคู่เขาและเธอ อีกหน่อยเดียวเท่านั้น พอเธอเรียนจบมัธยมปลาย สอบเข้ามหาวิทยาลัยไหนได้ เขาจะรีบหมั้นเธอเอาไว้ แล้วแต่งงานกับเธอทันทีเมื่อเธอเรียนจบ เทวายิ้มอย่างเป็นสุขขณะเดินกลับมาที่รถของตนเอง เมื่อมองเห็นภาพของจอมขวัญและลูก ๆ อีกครึ่งโหล เขาจะถนอมเธอ จะรักเธอจนวันตาย ไม่เคยมีสักครั้งที่เพลย์บอยอย่างเทวาจะรู้สึกรักใครได้ท่วมท้นขนาดนี้ บอกตัวเองว่ารออีกนิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้น เขาจะได้จอมขวัญมาครอบครองจนตราบสิ้นนิจนิรันดร์ ‘จอมขวัญ ยอดรักของพี่’ ชายหนุ่มคิดอย่างเป็นสุขแล้วหักพวงมาลัยรถยนต์ขับออกไปจากโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง โดยไม่ทันสังเกตเห็นรถสีดำอีกคันที่จอดซุ่มรอดูอยู่ พอรถของเทวาขับพ้นขอบรั้วของโรงเรียนออกไป ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กว่าเทวา ดูองอาจมีอำนาจน่าเกรงขาม ไหนจะใบหน้าคมคายหล่อเหลา แต่แววตาดูร้ายกาจเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก เปิดประตูรถออกมายืนมองไปทางที่เด็กสาววิ่งหายลับกลับไป พูดไล่ตามด้วยน้ำเสียงติดเยาะหยัน “เด็กปั้นของแม่หนิมคนดังเนี่ยนะ ที่มึงจริงจังด้วย” คนพูดเหยียดยิ้มก่อนส่งประกายตาวาววับ “ฝันมึงล่มแน่ ไอ้เด”   “พาน้องไหมกับน้องลูกพีชไปส่งที่รีสอร์ตด้วยนะ แล้วอีกสองชั่วโมงไปรอรับกลับ” นางนิพาพรบอกกับชายหนุ่มรูปร่างล่ำสัน ผิวสีน้ำตาลเข้มที่ส่งสายตาวิบวับให้แม่ม่ายอย่างนิพาพรแล้วยังแอบขยิบตาให้เด็กสาวที่ชื่อ น้องไหม อีกด้วย “ครับพี่หนิม” “รีบไปรีบมาล่ะ อย่าเถลไถล พี่ไม่ชอบ” “ครับ ผมเป็นเด็กดี พี่หนิมก็รู้” ชายหนุ่มตอบพร้อมส่งสายตาให้กันอย่างมีนัย นิพาพรอดไม่ได้ หน้าแดงขึ้นมาเมื่อนึกถึงบทรักของชายหนุ่มคราวลูกอย่างอวยชัย อวยชัยเป็นเด็กหนุ่มที่เธอดึงขึ้นมาจากปลักโคลนในสลัม เด็กหนุ่มหน่วยก้านดีแต่หลงกับยาเสพติดงอมแงม เธอเจอเด็กหนุ่มที่บาร์โฮสต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง จากนั้นก็ติดต่อกันเรื่อยมา แล้วจึงให้อวยชัยออกจากงานที่นั่น หันมาช่วยเธอดูแลกิจการค้าเนื้อสดแทน เดิมทีเธอทำอาชีพนี้มาตั้งแต่เป็นสาวรุ่น ด้วยนิสัยรักสบาย การนอนกับชายแปลกหน้าแลกเงินจึงเป็นสิ่งที่ทำจนเป็นอาชีพหลัก เมื่อแก่ตัวลง เธอก็ตั้งตัวเป็นแม่หนิม จัดหาเด็กให้ลูกค้าหน้าเก่าหน้าใหม่ คละกันไป พอได้มีเงินจับจ่ายใช้สอยอยู่ทุกวันนี้ เธอมีลูกสาวหนึ่งคนชื่อริสา บุตรสาวที่หาบิดาไม่ได้ แต่เธอก็เก็บเอาไว้เตือนใจตัวเอง และยังต้องดูแลบุตรสาวอีกคนของสามีคนปัจจุบันที่ชื่อไพฑูรย์อีกด้วย บุตรสาวของไพฑูรย์ชื่อจอมขวัญ เด็กนั่นเรียบร้อย น่ารัก เธอไม่เคยแสดงบทแม่เลี้ยงใจร้ายกับจอมขวัญ เพราะไม่เห็นว่ามันจะได้ประโยชน์อะไร เพราะคิดไปไกลกว่านั้นว่าเนื้อสาว ๆ หวาน ๆ ต้องทำเงินให้เธอได้มากกว่าคนอื่น ๆ ในสังกัด รูปร่างหน้าตาราวกับดาราฮอลลีวูดนั่นดึงดูดใจเพศผู้ดีนักล่ะ เธอจะเก็บนังลูกเลี้ยงไว้ขายทอดตลาด เมื่อถึงวันที่เรียนจบออกมาจากรั้วโรงเรียนประจำ ที่มีนังชีเพื่อนของคุณไพฑูรย์คุ้มกะลาหัวมันอยู่ อีกไม่นานหรอก อดทนเอาหน่อย นิพาพรบิดปากยิ้มอย่างมาดร้ายก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านที่เป็นของนายไพฑูรย์ในเวลาต่อมา   “ลงได้เลยจ้าสาว ๆ ใครเสร็จงานก่อนโทรตามพี่ได้เลยนะจ๊ะ” น้องไหมและน้องลูกพีชยิ้มหวานก่อนลงจากรถแล้วเดินแยกย้ายกันเข้าห้องตามหมายเลขที่ได้รับแจ้งมา อวยชัยมองตามหญิงสาวด้วยสายตาหื่นกระหายก่อนจะออกรถแล้วตรงไปยังอีกที่ ที่เป็นบ้านของลูกค้ารายใหม่ ชายหนุ่มยังไม่สามารถตัดขาดจากยาเสพติดได้ เมื่อมีโอกาสจะหาซื้อและจำหน่ายอยู่เสมอ เงินได้มาง่ายก็หมดไปง่ายเช่นกัน แต่พอลงรถมาได้เพียงไม่นานก็ถูกเจ้าหน้าที่ล้อมจับไว้เสียอย่างนั้น อวยชัยไม่ยอมถูกจับอีกแล้ว ภาพในคุกยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของชายหนุ่ม มันทรมาน มันหดหู่ เขาจะไม่ยอมกลับเข้าไปในนั้นโดยเด็ดขาด อวยชัยยกปืนขึ้นยิงสู้กับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะสะดุ้งวาบเมื่อถูกกระสุนปืนของฝ่ายตำรวจเจาะเข้าที่ใต้หัวไหล่ข้างซ้าย ชายหนุ่มหาทางหนีด้วยการขับรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้เข้าไปในพงป่า ด้วยความเป็นคนที่รู้จักทางหนีทีไล่ดี เขากลับมาถึงที่บ้านของนางนิพาพรได้ในที่สุด และหลบพ้นจากการตามล่าได้อย่างฉิวเฉียด “พี่หนิม พี่หนิมครับ” อวยชัยวิ่งถลาเข้าบ้าน ปากก็ร้องเรียกหานางนิพาพรไปพลาง แม่ม่ายอย่างนางนิพาพรกำลังนั่งจดรายรับรายจ่ายอยู่ก็ละมือแล้วลุกขึ้น มองอวยชัยด้วยสายตาเป็นห่วง ถามด้วยเสียงร้อนรน “ตายแล้ว แกไปโดนอะไรมา ทำไมเลือดอาบขนาดนี้” “ผม ผมถูกยิงครับพี่” “ไปโรงพยาบาลเร็วเถอะ” นางว่าแล้วถลาไปคว้าแขนล่ำสันของคู่รักหนุ่ม “ไม่ได้ครับพี่ ผมไปโรงพยาบาลไม่ได้” “ไม่ไปแกต้องตายแน่ ๆ” อวยชัยนิ่งไป ก่อนจะมองสบตานางนิพาพร บอกอย่างเพิ่งนึกได้ “ผมไม่ไป...แต่ แต่ผมรู้มาว่าที่ตรงร่องผามีโรง'บาลของ...” “เดี๋ยว นี่แกไปทำอะไรมา ใครยิงแก” นางนิพาพรหน้าตื่นค้าน แล้วถามขัดขึ้น อวยชัยหน้าซีดก่อนรับสารภาพ “ตำรวจครับ ผมหนีตำรวจมา ถ้าพาผมไปส่งโรง’บาล ผมต้องเข้าไปอยู่ในคุกอีกแน่ ๆ พี่หนิมช่วยผมด้วยนะครับ” นางนิพาพรแทบทรุดตัวลงอย่างหมดแรง เมื่อพอเดาได้ว่าสามีหนุ่มยังไม่เลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ครางเสียงสิ้นหวัง “พี่ไม่รู้จักใครที่นั่น แล้วจะช่วยแกได้ยังไง” “พี่หนิมต้องช่วยผมด้วยนะครับ ผมปวดมาก เลือดทั้งนั้นเลย ผมยังไม่อยากตาย...” นางนิพาพรใบหน้าตระหนกไม่ต่างจากคนถูกยิง หากว่าพาสามีหนุ่มของตนไปโรงพยาบาลไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีอื่นเพื่อช่วยเหลือ ตรงรอยต่อระหว่างประเทศเป็นเทือกเขายาวสุดสายตา ที่นั่นคนนอกกฎหมายรู้กันดีว่าเป็นถิ่นของพวกกองกำลังติดอาวุธไม่ระบุชาติพันธุ์ บางคนว่าเป็นคนไทย บ้างก็ว่าก็เป็นพม่า หรือ พวกจีนอพยพ คนวงในพูดกันปากต่อปากว่ามีคนไทยผู้มีเบื้องหลังดำมืดเป็นหนึ่งในคนสำคัญของพวกนั้น ชายหนุ่มเป็นหมอใหญ่ในโรงพยาบาลของชนกลุ่มนั้น รับเคสที่เป็นพวกนอกกฎหมายที่เงินถึง อุปกรณ์การรักษา วิธีการ และบุคลากรครบครันพอ ๆ กับโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของประเทศ เพียงแต่ที่นี่ไม่ได้อยู่ในประเทศใด ๆ ทั้งสิ้น มันอยู่ในหุบเขาที่เป็นเขตของชนกลุ่มน้อยนอกกฎหมายนั่น แววตานางนิพาพรปรากฏแวววิตกกังวลอย่างที่สุด นางกลัวแต่นางจะต้องหาวิธีช่วยอวยชัย สามีหนุ่มของนางคนนี้ให้จงได้   ร่างสูงใหญ่ราวชายต่างชาติที่นอนอาบแดดบนเก้าอี้ข้างสระว่ายน้ำส่วนตัวใต้ร่มไม้ใหญ่ที่บริเวณบ้านพักพยักหน้าให้คนสนิทหน่อยหนึ่ง ก่อนที่อีกฝ่ายจะเข้ามารายงาน “นายครับ” เสียงทรงอำนาจถามเนือย ๆ ไม่ใส่ใจนัก “มีอะไร” ลูกน้องเข้ามาป้องปากที่ข้างหูของภูเบศวร์อยู่ครู่ เจ้าตัวก็ถึงกับยิ้มมุมปากออกมาได้หน่อยหนึ่ง “พาเข้ามา” นางนิพาพรเดินตามเข้ามาก่อนจะอ้าปากเกริ่นนำ แต่ชายที่นอนอาบแดดพูดโพล่งขัดขึ้นมาอย่างรู้จุดประสงค์ของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี “จะผ่าตัดเอากระสุนออก พร้อมอยู่พักฟื้น คิดค่ารักษาหนึ่งล้าน...ยูเอสดอลลาร์” “สามสิบล้าน...หรือคะ” ยูเอสดอลลาร์ ไม่ใช่เงินบาทอีกด้วย นางจะไปหามาจากไหน “มีไหม ถ้าไม่มี ก็กลับไป อ้อ แต่เดี๋ยวนะ ได้ข่าวว่าแม่หนิมมีลูกสาวสวย” “ยัยริสาไม่สวยหรอกค่ะ นายไม่น่าจะชอบ” แม้จะค้าเนื้อสาว ๆ แต่ก้อนเลือดจากตนเอง นิพาพรไม่คิดค้าขายแม้แต่น้อย แต่หากเป็น... “ที่ได้ยินมาไม่ใช่ชื่อริสานี่หว่า” “...ยัยขวัญหรือคะ” “เออ ชื่อนี้ค่อยคุ้นหน่อย” “ค่ะ ดิฉันจะพาแกมาให้รู้จักกับนายเอง” “ที่พูดนี่ไม่ได้แค่อยากคุยทำความรู้จักกันนะ...เข้าใจใช่ไหม” คนพูดบอกแล้วถอดแว่นกันแดดออก ประกายตาคมกล้าทำเอาคนจิตแข็งอย่างนิพาพรหวั่นเกรง นางพยักหน้าเบา ๆ ตอบรับอย่างกลัว ๆ “ค่ะ ดิฉันทราบดี จะจัดการให้ค่ะ”   “ถึงบ้านแล้วโทรหาเราบ้างนะขวัญ” “ได้สิ” “แล้วเดี๋ยวเรานัดเจอกันนะ” “จ้า ไปนะ แม่หนิมมารับแล้ว” เด็กสาวร่างสูงโปร่งผิวขาวจัดผูกเปียสองข้างยาวเคลียหลังบอกลาเพื่อนร่วมรุ่นแล้วรีบเดินแกมวิ่งไปที่รถเอสยูวีสีเทาคันที่จอดรอเธออยู่ ทันทีที่เปิดประตูขึ้นรถมา คนขับก็ถอดแว่นกรองแสงออกเพื่อสบตา แล้วถามด้วยใบหน้าราวกับผู้ใหญ่ใจดี “ไปกันหรือยังลูกขวัญ” “ค่ะแม่หนิม” “แม่ซื้อขนมเบื้องไส้หวานที่หนูชอบมาฝาก กินสิลูก น้ำหยิบเอาเลยนะ” “ขอบคุณค่ะ” เด็กสาวยิ้มหวานบอกผู้ที่ดูแลเธอต่อจากบิดาเป็นอย่างดี ไหนจะพี่สาวอย่างริสาอีกคน ทั้งคู่ไม่เหมือนแม่เลี้ยงและพี่สาวใจร้ายแบบในนิทานเลยสักนิด เจ้าตัวยิ้มหวานแล้วหยิบขนมในถุงพลาสติกมาแกะยางที่มัดเอาไว้ออกกินอย่างเอร็ดอร่อย ปากก็คุยเจื้อยแจ้วไปจนขนมหมดถุง ก่อนจะหยิบน้ำขึ้นเปิดออกดื่ม ไม่นานก็ผล็อยหลับลงบนเบาะข้าง ๆ คนขับ นิพาพรยิ้มหน่อยหนึ่งเมื่อเห็นว่าเด็กสาวหลับลงด้วยฤทธิ์ของยานอนหลับแล้วออกรถมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางทันที โรงเรียนประจำที่จอมขวัญศึกษาอยู่เป็นโรงเรียนเอกชนไม่ใหญ่โตนักแต่ค่อนข้างเข้มงวด อยู่ติดกับจังหวัดชายแดนไทยพม่าทางเหนือสุดของประเทศ นางนิพาพรขับรถไม่กี่ชั่วโมงก็มาถึงพื้นที่รอยต่อไทยพม่าที่เป็นเทือกเขายาวสุดสายตา บริเวณด้านหลังจากตรงนี้ไปเจ้าหน้าที่ของไทยไม่เคยเข้าไปถึงเพราะเป็นส่วนหนึ่งของประเทศพม่าแล้ว พวกมีอิทธิพลรู้กันดีว่าส่วนนั้นเป็นของใคร ทั้งยังมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นตรงรอยต่อที่อยู่ในรัฐของประเทศเพื่อนบ้าน คนที่ใช้บริการในนั้นได้ส่วนใหญ่เป็นพวกนอกกฎหมายที่ต้องการการรักษาเร่งด่วนทันท่วงที ว่ากันว่าที่นั่นมีหมอมือดีอยู่ทุกแขนง ศัลยกรรมใบหน้าที่นั่นก็ยังมี แต่ไม่ใช่เพื่อความสวยความงาม มันถูกใช้ขึ้นเพื่อเหล่าโจรทั้งหลาย   ขนตางอนยาวกะพริบเบา ๆ ก่อนจะเปิดเปลือกตาออกแล้วหยีสู้แสงที่ด้านนอกของรถ เด็กสาวค่อย ๆ ดันตัวขึ้นจากเบาะรถ ก่อนจะตั้งสติว่าตัวเองเป็นอะไรไป “ตื่นแล้วเหรอลูก” “แม่หนิม” “ลงมาก่อนสิลูก” เด็กสาวเปิดประตูรถของมารดาเลี้ยงลงมายืนบนพื้นดิน ก่อนจะปรับสายตาให้คุ้นกับแสง มองไปรอบ ๆ บริเวณด้วยสายตาใคร่รู้ ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ แม่หนิมพาเธอมาที่ไหนกัน “มาหาใครเหรอคะแม่หนิม” นิพาพรเข้ามาจับมือนุ่มนิ่มเพราะไม่เคยทำงานหนักมาก่อน เรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงน่าเห็นใจ “ขวัญ” “ขาแม่หนิม” “แม่ขอโทษนะลูกที่ดูแลหนูไม่ดีอย่างที่คุณไพฑูรย์ฝากฝังแม่ไว้” “ทำไมแม่หนิมพูดแบบนั้นล่ะคะ แม่ดูแลหนูดีมาก ๆ หนูไม่เคยคิดว่าแม่ไม่ดี” “ดียังไงกัน หนูรู้ไหมว่าตอนนี้บ้านเรากำลังจะโดนธนาคารยึดแล้ว แม่กับพี่ริสาต้องออกหางานทำแต่ก็หาเงินมาผ่อนไม่ไหว” “บ้านเราจะถูกยึด...เหรอคะ” “จ้ะ แม่ แม่ไม่รู้จะทำยังไงดีอีกแล้วขวัญ แล้วนี่ริสาก็วิ่งวุ่นทำงานจนป่วย” นางนิพาพรเล่าไป น้ำตาก็ไหลแหมะลงราวกับสั่งได้ จอมขวัญมองแล้วให้สงสารมารดาเลี้ยงและพี่สาวคนละสายเลือดกันอย่างริสาอย่างหนัก ถามด้วยความเป็นกังวล “ขวัญช่วยอะไรได้บ้างคะแม่” นางรีบเก็บน้ำตาแล้วค่อย ๆ บอกด้วยท่าทีระแวดระวัง “ริสาไปรับงานดูแลคนป่วยเอาไว้ แถมยังเอาเงินเขามาแล้วด้วย” ดวงตาใสราวตาเด็กมองคนพูดอย่างไร้แววกังขาใด ๆ รับคำเบา ๆ “ค่ะ” “หนูไปทำแทนพี่ริสาได้ไหม” พอได้ยินมารดาเลี้ยงบอกแบบนั้นก็รีบถามกลับ ไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วย แต่เด็กสาวกลัวจะทำได้ไม่ดีเท่า “แต่...หนูไม่เคยดูแลคนป่วยนะคะ” “จะมีคนสอนหนูเองจ้ะ ขอแค่หนูรับปากแม่” “ค่ะแม่” นางนิพาพรค่อยยิ้มออก นางคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าของลูกเลี้ยงมาถือไว้เองแล้วรวบข้อมือขาวเล็กของจอมขวัญให้เดินตามเข้าไปยังด้านในของบ้าน จอมขวัญยังมึน ๆ งง ๆ อยู่หน่อยเมื่อเข้ามาด้านในแล้ว ห้องโถงขาวสะอาดติดเครื่องปรับอากาศและฆ่าเชื้ออย่างดีตลอดทั้งโถง ทั้งยังมีอุปกรณ์การแพทย์ที่ดูล้ำสมัยและมีราคาวางล้อมข้างเตียงที่มีชายหนุ่มหนวดเครารกครึ้มนอนไม่รู้สติบนนั้น “คุณภูเบศวร์ถูกรถเบียดตกถนนตรงโค้งขึ้นเขามานี่แหละ สมองกระทบกระเทือนจนต้องผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งออก ส่วนที่หลังกระดูกเคลื่อนออกมาจนหมอบอกว่าแกอาจพิการไปตลอดชีวิต เพราะกระดูกหลังที่เคลื่อนทำลายไขสันหลังที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของขาทั้งสองข้างครับ” ร้ายแรงขนาดนี้เลยหรือ ใบหน้าขณะหลับของคนป่วยที่เธอต้องมาคอยดูแลนั้นดูดุดันคมเข้ม คิ้วเข้มพาดรับกับดวงตาที่ปิดสนิทอยู่พอดิบพอดี แม้ขณะที่ยังหลับตาอยู่ยังดูดุดันน่าเกรงขามขนาดนี้ หากลืมตาตื่นขึ้นแล้วต้องสบตากันจะดูดุดันขนาดไหน จมูกคมสันดูเด่นชัดเฉียบแหลมรับกับริมฝีปากหยักได้รูปไม่บางและไม่หนาจนเกินไป ทุกอย่างบนใบหน้าของเขานั้นระบุได้ในทันทีว่าเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาคมคายชนิดที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง แม้จะคลับคล้ายคลับคลาบางสิ่งบนใบหน้าว่าเคยพบเจอที่ใดมาก่อน แต่จอมขวัญก็นึกไม่ออกว่าคุ้นเคยมาจากใคร แล้วนึกไปถึงนิสัยใจคอของเขาว่าจะเป็นแบบหน้าตาหล่อเหลานั่นไหม

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.4K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.3K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.7K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook