ตอนที่ 3

922 Words
ประตูห้องนอนถูกเขย่าแรงๆ ทำให้คนที่นอนซึมเศร้าอยู่บนเตียงต้องรีบป้ายน้ำตา และเอ่ยถาม “แม่เหรอจ๊ะ” “ฉันเอง เปิดประตูหน่อย เร็วเข้า” เสียงของพี่สาวตอบกลับมา และก็ทำให้หล่อนเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า “พี่นารีมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอ” “มีสิ แล้วก็รีบเปิดประตูด้วย” “แต่ฉันนอนแล้วนะ เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน” หล่อนตัดบท เพราะไม่อยากจะทะเลาะกับพี่สาวฝาแฝด แต่ดูเหมือนว่านารีรัตน์จะไม่ยอม “ถ้าแกไม่เปิด ฉันจะร้องโวยวายให้ลั่นเชียว พ่อกับแม่จะได้ตกใจเล่นๆ” อลินดาถึงกับต้องถอนใจหายยาวเหยียด พี่สาวของหล่อนมักจะเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้เสมอ ต้องได้ดั่งใจต้องการทุกอย่าง โดยไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นเลย “อย่านะพี่นารี ฉันไปเปิดประตูเดี๋ยวนี้แหละ” คนเป็นน้องต้องกระโจนลงจากเตียง และวิ่งไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว นารีรัตน์ยืนท้าวสะเอวอยู่หลังบานประตู ก่อนจะเดินแทรกเข้ามาภายในห้อง ทำราวกับตัวเองเป็นเจ้าของห้องไม่มีผิด อลินดาดันบานประตูปิดเบาๆ ก่อนจะเดินตามพี่สาวมา “ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไรอยู่” “พี่นารีพูดอะไรคะ” “อย่ามาทำเป็นไขสือหน่อยเลย” นิ้วเรียวของนารีรัตน์ยกขึ้นจิ้มหน้าผากของน้องสาวแรงๆ อย่างหมั่นไส้ “สายตาที่แกใช้มองคุณแซคไงล่ะ แกคิดจะแย่งเขาไปจากฉันเหรอ” อลินดาถอนใจอย่างเหนื่อยล้า หล่อนเม้มปากและเดินหนีไปนั่งบนเตียง “ถ้าพี่นารีมีเรื่องจะพูดกับฉันแค่นี้ ฉันขอตัวนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า” “แกอย่ามาทำเป็นตัดบท ตอบมาก่อนว่าแกยังตัดใจจากคุณแซคไม่ได้ใช่ไหม” พี่สาวกระชากแขนของหล่อนแรงๆ ก่อนจะบีบบังคับให้หันกลับไปเผชิญหน้า อลินดาน้ำตาซึม ยิ่งเห็นสายตาเกลียดชังที่พี่สาวมองมาด้วยแล้ว ก็ยิ่งเสียใจ “ความรู้สึกของฉันมันไม่สำคัญหรอกค่ะ สิ่งที่สำคัญก็คือความจริงใจของพี่นารีที่มีต่อคุณแซคต่างหาก” “นี่แกว่าฉันเหรอ” นารีรัตน์ตวาดลั่นอย่างโมโห จ้องหน้าน้องสาว ฝาแฝดเขม็ง “หรือมันไม่จริงล่ะพี่นารี พี่ก็รู้อยู่แก่ใจนี่ว่าอะไรเป็นอะไร อย่าให้ฉันต้องพูดมันออกมาเลย” “อีน้องปากดี” เพี๊ยะ ใบหน้าของอลินดาสะบัดไปตามแรงปะทะจากฝ่ามือของพี่สาว ซีกแก้มที่ถูกตบชาดิกและแดงก่ำ “มันจะเป็นครั้งสุดท้ายนะคะที่ฉันยอมให้พี่นารีทำร้ายร่างกายฉัน” หล่อนยกมือขึ้นกุมแก้มของตัวเอง และมองหน้านารีรัตน์ด้วยสายตาจริงจัง “ทำไม แกจะทำไม” “ฉันยอมพี่มาตลอดทั้งแต่เล็กจนโต แต่ต่อจากนี้ไป ฉันจะไม่ยอมพี่อีกแล้ว ถ้าแรงมา ฉันจะแรงกลับ และคอยดูนะว่าฉันจะทำจริงๆ” แทนที่นารีรัตน์จะรู้สึกผิดชอบชั่วดีขึ้นมาบ้าง แต่กลับไม่ใช่อย่างนั้นเลย “ถ้าแกทำอะไรฉัน ฉันก็จะไปฟ้องพ่อกับแม่ และแกก็คงรู้ใช่ไหมว่าพ่อกับแม่จะเข้าข้างใคร” อลินดาทั้งเจ็บปวด ทั้งน้อยใจ แต่ก็จำต้องซ่อนน้ำตาเอาไว้อย่างสุดกำลัง “ถึงพ่อกับแม่จะรักฉันน้อยกว่าพี่นารี แต่ท่านทั้งสองคนก็คงไม่ใจดำกับฉันซึ่งเป็นลูกสาว เหมือนกับที่พี่สาวอย่างพี่ทำกับน้องสาวอย่างฉันหรอก” “อี... อีลินดา!” “ฉันจะพักผ่อนแล้ว พี่นารีกลับไปเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวเถอะ” นารีรัตน์ยกมือขึ้นจะตบหน้าน้องสาวอีกครั้ง แต่คราวนี้คู่ต่อสู้ยกมือขึ้นบ้าง ทำให้หล่อนขลาดกลัว และต้องล่าถอย “ถ้าแกยังไม่เลิกให้ท่าคุณแซค ฉันจะตบแกให้คว่ำ จำเอาไว้” หล่อนทำได้แต่มองตามร่างของพี่สาวไปด้วยความเสียใจ หล่อนดีขนาดนี้แล้ว นารีรัตน์ยังไม่พอใจอีกหรือไง น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ร่วงหล่นออกมาตามแก้มนวล หลังมือเล็กยกขึ้นป้ายทิ้งก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง และซบหน้าลงกับหมอนร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ ในขณะที่แฝดผู้น้องเสียใจร้องไห้ แต่แฝดผู้พี่ที่เพิ่งเดินออกไปก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่ถือติดตัวเอาไว้ขึ้นมากดรับสาย และก็ยิ้มระริกระรี้เมื่อเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาหาว่าเป็นใคร “คิดถึงคุณจังค่ะสตีฟ” คนพูดยิ้มหวานกับโทรศัพท์ “ว่าไงนะคะ จะนัดลินดาออกไปเที่ยวคืนนี้เลยเหรอคะ” ถามออกไปด้วยสุ่มเสียงแปลกใจ แต่ใบหน้ากับเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม “ได้สิคะ งั้นเจอกันที่ผับเดิมนะคะ ว่าไงนะคะ ให้ไปโรงแรมเลยเหรอคะ โอเคค่ะ ได้ค่ะ ลินดาไม่เกี่ยงอยู่แล้วค่ะ เพราะลินดาคิดถึงคุณ” นารีรัตน์กดวางสาย ใบหน้าหวานยังคงมีรอยยิ้มมากมาย ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสะใจ “ฉันจะใช้ชื่อแกคั่วผู้ชายต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ เพราะคนที่เสียชื่อเสียงต้องเป็นแกไม่ใช่ฉัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD