ตอนที่ 2

1886 Words
ผ่านไปกว่าสัปดาห์แล้วสำหรับการขึ้นมารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าคนใหม่ของวงตระกูล และกับการที่ฉันไม่ได้ไปหาเธอคนนั้นที่ได้พบเห็นที่งานเสียทีแม้ว่าจะรู้ที่อยู่ของเธอคนนั้นแล้วก็ตาม เจ้าหล่อนอาศัยอยู่ทาง*หนานเปียนของเมือง และมันอยู่ในเขตพื้นที่ที่ตระกูลของฉันดูแลพอดิบพอดีราวกับจับวาง แต่เพราะช่วงนี้ยุ่ง ๆ ทั้งเรื่องการรับตำแหน่งและเรื่องงานศพของป๊า ฉันจึงยังไม่ได้ไปสะสางกับวีรกรรมของนางแมวขโมยที่บังอาจกล้ามาขโมยของของฉัน แน่นอน...ฉันรู้ตัวว่ากระเป๋าสตางค์ของตัวเองหายไปตั้งแต่ตอนที่เธอหยิบ และมันทำให้ฉันได้แต่นึกขันกับผู้หญิงคนนั้นที่คงจะไม่รู้อะไรเลยว่าฉันเป็นใคร แต่ความใจกล้าและความมือเบาฉันยกให้เธอเลย ถ้าหากเป็นคนปกติที่โดนขโมยกระเป๋าคงจะไม่ทันได้รู้สึกตัวแน่ แต่ว่าฉันที่ต้องอยู่คนเดียวมาตั้งแต่จำความได้ ประสบการณ์มันจึงคอยสั่งสอนให้ฉันเป็นคนขี้ระแวงและระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ กลับกันฉันมองว่ามันดีเสียอีก ถ้าหากฉันกลับไปหาเธออีกครั้งเจ้าแมวขี้ขโมยคนนั้นจะต้องได้รับโทษจากฉันอย่างสาสมเป็นแน่แท้ และดูเหมือนตอนนี้ฉันจะเริ่มได้เบาะแสแล้วว่าใครคนไหนกันแน่ที่มันเป็นคนฆ่าป๊าของฉัน และฉันขอสาบานเลยว่ามันผู้นั้น...จะต้องได้รับโทษอย่างสาสมกับการกระทำของมันอย่างแน่แท้! PART เหม่ย ร่างบอบบางในชุดจีนสีแดงสวยกำลังเดินทางกลับบ้านของตัวเองด้วยสภาพเหนื่อยอ่อน มือบางเอื้อมไปไขกุญแจบ้านที่สภาพทรุดโทรมใกล้ผุพังเต็มแก่ ก่อนที่ฉันจะเดินอย่างเหนื่อยล้ากลับเข้าไปในบ้านหลังเล็กขนาดเกือบจะเท่ารูหนู และทิ้งตัวนั่งลงยังเก้าอี้ตัวโปรดในทันใด “!!!” แต่แล้วร่างของฉันก็ต้องเด้งออกในทันทีเมื่อรับรู้ได้ว่ามีอะไรบางอย่างอยู่บนเก้าอี้ตัวนั้นเพราะสัมผัสของมันไม่ได้เหมือนเก่า ก่อนที่ความมืดมิดและมีเพียงแสงไฟลอดผ่านจากทางข้างนอกจะส่องสว่างเข้ามาให้ฉันได้พบเห็นใบหน้าของใครบางคนที่ฉันไม่คุ้นเคย และฉันกำลังที่จะมุ่งหน้าวิ่งหนีออกจากบ้านในทันทีอย่างหวาดกลัว แต่แล้วประตูมันก็กลับถูกล็อคจากทางด้านนอกและฉันไม่สามารถที่จะออกไปได้ “อะไรกัน...นี่กะจะไม่ทักทายกันหน่อยเลยหรือ?” เสียงทุ้มหนาของเขาแต่ยังคงมีความเป็นผู้หญิงอยู่พาลให้ฉันต้องหันกลับไปเผชิญหน้าอย่างใจดีสู้เสือเพราะไร้ซึ่งหนทางหลีกหนี “คะ คุณเป็นใคร!” ฉันตะโกนถามออกไปและพยายามจะคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นไหว ร่างของคนที่เคยอยู่ในความมืดมิดค่อย ๆ ก้าวออกมายังที่ ๆ มีแสงสว่าง ก่อนจะปรากฏเป็นใบหน้าของใครบางคนที่ฉันจำได้เป็นอย่างดีว่าเป็นใคร รวมไปถึงความรู้สึกแปลก ๆ ในตัวของฉันที่เริ่มกลับมามีปฏิกิริยาอีกครั้ง “นี่คุณทำอะไรกับฉัน?” ฉันเอ่ยถามออกมาเพราะตอนนี้ร่างกายของตัวเองมันกำลังรู้สึกร้อนรุ่มบ่งบอกถึงอาการฮีทที่ยังไม่ถึงเวลาของมัน คนตรงหน้าแสยะยิ้มออกมาอย่างน่าหวั่นใจแต่ฉันไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเครื่องหน้าของเธอดีมาก ทั้งสวยและเท่ในเวลาเดียวกัน ไหนจะดวงตาสีฟ้าครามบ่งบอกถึงการเป็นอัลฟ่าเลือดบริสุทธิ์นั่นอีก “เธอนั่นแหละที่กำลังจะทำฉัน...” เธอคนนั้นกลับไปนั่งลงที่เก้าอี้ดังเดิม “ถ้ายังไม่หยุดปล่อยกลิ่น ฉันจะรัทแล้วนะ...” “คุณ!” แม้ว่าฉันจะไม่ได้เป็นอัลฟ่าแต่ฉันก็พอจะเข้าใจว่าอาการรัทมันเป็นอย่างไร “ฉันยังไม่ได้ปล่อยกลิ่นอะไรเลยนะ!” และพยายามจะพูดออกไปทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ฉันกำลังร้อนรุ่มแทบจะคุมตัวเองไม่ไหว เธอคนนั้นลุกขึ้นจนเต็มความสูงอีกครั้งก่อนจะก้าวช้า ๆ และเดินเข้ามาหากัน เธอขยับใบหน้าเข้ามาชิดใกล้กับฉันที่บริเวณใบหู และจงใจปล่อยลมหายใจอุ่น ๆ มารดรินใส่กันจนขาของฉันแทบจะทรงตัวยืนต่อไปไม่ไหว “หอมขนาดนี้ยังกล้าพูดว่าไม่ได้ปล่อยกลิ่นหรือไง?” และเธอคนนั้นก็ขยับเข้ามากดจูบเบา ๆ ลงที่ลำคอระหงส์จนฉันเกิดความหวามไหว “อื้อ...” แถมยังเปล่งเสียงที่น่าอายออกมาอีกทั้ง ๆ ที่พยายามกลั้นใจเอาไว้แล้วแท้ ๆ ฉันเกลียดตัวเองตอนช่วงฮีทที่สุดเพราะมันทำให้ฉันทรมานและไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้ ถ้าหากวันไหนฉันไม่ได้กินยาดักเอาไว้ก่อนหรือลืมนับช่วงวันฮีทของฉัน นั่นมันราวกับนรกท่ามกลางอัลฟ่ารอบ ๆ หมู่บ้านของฉันดี ๆ นี่เองเลยก็ว่าได้ ในหมู่บ้านนี้ไม่ค่อยมีโอเมก้าอาศัยอยู่เท่าไร ส่วนมากจะเป็นอัลฟ่าหรือพวกเบต้าเสียมากกว่า และถ้าถึงช่วงเวลานั้นจริง ๆ ฉันก็พยายามตลอดที่จะหลีกเลี่ยงการกลับบ้าน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองแม้มันจะลำบากยากเย็น “อ๊ะ!” ฉันเผลอร้องออกมาอีกครั้งเพราะอยู่ ๆ เธอคนนั้นก็จงใจใช้มือสัมผัสที่จุดอ่อนไหว ฉันพยายามที่จะดันเธอให้ออกห่างจากกาย แต่ดูเหมือนมันจะยากเย็นเหลือทนเพราะแรงของฉันสู้อะไรเธอไม่ได้เลยแม้เพียงน้อย “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาทำเรื่องแบบนี้กับเธอนะ...” เธอคนนั้นที่ฉันยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อเสียงเรียงนามพูดออกมาเหมือนกับพยายามที่จะควบคุมสติของตัวเองอยู่เหมือนกัน และฉันก็ใช้จังหวะนี้ที่เป็นแรงเฮือกสุดท้ายของตัวเอง ผลักร่างของเธอให้ออกห่างจากตัวในทันที...และครั้งนี้มันก็ได้ผล เธอยอมขยับถอยห่างแต่แววตาของเธอกำลังวูบไหวราวกับคุมสติของตัวเองไม่ไหวแต่ก็พยายามอยู่อย่างสุดความสามารถ “มะ มีเรื่องอะไร” ฉันยกมือขึ้นมากอดตัวเองเอาไว้และขยับออกห่างอย่างมีระยะ เธอคนนี้คงจะรู้ตัวแล้วแน่ ๆ ว่าฉันเป็นคนที่ขโมยกระเป๋าสตางค์ของเธอมา แต่รู้ได้อย่างไรว่าบ้านของฉันอยู่ที่นี่ ไหนจะเข้ามาในนี้ทั้ง ๆ ที่ประตูบ้านยังถูกล็อคอยู่อีกต่างหาก “ฉันมาทวงของ ๆ ฉันคืน” เธอว่าอย่างนั้นและแบมือมาตรงหน้าของฉันให้ฉันต้องก้มมองมือของเธอ มันจะไปเหลืออะไรให้เธออีกล่ะ ถึงฉันจะได้จากคนตรงหน้ามามากก็จริงแต่ฉันก็เอาเงินพวกนั้นไปใช้จนหมดแล้ว...ไม่ได้ขโมยมาเพื่อเอาไว้คืนใครเสียหน่อย “ไม่มี” “หมายความว่ายังไงไม่มี?” “ฉันใช้ไปหมดแล้ว” ฉันสารภาพความจริงเพราะดูแล้วโกหกไปมันก็ไร้ซึ่งประโยชน์ใด ๆ ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นใครและต้องการที่จะให้ฉันชดใช้มากน้อยเพียงไหน และที่สำคัญเธอไม่ใช่คนแรกด้วยที่มาตามทวงคืนจากฉัน แต่ที่ผ่าน ๆ มาฉันก็เอาตัวรอดมาได้เสมอแต่ครั้งนี้ฉันยอมรับเลยว่าสัพเพร่าจนพลาดท่าได้ง่าย ๆ “โอ้! ง่ายดีแฮะ” เธอพูดออกมาราวกับตลกขบขัน และกลับไปนั่งที่เก้าอี้ดังเดิมอย่างไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร “ถ้าอย่างนั้นมันก็ควรที่จะมีของตอบแทนกันบ้างสิ ในเมื่อเธอเอาของ ๆ ฉันไปแล้ว” ฉันเงยหน้ามองเธออีกครั้งว่าต้องการอะไรจากฉันกันแน่ “ถ้าคุณต้องการเงินคืนหรือสิ่งของที่มีค่าราคาแพง ฉันคงหาให้คุณไม่ได้หรอกนะ” ฉันกรอกตาสีน้ำตาลอ่อนของตัวเองไปรอบ ๆ บ้าน “ถ้าฉันมีสิ่งของและเงินทองมากมายขนาดนั้น ฉันคงไม่ต้องมาอยู่บ้านรูหนูแบบนี้หรอก” และเธอก็กรอกตามองบ้านตามฉันบ้าง “มันก็จริงของเธอนะ” แถมยังดีดนิ้วเหมือนกับว่าตัวเองคิดอะไรดี ๆ ออกนั่นอีก “ถ้าอย่างนั้นขยับมานี่สิ” “อะไรนะ?” “ฉันไม่ใช่พวกที่จะยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบใครนะ” เธอพูดและใช้นิ้วมือกระดิกเรียกให้ฉันเข้าไปหา “และเธอเอาของของฉันไป เธอเองก็ควรที่จะให้อะไรตอบแทนฉัน” ฉันถอนหายใจอย่างหงุดหงิดและค่อย ๆ ขยับเข้าไปหาเธอคนนั้นอย่างระวังตัว ถ้ารู้ตั้งแต่ทีแรกว่ามันจะเป็นแบบนี้...ฉันสาบานเลยว่าจะไม่ไปเฉียดใกล้กับคน ๆ นี้เป็นอันขาด ฉันหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเธอซึ่งเธอคนนั้นก็ยกยิ้มออกมาอย่างคนเจ้าเล่ห์ ร่างสูงขยับเนื้อตัวนิดหน่อยก่อนจะใช้มือของตัวเองปลดเข็มขัดกางเกงของตัวเองออก และมันทำให้ฉันตกใจจนต้องหันหน้าหลบหนีในทันที “ทำอะไรของคุณ!” “ก็เธอให้ฉันเป็นเงินทองหรือสิ่งของไม่ได้ อย่างเดียวที่เธอให้ได้มันก็คือเรื่องนี้ไม่ใช่หรือไง?” “แต่ฉันไม่ได้ขายตัว!” “แต่เธอเอาเงินของฉันไปแล้ว...” เสียงจากทางด้านหลังดังขึ้นมาอีกครั้งและฉันไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปสบมองคน ๆ นี้เลยแม้แต่น้อย มันก็จริงที่ฉันไม่สามารถหาสิ่งของมีค่ามาทดแทนคืนให้กับเธอได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอคนนี้จะมีสิทธิ์มาบังคับให้ฉันทำเรื่องอะไรแบบนี้! “กลิ่นของเธอ...ฉันจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” เสียงแผ่วที่ข้าง ๆ หูทำให้ฉันต้องพยายามที่จะตั้งสติแม้มันจะยากเย็น อารมณ์ของฉันที่เมื่อสักครู่เธอคนนั้นสร้างมันขึ้นมายังไม่ได้หายจากไปไหน และตอนนี้มันก็กลับมาใหม่อีกครั้งแล้วเพราะเธอกำลังใช้กลิ่นความเป็นอัลฟ่าของตัวเองข่มฉันอยู่ “ขอร้อง...หยุดเถอะ!” ฉันเริ่มพูดออกมาแม้น้ำเสียงจะสั่นไหวและฉันยังไม่คิดที่จะทำอะไรแบบนั้นจริง ๆ ในตอนนี้ มือไม้ของเธอเริ่มปัดป่ายไปทั่วเรือนร่างของฉันและฉันก็ทำได้เพียงแต่ยืนตัวแข็งทื่อเพราะแม้หัวใจของฉันจะปฏิเสธ...แต่ร่างกายของฉันก็ดูจะไม่ให้ความร่วมมือกับฉันเอาเสียเลย “ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไปกับฉัน...” “...” “ต่อแต่นี้ไปเธอเป็นคนของฉัน...เธอจะต้องทำงานให้กับฉันนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป...นางแมวขโมย” ***(หนานเปียน) = ทิศใต้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD