ตอนที่ 6 ทำอะไรก็ไม่ดี

1266 Words
“เอาไว้ถ้าว่าง ๆ ค่อยไปหัดนะ ช่วงนี้ยุ่ง ๆ นิดหน่อย” ตากลมกะพริบถี่ ๆ เพื่อไล่น้ำตาให้หายไปกลัวคนข้าง ๆ จะรู้ถึงสิ่งที่ตัวเองนั้นคิดอยู่ “อืม น้ำรินจะลาออกเหรอ” อัคคีถามเพื่อนอย่างตรงประเด็นด้วยความร้อนรนในใจ ทั้งที่พยายามจะเงียบและดูท่าทีเพื่อนแต่มันอดไม่ได้จริง ๆ “ไฟอยากให้น้ำรินลาออกรึเปล่าล่ะ ถ้าอยากให้ออกน้ำรินก็ออกได้” น้ำรินก้มมองมือตัวเองด้วยแววตาเศร้า ๆ ที่เพื่อนถามแบบนี้คงเพราะไม่อยากให้หล่อนไปอยู่ขวางหูขวางตาอีกแล้วแน่ ๆ ก็เขามีแฟนแล้วนี่คงจะกลัวแฟนเข้าใจผิด “ใครบอกกัน หึย ไอ้ชันย์นะไอ้ชันย์ มันมาหลอกฉันนะสิ ว่าน้ำรินจะลาออกไปทำธุรกิจแบบเต็ม ๆ ตัว น้ำรินเป็นเลขาให้ฉันแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วเพราะคงไม่มีใครรู้ใจของฉันเท่าเธอแล้วล่ะ น้ำริน” เขาเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นก่อนจะแอบด่าเพื่อนในใจ ก่อนจะหันไปโยกหัวเพื่อนเบาอีกรอบโดยไม่สังเกตสายตาของอีกฝ่ายที่มองตนสักนิดว่ามันเปี่ยมไปด้วยความรักเพียงใด “แต่ก็คงได้แค่นั้น” เสียงหวานแผ่วเบาเผลอหลุดพูดออกมา “ห๊ะ น้ำรินว่าอะไรนะฉันฟังไม่ทัน มัวแต่ดูบอลอยู่” อัคคีหันมาถามเพื่อนอีกครั้งด้วยรอยยิ้มที่น้อยคนนักจะได้เห็นมัน ขนาดคนที่เขาคบเป็นแฟนหรือเพื่อนคนอื่น ๆ ยังไม่ค่อยได้เห็น “ออ เปล่าค่ะ น้ำรินบอกว่าเดี๋ยวอาหารคงมาแล้ว ไปดูก่อนนะคะ” ว่าจบร่างที่สมส่วนมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ผู้หญิงต้องการมีก็ลุกออกจากโซฟาไปรับอาหารที่สั่งเอาไว้ ทิ้งให้อัคคีมองตามเพื่อนด้วยรอยยิ้ม เขาชอบเวลาพักผ่อนแล้วน้ำรินคอยอยู่ใกล้ ๆ เตรียมอะไรให้กิน นั่งดูบอลด้วยกัน เล่นเกมต่าง ๆ ด้วยกัน น้ำรินเป็นทั้งเลขาที่เก่งกาจและเพื่อนสนิทที่เขาอยู่ด้วยแล้วมีความสุข “มาแล้วค่ะ อะ” น้ำรินยื่นแฮมเบอร์เกอร์ส่งให้อัคคีที่เอาแต่จ้องมองทีวีไม่วางตา แค่เห็นเขามีความสุขแบบนี้หล่อนก็ยอมทำให้หมดทุกอย่าง ทั้งเล่นเกม ดูบอล แม้หล่อนจะไม่เคยชอบมันเลยก็ตาม แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เพื่อนคนนี้อยู่ใกล้ ๆ หล่อน “วันหลังสั่งข้าวกินนะ บ้านก็รวยจะขี้งกไปทำไม ว่าง ๆ ก็หัด ๆ ทำอาหารบ้าง เอางี้หัดทำสปาเกตตีสิฉันชอบกิน” เขาค่อนแคะเพื่อนอย่างเอ็นดูระคนห่วงใย ก่อนจะบอกให้เพื่อนรักหัดทำอาหารดู “ค่าาาาา เจ้านาย น้ำรินจะลองทำให้ทานนะคะ” ใบหน้าสวยน่ารักยิ้มออกมาเมื่อได้ฟังคำบ่นของอีกฝ่าย แค่นี้แหละความสุขของน้ำริน “หึหึ ล้อเจ้านายหักเงินเดือนนะ” อัคคีแหย่เพื่อนและมองรอยยิ้มนั้นอย่างรู้สึกมีความสุขในใจอย่างประหลาด น้ำรินคือผู้หญิงที่ยิ้มสวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา เธอเพียบพร้อมไปหมดทุกอย่างทั้งสวย ฉลาด นิสัยน่ารัก จนบางทีเขาเองก็ยังมีใจเต้นแรงเมื่อเห็นรอยยิ้มนี้ แต่เพื่อนก็คือเพื่อน เขาก็แค่ดีใจที่เพื่อนมีความสุขอีกอย่างเขาก็มีแฟนที่น่ารักอยู่แล้วอาจจะไม่ได้สวยน่ารักเท่าแต่ก็ไม่รู้ทำไมเขาถึงชอบเพลงพิณอาจจะเพราะความน่าสงสารและอ่อนแอของเพลงพิณมั้งมันเลยทำให้เขาอยากปกป้อง “ใจร้ายจังคะ ถ้าหักอีกน้ำรินไม่มีตังซื้อกระเป๋าใบใหม่แล้วนะคะ” น้ำรินทำเสียงอ้อนคนที่มีฐานะเป็นทั้งเพื่อนและเจ้านายในคราวเดียวกัน “ทำไมซื้อเยอะจัง เห็นก็ใช้ไม่กี่ครั้งเอง ปกติไม่เห็นเพลงจะอยากซื้ออะไรแบบนี้เลย” อัคคีหลุดเอาแฟนสาวมาเปรียบเทียบกับเพื่อนไม่ได้ เนื่องจากแฟนสาวนั้นไม่เห็นจะเคยบอกอยากได้อะไรจากเขาเลยสักครั้ง แต่กับน้ำรินหล่อนมักจะชอบซื้อของสวย ๆ งาม ๆ และกระเป๋าราคาแพงที่หล่อนว่าสวยนักหนานั่น และนี่คงเป็นอีกข้อที่เขาไม่ชอบใจนักแต่เขาก็ไม่ได้ห้ามอะไรเพราะน้ำรินไม่ใช่แฟนของเขา โดยอัคคีไม่รู้เลยว่าที่น้ำรินชอบซื้อกระเป๋าแพง ๆ เพราะน้ำรินนั้นซื้อมาเพื่อศึกษาในการทำธุรกิจของตัวเอง “ก็คนละคนกันจะเหมือนกันได้ยังไง แล้วอีกอย่างเงินทุกบาทน้ำรินหามาเองทำไมถึงจะซื้อของที่ตัวเองชอบไม่ได้ น้ำรินชอบเพชร ชอบกระเป๋าแบรนด์เนม ชอบไปที่สวย ๆ มันจะผิดตรงไหนเหรอ” เสียงที่เคยหวานเริ่มจะแข็งขึ้นอย่างน้อยใจที่ไม่ว่าหล่อนจะทำอะไรก็ดูด้อยและไม่ดีเท่าเพลงพิณแฟนสาวของเขาสักอย่าง คนเราทำงานก็เพื่อซื้อของที่ตัวเองอยากได้กันทั้งนั้น และของที่หล่อนซื้อก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของหล่อนทุกอย่าง เก็บก็ส่วนเก็บใช้ก็ส่วนใช้ ใครไม่ชอบหล่อนไม่สนหรอก ถึงแม้จะเป็นคนที่ตน แอบรักก็ตาม “ไม่เอาหน่า อย่างอนสิ ฉันแค่ล้อเล่นเองนะ ใครจะไปว่าน้ำรินคนสวยกัน มา ๆ กินเบอร์เกอร์ต่อเร็ว” อัคคีเห็นเพื่อนรักหน้างอด้วยความงอนก็รีบง้อทันที เพราะคิดว่าที่น้ำรินงอนเรื่องกระเป๋าโดยไม่รู้ตัวเลยว่าโดนงอนเรื่องที่เขาชอบอวยแฟนตัวเองต่างหากละ “ตบหัวแล้วมาลูบหลัง น้ำรินโป้งไฟแล้วนะ” หล่อนค้อนน้อย ๆ ให้เพื่อนด้วยท่าทางน่ารัก แล้วหันมานั่งกินเบอร์เกอร์เงียบ ๆ ทิ้งให้อัคคีมองคนตัวเล็กกินเบอร์เกอร์แก้มยุ้ยด้วยรอยยิ้ม น้ำรินก็แบบนี้ไม่เคยจะงอนเขาได้นานสักที “เดี๋ยวให้โบนัสพิเศษสิ้นเดือนจะได้หายงอน” เสียงเข้มเอ่ยเอาใจเพื่อนอย่างใจป้ำ และเขาก็เสียเงินให้น้ำรินแบบนี้ทุกครั้งที่โดนงอน ง้อเพื่อนคนนี้แต่ละทีเขาแทบจะปิดผับเลี้ยงสาว ๆ ได้ “ไฟพูดเองนะ” หน้าสวยหันมายิ้มหวานอย่างดีใจที่ถูกง้อ ไม่ใช่ว่าอยากได้เงินแต่ทุกครั้งที่อัคคียอมตามใจหล่อน มันทำให้หล่อนรู้สึกเป็นคนที่เขายังให้ความสำคัญอยู่ไม่น้อย “คนอย่างนายอัคคีเคยโกหกหรือไง จะเอาบัตรไปรูดก่อนมั้ยละครับคุณน้ำริน” อัคคียื่นหน้าเข้าไปแกล้งเพื่อนก่อนจะหยุดชะงักนิ่งไปเมื่อสบเข้ากับดวงตากลมโตนั้น น้ำรินถึงกับกลั้นหายใจด้วยความรู้สึกที่ใจสั่นไหว “นี่ ออกไปได้แล้ว ไฟเนี่ยชอบแกล้งน้ำรินตลอดเลย น้ำรินไปนอนละนะ ถ้ากลับก็ล็อกห้องให้ด้วย” ร่างสวยลุกขึ้นก่อนจะเดินหนีเพื่อนเข้าไปในห้องด้วยใบหน้าร้อนผ่าว นี่เป็นครั้งแรกที่เราใกล้กันขนาดนี้ มือเรียวกุมหน้าเอาไว้อย่างขัดเขิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD