ร่วมครึ่งชั่วโมงถัดมา เสียงสวบสาบก็ดังขึ้นที่ชายป่าฝั่งบ้าน หญิงสาวทั้งสองลุกขึ้นทันที
พรรคพวกของนายอำนาจทั้งแปดคนโผล่มาพร้อมกับหิ้วปีกร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นนายมาด้วย และมีสมาชิกเพิ่มจำนวนสองคน เป็นชายร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมเข้มที่ทั้งคู่ไม่เคยเห็น หนึ่งในสองนั้นถูกหิ้วปีกมาเช่นกัน
“ เกิดอะไรขึ้น ” สร้อยทองระล่ำระลักถามแล้วโผเข้าไปหาผู้เป็นผัวที่ปรือตาขึ้นมามองแล้วหลับลงไป เป็นไอ้ชิต ลูกน้องที่ไปด้วยช่วยตอบแทน
“ มีพวกเข้ามาโจมตีพวกเราตอนไปส่งพวกของเสี่ยเพชร มันกระหน่ำยิง นี่พ่อนายโดนไปลูกหนึ่งดีที่ไม่ใช่จุดสำคัญ ส่วนพวกเสี่ยเพชรก็หนีไปฝั่งโน้น ไม่รู้ว่าจะโดนกันบ้างหรือเปล่า ”
“ แล้วสองคนนี่ใคร ”
“ เขาเป็นนักท่องเที่ยวเดินป่า เขาช่วยยิงสกัดพวกนั้นจนล่าถอย แต่โดนยิงคนหนึ่ง พ่อนายเลยให้เขามาที่นี่ด้วย ”
“ ถ้าอย่างนั้นก็รีบขึ้นเรือนเลย แล้วให้คนไปตามหมอประทาย พ่อของนังเทียนมาด่วน
ทั้งหมดเคลื่อนขบวนขึ้นเรือน และโดยไม่ได้ตั้งใจ สายตาคมกริบของผู้มาเยือนที่โดนยิงประสานเข้ากับดวงตากลมโตของสาวน้อยร่างอ้อนแอ้นพอดิบพอดี
เปลวเทียนรีบก้มหลบ เพราะดวงตาคู่นั้นมันราวกับมีอานุภาพบางอย่าง เพียงแค่จ้องมองมันทำให้เธอร้อนวูบวาบไปทั่วกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขืนจ้องไปสักพักคงต้องถูกดูดวิญญาณไปเป็นแน่
อีกฝ่ายยกยิ้มที่มุมปาก แล้วแอบประทับสาวน้อยบ้านป่าหน้าแฉล้มลงในหัวใจโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน
**********************************************
“ หมอประทาย เดี๋ยวไปช่วยรักษาคุณเขาด้วย ”
เสียงแหบโหยเล็ดรอดออกจากปากของพ่อนาย หลังจากที่ให้คนไปตามหมอประทายและปรุงยาเพื่อห้ามเลือดและยาต้มให้ดื่มจนเขารู้สึกตัวเรียบร้อย
“ คุณไหนพ่อนาย ” หมอประทายเอ่ยถาม
“ คุณที่โดนยิงที่มาด้วย ถ้าเขาไม่ยิงสกัดให้ป่านนี้ข้าตายไปแล้ว ” นายอำนาจถึงแม้จะเป็นคนร้ายกาจแต่ก็ยังดีที่ยังรู้จักคุณคนอยู่บ้าง
“ แต่ข้ายังรักษาพ่อนายไม่เสร็จเลยนะ ต้องประคบอีกตลอด แผลถึงจะสนิท ” พ่อนายนิ่งไปอึดใจก่อนออกคำสั่ง
“ ให้นังเทียนมันไปช่วยดูก่อน มันทำเป็นไหม ”
“ ก็คงเป็น ปกติมันก็ช่วยข้าตลอด ”
“ สร้อย ไปบอกนังเทียนให้เข้ามาเอายาไปปรุงแล้วช่วยรักษาคนที่ช่วยข้า ”
“ จ้ะ ” สร้อยที่นั่งมองสามีอย่างเป็นห่วงรับคำ ก่อนออกไปตามเปลวเทียนที่นั่งรออยู่หน้าห้อง ก่อนเธอจะเข้ามาแบ่งยาสมุนไพรจากพ่อแล้วเดินไปยังห้องที่ ‘ คุณ ’ คนเจ็บ พักอยู่กับเพื่อนของเขา
เปลวเทียนสาวเท้าเข้าไปในห้องที่ถูกเปิดอ้าไว้อยู่แล้ว พบชายทั้งคู่ผู้มาเยือนอยู่ในนั้น ทั้งคู่กำยำล่ำสันไม่ต่างกัน แต่คนเจ็บดูเหมือนจะสูงใหญ่กว่าเหลือเกิน
คนที่มีดวงตาดูดวิญญาณ คนที่จ้องเธอคนนั้น...
ทั้งคู่สวมกางเกงยีนส์สีเข้ม เสื้อซาฟารี รองเท้าสำหรับเดินป่าที่ถอดวางไว้ชานบันได
“ เทียนเอายาสมุนไพรมารักษาให้คุณจ้ะ ขออนุญาตเข้าไปนะจ๊ะ ” เสียงใสเอ่ยบอก อีกคนพนักหน้า
“ เชิญครับ ”
หญิงสาวกระมิดกระเมี้ยนถือถาดสมุนไพรและยาต้มในถ้วยเข้าไปวางไว้ด้านข้างคนเจ็บที่นอนอยู่บนฟูก
“ ชื่อเทียนเหรอครับ ” คนเจ็บถาม เธอพยักหน้ารับ
“ ชื่อเปลวเทียนจ้ะ เรียกว่าเทียนเฉย ๆ ก็ได้ ”
“ ผมชื่อภูตะวัน เรียกสั้น ๆ ว่าภู นี่เพื่อนผม ธีภพ ”
“ เรียกสั้น ๆ ว่าธีครับผม ” เพื่อนของเขาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ทำให้รู้สึกว่าเป็นมิตรกว่าคนคนนี้ที่เคร่งขรึมและเสมือนว่ามีบรรยากาศหนาหนักอยู่รอบตัวตลอดเวลา
“ จ้ะ ” เธอรับคำสั้น ๆ
“ คุณภูโดนยิงตรงไหนจ๊ะ ”
“ ต้นแขน ”
“ เดี๋ยวเทียนเอายาใส่ให้ ”
“ เดี๋ยว ๆ นี่มันยาอะไรกัน แล้วเทียนรักษาเป็นเหรอ ” เพื่อนของเขาที่ชื่อธีภพทักท้วง เธอเงยหน้าขึ้นอธิบาย
“ พ่อของเทียนคือหมอประทาย เป็นหมอยาประจำหมู่บ้านสืบทอดมาตั้งแต่ปู่ทวด แล้วพ่อก็สอนเทียนด้วยจ้ะ ยาสมุนไพรนี้ไม่มีอันตราย ”
“ เพื่อนของผมจะปลอดภัยแน่นะ ”
“ รับรองจ้ะ ”
“ แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผม เทียนจะรับผิดชอบยังไง ”
คนเจ็บถามขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึม เปลวเทียนหันไปมองหน้าเขาแล้วทำตาโตอย่างตระหนก
แสงสีส้มจากตะเกียงที่จุดไว้มุมห้องสาดเข้ามาทำให้ต่างคนต่างเห็นใบหน้ากันได้ชัดเจนจะแจ้ง
ใบหน้าคร้ามแดดทว่าคมสันเกินชายในหมู่บ้านทั้งหมดที่เธอเคยพบมา ดวงตาคมกริบที่มีแพขนตายาวกินชายปกคลุม มันอยู่ใต้ปีกคิ้วสวยที่สยายราวปีกอินทรี จมูกยาวโด่งเป็นสั รับกันกับปากได้รูปที่เผยอแย้มออกนิด ๆ ใบหน้ายาวได้รูปนั้นมีตอเคราเขียวเข้มล้อมกรอบ ผมเผ้าตัดรองทรงเช่นชายทั่วไปที่ดูยุ่งเหยิงจากการต่อสู้ทว่าไม่ได้ลดทอนความคมสันของคนเบื้องหน้าได้เลย
สายตาคมกริบจ้องมองเธอไม่วาง ดวงหน้ารูปไข่ นัยน์ตากลมโตรับกันดีกับคิ้วโก่งสวย จมูกโด่งรั้น ปากรูปกระจับอวบอิ่มที่เขาอยากจะรู้นักว่ามันจะหวานหอมเพียงใด เส้นผมสีดำขลับถูกมวยขึ้นไปเกล้าไปบนศีรษะได้รูป สายตาซุกซนเลื้อยไล่ลงมายังบริเวณที่มีผ้าผวยปกคลุมไหล่เบื้องล่างเธอคาดอกด้วยผ้าทอสีกลักที่ชาวบ้านย้อมกันเอง และสวมผ้าถุงสีเดียวกัน
ภูตะวันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนหื่นกามจนเกิดอารมณ์ทางเพศกับผู้หญิงไปทั่ว เขาเองออกจะติดหยิ่งยโสกับสาว ๆ ด้วยซ้ำไป รับมาบางครั้งเพียงแค่ต้องการจะสนุกและปลดปล่อย แต่กับผู้หญิงคนนี้มันไม่ใช่
เขาอยากจะปลดเปลื้องผ้านั้นออก ดูเนื้อในเรือนร่างว่ามันจะนวลงามเสมือนใบหน้านวลกระจ่างที่ไม่มีเครื่องประทินความงามใด ๆ เคลือบฉาบนี้หรือไม่ อยากจะลองสูดกลิ่นแล้วสัมผัสว่ามันจะนุ่มนิ่มเพียงใด