ตอนที่ 33 นายท่านไม่ได้อยากทานข้าว

2015 Words
ไร้สิ้นคู่หูข้างกายยิ่งทำให้หยดเทียนว้าเหว่มากกว่าเดิมสิบเท่า เบต้ายืนตัวแข็งนิ่งฟังเสียงตึกตักของหัวใจท่ามกลางสายลมอันเหน็บหนาวที่พ่นออกมาจากเครื่องปรับอากาศ ยังดีที่คุณยูกินั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้องนี้ด้วย ไม่อย่างนั้นเขาคงได้ตัวหดเล็กลงกว่านี้เป็นแน่ “อะฮึ่ม!” เสียงทุ้มกระแอมกระไอทำให้เลขาคนสนิทที่นั่งก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่ฝั่งตรงข้าม เงยหน้าขึ้นมองเจ้านายอย่างรวดเร็ว คิดว่าท่านประธานกำลังส่งซิกให้เพราะต้องการอะไรบางอย่าง ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นมองกลับได้รับสายตาดุกลอกไล่ไปทางประตูหมายจะสื่อว่า ‘ให้ออกไปได้แล้ว’ ในตอนแรก ยูกิมุ่นคิ้วฉงนไม่เข้าใจในความหมายที่เจ้านายต้องการจะบอก แต่พอท่านประธานมองกลอกไปที่ร่างเล็กสลับกับมองตัวเองเท่านั้นแหละ ยูกิถึงบางอ้อทันที! “คุณยูกิจะไปไหนหรอครับ?” ใบหน้าที่เอี้ยวมองไปทางอื่นรีบหันขวับกลับมาหาท่านรองประธานอย่างไว เมื่อหางตาเห็นว่าคุณยูกิตั้งท่าจะลุกออกจากโซฟา “พอดีเวลานี้ผมมีนัดกับฝ่ายบัญชีเอาไว้น่ะครับ” มันใช่ที่ไหนล่ะ! เขาโดนไล่ออกไปต่างหากถึงต้องลำบากหอบกองเอกสารสูงท่วมหัวพวกนี้กลับไปทำในห้องของตัวเอง “อ่อ.. ครับ” หยดเทียนลากเสียงยาวเข้าใจแม้อยากรั้งแขนคุณเขาไม่ให้ไปทว่าตนห้ามได้เสียที่ไหน จึงทำได้แค่เสตามองตามแผ่นหลังอย่างอาลัยอาวรณ์ แต่เมื่ออัลฟ่าหนุ่มเดินไปถึงหน้าประตูกลับยืนนิ่งเสียอย่างนั้น? “เอ่อ.. คุณเทียนครับ ช่วยเปิดประตูให้หน่อยได้ไหมครับ?” เพราะมือทั้งสองข้างประคองกองเอกสารอยู่จึงไม่สามารถสละมือข้างใดข้างหนึ่งมาผลักประตูได้ สุดท้ายต้องกลืนน้ำลายขอขัดจังหวะเจ้านายที่กำลังอ้าปากพูดกับร่างน้อย เพื่อขอความช่วยเหลือจากคุณคนสวนพลางยิ้มแหยเกรงใจ “แป๊บนึงนะครับ” ร่างสันทัดหมุนตัววิ่งตะแน่วๆ ไปเปิดประตูให้อย่างรวดเร็วพร้อมกระซิบกระซาบเสียงเบา “จะไปจริงๆ หรอครับ” “อย่ารั้งผมไว้เลยครับเดี๋ยวผมโดนดุ” ชายหนุ่มว่าแล้วยิ้มแห้งให้กำลังใจ “ผมไปนะครับ” หยดเทียนยิ้มเจื่อนส่งท้ายก่อนจะโน้มตัวเคารพเล็กน้อย และแล้วประตูก็ปิดลง บัดนี้ในห้องกว้างๆ ห้องนี้มีเพียงแค่ตนกับนายท่านเท่านั้นที่อยู่ด้านใน ให้เรียกว่าอยู่สองต่อสองก็คงไม่ผิด หยดเทียนหลับตาปี๋กังวล ไม่รู้ว่าคนจะปั้นสีหน้าหรือทำตัวอย่างไรดีจึงจะดูไม่แปลกตา “มานี่สิ” เสียงทุ้มเย็นลอยมากับอากาศทำให้คนที่ยืนหันหน้าเข้าประตูขนลุกซู่ เจ้าหัวใจหดเกร็งเริ่มเต้นเร็วระรัวกว่าตอนแรกเป็นไหนๆ ลำตัวเกร็งค่อยๆ หันประจันหน้ากับเจ้านายก่อนจะพ่นลมหายใจข่มความประหม่า โกหกตัวเองว่าอารมณ์ตนมั่นคงดี จึงยกฝ่าเท้าก้าวไปหาเจ้าของเสียงอย่างไม่อยากให้ถึงแล้วหยุดกึกอยู่ที่เดิม “มานั่งตรงนี้” มือแกร่งตบแปะลงบนโซฟาข้างๆ ตัวเองพร้อมเหลือบตามองใบหน้าที่ไม่ได้เห็นมานานหลายวันอย่างคิดถึง แต่ทว่าร่างเล็กกลับไม่สะท้านต่อคำสั่งเอาแต่ยืนนิ่งไม่ไหวติงเพราะความเขินอาย “ผะ ผมยืนดีกว่าครับ” ปากสั่นรีบปฏิเสธ ในจังหวะนั้นเองดวงตาแป๋วก็เผลอเสสบเข้ากับดวงตาคมเฉี่ยวที่จ้องตนไม่ปล่อยแว็บหนึ่งก่อนจะรีบเบือนหนี เพราะความเห่อร้อนบนแก้มปลั่งจนไม่กล้าสู้หน้า แม้เพียงเผลอสบตากันเพียงเสี้ยววิ กลับสร้างพายุโหมกระหน่ำต่อดวงใจน้อยๆ ให้ไหวสั่นแทบควบคุมไม่ได้ เอย์จิอมยิ้มในปาก ไม่รู้ว่านิสัยจอมแก่นไม่เกรงกลัวใครหายไปไหนเสียแล้ว ทำไมเจ้าแมวมึนตัวนี้กลายเป็นแมวขี้อายไม่กล้าพูดไปได้ แต่กระนั้นกลับน่ารักไปอีกแบบ.. “มานี่มา” เมื่อไม่ยอมลงมานั่งเอง เอย์จิก็จะพามานั่ง มือแกร่งคว้าเอามือสากที่ขยุ้มชายเสื้อจนเป็นรอยยับแล้วออกแรงดึงเบาๆ ให้ร่างตรงหน้าเดินมาตาม ก่อนกดแขนให้หยดเทียนนั่งลงข้างตนอย่างคนเอาแต่ใจ “ทานอาหารเที่ยงหรือยัง” เอย์จิกล่าวพร้อมปล่อยมือจากอีกฝ่าย หันมานำกล่องข้าวออกจากถุงผ้า “กินมาเรียบร้อยแล้วครับ โครก...” ฝ่ามือเล็กรีบกุมเจ้าท้องไม่รักดีไว้พร้อมก้มหน้าอาย เสียงท้องร้องประท้วงดังขนาดนี้ไอ้ที่โกหกลงไปก็คงไม่มีใครเชื่อ “ท้องร้องดังขนาดนี้คงกินช้างได้ทั้งตัว” นายท่านเอ่ยแซวก่อนอมยิ้มมองเจ้าตัวน่ารักมุดหน้าหนีพูดอะไรไม่ออกมากกว่าเก่า ดวงหน้างามขึ้นสีแดงแล้วแดงอีกและแดงต่อไปราวกับคนเป็นไข้ที่เพิ่งไปวิ่งตากแดดมา ไม่ยักกะรู้ว่าตัวเองเป็นคนขี้อายมากขนาดนี้! “ไม่ได้ร้องดังขนาดนั้นซะหน่อย” ทิ้งช่วงเงียบนานราวนาทีกว่าเสียงแผ่วจึงเอ่ยสวนให้ได้ยิน “หืม.. ไม่น่าล่ะ เสียงท้องคงร้องไม่ดังขนาดนี้นี่เนอะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นข้างมุมปาก เจ้าสายตาคมบาดก็เอาแต่จดจ้องริมฝีปากอวบอิ่มเพลินตา ยิ่งอีกฝ่ายเขินอายและเผลอขบกัดมันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งปลุกความดำมืดใต้จิตใจมากเท่านั้น กระทั่งเจ้าของร่างก็ยังไม่รู้ตัว นั่งชื่นชมความน่ารักน่าคั้นของอีกฝ่ายได้ไม่นานก็ต้องตื่นจากห้วงภวังค์ เพราะเสียงโครกครากร้องประท้วง เอย์จิจึงเพิ่งคิดได้ว่าตนไม่ควรแกล้งคนที่หิวโซต่อ “ทานข้าวกับฉันเถอะ ฉันกินคนเดียวไม่หมดหรอก” สายตาปกติค่อนไปทางออดอ้อนไม่ต่างจากเจ้ามูมู่เวลาเข้าไปคลอเคลียมีมี่ถูกส่งให้ร่างที่นั่งข้างๆ พร้อมกับยื่นช้อนก้านยาวให้ เจ้าของเสียงท้องร้องเหลือบมองกับข้าวในกล่องควบคู่การตัดสินใจทั้งที่น้ำลายส่อเต็มปาก ทั้งเนื้อตุ๋น กุ้งย่างทรงเครื่องที่ถูกแกะเปลือกไว้อย่างดีทานกับข้าวผัดร้อนๆ ไหนจะผลไม้หลากสีถูกวางเรียงสลับกันน่ารับประทานนัก ไม่รู้ว่าพ่อบ้านทำเอาใจนายท่านหรือเอาใจคนสวนกันแน่ “..พ่อบ้านทำมาเยอะขนาดนี้ ผมยอมช่วยนายท่านกินก็ได้ครับ” ว่าอย่างมีชั้นเชิงแม้จะไม่ได้ผล มือสากเอื้อมหยิบช้อนในมือเจ้านายอย่างเกรงใจ สายตากลมไหวทอประกายวับแวมจดจ่ออยู่กับอาหารน่าเลิศรสแต่ไม่ยอมลงมือทาน หยดเทียนจะลงมือทานได้อย่างไรในเมื่อเจ้าของยังไม่แตะเลยสักนิด ชายหนุ่มที่เห็นท่าทางก็ไหวศีรษะอย่างรู้ทัน เขาหยิบส้อมจากกล่องเก็บช้อนส้อมและมีดขึ้นมาจิ้มผลไม้เข้าปากเปิดฤกษ์ คนสวนเห็นดังนั้นก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม ขยับยุกยิกเข้ามาใกล้ข้าวกล่องจนแขนแอบแตะผิวหยาบใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าบัดนี้ตนพาร่างกายตัวเองเข้ามาชิดใกล้กับอีกหนึ่งคนขนาดไหน เพราะมัวแต่นั่งตั้งใจทานอาหารตรงหน้า เวรีกู๊ด! มันเป็นไปตามแผน!! ใช่มันลื่นไหลเป็นไปตามแผน เพราะใช่ว่าเอย์จิหิวข้าวเพียงอย่างเดียว กับอีแค่อาหารกลางวันสั่งให้ลูกน้องไปซื้อให้ หรือไม่ก็ลงไปทานในห้องอาหารของบริษัทก็สิ้นเรื่อง ไม่จำเป็นต้องให้คนสวนต้องถ่อเอาข้าวกล่องมาให้ถึงที่นี่ หากแต่ไม่หวังอย่างอื่น ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก ทว่าผ่านไปเพียงสิบนาทีไม่เกินเลย การรับประทานอาหารจำต้องจบลงเพราะเสียงเคาะประตูขัดจังหวะ คนตัวโตขมวดคิ้วไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมา เพียงเปล่งเสียงเอ่ยอนุญาตให้อีกฝ่ายเข้ามาเท่านั้น “ขออนุญาตครับท่านประธาน แขกมาถึงแล้วครับ” ยูกิกล่าวสั้นๆ ก่อนจะโน้มศีรษะเคารพและเดินออกไปเตรียมต้อนรับแขกต่างบริษัทที่นัดมาว่าธุรกิจกันในวันนี้ และอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็คงจะเดินทางมาถึงห้องผู้บริหาร เอย์จิถอนหายใจเบาอย่างไม่ได้ดั่งใจหลังจากที่รองประธานออกไปแล้ว เขายังไม่ได้ใช้เวลาให้เต็มอิ่มกับที่นั่งอยู่ข้างๆ เลยก็ต้องกลับไปทำงานอีกแล้ว “ฉันต้องกลับไปทำงานแล้ว” ดวงหน้าคมหันกลับมาหาร่างเล็กตาละห้อยจึงเห็นว่า อีกฝ่ายกำลังปิดฝาข้าวกล่องและเก็บช้อนส้อมเข้าที่อย่างเรียบร้อย เอย์จิเห็นแล้วยิ่งนึกเสียดายนัก “นายท่านเพิ่งทานนิดเดียวเองเดี๋ยวผมเก็บที่เหลือไว้ให้ คุยธุระเสร็จเมื่อไหร่อย่าลืมกินนะครับ” เขาพูดทั้งที่สายตาง่วนอยู่กับการเก็บข้าวกล่องใส่ถุงผ้า “ไม่เป็นไร เทียนเอาไปกินรอฉันที่ห้องอาหารด้านล่างนะ ฉันเสร็จธุระเมื่อไหร่เราค่อยกลับบ้านกัน” รอยยิ้มอ่อนแฝงไปความอบอุ่นทำให้หยดเทียนคล้อยตามได้ไม่ยาก “ครับ” ตอบกลับพร้อมยิ้มแฉ่งอย่างไม่เขินอายเท่าครั้งแรก หยดเทียนรีบหอบถุงผ้าที่ด้านในบรรจุข้าวกล่องพร่องไปครึ่งหนึ่ง เดินส่ายหางกระดิกหูออกไปอย่างอารมณ์ดี และก่อนออกไปก็ไม่ลืมจะส่งรอยยิ้มหวานให้กำลังใจเจ้านายที่กำลังเผชิญหน้ากับงานแสนยุ่งยาก “อ๊ะ! สู้ๆ นะครับเดี๋ยวผมจะเป็นเด็กดีรออยู่ข้างล่าง” ตู้ม!! ทิ้งระเบิดปรมาณูก้อนใหญ่ให้คนอย่างเอย์จิรับมือ แล้วหมุนตัวเดินออกไปทิ้งให้อัลฟ่ายืนหน้าแดงปลั่งราวกับลูกมะเขือเทศสุกฟังเสียงเพลงรักที่เกิดขึ้นในใจคนเดียว หยดเทียนยืนอยู่ในลิฟต์พร้อมกอดถุงผ้าแนบอก ยิ้มเล็กยิ้มน้อยราวกับคนบ้าแตกต่างจากเมื่อหลายวันก่อนอย่างลิบลับราวกับเป็นเทียนคนละหยดกัน ดวงใจอิ่มฟูเหมือนถูกน้ำแร่เติมเต็มเมื่อได้พบหน้าคนที่ครวญหา จนเผลอลืมไปเสียสนิทเลยว่าคนคนนั้นเพิ่งผ่านงานหมั้นหมายมาหมาดๆ แต่กระนั้นทั้งหัวใจทั้งสมองมันกลับรับแต่ความสุขจนไม่มีเวลาเจียดไปคิดเรื่องอื่น ติ๋ง! เสียงลิฟต์เคลื่อนลงมาถึงชั้นหนึ่งตามเป้าหมายของผู้โดยสาร ประตูลิฟต์ที่ปิดอย่างแน่นหนาเคลื่อนออกจากกันเปิดทางให้เจ้าตัวเล็กที่อยู่ด้านในสาวเท้าออกมา “ลืมถามนายท่านไปเลยว่าห้องอาหารไปทางไหน” หยดเทียนเกาหัวแกรกๆ คิดไม่ออกว่าจะเอาอย่างไรต่อจึงเดินสุ่มๆ ไปตามทาง เขาได้ยินมาแค่ว่าห้องอาหารอยู่ชั้นแรกเดินไปมั่วๆ ก็คงถึง แต่ในขณะที่กำลังเลี้ยวเข้าหัวมุมข้างหน้าซึ่งเป็นทางสามแยก ฝีเท้าก็ต้องหยุดชะงักฉับพลันจนเกิดเสียงดังอี๊ดอ๊าดของพื้น เมื่อคนที่เดินผ่านหน้าไปคือธนา อัลฟ่าที่เขารู้จักเป็นอย่างดี ชายคนนั้นเสดวงตาหลุบมองหยดเทียนเล็กน้อยอย่างคนไม่รู้จักกันมาก่อน เช่นเดียวก็ไม่ยอมแพ้มองกลับด้วยหางตา ขบกรามแน่นเมื่อนึกถึงเรื่องราวเกิดขึ้นกับหยดน้ำก่อนหน้า ทว่าในใจยังตระหนักถึงหน้าเจ้านายอยู่จึงยอมเดินผ่านไปเงียบๆ ทำเหมือนธนาเป็นคนแปลกหน้าเช่นเดียวกัน ‘ตาเฒ่านั้นคือแขกของนายท่านหรอ? ’ คิดพร้อมกับโคลงศีรษะสงสัย ถึงอย่างไรชายคนนั้นก็เป็นประธานบริษัทเหมือนกันนี่นะ หากเป็นแขกเหรื่อดั่งที่คุณยูกิว่าก็คงไม่แปลก หยดเทียนทึ้งหัวไม่ได้ใส่ใจมากนักแล้วตั้งหน้าตั้งตาเดินหาห้องอาหารในบริษัทต่อ

Read on the App

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD