พอผุดลุกพรวดขึ้นนั่ง ก็พบว่าตัวเองยังอยู่ในความมืดสนิท และหลังจากกะพริบตาหลายๆ ครั้งก็ปรับสายตากับความมืดนี้ได้ พอหันมองไปข้างตัวฉันก็สะดุ้งโหยง! กำหมัดเสยคางคนในเงามืดที่กำลังมองมาแบบอัตโนมัติ
แต่... วืด!!
ฉันถัดกายถอยหลังแทร่ดๆ เมื่อเห็นชัดว่า ‘บุคคลอันตราย’ อ่านทางการเคลื่อนไหวของฉันออก เพราะหมอนี่แค่เงยหน้าช่วงวินาทีที่กำปั้นของฉันจะสัมผัสคางของเขาเท่านั้น นั่นมันการเคลื่อนไหวของจอมยุทธ์จากหุบเขาเหลียงซานชัดๆ (กึงกึง... กุกกัก... เมื่อเห็นชัดว่าเปิดไม่ได้ก็เดินกลับมานั่ง ตุบ! ลงข้างฉัน
อา... ฉันว่าฉันรู้แล้วละว่าเสียงเมื่อกี้น่ะ เสียงอะไร =_=
“พวกเรา... มาอยู่นี่ได้ไง” ฉันถามพลางมองไปโดยรอบที่มืดสลัว และพอจะดูออกแล้วละว่าตอนนี้เราอยู่ในโรงเก็บฟางที่ไหนสักแห่งของประเทศไทย -0-;
อัสหันมองมา หน้านิ่งๆ ทั้งที่ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติโคตรๆ หมอนี่ยังทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ได้ คิดว่าหล่อนักรึไงฟะ ชริ... ถึงนายจะเป็นผู้นำเทรนด์เด็กเนิร์ดของโรงเรียนเมื่อสามปีก่อนจนหนุ่มแว่น ‘เกิด’ กันเป็นแถบๆ แต่ฉันบอกนายรึยังว่าหน้าตานายมัน...
อันที่จริงแล้วการโกหกเป็นบาปสินะ T^T
เหอะ... ไอ้หล่อลากไส้!
“เธอนั่นแหละ ตามมาทำไม”
“อ๊าว... ทำไมถามหมาๆ แบบนี้อะ ฉันเห็นนายเดือดร้อนก็ตามมาช่วยไง เออ! แล้วอาเฮียแว้นหายไปไหน (-_- )) ( -_- ) (( -_-)”
“วินมอไซค์ฯ เหรอ พอพวกนั้นโยนเงินให้ก็ตะครุบหนีไปแล้ว”
บอกพร้อมลุกขึ้นยืน จนจากมุมที่ฉันนั่งเลยเหมือนเห็นหมอนี่สูงปรี๊ด มือทั้งสองล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงนักเรียนขายาว สายตาจับจ้องเพียงบานประตูไม้ตรงหน้าที่ดูเหมือนว่าถ้ากระโดดถีบซักทีแล้วประตูนั่นพัง อัสคงทำไปแล้ว (แต่คงคำนวณแล้วว่าทำไม่ได้สินะ -_-a)
“นี่” ฉันดึงขากางเกงเขายิกๆ “ช่วยอธิบายให้ฉันฟังแบบกระจ่างแจ้งทีได้มั้ยว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น พวกนั้นเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน แล้วก็-”
ฟุ่บ! “ชูว์...”
O///O ก... กรี๊ด! ตกใจหมดเลยอะ จู่ๆ อัสก็ย่อตัวลงนั่งแล้วยื่นมือมาปิดปากฉัน จากนั้นก็โน้มหน้ามาใกล้แล้วทำเสียงชูว์ในคอเบาๆ
นายออกตัวเบา... แต่ฉันหัวใจจะวายนะ
ถึงคบหาเป็นเพื่อนกันมาจนชินหนังหน้า แต่ฉันไม่เคยใกล้ชิดคนๆ นี้มากขนาดนี้มาก่อนเลยนะ ทำไมมือผู้ชายถึงหอมจังเนี่ย >_“อ้าว... ไหนว่ายาสลบน่าจะหมดฤทธิ์แล้วไง”
“นั่นสิ เอาไงดีคะบอส”
“ไม่เป็นไร... ไม่ใช่เป้าหมายเราอยู่แล้ว”
ฉันนอนหลับตาปี๋แต่พยายามเงี่ยหูฟังสุดฤทธิ์ และรู้สึกว่าคนร้ายจะเป็นผู้หญิงสามคน เสียงเดินบนพื้นหยาบๆ ดังแกรกกราก ก่อนจะรู้สึกว่าใครคนหนึ่งเดินมายืนอยู่ข้างๆ หัวฉัน (ไม่เหยียบซะเลยล่ะ -_-^)
“เอาล่ะ... ที่รัก”
เสียงนั้นหวานจัด ก่อนได้ยินเสียงก๊องแก๊งเหมือนวัตถุกระทบกัน พอแอบลืมตามองก็เห็นร่างสูงอรชรของผู้หญิงที่สวมหมวกแก๊ปและผ้าปิดปากลายอะไรสักอย่าง เห็นไม่ชัด -_-; เพราะไฟสปอร์ตไลท์ถูกฉายมาจากด้านนอกทางประตูนั่น คนนี้ทรุดลงนั่งชันเข่าตรงหน้าอัส และฉันสาบานได้เลยเอ้าว่าจนถึงบัดนี้หมอนั่นยังทำหน้าเบื่อโลกอยู่เลย =0=;
“คราวนี้ไม่ให้หนีแล้วนะ” ตัวร้ายอันดับ 1 ที่ฉันเดาว่าคงเป็น ‘บอส’ บอกเสียงหว๊านหวานอีกรอบ พร้อมกับชูกุญแจมือที่น่าจะเป็นต้นเสียงขึ้นมา ก่อนโน้มลงไปข้างหูอัส
แล้วกระซิบ... เสียงดังพอที่ฉันจะได้ยินด้วยนี่ละ (เพื่อออ)
“วันนี้เวอร์จิ้นของนายต้องเป็นของฉัน อัษฎาวุธ!”
O_o
ว่าไงนะ...
‘MG น่ะ ย่อมาจาก My Virgin guy หรือเรียกภาษาไทยง่ายๆ ว่า ‘แก๊งล่าเวอร์จิ้น’ ตอนนี้กำลังดังมากเลยนะในเน็ตอะ! ใบหม่อนบอกว่ามีผู้หญิงสามคนมารวมตัวกันเพื่อ ‘ล่าเหยื่อ’ ที่เป็นเด็กหนุ่ม ม.ปลาย และยังซิงอยู่ ^///^ แล้วก็นะ...’
‘เป้าหมายของ MG คือเด็กโรงเรียนเรา ห้อง 6/2 ของเราด้วย?! O_O’
‘เป้าหมายของ MG คือแกใช่มั้ย! อัส!!
Oh my God...
ข่าวโคมลอยบ้าบอนั่นตกลงว่ามันเป็นเรื่องจริงเรอะ O[]O!
แล้วยังที่บอสของพวกนั้นพูดเมื่อกี้อีก ‘คราวนี้ไม่ให้หนี...’ แปลว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อัสโดนจับมางั้นสิ เคยโดนจับมาแล้ว? เคยหนีรอดไปแล้ว? มิน่าหมอนี่ถึงทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ได้...
ฉันกะพริบตาปริบๆ แอบหรี่ตามองสองคนนั้นแบบไม่รู้จะทำอะไรที่ดีกว่านี้ ใจชื้นขึ้นนิดหนึ่งที่รู้ว่าอัสเคยหนีพ้น เพราะงั้นครั้งนี้ก็ต้องพาฉันหนีรอดไปด้วยแน่นอน ปิยองฟันธง >_“วิ่ง!!”