ตอนที่ 7 คนนอกสายตา

1249 Words
“หึหึ ก็เป็นแบบนี้ใครจะอดแกล้งไหว” เสียงเข้มมองร่างเพื่อนที่หนีเข้าห้องนอนไป ก่อนจะส่ายหัวกับท่าทางน่ารักนั้นอย่างชอบใจ น้ำรินมักจะหน้าแดงแบบนี้เสมอเวลาเขามาแกล้ง จากที่นาน ๆ แกล้งทีก็กลายเป็นชอบจนต้องหาทางแกล้งให้เพื่อนคนนี้อายทุกวัน จนวันไหนไม่ได้เห็นรอยยิ้มกับหน้าหวานนี้เขาก็รู้สึกเหมือนขาด ๆ อะไรไป เขาเจอกับน้ำรินครั้งแรกตอนปีหนึ่ง น้ำรินสอบเทียบจนสามารถเข้ามหาวิทยาลัยมาทันรุ่นของเขาได้ น้ำรินถือว่าเป็นเพื่อนคนแรกที่เขาคุยด้วยเลยก็ว่าได้เพราะน้ำรินดูไม่กรี๊ดกร๊าดผู้ชายเหมือนคนอื่น ๆ เรียนเก่ง มีกิจกรรมอะไรน้ำรินมักจะได้รับเลือกเสมอ ทั้งดาวมหาลัย ทีมเชียร์ ประธานสโมสรนักศึกษา น้ำรินคือมีครบในทุกด้านทั้งสวย รวย และนิสัยดี ต่างจากเขาและเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่เกเรไม่ค่อยจะเข้าเรียนต้องให้น้ำรินช่วยทำการบ้านให้มาตลอด จนบางทีเขาก็รู้สึกว่าเขาได้เป็นแค่เพื่อนกับน้ำรินก็นับว่าโชคดีมากแค่ไหนแล้ว . . . . . . . “ฮ้าววววว” มือน้อยป้องปากหาวนอนก่อนจะเดินหลับตาออกมาจากห้องเพื่อเปิดเอาน้ำออกมาจากตู้เย็น ก่อนจะเปิดกระดกเข้าปากแบบไม่ลืมตาขึ้นมาสักนิด ทว่ามีอีกคนกำลังมองหุ่นยั่วยวนของหล่อนอยู่ อัคคีมองรูปร่างยั่วยวนในชุดนอนสีขาวบางเบา ถึงแม้มันจะยาวแต่ความบางที่แนบลู่ไปกับส่วนเว้าส่วนโค้งของน้ำรินก็ทำเอาเขาใจเต้นผิดจังหวะ “ขนาดกินน้ำยังหลับนะ” อัคคีเอ่ยปากแซวเพื่อนเพื่อให้หล่อนนั้นรู้สึกตัว แต่อีกคนกลับไม่สนใจวางขวดน้ำแล้วเดินโซเซจนเผลอเหยียบชายกระโปรงชุดนอนจนเกือบจะล้ม ดีที่อัคคีรีบเข้าไปรับร่างสวยเอาไว้ได้ทัน “เฮ้ย!! สักวันคงได้หัวแตกเพราะไอ้ชุดหรูหรานี่ คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงหรือไงถึงได้ซื้อมาใส่” เขาได้แต่บ่นเพื่อนอย่างห่วงใย ก่อนจะอุ้มร่างนั้นในท่าเจ้าสาวไปยังห้องนอนสีขาวตกแต่งราวกับห้องนอนของเจ้าหญิง ดูท่าน้ำรินคงจะชอบอะไรพวกนี้จริง ๆ สินะ “หื้ออออ หม่ามี๊ขาน้องขอนอนอีกนิดนึงน๊าาาาค๊าาาาา” เสียงหวานอ้อแอ้ขอร้องคนที่กวนอยู่เพราะหล่อนนั้นคิดว่าเป็นมารดาที่จะมาปลุก โดยลืมนึกไปว่าตอนนี้หล่อนเองมานอนที่คอนโด และมักแทนตัวเองว่าน้องตลอดเวลาอยากอ้อนมารดา “หึ ขี้เซาแบบนี้ตื่นไปทำงานได้ยังไงกัน” อัคคีค่อย ๆ วางร่างของน้ำรินลงบนเตียงอย่างเบามือ ก่อนจะดึงผ้าขึ้นมาห่มให้ เขามองหน้าสวยราวกับภาพวาดนั้นได้สักพัก พลันคิดไปว่าถ้าเขาได้ตื่นมามองหน้าสวย ๆ แบบนี้ทุกวันจะเป็นยังไงนะ ก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดอกุศลออกจากหัวทิ้งไป “น้ำรินเป็นเพื่อนนะเว้ย!! บ้าจริง” อัคคีสบถด่าตัวเองแล้วตัดสินใจล็อกห้องนอนพร้อมกับออกจากคอนโดของเพื่อนไปด้วยใจที่เต้นแรงผิดกว่าปกติ . . . . . “สวัสดีค่ะ ขอโทษทีนะคะที่มาช้า นี่เอกสารที่ต้องใช้ในการประชุมค่ะ” น้ำรินรีบวิ่งเข้ามาในห้องประชุมด้วยความเหนื่อยหอบ วางเอกสารไว้ตรงหน้าของอัคคีที่มองหล่อนด้วยใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาเลยสักนิดจนใจของน้ำรินแป้ว ตั้งแต่ทำงานมาน้ำรินไม่เคยสายเลยสักครั้ง เมื่อคืนมัวแต่คิดเรื่องอัคคีจนนอนไม่หลับมาหลับเอาตอนเช้าสภาพถึงได้ออกมาอย่างที่เห็น “งั้นมาเริ่มกันได้เลย” อัคคีบอกกับทุกคนในห้องประชุมที่นั่งตัวเกร็งเพราะกลัวเจ้านายจะหงุดหงิดจนเผลอมาใส่อารมณ์ที่เหล่าบรรดาผู้เข้าร่วมการประชุม เพราะใคร ๆ ก็ต่างรู้ดีว่าความใจร้อนของอัคคีนั้นก็มีสมชื่อเขานั่นแหละ “ฝ่ายการตลาดเสนอให้มีงานโชว์เครื่องประดับของเราครับ พร้อมกับจัดประกวดไปด้วย โดยทุกคนที่สมัครเข้ามาร่วมเดินแบบเครื่องประดับทางเราจะมอบมงกุฎที่ทางบริษัทเราจัดทำขึ้นให้” หัวหน้าฝ่ายการตลาดเสนอแบบกล้า ๆ กลัว ๆ “ให้ใครก็ไม่รู้มาใส่เครื่องประดับเรา ไม่คิดว่ามันไม่ปลอดภัยเหรอ งานโชว์เครื่องประดับผมโอเคนะ แต่ถ้าจัดประกวดด้วยผมคิดว่ามันวุ่นวายมากเกินไปหรือคุณคิดว่าไงน้ำริน” อัคคีที่ยังมองไม่เห็นความเหมาะสมของงานตรงหน้าเพราะเขาเป็นผู้ชายจึงได้หันไปถามเลขาอย่างน้ำรินอย่างขอคำปรึกษา “คะ ออ น้ำรินมองว่ากิจกรรมน่าสนใจมากเลยนะคะ แต่ถ้าติดกังวลในเรื่องการประกวดที่กลัวจะยืดเยื้อและกินเวลามากเกินไป เราทำแคมเปญสั้น ๆ ก็ได้นี่คะ อาจจะแค่ประกวดถ่ายแบบกับเครื่องประดับใครตอบโจทย์เราที่สุดก็จะได้เดินแฟชั่นโชว์ แบบนี้เราก็จะดูแลเครื่องประดับได้ไม่ต้องเสี่ยง” น้ำรินพูดจบเหล่าบรรดาคนอื่น ๆ ที่อยู่ในห้องประชุมก็พากันพยักหน้าเห็นด้วยกับที่น้ำรินพูด “ครับ งั้นเอาตามที่น้ำรินบอกเลย ถ้าผมจะให้คุณไปช่วยฝ่ายการตลาดอีกแรงคุณจะโอเคมั้ย” อัคคีที่แอบยิ้มน้อย ๆ เขากะแล้วว่าน้ำรินต้องชอบอะไรเว่อร์วังแบบนี้ ดูจากตาที่เป็นประกายนั้นเขาก็อดยิ้มไปด้วยไม่ได้ “เอ่อ แล้วงานเลขาละคะ ใครจะทำ” น้ำรินนึกกังวลแม้ว่าจะชอบที่จะได้ไปช่วยงานฝ่ายการตลาด แต่งานเลขาหล่อนก็ไม่อยากจะให้มันเสียเช่นกัน “เดี๋ยวช่วงที่น้ำรินไม่ว่าง ผมให้เพลงมาช่วยแทนแล้วกันเห็นบ่น ๆ ว่าอยากทำงาน” อัคคีบอกอย่างไม่คิดอะไร เป็นการดีเสียอีกเขาจะได้อยู่ใกล้ ๆ แฟนสาวตลอด แต่สำหรับน้ำรินนั้นฟังด้วยหัวใจเจ็บปวด “ถ้าเป็นคำสั่งคุณอัคคี น้ำรินก็ไม่มีปัญหาค่ะ” น้ำรินตอบเสียงเรียบ ๆ จนอัคคีได้แต่เอะใจกับคำว่าคุณที่น้ำรินใช้เรียกขานตน “ดี งั้นก็เลิกประชุม” ร่างสูงเดินออกจากห้องประชุมตามด้วยน้ำรินที่ตามไปติด ๆ “เดี๋ยวค่ะไฟ น้ำรินอยากคุยด้วย ทำไมไฟต้องให้คนอื่นมาทำงานแทนน้ำรินด้วยคะ น้ำรินทำคนเดียวได้” ทันทีที่เข้ามาในห้องทำงานของอัคคีน้ำรินก็เริ่มถามอีกฝ่ายทันทีอย่างทนไม่ไหว นี่แค่เขาคบกันมันยังเจ็บไม่พอหรือยังไงเขาถึงพาเพลงพิณเข้ามาในที่ของหล่อน “คนอื่นที่น้ำรินพูดคือแฟนของฉันนะ ฉันไม่รู้ว่าน้ำรินไม่ชอบอะไรเพลงถึงได้ตั้งแง่รังเกียจเขาตลอด แต่ถือว่าฉันขอนะ เห็นแก่ความเป็นเพื่อน” เขามองเพื่อนอย่างอ้อนวอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD