bc

ผมคือคนสวนของนายยากูซ่า [Mperg]

book_age16+
125
FOLLOW
2.7K
READ
mafia
mystery
like
intro-logo
Blurb

ชีวิตอับโชคของนักเลงเก่าผู้ไม่สามารถเลือกชะตาตามใจได้ ท้ายที่สุดจึงขอยอมแพ้ ปล่อยกายตามโชคชะตาจนมันนำพาให้หลุดเข้ามาอยู่ในกำมือของยากูซ่าหน้ากวนดีกรีสามีในอนาคต "นี่เพิ่งเริ่มต้นเอง กูจะลงโรงแล้วหรอวะ!"

chap-preview
Free preview
บทนำ
​ “เรียกฉันมามีอะไร รีบๆ พูดมาอย่าทำให้ฉันต้องเสียเวลา” “ไม่เสียเวลาแน่นอนค่ะ” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่นามว่าธนา ชายผู้ที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้านได้ไม่ถึงนาทีก็พ่นคำพูดหยาบกร้านพร้อมสีหน้าไม่สบอารมณ์ออกมา ทำให้อุ่นทิพย์ที่ยิ้มกว้างเพราะเห็นหน้าสามีหุบยิ้มทันที “เทียนพาน้องขึ้นไปบนห้องก่อนนะ เดี๋ยวแม่คุยกับพ่อเสร็จแล้วแม่จะเรียกลงมาทานข้าว” เธอว่าเสียงเพราะพริ้งและยิ้มแย้ม เพราะรู้ว่าสามีไม่ชอบให้ใครมาแทรกบทสนทนาแม้แต่ลูกก็ไม่เว้น “ครับแม่” หยดเทียนเด็กน้อยในวัย 10 ขวบพยักหน้าหงึกหงักพลางยิ้มแจ้วรับคำสั่ง ก่อนจะเดินเข้าไปจูงมือน้องชายอายุห่างกัน 6 ปี ที่ในตอนนี้กำลังนั่งระบายสีอยู่บนโต๊ะอย่างตั้งใจ ร่างต่างระดับของสองพี่น้องเดินขึ้นบันไดไปอย่างทุลักทุเล เพราะมือข้างหนึ่งของผู้เป็นพี่หอบทั้งสมุดภาพวาดและกล่องใส่สีไม้ ส่วนมืออีกข้างแปลงเป็นเสาไม้เคลื่อนที่ให้เด็กน้อยขาสั้นจับขึ้นบันไดไปทีละขั้นๆ ด้วยสีหน้ามุ่งมั่น และยังคอยระมัดระวังความปลอดภัยให้อีก แต่ก่อนที่เด็กน้อยทั้งสองคนจะเดินขึ้นถึงชั้นสอง หยดเทียนที่เริ่มรู้เรื่องรู้ราวเหลือบมองบิดาที่ยืนกอดอกและมีสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะสลับสายตามองผู้เป็นแม่ที่ทำท่าทีกระอักกระอ่วน ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะบอกเรื่องนี้กับสามีดีหรือไม่ หยดเทียนชักสายตากลับมามองน้องชายด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยดังเดิม เพราะเด็กน้อยรู้ดีว่าอีกไม่นานนับจากนี้ เสียงดังเอะอะโวยวายของพ่อและแม่จะดังขึ้น ซึ่งเป็นเช่นนี้แทบทุกครั้งที่พ่อกลับมาบ้าน เมื่อเข้ามาในห้องนอน คนโตกว่ารีบจัดแจงเก็บผ้าห่มและหมอนออกไปจากเตียง จากนั้นจึงค่อยๆ ดันก้นนิ่มของน้องชายที่กำลังปีนป่ายขึ้นไปบนเตียงอย่างทุลักทุเลเพราะหยดน้ำขาสั้น ก่อนคนพี่จะปีนขึ้นตามไป แล้วพากันนอนราบบนพื้นนุ่ม ลงมือละเลงสีใส่ภาพวาดในสมุดที่ตกลงกันว่าจะระบายกันคนละฝั่ง “พี่เยียนน้ำอยากได้ฉีดำ” หยดน้ำเอ่ยบอกพี่ชายเสียงใสหลังจากที่ตนใช้เวลาหาสีที่ต้องการอยู่นานแต่กลับไม่พบ “เดี๋ยวพี่หาให้นะ” หยดเทียนวางสีไม้ที่กำในมือลงแล้วกวาดตาหาสีดำ แต่ทว่าหยดเทียนหาอย่างถี่ถ้วนทุกซอกทุกมุมของกล่องไม้แล้วแต่กลับไม่เจอ จึงขบคิดว่าตนลืมเก็บสีดำใส่ในกล่องด้วยหรือเปล่า ว่าแล้วเขาจึงตัดสินใจลงไปดูข้างล่าง “เดี๋ยวพี่ลงไปดูข้างล่างให้ น้ำรอพี่อยู่ในห้องนะ” ร่างที่เล็กกว่าพยักหน้าหงึกหงักอย่างว่าง่ายแล้วหันไปสนใจภาพวาดต่อ ฝ่าเท้าขนาดเล็กเหยียบสัมผัสขั้นบันไดอย่างเงียบเบาและระมัดระวังเป็นอย่างดี เพราะกลัวว่าชายหญิงที่กำลังเสวนากันอยู่ด้านหลังจะได้ยิน เด็กน้อยยืนเกาะราวบันไดพลันหวั่นใจกลัวบิดาจะตีตนดังที่ทำกับแม่เพราะตนไม่ฟังคำสั่ง แล้วลอบมาแอบฟังผู้ใหญ่คุยกัน แต่ยังไม่ทันสิ้นสุดความเคลือบแคลง น้ำเสียงทุ้มใส่อารมณ์ที่กำลังพูดจากับมารดาของตนก็ดังแว่วเข้ามาในหูเสียก่อน ทำให้เด็กน้อยกลืนน้ำลายและยิ่งไม่กล้าลงไปกว่าเดิม “อย่ามัวแต่พูดจาไร้สาระรีบๆ เข้าประเด็นสักทีเถอะ” “เอ่อ...คือว่า คุณก็รู้ใช่ไหมคะว่าน้ำต้องเข้าโรงเรียนเทอมหน้า” “ทำไม? กลัวเงินไม่พอค่าใช้จ่ายลูกหรือไง” “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ฉันรู้ว่ายังไงคุณก็ต้องส่งเสียน้ำเรียนอยู่แล้ว แต่เรื่องที่ฉันจะคุยกับคุณคือเรื่องของเทียนค่ะ ..คือคุณส่งเทียนเรียนด้วยได้ไหมคะ” อุ่นทิพย์กล่าวพร้อมก้มหน้าต่ำด้วยความรู้สึกประหม่า จริงอยู่ว่าที่ผ่านมาเธอได้รับเงินจากสามีสำหรับใช้ในการเลี้ยงดูหยดน้ำ แต่กลับไม่มีในส่วนของหยดเทียน เธอจึงจำต้องเอาเงินเก็บที่หามาทั้งชีวิตส่งเสียลูกชายคนโตให้ได้เรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่ทว่าตอนนี้เงินก้อนนั้นกำลังลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ จนตอนนี้แทบจะไม่เหลือแล้ว เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากขอความช่วยเหลือจากสามี สิ้นสุดคำพูดของภรรยาสาว ธนาก็แสดงสีหน้าบึ้งตึงทันที ชายหนุ่มชักคิดสงสัยแล้วสิว่าหญิงที่ยืนอยู่ต่อหน้าตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังให้เขาเลี้ยงดูลูกของชู้ที่แอบได้เสียกันเมื่อหลายปีก่อน อุ่นทิพย์คลอดหยดเทียนออกมาก็ได้เขาเป็นคนดูแล แล้วต่อจากนี้ก็ยังจะเป็นความรับผิดชอบของเขาอยู่อีกหรือ “จึ๊! นี่เธอจะให้ฉันเลี้ยงลูกของชู้หรอ? ฉันบอกเธอหลายครั้งแล้วนะว่าเด็กนั่นไม่ใช่ลูกของฉัน ดังนั้นฉันไม่จำเป็นต้องดูแลลูกของคนอื่น” “แต่คุณคะ-” “ฉันว่าเราพูดเรื่องนี้หลายครั้งเกินไปแล้วนะทิพย์ เธอควรเข้าใจเรื่องนี้สักทีสิ” “ฉันก็บอกคุณไปหลายครั้งแล้วนะคะว่าเทียนคือลูกของเรา คุณก็ไม่เชื่อฉันเลยสักครั้ง ฉันขอให้คุณไปตรวจดีเอ็นเอ คุณก็อ้างนู้นอ้างนี่อยู่เรื่อย ..บางครั้งฉันก็สงสัยเหมือนกันนะคะว่า ที่คุณไม่ยอมทำให้เรื่องนี้ให้มันชัดสักที เพราะคุณไม่อยากรับผิดชอบเทียนหรือเปล่า” อุ่นทิพย์รู้สึกไม่พอใจทุกครั้งที่สามีหาว่าหยดเทียนคือลูกของชู้ทั้งที่มันไม่ใช่ความจริง เธออดทนมามากทนมานานหลายปี จนสุดท้ายความน้อยใจที่เอ่อเต็มอกจนเริ่มล้นออกมา เธอจึงเผลอแผดเสียงดังใส่หน้าสามีอย่างที่ไม่เคยทำ นั่นยิ่งจึงทำไมธนามีอารมณ์โกรธมากขึ้น “หึ! จะให้ฉันไปตรวจให้เสียเวลาทำไม ในเมื่อวันนั้นฉันเห็นคาตาว่าเธอเอาผู้ชายคนอื่นมานอนบนเตียงของฉัน! แล้วถ้ายังอยากอยู่กินเงินของฉันต่อละก็ อย่าพูดเรื่องไร้สาระพรรคนี้ให้ฉันอารมณ์เสียอีก” ธนาตวาดตาขวางใส่ผู้เป็นภรรยาพร้อมกับหันหลังตั้งท่าจะเดินออกไป ภาพวันวานที่ไม่อยากจำยังคงหลอกหลอนเขามาตลอด ความทรงจำยังคงรีรันเป็นฉากๆ ว่าเหตุการณ์และความรู้สึกแตกสลายตอนนั้นมันเจ็บเจียนตายเท่าไหร่ แม้ในตอนนี้เขายอมยกโทษและลองให้โอกาสเธอด้วยการมีลูกด้วยกัน หวังให้เป็นตัวสานสัมพันธ์ให้กลับมาคงเดิม แต่กระนั้นธนาก็ไม่สามารถปล่อยมือจากเรื่องราวในอดีตได้ ทำให้ผลกรรมนั้นตกมาอยู่ที่เด็กน้อยที่ไม่รู้ประสีประสาแทน ฝ่ายอุ่นทิพย์ที่ได้ยินสามีว่าถากถางเธอเช่นนั้นก็เกิดน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมา ทั้งๆ ที่ธนาบอกกับเธอว่าให้อภัยแล้ว และต่อจากนี้พวกเราจะเริ่มต้นกันใหม่ด้วยกัน แต่ไม่ว่าจะมีปากเสียงกันครั้งใดก็หนีไม่พ้นที่ธนาจะหยิบยกเอาเรื่องราวในวันนั้นมาต่อว่าเธออย่างเจ็บแสบ จนสุดท้ายในวันที่เธอไม่สามารถทนการโดนสามีเหยียบย้ำความรู้สึกได้ก็มาถึง เธอจึงโต้ตอบด้วยคำพูดที่อัดอั้นตันใจมานาน “อ๋อ.. หรือว่าคุณกลัวเมียคุณจะรู้ความจริงว่า คุณได้กับฉันก่อนที่จะแต่งกับมัน” “...” “ถ้าอีนั่นมันรู้ว่าคนที่มาก่อนคือฉัน มันคงชักดิ้นชักงอรอลงโรงก่อนแม่ของมันแน่ๆ หึ.. ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป นอกจากเมียของคุณที่ตาย ใครจะตายต่ออีก” หญิงสาวกอดอกเผยรอยยิ้มมุมปากด้วยสีหน้าที่พึงพอใจผิดกับดวงตาที่แดงก่ำด้วยความโกรธ “ถ้าเธอกล้าแตะต้องครอบครัวของฉันก็ลองดู ..ถึงเธอจะเป็นแม่ของลูก ฉันก็ไม่เอาเธอไว้แน่” ธนาหันหน้ามากล่าวประโยคทิ่มใจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างสูงตระหง่านจะเดินออกไปโดยไม่หันหน้ามาแลหญิงที่อยู่ด้านหลังเขาอีก “ฉันก็เป็นครอบครัวคุณเหมือนกันนะ คุณก็ต้องสนใจฉันบ้างสิ! ฉันมาก่อนมัน! คุณต้องรักฉันมากกว่ามันสิ!! กรี๊ด!!” เสียงกรีดร้องแสบแก้วหูของหญิงสาวลั่นมาตามหลังของธนาไม่หยุด แต่กระนั้นเขากลับไม่สนใจไยดีมันสักนิด ชายหนุ่มก้าวขาขึ้นรถด้วยอารมณ์ร้อนที่พุ่งพวยและเหยียบคันเร่งออกไปอย่างไม่ลังเล ไม่แม้แต่จะเหลือบดวงตามองกระจกด้านข้างหรือกระจกหลัง ที่สะท้อนภาพบ้านของภรรยาน้อยสักนิด แม้แต่หางตาก็ยังไม่คิดแล เด็กน้อยที่ยืนฟังบทสนทนาอยู่นานก็ยืนนิ่งไร้แววตาสดใส แม้หยดเทียนจะยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ แต่ก็เข้าใจเรื่องราว เข้าใจบทสนทนาของพ่อแม่ทุกคำ ร่างเล็กคลี่ยิ้มไร้ความปรีดา ในที่สุดก็ได้คำตอบที่ถามตัวเองอยู่ทุกวัน ‘ทำไมพ่อชอบหอมแก้มน้ำมากกว่าแก้มเขา ทำไมพ่อถึงซื้อของเล่นให้น้ำมากกว่าซื้อให้เขา และทำไมพ่อทำเหมือนรักน้ำมากกว่ารักเขา’ ตอนนี้มันกระจ่างแก่ใจเด็กน้อยแล้ว แต่น่าแปลกใจนัก ที่ใบหน้าไม่มีน้ำตาหล่นเลอะสักหยดทั้งที่เขาควรจะร้องห่มร้องไห้จนสายใจแทบขาด หรืออาจเป็นเพราะลึกๆ แล้วเด็กน้อยคิดแบบนี้มาตั้งนาน คิดมาตลอดว่าสักวันมันจะลงเอยเช่นนี้ หยดเทียนตัดสินใจเดินลงมาข้างล่าง เพราะยังไงตนก็จะนำสีดำไปให้น้องชายให้ได้ ในเมื่อตอนนี้ไม่มีผู้เป็นพ่อแล้ว เขาก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีก เพราะในสายตาของหยดเทียน แม่เป็นคนดี พูดเพราะ แถมยังยิ้มสวยด้วยจึงไม่เกรงกลัว ฝ่าเท้าก้าวลงบันไดมาทีละขั้นๆ จนลงมาถึงตีนบันได ร่างเล็กถอนหายใจเมื่อเห็นข้าวของเครื่องใช้กระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ซึ่งคาดเดาได้ง่ายๆ ว่าคงหนีไม่พ้นฝีมือแม่ ถัดสายตาไปอีกไม่ไกลก็เห็นร่างของมารดากองตัวนั่งร้องไห้อยู่บนพื้น “แม่ครับ” “จะเอาอะไรอีก” น้ำเสียงแข็งกระด้างทำให้ฝ่าเท้าเล็กที่กำลังแตะลงบนพื้นห้องเพื่อเดินไปปลอบแม่ชะงัก แล้วถดสั่นกลับมาไว้ที่เดิม เด็กน้อยกลืนน้ำลาย มือไม้จิกกัดกันอย่างสับสนเพราะแม่เปลี่ยนไปจากเดิม แววตาและน้ำเสียงดูดุร้าย ไม่เป็นคนใจดีเหมือนแต่ก่อน “ยะ หยิบสีดำตรงนั้นให้เทียนหน่อยได้ไหมครับ” เด็กน้อยพูดพร้อมชี้มือไปที่เป้าหมาย เธอค่อยๆ หลุบตาลงมองแท่งสีไม้ที่วางอยู่ข้างๆ ตามที่ลูกชายบอก มือเรียวซีดเอื้อมมือหยิบสีไม้อย่างเชื่องช้า แล้วยกมันขึ้นพินิจมองด้วยสีหน้าเลื่อนลอยไม่มีสติเช่นคนผิดหวัง ก่อนจะผละสายตาดุมั่น ง้างมือปาสิ่งที่กอบกำไว้ใส่กำแพงด้วยแรงโทสะจนสีไม้หัก “มึงออกไปเลย! ออกไปให้พ้นหน้ากู!! ออกไป!!” “ฮึก ฮือ..แม่” อุ่นทิพย์ตวาดใส่ลูกในไส้อย่างที่ไม่เคยทำ เธอเผลอโยนความผิดที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ลูกชายคนโตทั้งๆ ที่เขาไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเกิดมาแล้วจะได้เจออะไร ร่างเล็กรีบวิ่งไปเก็บสีที่หักเป็นสองท่อนด้วยม่านน้ำตาแล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดไปพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ ในตอนนี้มารดากลายเป็นปีศาจในสายตาเด็กน้อยวัย 10 ขวบไปแล้ว “ฮึก..ฮึก..ฮือ...” เด็กน้อยนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่หน้าประตูห้อง ที่อีกฟากหนึ่งมีร่างของน้องชายกำลังนอนระบายสีอยู่อย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ หยดเทียนไม่กล้าแม้แต่จะจับลูกบิดเปิดประตูเข้าไปหา เพราะกลัวว่าจะตอบคำถามหยดน้ำไม่ได้ หากน้องชายถามหาสาเหตุที่พี่ชายมีน้ำหยาดใสไหลออกจากดวงตา นับแต่วินาทีนั้นมา การเอาตัวรอดในสังคมและครอบครัวทรหดของหยดเทียนจึงเริ่มขึ้น ด้วยแรงผลักดันมหาศาลจากความเกลียดชังของพ่อแม่ ทำให้เขาต้องดิ้นรนชีวิตเพื่อช่วยตัวเองและน้อง ตะเกียกตะกายสุดแรงเพื่อหลุดออกมาจากวงจรอุบาทว์ที่พ่อสร้างขึ้น ซึ่งพวกเขาไม่ได้เต็มใจจะอยู่ตั้งแต่แรก

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

แน่นะ...ว่ารักฉัน

read
1K
bc

บุปผากลางใจ จอมจักรพรรดิ

read
5.4K
bc

Papa is my Mom พ่อครับอย่าดื้อ (Mpreg)

read
1.1K
bc

ครั้งหนึ่ง...(Yaoi, boy story)

read
2.3K
bc

เกิดใหม่เป็นเมียคุณปราบ

read
1K
bc

โอกาสที่สองของนที

read
1K
bc

DONE FOR ME ได้โปรดยกโทษให้ผม

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook