Aid & Kivi
9
กีวี่หน้าร้อนผ่าวไปหมด เบือนหน้าหนีสายตาของอิฐที่กำลังจ้องมองเธออยู่ ทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงแบบนี้นะ? เต้นแรงจนควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วตอนนี้ อิฐก้มลงหอมแก้มกีวี่ทันทีจนเธอหันกลับมามองเขาอีกครั้ง
“คุณแก่แล้วงั้นเหรอ?”
“ก็ใช่นะสิ แก่แล้ว... ง้อคนแก่ เขาทำกันยังไง? ฮึ”
“ฉะ ฉันไม่รู้” มือบางยันอกแกร่งไว้ พร้อมกับใบหน้าหวานที่ตอนนี้มันร้อนไปหมดแล้วจริงๆ กับการกระทำของเขา อิฐที่เห็นแบบนี้ก็ยิ่งได้ใจ โถมตัวลงจนกีวี่ตกใจ
“อะ อิฐ ฉันหนักนะ ลุกไปเลย!!”
“ไม่ บอกก่อนว่าจะง้อผมยังไง?”
“...”
“ไม่งั้นก็ไม่ลุก อยู่มันแบบนี้ล่ะ จนกว่าผมจะลุก...” คำว่าลุกของอิฐทำให้กีวี่มึนงง เพราะเขาเน้นคำจนเธอถอนหายใจออกมา ใบหน้าหวานมองสบตากับดวงตาคมอย่างนิ่งๆ
“เอางี้ ฉันทำอาหารให้ทาน”
“อือฮึ แล้วไงต่อ...”
“ก็ทำความสะอาดห้องให้ ทำแผล ซักผ้า และก็...”
“อะไรฮึ? แค่นี้เองเหรอ ผมไม่หายงอนหรอกนะ” อิฐยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เหตุผลของกีวี่ที่ยกมา มันไม่ได้ตรงกับที่ใจเขาคิดสักนิด กีวี่เองก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วเพราะเธอคิดไม่ออกว่าจะง้อเขายังไงดี แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่แฟนซีงอนเธอ... เธอจะง้อเขาด้วยวิธีการซื้อของขวัญให้ แต่นี่คืออิฐ เขาไม่ใช่แฟนซี เพราะงั้นเธอไม่ควรเอาเขามาปนกับเรื่องของแฟนซี
“ไม่รู้แล้ว...”
“หึ งั้นสัญญาก่อนว่าคุณจะตามใจผมหนึ่งวัน โอเคไหม?”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็ผมงอนคุณอยู่ไงครับ ว่าไง... เพราะให้ไอ้สิ่งที่คุณพูดมา ไม่ได้ทำให้ผมหายงอนได้หรอกนะ” กีวี่มองอิฐที่จูบหน้าผากเธอเบาๆ ใบหน้าหล่อคมก็ยิ้มออกมาทันที จนเธออดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม อย่างน้อยได้เห็นเขายิ้มแบบนี้ก็ดีใจมากแล้วจริงๆ กีวี่ทำหน้าครุ่นคิดจนอิฐจ้องมองเธอด้วยสีหน้าลุ้นๆ
“อืม...”
“...”
“ก็ได้”
“กรี๊ด!! น่ารักที่สุด จุ๊บๆ”
“นะ นี่กรี๊ดเป็นแต๋วเลยนะ 5555” ร่างหนามองกีวี่ที่หัวเราะออกมาจนใบหน้าหวานแดงไปหมด เขาถึงกับยิ้มไม่หุบเลยที่ทำให้เธอยิ้มและหัวเราะได้ขนาดนี้ กีวี่หัวเราะจนท้องแข็งไปหมด แต่อิฐเงียบไปเลยทำให้เธอหยุดขำและมองอิฐที่ลูบหัวเธอเบาๆ ด้วยสายตาที่อ่อนโยนซะจนเธอใจเต้นรัว
"มะ มีอะไรเหรอ?"
“ขำ? ยิ้ม? หึ รู้ไหมว่าเวลาที่คุณยิ้มหรือหัวเราะ ผมดีใจมากเลยนะที่เป็นคนทำให้คุณ... ได้ยิ้มและมีความสุข”
“!!!”
“อยู่กับผม คุณจะไม่มีวันเสียใจ... อยู่กับผม คุณจะไม่มีวันร้องไห้ ผมสัญญา” กีวี่ที่ได้ฟังถึงกับร่างกายสูบฉีด ภายในใจร้อนผ่าวไปหมด ยิ่งได้จ้องมองใบหน้าของเขาแล้วทำให้เธอสั่นไหวไปทั้งตัวจริงๆ ใบหน้าหวานเบือนหน้าหนีสายตาของเขาที่จ้องมองเธออย่างอ่อนโยน
“กะ ก็ถ้าฉันพยุงตัวเองได้แล้ว ฉันก็จะไม่รบกวนคุณอีก”
“รบกวนผมตลอดชีวิตก็ได้นะวี่...”
“อะ เอ๋?”
“สำหรับคุณ ต่อให้รบกวนผมตลอดชีวิต ผมก็ยอม” อิฐจับใบหน้าหวานให้หันมาสบตากับเขา พร้อมกับก้มลงประกบจูบเธออีกครั้งและครั้งนี้มันเป็นอีกครั้งที่กีวี่เผลอตัวจูบไปกับเขา ริมฝีปากบางเปิดปากให้เขาได้เข้าไปกวัดเกี่ยวลิ้นของเธออย่างชำนาญ ใบหน้าหล่อขยับไปตามแรงจูบที่ส่งมอบให้กับเธอ มือบางก็เลื่อนจากไหล่หนาเป็นโอบรอบคอเขาแน่น พร้อมกับจูบตอบเขาจนอิฐยิ้มออกมานิดๆ ก่อนที่ทั้งสองคนจะผละจูบออก กีวี่หอบหายใจหนักมองอิฐที่ยิ้มให้เธอ ใช้ปลายนิ้วลูบไปที่แก้มนวลที่บวมช้ำ
“ฉันไม่มีค่าพอจะอยู่กับคุณไปตลอดได้หรอกค่ะ”
“มีไม่มี ผมเป็นคนตัดสินใจเอง...”
“...”
“คุณมีค่าสำหรับผมนะวี่ ใครจะมองว่าคุณไม่มีค่า แต่ผมคนหนึ่งที่มองเห็นค่าของคุณ มองเห็นความดีของคุณ”
“ฉันไม่ใช่คนดี ฉันฆ่า... อ่ะ!!” กีวี่ตกใจที่อิฐจูบมาที่ริมฝีปากของเธอทันทีแต่แผ่วเบา เพื่อให้เธอหยุดพูดเรื่องของแฟนซี ให้เธอหยุดคิดเรื่องนี้ เรื่องที่มันเป็นตราบาป... เรื่องที่ทำให้เธอไม่เปิดหัวใจกับใคร ร่างหนาจูบไปที่จมูกของเธอและเลื่อนไปที่ดวงตากลมโต
“สิ่งที่ผมจะขอคุณ เวลาอยู่กับผม... อย่าพูดถึงแฟนซีจะได้ไหม?”
“อะ อิฐ...”
“ผมอยากให้คุณมองผมเป็นผม คิดถึงผม ห่วงผมเพราะห่วงผมจริงๆ อย่ามองผมเป็นคนอื่นได้ไหมครับ” น้ำเสียงเศร้าใจทำให้กีวี่หัวใจกระตุกทันที และถึงแม้ว่าเธอจะนึกถึงแฟนซีกี่ครั้งก็ตาม แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่เธอจะมองเขาเป็นคนอื่น ตอนแรกเธอยอมรับที่มองเขาเหมือนแฟนซี แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว... มือบางกอบกุมแก้มทั้งสองข้างของเขา พร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาเพื่อให้เขาได้มั่นใจกับสิ่งที่เธอกำลังจะพูด
“ฉันมองคุณเป็นคุณเสมอนะอิฐ ตอนแรกฉันอาจจะมองคุณเป็นแฟน... แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว”
“...”
“ทุกครั้งที่คุณช่วยฉัน ทุกครั้งที่คุณห่วงใยฉัน ทุกครั้งเวลาที่คุณเสียใจ ฉันมองคุณเป็นคุณเสมอนะคะ” อิฐที่ได้ฟังก็ไม่ต่างอะไรกับกีวี่ที่หัวใจเต้นระรัวพร้อมๆ กัน ใบหน้าหวานโน้มใบหน้าจูบไปที่แก้มเขาเบาๆ เพื่อตอบแทนความดีของเขาที่มอบให้เธอมาตลอด อิฐถึงกับอึ้งแต่ก็ดีใจที่เธอทำให้เขายิ้มอีกครั้ง
“ตอบแทนสำหรับทุกอย่าง คุณคือผู้ชายที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย...”
“คุณก็เหมือนกัน คุณคือผู้หญิงที่ทำให้ผมหัวใจเต้นแรง และรู้สึกอะไรมากกว่านั้น”
“เอ๋? ระ รู้สึกมากกว่านั้น” กีวี่มองอิฐที่ส่ายหน้าไปมา และลุกขึ้นนั่งทันที เกาหัวตัวเองทันทีอย่างเขินๆ กูพูดอะไรออกไปเนี้ย!! เสี่ยวจริงๆ ไอ้อิฐ... ร่างบางลุกขึ้นนั่งแล้วมองเขาที่หันมามองเธอพร้อมกับใบหน้าหล่อคมที่แดงจนเธอเองก็ไม่แพ้กันที่เกิดอาการหน้าร้อนผ่าว
“ฉะ ฉันว่าคุณไปอาบน้ำดีกว่านะ เดี๋ยวฉันหาอะไรไปให้ทาน...”
“เดี๋ยวสิครับ คุณย้ายมาอยู่กับผมนะ ห้องของคุณยังเหมือนเดิมนะ” อิฐเงยหน้าสบตากับกีวี่ที่ยืนมองใบหน้าหล่อ แต่มันจะดีเหรอ? อิฐอุตส่าห์มีน้ำใจ... และเธอเองก็ไม่อยากจะปฏิเสธเขาเลย เพราะอยากจะดูแลเขาที่เจ็บตัวเพราะเธอมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว มือหนาบีบมือบางแน่นจนกีวี่สะดุ้ง
“ก็ได้ค่ะ ฉันจะอยู่ที่นี่ก็ได้”
“จริงนะครับ?”
“อือ แต่ว่าถ้าฉันเคลียร์ทุกอย่างแล้ว ฉันพยุงตัวเองได้แล้ว... ฉันจะไปนะ”
“ครับ โอเคเลยครับ... กว่าคุณจะโอเค คงใช้เวลานานนะ หึ”
“ว่าอะไรนะ?”
“ปะ เปล่าครับ ผมจะไปอาบน้ำแล้ว ห้องของคุณใช้ได้ปกติเลยครับ” กีวี่พยักหน้าแล้วบิดมือออกมาก่อนจะตรงเข้าไปที่ห้องทันที ใบหน้าหวานหลับตาลงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้... ทำไมหัวใจของเธอถึงได้เต้นแรงแบบนี้นะ!! มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอเนี้ย วี่... เธอกำลังรู้สึกอะไรกันแน่? หลังจากที่กี่วี่อาบน้ำเสร็จก็ดีที่ในตู้เสื้อผ้ายังคงมีเสื้อยืดของเธออยู่หนึ่งตัวที่ไว้สำหรับสวมใส่นอน ร่างบางเดินออกมาจากห้องก็เปิดตู้เย็นดูไม่เห็นมีของสดเหลืออยู่เลย มีก็แต่นมและก็ผลไม้ เธอคิดได้ดังนั้น เลยเทนมใส่แก้วและเดินตรงไปที่ห้องของเขาทันที
“อิฐ ฉันเอานมมาหะ... วะ ว้าย!!”
“วะ วี่!! เออ... จิ๊” อิฐที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กพันเอวไว้ก็ตกใจทันที มองแผ่นหลังของกีวี่ที่ยังคงไม่หันมา จนเขายิ้มเจ้าเล่ห์เดินไปประชิดตัวเธอทันที ใบหน้าหล่อโน้มไปดูก็เห็นว่าร่างบางกำลังหลับตาลงอยู่ จนเขาอดไม่ได้ที่จะขโมยหอมแก้มแดงๆ ของเธอ
ฟอด...
“อ่ะ อิฐ คนบ้า!!”
“5555 หันมาเถอะครับ ผมไม่ได้เปลือย” กีวี่กลอกตาไปมาและหันไปเผชิญหน้ากับเขา แต่สายตาดันจับจ้องไปที่แผงอกแกร่งที่เป็นรอยสักรูปนกอินทรีอย่างนิ่งๆ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ หลบสายตาทันทีและยื่นแก้วนมให้เขา