เปลวเทียนผู้อาภัพ

1280 Words
        ณ หมู่บ้านภูธารา ชนเผ่าอิสระซึ่งไม่ขึ้นกับประเทศใด พวกเขาอาศัยอยู่ชายแดนประเทศไทยบนเนินเขาเตี้ย ๆ  เบื้องล่างมีสายธารอันทอดยาวซึ่งผู้คนที่นี่ใช้สายน้ำนี้หล่อเลี้ยงชีวิต ผู้ค**ำรงชีวิตด้วยการทำหัตถกรรมทอเสื้อผ้า และนำส่งไปจำหน่ายยังตลาดในเมือง ชีวิตอันเรียบง่ายไม่วุ่นวายท่ามกลางความงดงามทางธรรมชาติ ช่างสวยงามและน่าหลงใหลเหลือเกิน           แต่นั่นมันเพียงฉากบังหน้าในยามนี้ ความสงบที่มีกันมาช้านานถูกทำลายลงเพราะหัวหน้าหมู่บ้านที่ชื่อนายอำนาจ หรือพ่อนายของชาวบ้าน ที่สืบทอดตำแหน่งมาจากนายอำนวยผู้เป็นพ่อที่เสียชีวิตลง ผู้ที่ปกครองหมู่บ้านด้วยศีลธรรมและความยุติธรรมเสมอมา เขาถูกติดต่อมาจากพวกค้ายาเสพติดและอาวุธสงครามให้ที่นี่เป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้า เงินทองที่ได้จากเพียงแค่ให้พื้นที่พวกนั้นยืมเพียงชั่วครู่ชั่วยามมันมากเหลือเกินที่จะทำให้นายอำนาจกล้าที่จะแหกกฎของพ่อ หนำซ้ำเขายังริเอาหัวเชื้อเหล้ามาต้มขายให้คนในหมู่บ้านอีกด้วย           แม้จะเป็นพ่อลูกแต่นิสัยของทั้งคู่ต่างกันราวฟ้ากับเหว นายอำนวยเป็นชายใจดี มีเมตตาต่อลูกบ้าน ปกครองด้วยความยุติธรรมเสมอ แต่อำนาจนั้นสมชื่อ เขาชอบความมีอิทธิพล เพราะถือว่าตนเหนือกว่าคนอื่น ยิ่งมีพวก  ‘ เสี่ยเพชร ’ เจ้าของยาเสพติดและอาวุธเหล่านั้นมาหนุนหลัง ยิ่งไม่มีใครกล้าหือกับเขา           อีกเรื่องเสื่อมเสียคือ นายอำนาจมักมากในกาม เขามีเมียหลวงหนึ่งคนชื่อสร้อยทองแต่ไม่มีลูกเพราะเขาเป็นหมัน แต่จะมีนางบำเรอที่เข้า ๆ ออก ๆ นับไม่ถ้วนในเรือนหลังใหญ่ที่ปลูกสร้างด้วยเงินสกปรก สร้อยทองได้แต่หวานอมขมกลืนเพราะรักกันมาตั้งแต่เพิ่งเริ่มแตกเนื้อสาว แรกนั้นอำนาจเป็นคนขยันทำมาหากิน แต่เงินทองและอิทธิพลที่มีในมือช่างเปลี่ยนเขาเหลือเกิน จากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยทีเดียว           เมียน้อย นางบำเรอ สุดแล้วแต่จะเรียกที่เขาเอามาบำเรอกามในบ้าน บางคนก็เป็นเด็กสาวใจแตกที่สมัครใจ รักสบาย เพราะเขาบำรุงบำเรอทั้งเสื้อผ้าเครื่องประดับให้ทุกอย่าง บางคนก็ถูกบังคับด้วยการที่พ่อแม่มากู้หนี้ยืมสินนายอำนาจแล้วไม่มีดอกเบี้ยจ่าย หากมีลูกสาวถูกตาต้องใจ เขาก็จะยึดครองมาเป็นของตัวเองหน้าด้าน ๆ ไม่สนว่าใครจะเต็มใจหรือไม่ หากขัดขืนก็ใช้กำลัง สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครกล้าหือ เพราะเขามีทั้งอำนาจ เงินทอง และอาวุธ           ค่ำคืนเดือนดับ คืนที่นายอำนาจและลูกน้องไปส่งพวกของเสี่ยเพชรที่ชายน้ำหลังจากนัดลูกค้ามารับสินค้าล็อตล่าสุด เกิดเสียงปืนดังสนั่นจนคนในเรือนใหญ่ทั้งเมียน้อย เมียหลวงต้องตื่นขึ้นมาอย่างตระหนก           “ นั่นมันอะไรกันวะ ”           สร้อยทองผู้เป็นเมียหลวง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าแม่นายสาวเท้าลงเรือนจ้องมองไปยังชายป่าที่ติดกับสายน้ำ           “ จะเป็นอะไร้ ไม่ใช่พ่อนายหรือพวกลูกน้องที่ไปด้วยเกิดอยากยิงบ่างค่างชะนีซ้อมมือขึ้นมาล่ะมั้ง ทำฉันตกอกตกใจหมด กำลังนอนหลับสบายอยู่เลยเชียว เสียเวลาชะมัด กลับไปนอนดีกว่า ” ชบาสาววัยยี่สิบห้ารูปร่างอวบอัดหนึ่งในนางบำเรอว่าแล้วอ้าปากหาวกว้างก่อนที่จะเดินกลับเข้าเรือนไป ตามด้วยคนอื่น ๆ ที่ตามกันไปต้อย ๆ พวกหล่อนเข้ามาอยู่ในเรือนก็หาใช่ความรักไม่ หวังเพียงความสบายและทรัพย์สิน แล้วเรื่องอะไรจะต้องมายืนอดตาหลับขับตานอนเฝ้าจ้องมองอยู่อย่างนี้         เหลือเพียงสาวน้อยรูปร่างบอบบางนางหนึ่งที่เดินลงมาเบื้องล่าง ก่อนยืนเก้ ๆ กัง ๆ อย่างทำอะไรไม่ถูกอยู่เบื้องหลังแม่นาย           “ อ้าว นังเทียน เอ็งมายืนทำอะไรตรงนี้ ไม่กลับไปนอนอย่างอีพวกนั้นหรือไง ” เธอหลุบตาลงพื้น อ้อมแอ้มตอบอย่างกลัวเกรง           “ เทียนเห็นแม่นายยืนอยู่คนเดียว ก็เลย... ”           “ ลงมายืนเป็นเพื่อนงั้นรึ เอ็งคิดว่าข้าอ่อนแอขนาดนั้นหรือไง ข้ากลัวผี กลัวความมืด อะไรพรรค์นั้นรึ ”           “ ไม่ใช่แบบนั้นนะจ๊ะ ไม่ใช่เลยจ้ะ เทียนรู้ว่าแม่นายเข้มแข็ง เทียนขอโทษที่ทำให้แม่นายเข้าใจผิด ถ้าแม่นายไม่ชอบเทียนจะกลับขึ้นห้องก็ได้จ้ะ ” เธอโบกไม้โบกมือพัลวันหน้าตาตื่น นั่นทำให้สร้อยทองยิ้มออกมาที่มุมปาก แต่กลับเอ่ยออกมาอย่างเศร้าสร้อย           “ ข้าไม่ได้เข้มแข็งหรอกเทียนเอ๊ย ถ้าข้าเข้มแข็ง ข้าก็คงหยุดยั้งผัวข้าได้ ให้เขาไม่เปลี่ยนไปขนาดนี้ ”           “ เทียนขอโทษนะจ๊ะ ที่เข้ามาทำให้แม่นายเสียใจ ”           “ ไม่หรอกเทียน เอ็งต่างจากคนอื่นนัก ”           สร้อยทองว่าพลางเพ่งพิศใบหน้าแฉล้มหวานหยดย้อยของสาวน้อยเบื้องหน้าอย่างแสนสงสาร         เปลวเทียน เป็นเด็กสาววัยสิบแปด อาศัยอยู่กับพ่อคือหมอประทายที่เป็นหมอสมุนไพรประจำหมู่บ้านแต่กลับติดเหล้าที่นายอำนาจต้มขายและห้ามคนอื่นทำซ้ำ เขาสั่งลูกน้องว่าให้พ่อของเทียนดื่มฟรีแต่แอบจดจำนวนเงินไว้ จนกระทั่งถูกทวงถามและพ่อของเทียนไม่มีจ่าย นั่นจึงเป็นเหตุให้เขายึดเด็กสาวเอามาบำเรอกามตนโดยที่เธอไม่ได้สมัครใจใด ๆ         สองสัปดาห์ที่เธอเข้ามาอยู่ที่ดี สร้อยทองยังจำคืนที่เปลวเทียนถูกย่ำยีจากผู้เป็นผัวได้ เพราะห้องบำเรอกามของเขาอยู่ข้างห้องของเธอ เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดมันบาดลึกเข้าไปในใจแต่เธอก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะเข้าไปช่วยเหลือ         รุ่งเช้า เปลวเทียนออกมาจากห้องด้วยความสะบักสะบอม ดวงตากลมโตขนตางอนเป็นแพนั้นบวมช้ำ จมูกโด่งงามแดงก่ำ ริมฝีปากบวมเจ่อแตกเลือดซิบ เธอนุ่งกระโจมอกจึงทำให้เห็นรอยกัดช้ำเป็นจ้ำ ๆ สาวน้อยเดิน โขยกเขยกด้วยความเป็นหญิงถูกทำลายอย่างไม่ทะนุถนอม สร้อยทองไม่เข้าใจผู้เป็นผัว เมื่อก่อนเขาไม่ได้มีนิสัยชอบความรุนแรงเช่นนี้          เธอได้แต่ยื่นสีผึ้งเคี่ยวกับสมุนไพรให้กับเปลวเทียนและหาใบบัวบกมาต้มให้กินแก้ช้ำใน โดยไม่ได้พูดจาอะไรกันมากกว่านั้น แต่เปลวเทียนรู้ว่าอีกฝ่ายก็เป็นห่วงตนอยู่เหมือนกัน ไม่เหมือนพวกนางบำเรอคนอื่นที่คอยจะอิจฉาและสมน้ำหน้าอยู่เสมอ พวกนั้นต่างพยายามทำตัวเอาอกเอาใจพ่อนายเพราะหวังจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาได้เป็นแม่นาย แต่เมื่อมีของสดใหม่แถมทั้งสวยหยดย้อยอย่างเปลวเทียนเข้ามา มันทำให้พ่อนายหลงเธอจนโงหัวไม่ขึ้น           สร้อยทองและเปลวเทียนต่างนั่งลงที่แคร่หน้าบ้านโดยไม่ได้พูดอะไรกันทั้งสิ้น สร้อยทองนั้นเฝ้ารอเพราะห่วงผู้เป็นผัว แม้ว่าเขาจะชั่วจะเลวเพียงใดแต่เขาก็เป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอรัก           ส่วนเปลวเทียนนั้นแม้เธอจะไม่มีใจรักพ่อนายแม้แต่นิด กระเดียดไปทางรังเกียจขยะแขยงกับสิ่งที่ตนโดนกระทำจากเขาด้วยซ้ำ แต่อย่างไรแล้วเขาก็ได้ชื่อว่าผัวและเธอไม่อยากให้แม่นายนั่งรอเพียงลำพัง หากเกิดเรื่องเกิดราวอะไรขึ้น เธอจะได้ช่วยได้ทันท่วงที         
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD