EP 6 จูบแรก

1198 Words
“โทษที” ฉันบอกเสียงห้วนโดยไม่มองหน้า สายตายังทอดไปยังชายหาดที่เพื่อนๆ กำลังแข่งแดร็ก (Drag) ซึ่งเป็นการแข่งทางตรงซึ่งวัดกันที่ระยะทางและความเร็ว “นายมีธุระอะไรก็ว่ามา” พูดไม่ทันจบ ปลายนิ้วแข็งแรงก็เอื้อมมาจับคางฉันให้หันไปหา แน่นอนว่าฉันสะดุ้งสุดตัวและตบมือนั้นออกดังเพียะ! เพราะตกใจ แต่เพียวก็ยังไม่คลายรอยยิ้มกระจ่างที่ทำให้ฉันไม่อยากจะถอนสายตาจากหน้าหล่อๆ แบบลูกครึ่งจ๋าที่โคตรจะเสป๊กนั่นเลย T^T “ดุไม่เปลี่ยนเลยนะเธอเนี่ย” “ใช่! รู้ว่าฉันดุก็อยู่ห่างๆ ฉันไว้สิ นายชอบผู้หญิงอ่อนหวาน เซ็กซี่ และมี Sex กับนายได้ทุกที่ไม่ใช่เหรอ!” อดไม่ได้ที่จะประชดประชัน และหวนคิดกลับไปเมื่อวาเลนไทน์ปีก่อนที่เราเลิกรากันอย่างอดสู เพียวเป็นเด็กนานาชาติในเครือที่แม่ฉันเป็นเจ้าของ เขามีพ่อเป็นคนนิวซีแลนด์ และแม่ที่เป็นลูกครึ่งไทย – อเมริกัน รูปร่างหน้าตาเลยกระเดียดไปทางยุโรปมากกว่าเอเชีย เป็นคนที่ทำให้ฉันตกหลุมรักในแรกเห็น เป็นแฟนคนแรก... เป็นจูบแรก... และเป็นผู้ชายคนแรกที่สอนให้ฉันรู้ว่าสำหรับพวกเขา ความรักกับเซ็กส์มันคือสิ่งที่ผสานกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างแยกไม่ได้ ในเมื่อฉันเป็นวัยรุ่นไทยที่แอนตี้การใช้ ‘เซ็กส์แลกรัก’ และสนับสนุนการรักษาพรหมจรรย์ไว้จนถึงวันแต่งงาน -_-v เพียวเลยไม่บังคับจิตใจ แต่ก็แอบเฟลิร์ตสาวไปทั่ว จนฉันจับได้คาหนังคาเขา... นับแต่วินาทีนั้นฉันจึงขอลดสถานะของเราเป็นแค่ ‘คนรู้จัก’ เพราะยังไงซะเราก็ยังอยู่กลุ่มเดียวกันแบบนี้ แต่ถ้าจะกลับไปเป็นแฟนหรือเพื่อนอีก ฉันไม่เอา! “ว้า! อย่าขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ เลยน่า ปิยอง...” “...” “ฉันยังรักเธออยู่นะ” บอกพร้อมกักตัวฉันไว้กับรถเก๋งของใครสักคนที่ฉันยืนพิงอยู่แต่แรก มือใหญ่จับปอยผมฉันขึ้นแตะปลายจมูกโดยไม่สะสายตาจากหน้าฉัน แน่นอนว่าคำหวานของคนที่ฉันเคยรักหมดใจย่อมทำให้พวงแก้มฉันร้อนผ่าว และทำให้หัวใจฉันเต้นตึกตัก แต่... แต่... “อย่า!” ฉันพยายามผลักอกเขา และเบือนหน้าหนีเมื่อคนตรงหน้าโน้มหน้าลงมาใกล้ ไม่เอาแล้ว... ปล่อยฉันไปเถอะ ได้โปรด... “ทำไมล่ะ” เสียงทุ้มน่าฟังดังคลอเคลียอยู่แถวแก้ม “เธอเองก็ไม่ได้คบใครอีกเลยไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ฉันเองก็เหมือนกัน... ปีกว่าๆ ที่ผ่านมามันทำให้ฉันสำนึกผิดแล้วนะปิยอง ผู้หญิงพวกนั้นอาจมอบความสุขทางกายให้ฉันได้ แต่ฉันไม่เคยสุขใจเหมือนตอนมีเธออยู่ข้างๆ อีกเลย...” “...” “ฉันสัญญาว่าจะปรับปรุงตัวเอง ถ้าเธอบอกให้รอนานแค่ไหนฉันก็จะรอ... ให้โอกาสฉันนะปิยอง” “...” “Could you come back? (กลับมาได้ไหม?)” ฉันหลับตาสนิท พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ตอบ ‘Yes’ ความเจ็บปวดในครั้งนั้นมันทำให้ฉันทรมานแทบบ้า! ไม่อยากเจ็บแบบนั้นอีกแล้ว... ไม่เอาแล้ว... “เสียใจด้วยนะ เพียว” พยายามบังคับเสียงให้ราบเรียบ ขณะออกแรงผลักเขาอีกครั้งและเชิดหน้าขึ้นมองสบตาอย่างไม่กลัวเกรง เธอทำได้ ปิยอง... เธอทำได้! “ฉันมีแฟนใหม่แล้ว ทั้งหล่อทั้งดีกว่านายเป็นพันเท่าเลยด้วย!” ตู๊ด... ตู๊ด... ทำไมไม่รับซะทีนะ TT^TT ฉันเกร็งมือที่ถือโทรศัพท์แบบแทบจะเป็นตะคริวเพราะเพียวไม่ยอมเชื่อว่าคนแบบฉันที่ถึงจะชอบดูหนังจีนกำลังภายใน รองจากหนังฮอลลีวู้ดแอ็คชั่นก็ตาม... จะไปคบกับผู้ชายสไตล์ไอดอลเกาหลีแบบอัส หลายเดือนที่เราคบหากัน เพียวรู้จักฉันดีในระดับหนึ่งเลยละ รู้ว่าฉันชอบไม่ชอบอะไร และรู้ว่าเสป๊กชายในฝันของฉันออกแนวโซนยุโรปกล้ามโต แบบว่าถ้า ‘ฝรั่งจ๋า’ จะเลิศมาก ก็อย่างที่ฉันเคยบอกว่าต่อให้อัสหล่อใส ขาวโอโมแค่ไหน ฉันก็ไม่รู้สึกกรี๊ดกร๊าดหรือหลงใหลใฝ่ฝันแบบที่สาวๆ ค่อนโรงเรียนเป็นกัน เพราะภูมิต้านทานฉันแข็งแรง =_= ฉันแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเกาหลีเลยด้วยซ้ำนอกจากได้ฟังจากมินิ วงบอยแบนด์เกาหลีวงเดียวที่ฉันคุ้นเคยคือ 2PM เท่านั้นเพราะนิชคุณเป็นคนไทย (แต่ก็รู้จักนิชคุณคนเดียวอีกนั่นแหละ T_T) ฉันเคยปล่อยไก่งุนงงว่า ‘โซนยอชิแด’ กับ ‘SNSD’ คืออะไรด้วยละ โธ่! ก็เคยได้ยินแต่ Girl Generation นี่ ตู๊ด... ตู๊ด... ตู๊ด... ปัดโธ่... รับเซ่! “ไม่รับใช่มะ เห็นปะ! หมอนั่นไม่เห็นจะแคร์เธอเลย” ฉันกดวางโทรศัพท์แล้วถอยหลังหนีพรวดพราดเมื่อเพียวที่ยืนกอดอกรออยู่ไม่ห่าง ก้าวเข้ามาหาอีกครั้ง หมอนี่สั่งให้ฉันโทรหาอัส เพราะอยากฟังคำยืนยันจากปากอัสเอง และฉันก็ตัดสินใจรับปาก เพราะรู้ว่าอัสฉลาดแค่ไหน อัสรู้เรื่องของฉันกับเพียวดี... แค่พูดด้วยไม่กี่คำคงเดาออกว่าฉันกำลังตกอยู่ในอันตรายและต้องการความช่วยเหลือ “ฉันจะโทรอีกที อย่าเข้ามานะ” เพียวหัวเราะอีกแล้ว =_= จะขำอะไรกับท่าทางลนลานของฉันนักหนา แต่ฉันไม่สนใจแล้วละว่าหมอนี่จะหัวเราะหรือร้องไห้อะไรยังไง วินาทีนี้ฉันต้องโทรจนกว่าอัสจะรับให้ได้! หมอนั่นมัวทำอะไรอยู่นะ เพิ่งสี่ทุ่มกว่าเอง เจียดเวลาอันมีค่าของนายให้ฉันสักนาทีนึงเถอะ กริ๊ก! ((ฮัลโหล)) โอ... สวรรค์ TT^TT ฉันไม่เคยได้ยินเสียงอัสทางโทรศัพท์แล้วดีใจจนแทบวิ่งออกไปรำแก้บนริมชายหาดแบบนี้มาก่อนเลย TAT “อัส... เอ่อ ตัวเอง! มีคนอยากคุยกับตัวแน่ะ” ฉันหยอดเสียงหวานพร้อมสรรพนามบาดไส้ และเหลือบมองเพียวอย่างผู้ชนะ โอ๊ะ... หมอนั่นแอบชักสีหน้าไม่พอใจนิดหนึ่งด้วยละ ((...)) แต่ดูเหมือนอัสจะไม่เข้าใจแฮะ แงๆ “อ่า... เพียวไง จำได้ไหม คือ...” ((หึ...)) กรี๊ด! เสียงหัวเราะแบบนี้! เข้าใจและกำลังเยาะเย้ยฉันอยู่ใช่มั้ย ฮึ่ม! นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆ ฉันจะตบหัวนายให้หลุดกระเด็นออกไปนอกจักรวาลเลย ((เธอทำบ้าอะไรอยู่)) อ้าว... อันที่จริงแล้วอัสมันโง่กว่าที่ฉันคิดไว้สินะ V_V “เค้าเปล่านะตัวเอง” ฉันยังคงพยายามขั้นเทพ T_Tv “ก็เพียวไม่ยอมเชื่อว่าเราสองคนคบกัน เลยให้เค้า... ว้าย!” ฉันร้องลั่น เพราะโทรศัพท์มือถือถูกแย่งไปก่อนที่เพียวจะกดปุ่มแฮนด์ฟรี แบบนี้ถ้าอัสพูดอะไรออกมาเพียวก็ได้ยินด้วยสิ! “เอาคืนมานะ!” ฉันแหว พลางพยายามแย่งโทรศัพท์คืน แต่เพียว จับแขนฉันและล็อกตัวไว้ไม่ให้เอื้อมมือถึงโทรศัพท์ที่เขายื่นออกไปอีกทาง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD