ความอบอุ่นที่นางมีให้

2067 Words
เมิ่งหย่งชวนที่ตอนนี้คิดถึงเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนก็กำหมัดแน่น เขาจะเหยียบมันให้จมสกุลลู่ตัวดี สกุลจางที่น่ารังเกียจ ยี่สิบปีก่อนท่านพ่อออกจากหมู่บ้านไปเปิดสำนักคุ้มภัยของตนเอง วันนึงคุ้มครองสินค้าให้สกุลกับลู่จนได้พบนางสตรีโลเลคนนั้นจากนั้นทั้งคู่มีสัมพันธ์กันอยู่กินด้วยกันจนมีเขาขึ้นมา ท่านพ่อมีวรยุทธและสอนวรยุทธให้เขาจนเก่งกล้า จากนั้นบิดาของนางใต้เท้าลู่ ลู่หานก็ตามาจนเจอพวกเขา และบังคับจะเอาบุตรสาวคืนเพื่อไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับบุตรชายขุนนางด้วยกัน สตรีคนนั้นนับว่างดงามมากนัก แต่นางไม่ยอมกลับ อีกทั้งตอนนั้นนางตั้งครรภ์อาเจินอยู่ บิดานางลู่หานบังคับให้นางทำลายบุตรในครรภ์แล้วตามกลับเมืองหลวง ท่านพ่อกลับมาจากเดินทางไปคุ้มกันสินค้าพอดี จึงช่วยนางกับเขาไว้ได้ เห็นว่าหากรั้งอยู่เมืองหลวงอาจไม่ปลอดภัยจึงพาเมียกับลูกกลับบ้านเกิดที่เมืองเหอป๋าย จากนั้นนางคลอดน้องชายให้เขาใช้ชีวิตเช่นชาวนาเกือบห้าปี เป็นมารดาที่แสนอบอุ่นอยู่มาไม่นานก็มีคนสกุลลู่ตามหาจนเจอ เย็นวันหนึ่งบอกกับท่านพ่อว่ามีคนจากบ้านเดิมมาพบบอกว่าบิดาป่วยหนัก จึงอยากไปดูใจสักครั้งแล้วนางก็กลับเมืองหลวง จากวันนั้นนางก็ขาดการติดต่อไปเลย จนกระทั่งท่านพ่อรับงานคุ้มกันอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ไปด้วยเพราะท่านพ่อให้เข้าสำนักศึกษา จนกระทั่งมีคนมาบอกว่าท่านพ่อเมาเหล้าแล้วพลัดตกน้ำ แต่สหายของท่านพ่อบอกเขาว่าก่อนจะหายไปท่านพ่อพบกับคนๆ นึง จากรูปลักษณ์ที่ท่านอาคนนั้นบอกมามันใกล้เคียงลู่หานมากที่สุด เมิ่งหย่งชวนอาศัยเส้นสายและคนรู้จักในยุทธภพของท่านพ่อทีมีอยู่เพื่อถามหาข่าวคราวจึงได้รู้ว่านางแต่งงานใหม่กับบุตรชายคนโตของสกุลจาง ตอนนี้นางมีบุตรชายอายุสี่ขวบกับบุตรสาวอายุสองขวบ ชีวิตครอบครัวช่างมีความสุขเสียจริงๆ พ่อแม่ลูกครบหน้า เขากลับมาอยู่ที่เหอป๋ายตั้งแต่อายุสิบขวบ ท่านพ่อนำเงินที่ทำการค้าเปิดสำนักคุ้มภัยอยู่นอกบ้านมาเป็นเวลาสิบปีซื้อที่ดินกว่าแปดสิบหมู่ แบ่งให้ท่านปู่ยี่สิบหมู่ ให้เขาสามสิบหมู่ อาเจินสามสิบหมู่ แต่ตอนนี้ที่ดินทั้งหมดกลับถูกบ้านใหญ่ยึดไป อีกทั้งโฉนดก็อยู่กับพวกเขา เมิ่งหย่งชวนไม่สนใจที่ดินเหล่านั้นหรอก เขาอยากเข้ากองทัพสร้างผลงานเพื่อครอบครองอำนาจแล้วไปตามหาบิดาท่านพ่อมีวรยุทธไม่ตกน้ำตายง่ายๆหรอก เว้นแต่ว่าเขาถุกใครสักคนใช้เล่ห์เหลี่ยม ตอนนี้เขาเริ่มคิดที่จะเอาที่ดินกลับมาแล้วที่อำเภอมีโฉนดต้นฉบับอยู่ แต่ดูเหมือนบ้านใหญ่จะไม่รู้เรื่องนี้ท่านพ่อมองออกว่าท่านปู่กับท่านย่าเป็นเช่นไร บิดาไปทำมาหากินนอกบ้านเป้นเวลานานไม่ได้ใกล้ชิดเท่ากับลุงใหญ่แม้จะส่งเงินมาให้ก็ใช่ว่าท่านปู่กับท่านย่าจะเอ็นดูท่านพ่อเพราะความห่างเหิน อีกทั้งตอนที่กลับมาภรรยาที่พามาด้วยไม่มีกระทั่งสินเดิม ยิ่งทำให้รังเกียจหนักกว่าเดิม เขาต้องไปเอาที่ดิหกสิบหมู่นั้นคืนมา เมียเขาอยากปลูกผักจะไม่มีที่ดินได้อย่างไรกัน ท่านปู่ท่านย่าพอได้รับข่าวว่าท่านพ่อพลัดตกแม่น้ำก้ยึดทุกอย่างไปจนหมด นางรักบุตรชายคนโตกับหลานชายเมิ่งอี้ยิ่งนัก นักพรตทำนายว่าสกุลเมิ่งมีบุญมากนักอีกหน่อยบุตรหลานจะได้เป็นใหญ่เป็นโต หึเข้าเรียนมาหกปีเพิ่งสอบผ่านถงเซิ่งฝันกลางวันไม่ยอมตื่นเสียจริงๆ เมิ่งหย่งชวนนอนคิดเรื่อยเปื่อยสักพักเสิ่นเยียนฟางจึงขยับตัวเล็กน้อย นางหันหน้ามาหาอกกว้างแขนเรียวกอดเอวหนาของเขาเอาไว้โดยไม่รู้ตัว กลิ่นกายของคนตัวเล็กในอ้อมแขนทำให้เขาผ่อนคลายจากเรื่องที่เพิ่งกวนใจเมื่อสักครู่ เรื่องที่ควรสะสางก็ต้องสะสาง ส่วนเรื่องที่อยู่ตรงหน้าก็ต้องจัดการ เมียยั่วยวนขนาดนี้จะปล่อยให้เขานอนนิ่งเป็นรูบปั้นได้อย่างไรกัน เมิ่งหย่งชวนสกัดจุดหลับเสิ่นเยี่ยนฟางก่อนจะจูบนางตั้งแต่หน้าผากไล่ลงมาถึงแก้มขาวนวลจนมาถึงริมฝีปากอวบอิ่มยั่วยวนนั้น นิ้วโป้งไล้เบาๆจากนั้นก็ก้มลงไปจูบนาง มือหนาจับปลายคางนางเชยขึ้นมา บีบขากรรไกรเบาๆเพื่อให้ริมฝีปากอ้าเล็กน้อย เขาสอดลิ้นร้อนชื้นของตนไล้เกี่ยวปลายลิ้นเรียวเล็ก ดูดดึงออกมาจนเขาพอใจ เมิ่งหย่งชวนคลายสาบเสื้อนางออก เขาอ้อยอิ่งจ้องมองใบหน้าของนางที่อยู่ในอารมณ์รัญจวน เมิ่งหย่งชวนเห้นภาพนั้นก้็อมยิ้มเมียคงฝันอยู่ ก่อนจะกระตุกสายเสื้อในสีแดงเข้มนั้นออก เต้านมมอวบอัดปรากฏแก่สายตาสีนิลของเขาทันที ปลายถันสีดอกเหมยยั่วเย้าเชิญชวนเขายิ่งนัก เมิ่งหย่งชวนตวัดลิ้นไล้วนปลายถันชูชันหยอกเย้าจนมันนพร้อมให้เขาดูดดื่มจากนั้นก็ก้มลงไปดูดกลืนอย่างหิวโหย เสียงครางแสนหวานที่ออกมาจากปากจิ้มลิ้มนั้นเมิ่งหย่งชวนได้ยินถึงกับดูดกลืนปลายถันรุนแรงขึ้นอีก "เสี่ยวฟางเจ้าหวานจริง อยากรักเจ้ายามมีสติยิ่งนักเชียว ขนาดถูกจี้จุดอยู่ยังครางได้หวานเพียงนี้ ลูกกวางน้อยข้าอยากขี่เจ้าเสียแล้วสิ เต็มมือนักนุ่มนิ่มเหลือเกิน เสี่ยวฟางจ๋า แข็งเป็นไตชูชชันถึงเพียงนี้เชียวหรือขนาดเจ้าหลับนะเนี่ย" เมิ่งหย่งชวนลักกินเต้าหู้คนตัวเล็กจนพอใจ เขาอยากปลดปล่อยเหมือนกันแต่นางฉลาดนัก ตื่นมาเมื่อเช้าได้ยินนางบ่นว่าเหตุใดถึงเมื่อยมือนักไปทำอะไรมานะ สงสัยเขาต้องให้มือน้อยๆนั่นพักก่อน เฮ้อใช้มือตัวเองก็ได้น่าเมิ่งหย่งชวน คนตัวโตออกไปปลดปล่อยนน้ำรักพุ่งกระเด็นไปไกลเขาได้แต่บ่นเสียดายกับตัวเอง "เฮ้อ ลูกๆของข้ามารดาเจ้ายังไม่พร้อมวันนี้พ่อต้องยอมใจร้ายสังหารพวกเจ้าเสียแล้ว รอนางพร้อมเมื่อไหร่เจ้าค่อยเกิดแล้วกันนะ" เมิ่งหย่งชวนจัดการตนเองเรียบร้อยก็เดินกลับเข้าห้อง กลืนน้ำลายอย่างเหนียวคอ ก่อนจะจัดการดูดเม้มสองเต้าอิ่มอย่างอาลัยอีกครั้งแล้วใส่เสื้อผ้าให้นางเรียบร้อยก่อนจะคลายจุดให้เสิ่นเยี่ยนฟางแล้วแกล้งหลับต่อ ส่วนเสิ่นเยี่ยนฟางที่ถุกคลายจุดสักพักก็ลืมตาขึ้นมา นางหน้าแดงให้ตายสิฝันบ้าอะไรเนี่ย นางฝันว่าเมิ่งหย่งชวนคลุกเคล้าจูบนางแถมยังดูดนมนางด้วย นี่มันฝันบ้าอะไรเนี่ย อึ๊ยยายบ้าถึงเขาจะหน้าตาดีก็เถอะแต่หล่อนจะมาคิดลามกตอนนอนไม่ได้นะ เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าคนที่นอนหลับก่อนจะบ่นเบาๆ "คนโรคจิต ข้าไม่มีทางทำกับเจ้าแบบนั้นในชีวิตจริงแน่ๆ แค่ในความฝันเท่านั้นแหละตาบ้า" เสิ่นเยี่ยนฟางค่อยๆจะลุกออกไปแต่ถูกแขนแข็งแรงกอดเอาไว้ ทำให้นางที่กำลังจะก้าวข้ามเขาล้มลงนอนทับร่างสูง เมิ่งหย่งชวนพลิกนางลงใต้ร่างก่อนจะมองด้วยสายตาหยอกล้อ กระซิบเสียงรัญจวนข้างใบหูเล็กๆนั่น พร้อมกับสอดลิ้นเข้าในรูหูของนางจนเสิ่นเยี่ยนฟางถึงกับต้องกลืนน้ำลายด้วยความวาบหวิว "เสี่ยวฟางเจ้าฝันถึงข้าหรือ ไหนบอกมาสิจ้าฝันว่าอะไร เด็กดื้อไม่เช่นนั้นวันนี้ไม่ได้ลงจากเตียงนะ" "อื้อ ปล่อยข้านะท่านพี่ข้าหนัก ท่านตัวใหญ่เกินไปแล้ว" "คนดี..ข้าไม่ได้ใหญ่แค่ตัวนะ เจ้าอยากพิสูจน์ไหม แต่ว่าเจ้ามีระดูอยู่พิสูจน์ไม่ได้ถ้าเช่นนั้นข้าแค่ให้เจ้าดูน่าจะได้ว่าไงอยากดูหรือเปล่า" "พะ พะ พอเลยนะตาบ้า ข้าจะไปหุงข้างแล้วอุ่นอาหาร นะ นะ นี่ ยะ ยะ เย็นมากแล้ว เดี๋ยวมืดจะลำบาก อื้ออออออ" เมิ่งหย่งชวนจูบนางอีกครั้งเขายอมรับว่านางมีอิทธิพลต่อเขามากจริงๆ ภรรยาแก้ชงคนนี้ทำเอาเขาควบคุมตัวเองไม่ได้สักครั้งที่อยู่ใกล้นาง เมิ่งหย่งชวนถอนริมฝีปากอย่างเสียดาย ก่อนจะเขี่ยปอยผมที่ยุ่งเหยิงเพราะฝีมือเขา แล้วเอ่ยเรื่องสำคัญ "เสี่ยวฟางอีกสามเดือนข้างหน้าข้าต้องกลับไปเมืองหลวงแล้ว ต้องไปเรียนต่อพรุ่งนี้จะไปอำเภอ จัดการเอาที่ดินของข้ากับอาเจินคืนมา เจ้าอยากปลูกผักข้าไม่ว่า แต่อย่าค้าขายเลยเป็นสตรี้องเจอคนมากหน้าบางคนก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนดีเสมอไป" เขาหวงนางหวงมากด้วย "หืม ท่านหายดีแล้วหรือ ไปเมืองหลวงจะอยู่อย่างไรท่านไปคนเดียวหากอาการกำเริบจะทำอย่างไร" เมิ่งหย่งชวนยิ้มให้นาง ก่อนจะพลิกกายลงนอนข้างๆรั้งนางมานอนหนุนแขน ลูบไหลบางเบาๆ "อย่ากังวลเลย เมืองหลวงมีโรงหมอมากมาย ข้ามีเงินที่เจ้าปล้นหวังซู่มานี่ หาซื้อโสมสักท่อนคงไม่เป็นอะไรมาก" "ท่านนี่นะปากเสีย อีกอย่างไม่ทำมาหากินแค่ปลูกผักไปวันๆจะรอดหรือ อาเจินต้องเรียนหนังสือเหมือนกันนะ ข้าวก็ต้องซื้อ" "อีกเจ็ดวันข้าจะไปบ้านเศรษฐีจางเพื่อเป็นอาจารย์ให้กับบุตรชายของเขาจางเหมิ่นเขาจ่ายให้ข้าสองพันตำลึง แต่หากจางเหมิ่นสอบได้ซิ่วไฉเขาจะจ่ายอีกสองพันห้าร้อยตำลึง เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าก็อยู่สบายแล้ว" "ท่านพี่อย่าลืมสิข้าเพิ่งมีเรื่องกับบุตรชายเขาไปนะ จางลี่คนสารเลวนั่น" "อย่าห่วงเลย จางลี่เป็นบุตรชายก็จริง แต่ว่าเป็นบุตรฮูหยินรอง จางเหมิ่นต่างหากเป็นบุตรฮูหยินเอกที่สำคัญเขาไม่ถูกกัน เขาไม่กล้ายุ่งกับข้าหรอก" "เหตใดจ่ายค่าจ้างอาจารย์แพงยิ่งนักเจ้าคะ เป็นซิ่วไฉสำคัญเพียงนั้นเชียวหรือ" "จางหมิ่นเป็นพ่อค้า แม้ว่าร่ำรวยแต่ไร้เกียรติการที่มีบุตรได้เป็นขุนนางเท่ากับทำให้ตระกูลจางได้ยับการยอมรับมากขึ้นจากเหล่าขุนนาง อีกทั้งต่อรองผลประโยชน์ง่ายกว่าเดิม" "ที่แท้ก็ทำเพื่อตัวเอง ท่านพี่หากฝนหยุดแล้วซ่อมแซมบ้านเปลี่ยนหลังคาเถอะวันนี้ลมแรงมากนัก อีกอย่างรั้วก็ต้องทำด้วย หากมีสัตว์ป่าหรือคนคิดร้ายขึ้นมา ข้าอยู่กับอาเจินสองจะไม่ปลอดภัย ข้าจะตัดไม้มาทำรั้วด้วย เมื่อวานข้าซื้อกระดาษกับพู่กันมาจะวาดแบบรั้วให้ท่านนะ" "ได้ เสี่ยวฟางก่อนไปข้าอยากเข้าหอกับเจ้าได้หรือไม่" "ท่านนี่พูดอะไรก็ไม่รู้ ข้าแต่งให้ท่านมาห้าวันเองนะ รออีกสักสองปีเถอะ หากท่านสอบผ่านแล้วได้เป็นขุนนาง วันใดเกิดคิดได้ว่าสตรีเช่นข้าไม่คู่ควรกับตำแหน่งขุนนางของท่านแล้วอยากผลักไสข้าเล่า" "ข้าไม่มีวันทำเรื่องอัปยศเช่นนั้นแน่นอน ไม่มีวันทำเหมือนพวกเขา" น้ำเสียงนั้นมีความเคียดแค้นเจือปนเสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าเขาจริงจัง เมิ่งหย่งชวนนึกได้ว่าเขาไม่ควรพูดจึงคลายอ้อมกอดออก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD