ตอนที่8

1770 Words
"เป็นอย่างไรบ้าง?" เสียงทุ้มต่ำถามขึ้นมาแฝงไปด้วยความห่วงใยที่ออกมาจากใจจริง ๆ เพราะมันดูไม่เหมือนเขาตั้งใจหรือเสแสร้งออกมาเลยแม้แต่นิด และอีกอย่างแดนดินจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร "คุณแดนลาออกจากงานเหรอคะ?" ฉันชนิตยังคงติดใจเรื่องนี้อยู่ เพราะเกรงว่าการออกจากงานของแดนดินสาเหตุจะมาจากตัวของเธอ "ครับ" "ทำไม?" ฉันชนิตมองเห็นความไม่ปกติระหว่างธันว์กับแดนดินเธอเลยอดที่จะสงสัยไม่ได้ ว่าเรื่องอะไรกันแน่ถึงทำให้แดนดินต้องลาออกจากงานที่มีเงินเดือนสูงลิบลิ่วขนาดนั้น "ผมคงจะเบื่อ...งานที่ต้องเห็นน้ำตาผู้หญิงซ้ำๆมั้งครับ" แดนดินพูดออกมาอย่างไม่ทันคิดว่าจะกระทบกับความรู้สึกของฉันชนิต "คงจะเจอบ่อยสินะคะ" ฉันชนิตถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือความเจ็บจากกระทำของธันว์ยังไม่เคยหายไปแม้สักนาทีเดียว "เอ่อ คุณนิต...." เมื่อรู้ตัวว่าพูดอะไรเกินเลยไป แดนดินเลยอึกอักอยากจะตบปากตัวเองนัก "อย่าห่วงเลยค่ะ นิตเข้มแข็งกว่าที่คุณคิดไว้เยอะเลย นิตโอเคค่ะ" ฉันชนิตบอกจากความรู้สึกจริงๆเพราะชีวิตของเธอเจอความสูญเสียความเจ็บปวดมามาก กับแค่เรื่องแค่นี้ถือว่าเล็กน้อย ก็แค่เจ็บปวดให้กับความโง่เขลาของตัวเองมันก็สมควรแล้ว "คุณควรย้ายที่อยู่ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง" แดนดินพูดขณะที่กวาดสายตาไปรอบๆ อพาร์ตเมนต์แห่งนี้ไม่มีแม้แต่การรักษาความปลอดภัยที่ดีเลย เขาคงจะมาช่วยเธอไม่ได้ทุกรอบเสียด้วย "ลำพังเงินเก็บของนิตคงจะไม่พอย้ายที่อยู่หรอกค่ะ นิตอยู่ได้ ก็คงต้องคอยหลบและระวังตัวเองมากขึ้นค่ะ" ฉันชนิตกล่าวพร้อมกับฝืนยิ้มออกมานิดหน่อยเพื่อจะบอกให้เขาอย่าได้กังวลอะไร "ถ้าคุณนิตไม่รังเกียจ ผมอยากจะแนะนำงานให้คุณ พรุ่งนี้มาหาผมตามนี้นะครับ" แดนดินยื่นนามบัตรที่อยู่บริษัทให้ฉันชนิต ฉันชนิตรับมาอ่านก่อนจะพยักหน้า "อย่าคิดมากว่าผมจะเป็นคนของใคร ผมคือผม ไม่ใช่คนของใครทั้งนั้น อย่าได้เกรงใจนายแดนดินคนนี้เลย" บอกอย่างหนักแน่น เขาตั้งใจจะช่วยเธอจริงๆ ไม่รู้เพราะอะไรหลังจากเหตุการณ์วันนั้นเรื่องของฉันชนิตก็ติดอยู่ในหัวของเขาตลอดมา "ค่ะ ด้วยลำพังเงินในบัญชีตอนนี้คงเกรงใจคุณแดนไม่ได้แล้วล่ะค่ะ ไม่งั้นอดตายแน่ๆ" ฉันชนิตเอ่ยออกมาราวกับว่าเป็นเรื่องขำขันเพราะมีรอยยิ้มหวานนั้นปรากฏออกมาจากใบหน้าคมสวย แดนดินเผลอมองแล้วก็ต้องยิ้มตามหญิงสาวไปด้วย "งั้นพรุ่งนี้อย่าลืมไปนะครับ" "ค่ะ..นิตจะไป" "ผมกลับก่อนนะครับ" "ค่ะ ขอบคุณนะคะ" แดนดินหันหลังจะเดินจากไปพร้อมกับที่ฉันชนิตไขกุญแจห้องจะเข้าไปเหมือนกัน "คุณนิตครับ" "คะ" "ฝันดีครับ" ฉันชนิตยิ้มให้เขาอีกครั้ง เมื่อเห็นความเงอะๆงะๆทำอะไรไม่ถูกของเขาเธอก็อดที่จะแอบขำเบาๆไม่ได้ ในใจครุ่นคิดถึงมิตรภาพของเธอและแดนดินครั้งนี้ 'คงจะได้เพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกคนสินะเรา' แดนดินเดินมาถึงรถหรูของเขาที่จอดอยู่ใกล้ๆ เขาเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างใน กวาดสายตาไปรอบๆอพาร์ทเมนต์แห่งนี้เพื่อตรวจตราความปลอดภัย แดนดินสำรวจดูแล้วที่แห่งนี้ถึงแม้จะดูสะอาดน่าอยู่แต่ลำพังห้องเช่าเดือนล่ะประมานสามพันถึงสี่พันนี้ไม่ได้ช่วยให้ความปลอดภัยอะไรฉันชนิตเลย อีกอย่างผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมรับเงินก้อนโตที่ธันว์พยายามยัดเยียดให้มา ถือว่าสำหรับฉันชนิตเป็นผู้หญิงที่เงินซื้อไม่ได้ ธันว์คงจะเสียผู้หญิงดีๆไปคราวนี้แหละ แต่ทว่าคนอย่างธันว์ก็ไม่ได้โง่ ถึงจะเสียฉันชนิตแต่ธันว์ก็ได้ผู้หญิงคนนั้นไป อีกเหตุผลหนึ่งถ้าคนอย่างธันว์โง่ เขาคงไม่เสียเวลาในการไปเรียนรู้การบริหารงานของธันว์เป็นเวลาสองปีกว่าหรอก เพราะชื่อเสียงอันเก่งกาจในการทำธุรกิจของธันว์นั้นเลื่องลือไปจนถึงเมืองนอก จนทำให้คนอย่างแดนดินทึ่งถึงขนาดยอมปลอมตัวเองเป็นชายหนุ่มธรรมดายอมทำงานภายใต้คำสั่งของธันว์ ทั้งๆที่ฐานะของแดนดินนั้นรวยติดอันดับของประเทศด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าเขาอาศัยอยู่เมืองนอกซะนานจนไม่เป็นที่รู้จักในสังคม แต่ ณ ตอนนี้ แดนดิน ปรีดาโสภณ ทายาทนักธุรกิจหมื่นล้านระดับต้นๆของเมืองไทยได้กลับเข้าตำแหน่งแล้ว และอีกไม่นานสังคมก็น่าจะรู้จักแดนดิน ในฐานะหนุ่มโสดประธานบริษัทปรีดาโสภณกรุ๊ปและในเครือกันถ้วนหน้าทั้งประเทศ และเขาจะขึ้นแท่นหนุ่มโสดเนื้อหอมคนต่อไป ถ้าเปรียบกับธันว์แล้ว เขารวยขึ้นมาด้วยลำแข้งของตัวเองแตกต่างจากแดนดินที่รวยมาจากการสืบทอดต่อจากตระกูล และแน่นอนว่าแดนดินย่อมมั่นคงและมั่งคั่งมากกว่าธันว์หลายเท่านัก วันต่อมา ฉันชนิตมาตามที่อยู่ที่แดนดินได้มอบเอาไว้ให้ น่าแปลกมากบริษัทใหญ่โตขนาดนี้ แต่พอรู้ว่าเป็นชื่อของเธอพนักงานก็เหมือนจะทราบเรื่องนอกจากจะต้อนรับเธออย่างดีแล้ว ยังพาเธอมานั่งรอสัมภาษณ์อย่างรวดเร็ว โดยไม่รอที่จะตรวจสอบเอกสารหรือเขียนใบสมัครเพิ่มเติมก่อน "เชิญค่ะคุณ ท่านประธานรออยู่ข้างในแล้ว" หญิงสาวหน้าตาสะสวยเดินออกมาจากในห้องที่เรียกว่าห้องของท่านประธาน ฉันชนิตพยักหน้าขอบคุณและเดินเข้าไปอย่างประหม่าเล็กๆ ผู้ชายร่างสูงโปร่งใส่สูทคนหนึ่งยืนหันหลังให้เธอในท่ากอดอกชมวิวทิวทัศน์ภายนอกนิ่ง มองจากข้างหลังเธอคุ้นๆเขานัก "สวัสดีค่ะ" เพียงเขาหันมาเท่านั้นแหละ ฉันชนิตถึงกับตะลึงหรี่ตาจ้องเขานิ่ง ว่าเขาใช่คนที่เธอเจอบ่อยๆหรือเปล่าทำไมถึงได้กลายมาเป็นประธานบริษัทใหญ่โตไปได้ "สวัสดีครับ" "คุณ!" "ผม แดนดิน ปรีดาโสภณ" "คุณคือทะ ท่านประธาน" "ใช่ครับ ผมคือทายาทคนเดียวของปรีดาโสภณ เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกครับ" "นี่มัน มันเรื่องอะไรกันคะ?" "ใจเย็นๆ นั่งลงก่อนนะครับคุณนิต" "คุณ...เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้" "นั่งลงก่อนครับ" ฉันชนิตนั่งลงตามคำสั่งของเขา เธอรู้สึกตกใจมาก เพราะที่เธอรู้จักแดนดินคือผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่ทำงานในบริษัทของธันว์ ถึงแม้เขาจะดูผิวพรรณดีเกินคนธรรมดาทั่วไป แต่ ฉันชนิตไม่เคยคิดสักนิดว่าเขาจะกลายเป็นทายาทของปรีดาโสภณ ฉันชนิตรู้จักนามสกุลนี้ดี เพราะโด่งดังมากในเมืองไทย "ผมแดนดิน ความจริงแล้วผมก็ไม่คาดคิดเหมือนคุณนั่นแหละครับว่าจะกลับมาบริหารงานเป็นประธานของบริษัทอีก ถ้าไม่ใช่เพราะคุณย่าไม่สบาย ผมเลยต้องจำใจมาทำในฐานะหลานเพียงคนเดียวของคุณย่าครับ" "เรื่องนี้เจ้านายเก่าของคุณไม่ทราบเหรอคะ?" ฉันชนิตใช้คำว่าเจ้านายเก่าเพราะไม่อยากเอ่ยชื่อของผู้ชายคนนั้นออกมา "ไม่ทราบครับ เพราะแต่ก่อนผมใช้นามสกุลของคุณแม่ เพิ่งมาเปลี่ยนกลับเหมือนเดิมเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง" "แล้วคุณให้นิตมาพบคุณวันนี้เพราะเรื่องอะไรคะ?" ฉันชนิตรู้สึกประหม่าและแปลกใจไปหมดที่เรื่องราวกลายมาเป็นแบบนี้ เธอจ้องเขานิ่งอย่างค้นหาคำตอบว่าเขาทำทั้งหมดให้เธอไปทำไม แต่ก็ไม่เจอแววตาที่เจ้าเล่ห์อะไรจากแดนดินเลย แต่ก็นะคนอย่างฉันชนิตจะไปมองคนออกได้ยังไง ก็โดนหลอกมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่าอีกใจมันก็แย้งว่าแดนดินไม่ได้เข้าหาเธอในฐานะชู้สาว เขาไม่มีแววเจ้าชู้อะไรกับเธอเลยแม้แต่นิดเดียว "ผมต้องการให้คุณมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของผม นั่นโต๊ะทำงานของคุณครับ เริ่มงานวันนี้ได้เลย" แดนดินผายมือไปทางโต๊ะทำงานอีกมุมหนึ่งของห้องที่กั้นพาทิชั่นไว้เรียบร้อยแล้ว แถมยังตกแต่งห้องได้อย่างน่ารักเหมือนกับใส่ใจเป็นอย่างดี "นิตยังไม่ได้บอกว่าจะทำงานกับคุณเลยนะคะ" แดนดินยิ้มออกมาเมื่อได้ยินฉันชนิตพูดแบบนั้น เขาเตรียมคำตอบไว้หมดแล้วเพราะรู้ว่าคนอย่างฉันชนิตถ้าไม่มีเหตุผลพอ ต่อให้เอาเงินมากองตรงหน้าก็คงไม่มาตามที่เขาบอกหรอก "เมื่อคืนคุณก็บอกเองนี่ครับว่าเงินในบัญชีหมดแล้ว เพราะฉะนั้นก็เริ่มงานได้เลยครับ" แดนดินผายมือไปที่โต๊ะทำงานของเธออีกครั้ง "เรื่องนั้นมันก็ใช่อยู่หรอกค่ะ แต่ว่า ต้องนั่งทำงานที่เดียวกันด้วยเหรอคะ?" "ก็คุณยังต้องเรียนรู้งานจากผมอีกเยอะ จะแยกห้องเดินไปเดินมาทำไมล่ะครับ เอาไว้คุณเก่งและชำนาญพอที่จะทำอะไรแทนผมได้ค่อยแยกห้องนะครับ เอ่อ หมายถึงห้องทำงานน่ะ" "งั้นนิตไม่เกรงใจแล้วนะคะ" "ผมมีอีกเรื่องจะบอก" "เรื่องอะไรคะ?" "เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเรา มีคอนโดสำหรับตำแหน่งให้เป็นที่พักใกล้ที่ทำงานครับ กุญแจอยู่ในซองเอกสารสีน้ำตาลบนโต๊ะนะครับ เดี๋ยวเย็นนี้เลิกงานผมจะพาคุณไปดูอีกครั้ง" "มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอคะ?" "ไม่เลยครับ เพราะต่อไปนี้เราจะใช้งานคุณอย่างหนัก" แดนดินยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย สายตาคมของเขาฉายแต่แววความอบอุ่นจริงใจ จนฉันชนิตรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาด้วยความซึ้งใจกับสิ่งดีๆที่เขาทำให้กับผู้หญิงที่ไร้ค่าคนนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD