3 สนิทสนม

2166 Words
หลายอาทิตย์ต่อมา "พี่บูมคะ วันนี้ขออนุญาตติวครึ่งวันได้ไหมคะ" น้ำเสียงหวาน มาก่อนตัว "หืม ทำไมล่ะครับไม่อยากให้พี่ติวให้แล้วหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยถาม สายตาจับจ้องร่างบางที่กำลังเดินนวยนาดเข้ามา "วันนี้ขวัญอยากดูหนัง พี่บูมไปดูเป็นเพื่อนขวัญหน่อยนะคะ " สาวน้อยทำท่าออดอ้อน เหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ในอุ้งมือเขา "งั้นก็ได้ครับ เห็นแก่ที่น้องขวัญตั้งใจติวมาตลอดหลายอาทิตย์" ชายหนุ่มบอกด้วยความอารมณ์ดี เขาเองก็ไม่ได้หยุดมาหลายอาทิตย์แล้วเหมือนกัน "เย้ๆ ดีใจจังเลยค่ะ" เธอดีใจจนลืมตัว กอดแขนพี่บูมไว้แน่น ส่วนเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้เธอกอดแขนอยู่อย่างนั้น แต่พอได้สติ เธอก็รีบปล่อยมือออกจากแขนเขาทันที และใช้มือจับท้ายทอยด้วยท่าทีเก้อเขิน "เอ่อ คือ ขวัญขอโทษค่ะขวัญดีใจไปหน่อย" เธอทำหน้าเจื่อนๆ ด้วยกลัวชายหนุ่มจะตำหนิ "ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ได้ว่า แต่อย่าไปทำแบบนี้กับใครก็พอ" เขาหมายความว่า ทำได้แค่กับเขาคนเดียวงั้นหรอ "พี่หมายความว่าไงคะ ไม่ให้ทำกับคนอื่น ฉันเอียงคอพร้อมกับหรี่ตามองเขาอย่างสงสัย "เอ่อ พี่ก็มายความว่าเราเป็นผู้หญิงทำแบบนี้กับผู้ชายมันไม่เหมาะสมนะสิ" เธอสังเกตุว่า เขาเลิ่กลักไม่น้อย และยังหลบตาเธออีก "ขวัญจะไม่ทำแบบนี้กลับใคร โอเค๊" เขายิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะเริ่มติวให้กับสาวน้อยข้างบ้าน ด้วยรอยยิ้ม ด้านบูม หลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเขารับหน้าที่ติวหนังสือให้สาวน้อยข้างบ้าน เธอน่ารักและสดใสสมวัย ทุกครั้งที่อยู่กับเธอเขาค่อนข้างสบายใจ และผ่อนคลาย ทั้งรอยยิ้มที่น่ารัก ท่าทางออดอ้อนนั้นอีก ทำให้เขารอเจอเธอในทุกอาทิตย์อย่างไม่รู้ตัว วันนี้เมื่อเขาติวให้เธอเสร็จในช่วงเช้า ช่วงบ่ายเธอชวนเขาไปดูหนัง "พี่บูมคะ ขวัญใส่ชุดนี้แล้วเป็นไงบ้างคะ" ร่างบางของสาวน้อยยืนหมุนซ้ายที ขวาทีเพื่อให้เขาได้ออกความเห็น แต่ทว่าเขากลับยืนจ้องเธออยู่นานไร้ซึ่งคำตอบ สาวน้อยในเสื้อยืดสีครีมเนื้อผ้าอย่างดี กระโปรงยีนส์เหนือเข่า รองเท้าผ้าใบสีขาว เวลานี้ร่างบางผิวขาวสะอาดตา แขนขาเรียวสวย ใบหน้าสวยจิ้มลิ้ม เรียวคิ้วเรียงเส้นสวยงาม จมูกสวยรับกับริมฝีปากบาง ทาเพียงลิปสติกสีชมพูระเรื่อ ใบหน้าเนียนใสไร้ที่ติ ดวงตากลมโตสวยหวาน และทุกครั้งจะประดับด้วยรอยยิ้ม ทำเอาโลกของเขาเองก็สดใสเพราะเธอเช่นกัน "พี่บูม พี่บูมคะ" เธอเรียกเขาหลายรอบ กว่าเขาจะได้ยิน "ครับ อ่อ น้องขวัญว่าไงนะครับ" เขารีบตอบรับอย่างลวกๆ "นี่พี่ไม่ได้ยินขวัญพูดรึไงคะ" สาวน้อยกอดอกเบือนหน้าหนีอย่างงอลๆ "ได้ยินสิครับ น้องขวัญใส่อะไรก็สวย สวยมากเลย" เขาชมเธอพร้อมเอียงหน้ามาหาเธอ พร้อมยิ้มกว้าง ทำเอาสาวน้อยโกรธไม่ลงเลยที่เดียว "พี่บูมอ่า " เพี๊ยะ เธอตีไหล่เขาเพียงเบาๆก่อนจะยิ้มด้วยกันไปกับเขา "ไปกันได้แล้ว ไม่อยากดูแล้วรึไง" เขาพูดพร้อมเดินนำหน้าไปที่รถ "รอด้วยสิคะ" หญิงสาวรีบวิ่งตามอย่างเร็ว ด้วยความที่ขาสั้นกว่าเขามาก ก็ยังถึงช้ากว่าเขาอยู่ดี ห้างสรรพสินค้า หมับ!!! "อ๊ะ " เธอตกใจเมื่ออยู่ดีๆ มือหนาก็เอื้อมมาจับมือน้อยของเธอ "คนเยอะเดี๋ยวหลงครับ" เขาให้เหตุผลแบบนี้ก่อนดึงเธอให้เดินตาม สาวน้อยได้แต่แอบยิ้มเขินอาย ไม่คิดว่าคนที่เธอแอบชอบ จะจับมือเธอ เธอแอบเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปมือที่จับกันไว้ เมื่อมาถึงหน้าโรงหนังเขาก็พาเธอมาเลือกว่าจะดูเรื่องอะไร "ชอบดูหนังแบบไหนครับ" เขาหันมาถามเธอ "ขวัญชอบหนังรักโรแมนติกค่ะ " เธอตอบเขา "หืม เป็นเด็กเป็นเล็ก" เขาว่าให้เธอ แต่ก็ตามใจเธออยู่ดี เมื่อเลือกได้แล้วเขาก็พาเธอไปซื้อป๊อบคอน และเครื่องดื่ม "อ้าวบูม" ทั้งสองที่กำลังซื้อป๊อบคอนกับเครื่องดื่มอยู่ก็ต้องหันไปมอง "อ้าวฟ้า แจน มาดูหนังเหรอ" ฟ้าคือเพื่อนสนิทของบูมส่วนแจนคือเพื่อนต่างคณะของฟ้า แต่มาเล่นกับกลุ่มเขาค่อนข้างบ่อย และแน่นอนเธอชอบบูม "ใช่ฟ้ากับแจนมาดูหนัง แล้วนี่บูมมากับใครอะ" ไม่ใช่ฟ้าที่ตอบแต่เป็นแจนรีบตอบชายหนุ่มแต่ไม่ลืมที่จะเหลือบตามองสาวน้อยที่ยืนข้างๆคนที่เธอชอบ เธอทำหน้าไม่พอใจนักจนของขวัญรู้สึกได้ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีใดตอบกลับไป "นี่น้องของขวัญเป็นเป็นเพื่อนบ้านฉัน พอดีน้องอยากเรียนแพทย์ฉันเลยติวหนังสือให้หนะ" เธอเหลือบมองอีกครั้ง ดูก็รู้เด็กนี่ชอบบูม "เอ่อ น้องขวัญนี่ฟ้ากับแจนเพื่อนพี่เอง" เขาหันมาแนะนำสาวน้อยที่เอาแต่ยืนหลบอยู่ด้านหลังเขา "เอ่อสวัสดีค่ะ" เธอยกมือไหว้ พี่ฟ้ายิ้มให้อย่างเอ็นดูแต่อีกคนยิ้มให้แต่สายตาไม่เป็นมิตรเอาซะเลย "งั้นฉันไปก่อนนะ" เขารีบบอกล่าเพื่อน และพาเธอเดินหายเข้าโรงหนังไป แจนแอบชอบเขามานาน และไม่ได้ปิดบังอะไร และชอบแสดงออกบ่อยๆว่าคิดยังไงกับเขา แต่เขาต่างหากที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้คิดอะไรกับเธอ "หนาวรึเปล่า" ในโรงหนังอากาศค่อนข้างหนาวเย็น คนตัวเล็กนั่งกอดอกตัวสั่น เธอไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ "นิดหน่อยค่ะ" เธอหันมาตอบเขา พรึบ!! และเสื้อแจ็คเก็ตก็คลุมมาที่ไหล่ของเธอ "ขอบคุณนะคะ " เธอกระชับเสื้อที่เขาถอดออกมาให้ ในใจได้แต่คิดว่าเสื้อเขาหอมมาก คนอะไรดูดีไปหมด เธอยิ้มกรุ้มกริ่มในความมืด อย่างอดไม่ได้ "ฮึก ฮึก ฮือ" สองแก้มใส มีน้ำตารินไหลเป็นสาย ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นร่างบาง น้องสะอึกสะอื้น "น้องขวัญ " เขาเรียกเธอเพียงแผ่วเบา พร้อมมองหน้าเธอผ่านความมืด "ฮือ ขวัญอินกับหนัง" เขารีบเช็ดน้ำตาให้เธอ ทำเอาหญิงสาวอึ้ง นิ้วหัวแม่มือเขามันช่างอ่อนโยนและแผ่วเบา เขาค่อยๆเช็ดที่แก้มขาวจนมันเหือดแห้ง หญิงสาวใจเต้นแรงในความมืด "พะ พอแล้วค่ะขวัญไม่ร้องแล้ว" เธอรีบห้ามเขาเพราะกลัวเขาจะได้ยินเสียงหัวใจของเธอที่มันเต้นตึกตัก และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เธอลอบมองเขาหลายครั้งผ่านความมืด มีเพียงแสงสว่างจากจอหนังที่ส่องกระทบใบหน้าคมคายนั้น ถ้าอยากเป็นแฟนพี่บูมมันจะไกลเกินเอื้อมรึเปล่านะ "ไม่ดูหนังแล้วเหรอครับหื้ม" เสียงทุ้มกระซิบผ่านหูเพียงบางเบา นี่เขาก้มมาตั้งแต่เมื่อไรกัน เธอรีบหันไปมองจออีกครั้ง ทั้งที่นั่งดูหนังแท้ๆ แต่เรื่องราวของหนังกลับเข้าโสตประสาทไม่ถึงครึ่ง เพราะมัวแต่วุ่นวายใจกับหน้าหล่อของพี่บูม "ดะ ดูสิค่ะ" เธอตอบเขาตะกุกตะกัก เหมือนเด็กที่โดนแม่จับได้เวลาทำผิด หลังจากดูหนังเสร็จ เขาก็จูงมือเธอออกมาจากโรงหนัง "หิวไหมครับ" ท่าทางสุภาพ และน้ำเสียงที่อ่อนโยน ทำให้เธอตกหลุมรักเขาวันละ100รอบ "ขวัญอยากกินชาเขียว" พอพูดถึงของกิน สาวน้อยก็ตาเป็นประกายวาววับ เป็นเธอที่ดึงแขนเขา มายังร้านชานม เขาก็ไม่พูดอะไร ปล่อยให้เธอดึงไปตามทิศทางที่ใจต้องการ และยังแอบยิ้มโดยที่เธอไม่้เห็น "พี่เอาอะไรคะ" รีบหันมาถามเขา "เอากาแฟดำครับ" เอาชาเขียวพิเศษไข่มุข กับกาแฟดำค่ะ ทั้งสองเดินมานั่งรอที่โต๊ะ ไม่นานชาเขียวกับกาแฟก็มาเสริฟ "อื้ม อร่อย" เธอกินไปยิ้มไปอย่างมีความสุข สองแก้มป่องเคี้ยวไข่มุข ตุ้ยๆ ทำเอาเขาอดเอ็นดูไม่ได้ "อร่อยมั้ย" เขาถามทั้งที่ก็พอจะรู้คำตอบ "อร่อยมากค่ะ " แค่พูดยังไม่พอนิ้วโป้งยังยกการันตีอีกรอบ "กลับกันครับ" ทั้งสองเดินออกจากห้างไปด้วยความอิ่มเอม สาวน้อยมีความสุขจนล้น เมื่อเขาขับรถออกมาจากห้างไม่นาน ด้วยวันนี้เป็นวันอาทิตย์รถค่อนข้างติด ทำให้ใช้เวลานานกว่าจะถึงบ้าน เมื่อผมเหลือบมองดูของขวัญเธอก็หลับไปแล้ว "หึ เลี้ยงง่ายจริง กินอิ่มแล้วก็หลับ" ผมอดไม่ได้ที่จะยกมือขึันลูบหัวเธอเพียงเบาๆ และพอรถขับมาถึงบ้านเธอก็ยังไม่ตื่น ผมมองเธอซักพักก่อนที่ผมจะมีความคิดอยากทำบางอย่างกับเธอ ฟ้อด!! ผมโน้มลงไปขโมยหอมแก้มเธอเพียงแผ่วเบา แก้มน้องหอมมาก ผมหยุดตัวเองไม่ได้ กดจมูกลงไปอีกรอบคราวนี้แช่ไว้นานหน่อย เพื่อสูดดมกลิ่นหอมให้เต็มปอด และผละออก มาจ้องหน้าเธออยู่เนิ่นนาน และเมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเธอไว้หลายรูป "น้องขวัญ น้องขวัญครับถึงแล้ว" ผมปลุกเธอเพียงเบาๆ "อื้อ ถึงแล้วเหรอคะ ขวัญหลับตั้งแต่ตอนไหนกันเนี่ย" คนตัวเล็กงัวเงียตื่น หึขี้เซาชะมัด "หลับตั้งนานแล้วครับ" ผมพูดพร้อมเปิดประตูลงจากรถ และอ้อมไปเปิดให้น้องด้วย "น้องขวัญยังไม่ต้องกลับบ้านนะครับ พอดีแม่พี่โทรมาบอกว่าน้านิภาอยู่นี่ ให้เราเข้าไปด้านใน" เธอทำหน้างงๆ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ท่าทางงัวเงีย "อ้อ เหรอคะ" พูดจบผมก็เดินนำหน้าเข้าไปในบ้าน เธอก็รีบเดินตามเข้ามา "มากันแล้วเหรอลูก" เสียงป้าพราวรีบถาม "สวัสดีครับคุณน้า /สวัสดีค่ะป้าพราวลุงวิโรจน์ พี่บาส" ทั้งสองรีบทำความเคารพผู้ใหญ่ "ไงลูกสาวแม่ติดพี่เขาแจเลย แบบนี้แฟนพี่เขาไม่ว่าเหรอลูก" ผู้เป็นแม่รีบเอ่ย เมื่อเห็นลูกสาวทำตัวติดพี่แจ "ผมไม่มีแฟนหรอกครับคุณน้า" เขาเองก็รีบเอ่ย และทั้งคู่ก็มีท่าทีเขินอาย "มาทานข้าวกันลูก" และคุณพราวก็เรียกให้ทานข้าว "วันหลังน้องของขวัญไปดูหนังกับพี่บ้างนะครับ" เขาพูดแล้วหันไปมองหน้าพี่ชายนึกสนุกเลยอยากแกล้ง เพราะพี่ชายเขารู้ดีว่าเขาคือเพลย์บอย ดีๆนี่เอง ส่วนบูมเมื่อได้ยินน้องชายพูดแหย่เขาก็มองอย่างคาดโทษ ทำเอาคนที่ตั้งใจแกล้งถึงกับยิ้มอย่างอารมย์ดี "ตาบาสหยุดแกล้งน้องแล้วรีบทานข้าว โตขนาดนี้แล้วยังเล่นไม่เลิก" คนเป็นพ่อได้แต่ส่ายหัว ให้กับลูกชายคนเล็ก "โธ่ พ่อครับน้องน่ารักขนาดนี้ขอแกล้งหน่อย ใช่มั้ยครับคุณน้า" ยังไม่วายที่ชายหนุ่มจะหันไปหาคนสนันสนุนอีก "ไม่เป็นไรค่ะคุณวิโรจน์ ลูกบาสเอ็นดูยัยหนูก็ดีแล้ว น้องมองว่าน่ารักออก" นิภาพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่ของขวัญได้แต่เหลือบมองพี่บูมกลัวเขาไม่พอใจ แล้ทำไมเขาจะไม่พอใจละ เขาและเธอไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย หลังมื้ออาหาร ต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปนอน "ขวัญ" หลังจากกลับมาถึงบ้านนิภาก็เรียกลูกสาวไว้ "คะ" เธอรีบหันหน้ามาหาผู้เป็นแม่ "หนูชอบพี่บูมเหรอลูก" สาวน้อยทำตาโตเมื่อได้ยินคำถาม "เปล่าซะหน่อย แม่เอาอะไรมาพูด" ถึงจะไม่ยอมรับแต่ผู้เป็นแม่ก็ยังดูออกเพราะ สาวน้อยหน้าแดงมาก "แม่เลี้ยงลูกมา ทำไมแม่จะดูไม่ออก แค่แม่อยากจะบอกลูกก็ว่า ทำอะไรให้พองามนะลูก เราเป็นผู้หญิงมันจะดูไม่ดี" ผู้เป็นแม่กล่าวตักเตือนด้วยความรัก "แม่คะ ยังไม่ถึงขั้นนั้นซะหน่อย หนูไปนอนแล้ว" พูดจบร่างบางก็รีบวิ่งขึ้นห้องไป ปล่อยคนเป็นแม่ยืนมองดูแผ่นหลังที่ค่อยๆไกลออกไป "เฮ้อ เจ้าลูกคนนี้ ปากแข็งซะจริง" ผู้เป็นแม่ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ ทั้งที่อาการออกขนาดนั้น แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมรับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD