แผนเอาตัวรอดที่ดีคือเข้าทางแม่

1615 Words
“ดื่มยาก่อนเถิดเพคะ” หลันฟู่อิงยื่นมือไปรับถ้วยหนึ่งมาจากเหมยเหมยก่อนจะกระดกรวดเดียวหมด “อุแหวะ ขมปี๋เลย” “อมนี่ก่อนเถิดเพคะจะช่วยลดความขมลงได้” นางรับก้อนกลมๆ สีแดงมาจากเหมยเหมย มันดูคล้ายกับลูกอมในยุคสมัยของนาง นางอมมันไว้ความหวานจากลูกอมทำให้ความขมจากยาเมื่อสักครู่นี้เจือจางลง “ข้าไม่อยากจะกินยานั่นอีกแล้ว เหอะ!” นางไม่คิดเลยว่านางจะตายง่ายดายขนาดนี้! สะดุดขาตัวเองแล้วตกท่อตายเนี่ยน้ะ! จะตายทั้งทีให้ตายดีกว่านี้ไม่ได้หรือไง ก่อนจะตายนั้นยังไม่ทันได้ฟังนิยายดราม่าโลกแตกที่เพื่อนนางมาเม้าให้ฟังจนจบเลย! อะไรคือการที่นางร้ายต้องทำตัวร้ายกาจวุ่นวายกับพระเอกที่ไม่ได้รักนางด้วย! เปิดเรื่องมาตัวนางร้ายก็จับพระเอกกินซะแล้ว ยังไม่พอพ่อพระเอกนี่ก็เหลือเกินยังพยายามไปหานางเอกจนได้! แกรมีเมียแล้วนะเว้ยยย แต่เอาเถอะมันนิยายดราม่าโลกแตกไงแต่ยังไม่ทันจะฟังจบ ภาพและเสียงก็ตัดไปเสียดื้อๆ ! และมาโผล่อีกทีในโลกของนิยายที่เพื่อนเธอเพิ่งเม้าไป แต่เกิดมาเป็นอะไรก็ได้ทำไมต้องมาอยู่ในร่างของนางร้ายอย่าง หลันฟู่อิง ที่จะตายอย่างอนาถด้วย นางจะสามารถหาหนทางใดที่จะหนีจากพระเอกเลือดเย็นนั่นได้บ้างไหมนะ หญิงสาวบนเตียงขมวดคิ้วมุ่นให้กับความคิดของตัวเอง พลางลูบเนื้อที่ปูดออกมาเล็กน้อยของตัวเองป้อยๆ “อูยเจ็บๆ” “เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ หะ ให้หม่อมฉันนำยามาให้ดีหรือไม่เพคะ” นางหันไปมองเหมยเหมยที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียง เหมยเหมยที่ได้ประสบกับสายตานิ่งเงียบของคุณหนูของนาง นางรีบก้มหน้าหมอบลงกับพื้นเมื่อรู้ตัวว่าได้เผลอที่สิ่งที่ผิดพลาดลงไป พระชายามิชอบให้นางยุ่งย่ามเรื่องของตัวเอง ยิ่งยามที่โดนบุรุษในดวงใจของนางทำร้ายจนนางร้องไห้เช่นนี้ นางมักจะมีโทสะจนสั่งนางโบยเสียทุกที นางรู้ว่าพระชายาเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีนักนางไม่ต้องการให้ใครมาแสดงอาการสงสารนาง ‘จับนางโบย! คราใดที่เจ้าปฏิบัติกับข้าเฉกเช่นสตรีอ่อนแออีกเจ้าก็จักโดยโบยเยี่ยงนี้ร่ำไป!’ เหมยเหมยยังคงจำประโยคนั้นได้จับใจ นางโดนโบยจนจับไข้ไปหลายวัน แต่นางรับรู้ว่าพระชายานั้นเศร้าโศกและน่าสงสารเพียงใด นางจึงไม่เก็บเรื่องพวกนั้นมาใส่ใจมากนัก แต่แล้วน้ำเสียงหวานใสจากนายของนางทำให้นางต้องตกตะลึงไปชั่วขณะ “อื้อ เจ้าเป็นสาวใช้ข้าใช่หรือไม่ ข้าเจ็บมากเลยข้าไม่น่าโขกหัวตัวเองแรงขนาดนั้น รีบๆ เอายามาให้ข้าที” “ดะ ได้เจ้าคะ หม่อมฉันจะรีบไปนำมาเดี๋ยวนี้” เหมยเหมยรีบเดินออกมาพร้อมกับไปนำยามาให้หลันฟู่อิงในตำหนัก เมื่อมาถึงหญิงสาวบนเตียงก็รีบกวักมือเรียกนางเข้าไปก่อนจะตบพื้นที่ว่างข้างๆ พร้อมกับระบายรอยยิ้มกว้างให้กับนาง “เจ้ามานั่งตรงนี้สิ จะได้ทาให้ข้าได้ถนัดมือ” “พะ เพคะ จะดีหรือเพคะพระองค์มิชอบให้ข้ารับใช้ถูกตัว” “ข้าไม่ถือๆ ให้ข้าทาเองข้าก็มองไม่เห็นหรอกเจ้าทาให้ข้าแทนเถิด” เหมยเหมยในใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจปนสงสัย เหตุใดพระชายาของนางถึงมีท่าทีเยี่ยงนี้กัน บรรยากาศรอบตัวนางนั้นดูสบายตาลงหลายส่วน เหมยเหมยนั่งลงข้างนางอย่างกล้าๆ กลัวๆ นางเปิดฝาที่บรรจุขี้ผึ้งข้างในก่อนจะค่อยๆ ป้ายบนแผลบนหน้าผากมนของหลันฟู่อิง “เหมยเหมยใช่หรือไม่” “ใช่ เพคะ” แม้นางจะแปลกใจเหตุใดพระชายาจึงจำนางไม่ได้แต่ก็ขานรับนางไปทันที “เจ้าว่าข้าจะทำอย่างไรให้ลู่เฉิงยอมหย่ากับข้างั้นรึ” “พระชายา! อย่าพูดเช่นนี้เลยหากใครมาได้ยินเข้า” “คิกคิก ไม่มีใครดักฟังเราหรอกน่า เอ้ะ! หรือว่าไอหน้าหล่อนั่นแอบส่งนักฆ่ามาลอบฆ่าข้าแถวนี้งั้นรึ” หลันฟู่อิงหันซ้ายหันขวาแววตาสั่นไหวด้วยความตื่นตระหนก แต่เหมยเหมยกลับหน้าซีดยิ่งกว่า “ข้าล้อเจ้าเล่น! หน้าซีดเชียว” หลันฟู่อิงหันกลับมายิ้มกว้างพร้อมหัวเรอะเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าสตรีตรงหน้านางหน้าไร้เลือดฟาดไปแล้ว “ชั่งเถิด ข้าแค่ล้อเจ้าเล่น แต่เรื่องที่ข้าอยากหย่ากับเขานั่นเรื่องจริง” “!!” ในใจเหมยเหมยมีแต่ความสงสัย พระองค์ทรงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตบแต่งเข้าตำหนักองค์ไท่จื่อ เหตุใดจึงคิดเปลี่ยนใจกัน “หากข้ายังอยู่ใกล้เขาเช่นนี้ เขาคงฆ่าข้าตายสักวันข้ามีชนักติดหลังมากมาย ยิ่งเรื่องเสียนอวี้แล้วเจ้ามิคิดรึว่าเขาจะไม่รู้ว่าข้าเคยวางแผนจะฆ่านางในดวงใจของเขา” “มะ หม่อมฉันว่าองค์ไท่จื่อมิได้คิดร้ายต่อพระชายาหรอกเพคะ เสร็จแล้วเพคะ” เหมยเหมยแม้จะพูดเช่นนั้นแต่ในใจนางกลับหวั่นเช่นกันเมื่อนึกถึงคราวที่นางถูกจับได้ตอนอยู่หน้าโรงหมอหลวง เมื่อเหมยเหมยทายาให้นางเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นมายืนขนาบข้างเตียงของนาง “ขอบใจ แต่เจ้าไม่รู้อะไรลู่เฉิงหนะต่อให้เป็นพระเอกในโลกนี้แต่เป็นตัวอันตรายต่อนางร้ายเชียวนะ” “นางร้ายหรือเจ้าคะ” “ก็ข้านี่ไง ข้าไม่ใช่นางร้ายหรอกรึ” “ตายแล้ว มะ ไม่จริงนะเจ้าคะ พระชายาเป็นหญิงที่เข้มแข็งและสง่างามที่สุดเท่าที่หม่อมฉันเคยเห็นมา ทรงสง่างามดุจหงส์ฟ้ามิมีใครกล้าคิดว่าพระองค์เป็นนางมารร้ายนะเจ้าคะ” เหมยเหมยรีบคุกเขาลงก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยสายตาที่มีแต่ความเห็นใจ นางมิได้โป้ปดนางพูดจากใจจริงของนาง “แต่ข้าเที่ยวทำร้ายสตรีที่เข้าหาลู่เฉิงมิใช่รึ แถมยังคิดจะวางยาพิษแม่นางเสียนอวี้อีก” “นะ นั่นก็” “ข้ารู้ตัวว่าข้านั้นร้ายกาจ แต่หลังจากที่ข้าเข้ามาแล้วข้าจะไม่ยอมตายอย่างอนาถในตอนท้ายเรื่องแน่ หึ หากเจ้าลู่เฉิงนั่นมิคิดจะญาติดีกับข้า สิ่งที่พอจะคุ้มครองข้าได้ก็ต้อง! .....เข้าทางแม่ใช่รึไม่!” หลันฟู่อิงยกยิ้มมุมปากให้กับความคิดที่ชาญฉลาดของตัวเอง หากนางได้รับความชอบจากฮองเฮาผู้ที่เป็นแม่สามีของนางแล้วละก็ นางอาจจะอยู่รอดปลอดภัย ลู่เฉิงคงไม่กล้าคิดจะเทียบทัดอำนาจของเสด็จแม่ของเขาเป็นแน่ “ข้าจะไปพบฮองเฮาเดี๋ยวนี้!” ว่าแล้วร่างบางก็รีบให้เหมยเหมยนั้นใส่เสื้อผ้าให้นางทันที แค่การใส่เสื้อผ้านั้นก็นับเวลาผ่านไปหลายเค่อแล้ว เมื่อเสร็จเรียบร้อยดีหลันฟู่อิงนั่งมองกระจก ภาพตรงหน้าสะท้อนใบหน้าหญิงสาวที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับนางอย่างกับลอกกันมา นางยืนตกตะลึงไปชั่วครู่ที่นางร้ายอย่างหลันฟู่อิงจะหน้าเหมือนนางถึงเพียงนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างกันคงเป็นขนาดหน้าอกหน้าใจที่แม่นางร้ายนี้มีมันโดยไม่ต้องศัลยกรรมเลย! เมื่อสำรวจตัวเองจนพอใจแล้ว ร่างบางจึงรีบเดินออกไปทันทีพร้อมกับที่มีเหมยเหมยตามมาติดๆ ชิ้ง! ดาบยาวคมกริบสองเล่มโผล่ปรากฏแก่สายตาของนาง “กรี๊ดดด” หลันฟู่อิงร้องตกใจเสียงดังลั่นเมื่อสักครู่ดาบนั่นอยู่ห่างจากหน้านางไม่ถึงคืบ! “พระชายา!” เหมยเหมยรีบเข้ามาพยุงหลันฟู่อิงที่ล้มฟุบลงไปกับพื้น ภาพเบื้องหน้าคือบุรุษสวมชุดราวกับนักรบยืนขวางนางอยู่ที่หน้าประตู “องค์ไท่จื่อรับสั่งให้ท่านอยู่แต่ภายในตำหนักห้ามมิให้ออกไปที่ใดเด็ดขาดขอรับ!” “จะ เจ้า! เจ้าลูกหมานั่น กล้ากักขังข้าคนนี้งั้นรึ” นางอดที่จะสบถออกมาไม่ได้ ขังอยู่ในตำหนักเหอะ! ตำหนักกะผีสิ นี่ขังอยู่แต่ในห้องนอนชัดๆ “นั่น! คารวะองค์ไทจื่อลู่เฉิงเพคะ” หลันฟู่อิงก้มโค้งลงยอบกายราวกับกำลังคารวะองค์ไทจื่อ เหล่าทหารกล้าหันไปมองทิศทางที่นางก้มหัวลงไปพร้อมกับที่ปลดอาวุธลงเพราะคิดว่าองค์ไทจื่อจะมาเยือนตำหนักจริงๆ แต่เมื่อหันกลับไปกลับพบแต่ความว่างเปล่า และเสี้ยววินาทีนั้นหลันฟู่อิงที่เห็นโอกาส นางก็สตาร์ทตัวออกวิ่งสี่คูณร้อยทันที “บ้าย บาย” กิริยาแปลกประหลาดและการกระทำของพระชายาทำให้พวกเขาตกตะลึง นางโบกมือขึ้นมาตรงหน้าพวกเขาและก่อนที่สติจะกลับมาในเสี้ยววินาทีร่างบางก็วิ่งหายลับไป ทั้งทหารและเหมยเหมยเมื่อได้สติจึงรีบตามนางไปในทันที เสียงเหมยเหมยตะโกนตามหลังนางมา นางวิ่งออกมาโดยลืมไปเลยว่านางอยู่ในวังที่ใหญ่และกว้างมาก! “เวรละไง ไปทางไหนวะเนี่ย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD