มีน้ำแล้ว

2611 Words
ตอนนี้หัวของหยางเหวินหลงอื้ออึงไปหมด ไม่ใช่ว่าเรื่องที่นางกล่าวจะเป็นไปไม่ได้ นี่มันยิ่งกว่าเป็นไปได้! มันมหัศจรรย์มาก นางคิดออกมาได้อย่างไร นางไปเรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาจากไหน ทำไมองค์ชายอย่างเขาถึงไม่ได้เรียน? “นี่มันดีมาก! เจ้ารู้จักวิธีพวกนี้ได้ยังไง” “กราบทูลตามตรง หม่อมฉันคิดเองเพคะ เพราะน้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ หม่อมฉันก็เพียงแต่หาวิธีทำให้แหล่งน้ำอยู่บนที่สูงเท่านั้นเองเพคะ” นางกล่าวด้วยท่าทางซื่อตรง ด้วยไม่รู้จะบอกเขาว่าอย่างไร ขอโทษนะเจ้าของผู้คิดค้นสิ่งนี้ นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครที่เป็นผู้คิดค้นระบบน้ำประปา แต่นี่คือการช่วยเหลือชาวบ้านโปรดอภัยให้นางด้วย และถ้ามีเครื่องมือนางอยากได้เครื่องสูบน้ำด้วยซ้ำ แต่เอาไว้ก่อน ยามนี้ต้องอาศัยกังหันลมไปก่อน “แล้วเจ้ากลมๆนี่คืออะไร มันทำงานยังไง ทำไมมันจะนำน้ำขึ้นไปเติมบ่อน้ำด้านบนได้ล่ะ” “ข้าเรียกมันว่ากังหันวิดน้ำ ข้าออกแบบให้มันใช้แรงลม แต่ถ้าไม่มีลมก็ใช้แรงคนก็ได้ มันจะช่วยนำน้ำขึ้นไปใส่ถังด้านบน นับว่าเป็นหัวใจหลักของงานนี้เลย” “ข้าต้องเรียกพบรองเจ้ากรมโยธา ให้มารับฟังคำอธิบายของเจ้า ให้เขานำไปสร้างสิ่งเหล่านี้ให้ได้ไวที่สุด และหากมันได้ผล ชาวบ้านทั้งหลาย ก็มีทางรอดแล้ว!” “เพคะ หม่อมฉันยินดี หม่อมฉันอยากให้มันสำเร็จเต็มที่แล้วเช่นกัน ชาวเมืองจะได้มีน้ำไว้ใช้ดื่มใช้กิน” “คุณหนูเฟิง เจ้ารู้รึไม่ ว่าเจ้าได้คิดค้นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และวิเศษมาก หากสิ่งนี้สำเร็จ ทั่วแคว้นของเรา ก็จะไม่มีที่ไหนต้องทนทุกข์กับความแห้งแล้งอีกแล้ว” นางอยากอธิบายเพิ่มเติม ว่าหากไม่มีแหล่งน้ำแล้วท่านจะเอาน้ำมาจากที่ใด สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือการสร้างแหล่งน้ำขนาดใหญ่ต่างหาก เขื่อน อ่างเก็บน้ำ อะไรแบบนั้น! แต่ถ้าเอ่ยไปท่านคงไม่เข้าใจ ไว้นางจะค่อยๆบอกอีกทีเมื่อมีโอกาส ทำงานครานี้ให้เสร็จก่อนเถอะ ไม่นานขุนนางกรมโยธาก็ถูกเรียกพบ เพื่อหารือเรื่องการก่อสร้างระบบประปา เมื่อเขาได้รับฟังแนวคิดและวิธีการ เขาถึงกับตาโตตกตะลึงอย่างเสียกิริยา นี่มันมหัศจรรย์มาก! รองเจ้ากรมโยธาอดที่จะเหลือบมองคุณหนูเฟิงอีกหลายๆครั้งไม่ได้ นางเป็นผู้คิดค้นสิ่งนี้ขึ้นจริงหรือ นี่มันยิ่งกว่ามหาบัณฑิตหรือนักปราชญ์คนใดจะคิดออก หากนางไม่ใช่คนอธิบายและตอบคำถาม ที่เขาซักไซ้ถึงขั้นตอนต่างๆให้เขาฟังโดยละเอียด เขาก็คงไม่เชื่อว่าเป็นนางคิดขึ้นเอง สมแล้ว เหมาะสมแล้วกับตำแหน่งว่าที่พระชายาขององค์ชายรอง ว่าที่มารดาของแผ่นดิน นางฉลาดหลักแหลมเพียงนี้ องค์ชายรองสบายแล้ว!! องค์ชายรองมองเห็นสายตาชื่นชมคู่หมายของตน จากขุนนางมากประสบการณ์ และหันมามองเขาด้วยแววตาอย่างหนึ่ง แล้วผงกหัวหงึกๆคล้ายเห็นทางสว่าง ก็ทำเอาเขาคิ้วกระตุก ชายผู้นี้คิดเหลวไหลสิ่งใดอยู่กันแน่ เอาเถอะ ถือซะว่าเขาไม่เห็นสิ่งใด อีกฝ่ายจะได้รีบไปทำงาน “รีบดำเนินการเถอะ ข้าให้เวลาเจ้าเจ็ดวัน ต้องแล้วเสร็จ” “พะยะค่ะ กระหม่อมจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด” เมื่อได้หนทางที่จะช่วยชาวบ้านมีน้ำไว้ดื่มกิน รองเจ้ากรมโยธาจึงรีบเรียกระดมพลทั้งทหารและขุนนางทั้งหลาย รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าหารือ เร่งชี้แจงและแบ่งงานอย่างเร่งด่วน จวิ้นอ๋องเห็นเจ้ากรมโยธาเรียกระดมคนอย่างเอิกเหริก จึงเรียกองครักษ์มาสอบถามก็ได้ความว่าองค์ชายรองค้นพบวิธีแก้ปัญหาเรื่องน้ำแล้ว และกำลังดำเนินการอยู่ จึงให้คนไปสืบมา “ทูลจวิ้นอ๋อง คุณหนูเฟิงคิดค้นระบบน้ำประปาขึ้น เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำ องค์ชายรองจึงมอบหมายให้รองเจ้ากรมโยธาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเจ็ดวันพะยะค่ะ” “อย่างนั้นรึ? เวลาเพียงเจ็ดวัน ล้อเล่นหรือไง ขนาดการขุดบ่อน้ำอย่างเร่งด่วนและรวดเร็วที่สุด ยังใช้เวลาไม่น้อยกว่าสามสิบวัน นี่เวลาเพียงเจ็ดวัน มันจะเป็นไปได้ยังไง” เมื่อสิ่งที่กล่าวถึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ เขาก็อยากเห็นเจ้าสิ่งที่เรียกว่าระบบประปาซะแล้ว “คุณหนูเฟิง เจ้าคิดค้นสิ่งใดขึ้นมากันนะ” ตั้งแต่คืนนั้นที่กลางป่า เขาก็จับตามองนางเป็นพิเศษ นางไม่ได้ไปพบองค์ชายรองอีก เขามั่นใจว่าคงเป็นเพราะฝ่ายฮองเฮาบังคับให้นางทำเช่นนั้น แต่พอมาถึงที่นี่ พวกเขาก็นัดพบกัน และนางทำการสนับสนุนองค์ชายรองเช่นนี้ นี่ยืนยันแล้วว่า นางได้ตัดสินใจแล้ว และสิ่งนี้จะทำให้เขาเสียแผน ถ้าอย่างนั้น เขาคงต้องลงมือให้เด็ดขาดเสียแล้ว! สามวันต่อมาผู้คนกำลังให้ความสนใจกับลำไม้ไผ่ขนาดใหญ่ที่วางต่อกัน แล้วเชื่อมด้วยยางไม้ให้แน่นหนา ทหารต่างเรียกมันว่าท่อส่งน้ำ ท่อนี้มีความยาวไม่มีที่สิ้นสุด เห็นเขาเล่ากันว่ามันถูกส่งมาจากแหล่งน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ห่างไกล ฝ่ายที่อยู่ตรงต้นน้ำ นำอุปกรณ์วิดน้ำที่มีลักษณะเป็นวงล้อขนาดใหญ่ ถูกเรียกว่ากังหันน้ำ ติดใบพัดไว้ด้านหน้าเมื่อโดนลมก็หมุน ทำให้กังหันเหล่านั้นทำหน้าที่ตักน้ำขึ้นไปเทลงในรางส่งน้ำต่างระดับ ส่งน้ำขึ้นไปอยู่ในถังขนาดใหญ่ ที่นำไม้ไผ่มายึดรวมกันเป็นโครงให้แข็งแรงแล้วใช้ดินเหนียวปั้นให้ขึ้นรูป ก่อนนำท่อนฟืนไปเผาด้านในให้แห้ง จนได้โอ่งดินขนาดใหญ่ ช่างมหัศจรรย์ที่มีคนคิดวิธีแบบนี้ขึ้นมาได้ ถังน้ำนั้นเชื่อมลงมาด้านล่างด้วยท่อไม้ไผ่ มีสลักไม้คอยปิดเปิด นางเรียกมันว่า วาวน้ำ ชื่อแปลก แต่ใช้งานง่าย แค่ยกขึ้นลงก็ใช้ได้แล้ว คุณหนูเฟิงเดินทางมาดูการก่อสร้างพร้อมองค์ชายรองอย่างใกล้ชิด รองเจ้ากรมโยธาเป็นคนฉลาดหัวไว เมื่อเขาเห็นแบบก็เข้าใจได้ถ้วนถี่ เมื่อได้รับคำแนะนำบวกกับประสบการณ์ที่โชกโชน จึงสามารถสร้างออกมาได้อย่างไร้ที่ติ นับว่าเป็นผู้มีฝีมืออย่างแท้จริง เจ็ดวันผ่านไปในที่สุดระบบประปาก็ถูกก่อสร้างจนเสร็จสิ้น วันนี้ก็ถึงกำหนดปล่อยน้ำมาสู่เมืองที่แห้งแล้งแห่งนี้เป็นวันแรก ผู้คนในเมืองต่างนั่งมองถังน้ำขนาดใหญ่ ที่ใช้รองรับน้ำจากท่อไม่ไผ่ รอไปพักใหญ่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น แต่ทุกคนก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดหรือหมดหวัง พวกเขาดูเชื่อมั่นในตัวโอรสสวรรค์และขุนนางเบื้องหน้า และแล้ววินาทีแห่งประวัติศาสตร์ก็ได้เกิดขึ้น มีเสียงหวีดหวิวดังมาจากปลายท่อ ไม่นานน้ำก็ไหลพุ่งออกมา น้ำนั้นไหลแรงกระทบก้นถังเสียงดังซู่ซ่า ช่างเป็นเสียงที่ทรงพลังอย่างยิ่ง หลังจากหายตกตะลึง ทุกคนต่างลุกขึ้นกระโดดไชโยโห่ร้องอย่างยินดี เหมือนตอนต้อนรับฝนตก รอดตายแล้ว! พวกเขารอดตายแล้ว! มีน้ำแล้ว! ยิ่งนานยิ่งมีน้ำมากมายเต็มไปหมด พวกเขาไม่ต้องจิบเบาๆเพราะกลัวน้ำจะหมดอีกต่อไปแล้ว! ผ่านมาห้าวัน น้ำจากท่อไม้ไผ่ก็ยังไหลอย่างไม่มีวันจะแห้งเหือด ตอนนี้บ้านแทบทุกหลังมีน้ำเต็มตุ่ม ผู้คนสดชื่น ใบหน้ายิ้มแย้ม หลายคนเวียนมานั่งอยู่หน้าจวนเจ้าเมือง ก้มลงกราบไหว้โอรสแห่งสวรรค์ที่เมตตาพวกเขาขนาดนี้ เจ้าเมืองกล่าวว่า ต่อไปเมืองนี้จะไม่ขาดแคลนน้ำอีกต่อไป ท่อน้ำประปานี้น้ำจะไม่มีวันหยุดไหล นางได้ยินยังขมวดคิ้ว นี่นางยังไม่ได้บอกเจ้าเมืองหรอกหรือว่า หากท่อชำรุด ท่านต้องซ่อมนะ และไม่มีอะไรในโลกนี้ไม่มีวันพัง ท่านต้องรู้จักคำว่า ซ่อมบำรุง! การแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนประสบผลสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ขุนนางฝ่ายองค์ชายรองต่างยิ้มแย้มมีความสุข นี่เป็นความชอบขนานใหญ่ พวกเขาทุกคนล้วนต้องได้รับความชอบแน่!! องค์ชายรองทำงานร่วมกับคุณหนูเฟิงบ่อยครั้ง ยิ่งถูกใจว่าที่ชายาขึ้นไปอีก เขาชอบความมุ่งมั่นและการกล้าตัดสินใจของนาง แม้จะร้อนหรือเหนื่อยแต่นางก็ไม่ย่อท้อ ยังคงพยายามช่วยรองเจ้ากรมแก้ไขปัญหาต่างๆจนการก่อสร้างแล้วเสร็จ ยิ่งได้ใกล้ชิดยิ่งแปลกใจที่นางต่างไปจากความคิดเขามาก เมื่อก่อนเขาและนางแทบไม่เคยได้พูดคุยกัน มีเพียงฮองเฮาเรียกให้นางและเขาไปพบกันที่ตำหนักเสด็จแม่บ้างเพียงเท่านั้น นางในตอนนั้นมักจะไม่กล้าสบตาเขา เอาแต่หลุบตามองต่ำอยู่เสมอ ครั้งแรกที่ได้สบตา คงเป็นที่งานเลี้ยงเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เขาพึ่งรู้ว่าดวงตาของนางงดงามแวววาวมาก และเมื่อนึกว่า นางเคยส่งสายตาเช่นนั้นให้จวิ้นอ๋องหลายครั้ง เขาก็รู้สึกหงุดหงิดในใจ ******************* สองวันต่อมาคณะพ่อค้าที่เดินทางไปจัดซื้อเสบียงยังชายแดนตงไห่ ก็เดินทางกลับมาพร้อมกับเสบียงจำนวนมาก พวกเขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก ที่เมืองอันแห้งแล้งนี้มีน้ำดื่มน้ำใช้จากสิ่งที่เรียกว่าระบบน้ำประปา ทุกบ้านมาหาบน้ำที่บ่อพักน้ำไปใช้ ยามนี้บริเวณบ่อพักน้ำคึกคักขึ้นมาก ทหารที่เคยเฝ้าบ่อน้ำก็ย้ายมาเฝ้ารักษาบ่อพักน้ำแห่งนี้แทน พวกเขาต้องการศึกษาสิ่งนี้โดยละเอียด เพราะสิ่งนี้ช่างน่าอัศจรรย์ที่สุด เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน พื้นที่ในเขตนี้หลายเมืองมักจะขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง หากมีเจ้าสิ่งนี้ ชีวิตพวกเขาก็รอดตายได้แล้ว “ครั้งนี้องค์ชายรองสร้างผลงานได้ยิ่งใหญ่นัก โดยเฉพาะคุณหนูเฟิงผู้นั้น เห็นทีครั้งนี้ฝ่าบาทคงมอบรางวัลใหญ่ ไม่แน่ว่าตำแหน่งองค์รัชทายาทคงถึงเวลาแต่งตั้งแล้ว” ขุนนางฝ่ายตระกูลเฟิงหารือกันเงียบๆถึงการหาผลประโยชน์จากผลงานครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด ผลงานขององค์ชายรองครั้งนี้โดดเด่นยิ่งนัก ฮองเฮาย่อมรีบคว้าโอกาสนี้ไว้แน่ ***************** ยามพลบค่ำ เฟิงอวี้หยวนออกมานั่งพักผ่อนยังศาลาข้างเรือน ถึงแม้ว่าอากาศจะยังร้อน แต่บึงเล็กๆที่เคยแห้งขอด ตอนนี้มีน้ำอยู่บ้างแล้ว นางให้ทหารตักน้ำมาเติมลงในบึงบัวแห่งนี้ เพื่อให้เหง้าบัวที่หลบซ่อนอยู่ในดิน ได้แตกยอดอ่อนเล็กๆขึ้นมา การเกิดใหม่ สัญลักษณ์แห่งความหวัง นางชอบมัน เสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามา นางมองเห็นจวิ้นอ๋องอยู่ในอาภรณ์สีขาวเรียบง่าย ดูเหมือนบัณฑิตแต่กลับส่งให้เขารูปงามยิ่งนัก การมาถึงของเขา ช่วยให้สระบัวและศาลาแห่งนี้งามขึ้นอีกสองส่วน “คุณหนูเฟิง ข้ามารบกวนเจ้าแล้ว ขอข้านั่งชมสวนกับเจ้าด้วยได้หรือไม่” ชายหนุ่มกล่าวอย่างนุ่มนวล ใบหน้างดงามของเขาคล้ายจะพยายามล่อลวงนาง ดีที่นางใกล้ชิดกับเหวินหลงมามาก นางจึงมีภูมิต้านทานคนหล่อในระดับหนึ่ง เท่านี้ ไม่เป็นไร “คารวะจวิ้นอ๋อง ไม่ได้รบกวนสิ่งใดเพคะ หม่อมฉันนั่งได้สักพักใหญ่แล้ว กำลังจะกลับพอดีเพคะ” ความบังเอิญไม่มีในโลก ไม่ว่าเรื่องที่เขาจะคุยคือเรื่องใด แต่นางไม่อยากคุยกับเขาแค่นั้นเอง “เดี๋ยว! อยู่ก่อนเถิด ข้ามีเรื่องอยากสนทนากับเจ้าสักครู่” แม้ไม่อยากคุยแต่นางปฏิเสธไม่ได้ หากนี่เป็นรับสั่ง นางจำต้องปฏบัติตาม เมื่อเห็นว่าสถาณการณ์ค่อนข้างปลอดภัย หญิงสาวจึงค่อยๆนั่งลงอีกฝั่งหนึ่ง โดยเว้นที่ฝั่งตรงข้ามด้านนอกไว้ให้เขา “จวิ้นอ๋องคงอยากสอบถามเรื่องระบบน้ำประปากระมัง” ไม่คิดว่านางจะพูดออกมาตรงๆ เขาก็อยากรู้เช่นกันว่านางไปเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากอาจารย์ท่านใด เหตุใดมันจึงน่าพิศวงนัก ศาสตร์ต่างๆทุกแขนง เขามั่นใจว่าเขาได้ศึกษามาหมดทุกตำราแล้ว แต่ไม่เคยมีอาจารย์ท่านใดได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้เลย “เป็นเช่นเจ้าว่า คุณหนูเฟิงจะช่วยคลายข้อสงสัยให้ข้าได้หรือไม่ เจ้าศึกษามาจากที่ใด” “ทูลจวิ้นอ๋อง เรื่องต่างๆ ไม่เคยพบ ก็ใช่ว่าจะไม่มี นักปราชญ์หลายท่าน ก็ค้นพบแก่นความรู้ด้วยตนเองได้ ข้าไม่อาจนำตนเองไปเทียบกับปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้น แต่ข้ายืนยันได้ว่า ข้าคิดได้เอง” จวิ้นมองนางด้วยสายตาอีกแบบ คล้ายศรัทธาแต่ก็ไม่ นางกล่าวว่านางคิดขึ้นเอง สตรีผู้นี้ไม่กล้าเอาตนไปเทียบกับปราชญ์ แต่สิ่งที่นางคิดได้นั้นยิ่งกว่ามหาปราชญ์อีก ยิ่งคิดยิ่งไม่อยากยินยอม หญิงสาวผู้มีเบื้องหลังและมีปัญญาเป็นเลิศผู้นี้ จะเลือกน้องชายของตน แววตาเอาชนะสายหนึ่งปรากฏขึ้น เมื่อตระกูลเฟิงหมดทางเลือก ย่อมต้องคลานมาอ้อนวอนเขาเป็นแน่! บรรยากาศเริ่มอึดอัด นางไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ นางไม่ได้อ่านนิยาย จึงไม่รู้รายละเอียดของเรื่อง แต่ที่แน่ๆ หากไม่ได้ตระกูลเฟิงหนุนหลัง จวิ้นอ๋องผู้นี้ ไปไม่ถึงฝั่งอย่างแน่นอน และครานี้นางไม่ได้เลือกเขามาตั้งแต่ต้น เช่นนั้น ไม่นับว่านางผิดต่อเขา เมื่อไม่มีสิ่งใดจะสนทนาอีก จึงรีบขอตัว “ดึกแล้วน้ำค้างลง หม่อมฉันขอตัวกลับขึ้นเรื่อนก่อน ทูลลาเพคะ” “เดี๋ยว! คุณหนูเฟิง ที่ผ่านมา ข้าทำให้เจ้ารู้สึกไม่ดีรึเปล่า เหตุใดเจ้า....” “หม่อมฉันไม่มีเรื่องใดติดค้าง ทูลลาเพคะ” แม้อยากจะเอ่ยรั้งไว้อีกสักหน่อย แต่ก็ไม่มีข้ออ้างใดให้รั้งไว้ ในขณะที่นางลุกขึ้นยืน อาการเหน็บชาก็เกิดขึ้นมากะทันหัน ขาข้างนั้นไม่เชื่อฟังนาง มันไม่ยอมขยับยามนางต้องก้าวเดิน ซวยแน่แล้ว! นางกำลังจะล้มไปทางจวิ้นอ๋อง ตามระยะห่างแล้ว อกแน่นๆของเขาคงเป็นจุดแลนดิ้งของนางไม่ผิดแน่ ตายแล้ว! นี่มันฉากพระนางชัดๆ นางกำลังจะตกอยู่ในอ้อมกอดของจวิ้นอ๋อง ไม่นะ! นางไม่ต้องการแบบนี้! ตอนที่นางคิดว่าใบหน้าต้องทิ่มลงกลางอกจวิ้นอ๋องแน่แล้ว ก็พลันรู้สึกถึงแรงดึงจากทางด้านหลัง นางเซไปกับแรงกระชากนั้น จนปลิวไปติดกับแผ่นอกแน่นของคนผู้หนึ่ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็พบกับใบหน้าของชายในฝัน เขาไม่ได้มองมาที่นาง แต่ส่งสายตาตำหนิไปยังจวิ้นอ๋องแทน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD