กำเนิดทารกแฝด

1522 Words
เมื่อรู้ข่าวที่สายลับในจวนราชครูส่งมา แม่นมจึงไม่เสียเวลาเก็บสิ่งใด นางห่วงชีวิตเสี่ยวปาเป็นที่ตั้ง จึงสั่งบ่าวชายตาบอดกับหญิงรับใช้ให้หนีเอาตัวรอด ส่วนนางกับเสี่ยวปาเดินทางออกจากเรือนบนเขา ขึ้นรถม้าที่มีคนเตรียมไว้ให้ ซึ่งฝ่ายนั้นก็คือผู้ที่เคยให้การช่วยเหลือเสี่ยวปาตั้งแต่แม่นางน้อยยังไม่ลืมตาขึ้นมาดูโลก “จำไว้ ชีวิตของเสี่ยวปาสำคัญยิ่ง มารดานางจากไปแล้ว ส่วนคุณหนูแปด ใช้ชีวิตในจวนราชครูสุขสบายก็จริง แต่มีคนปองร้ายนางอยู่ตลอด ตัวเจ้าหลังจากส่งเสี่ยวปาถึงมือคนผู้นั้นเรียบร้อย จงหาทางกลับเข้าจวนราชครู คอยปกป้องคุณหนูแปดให้ดี จนกว่าจะได้รับแจ้งแผนการต่อไป” “ทราบแล้วเจ้าค่ะ บ่าวจะทำงานนี้สุดความสามารถ” “อย่าลืมสิ่งที่ข้าเตือน ทำให้คุณหนูแปดเป็นดั่งดวงจันทร์ในคืนเดือนมืด นางจะส่องแสงมิได้ จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม ส่วนเสี่ยวปา...นางจะกลายเป็นดวงอาทิตย์ที่สาดแสงเจิดจ้าในภายภาคหน้า ผู้ใดขวางย่อมต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก!” แม่นมพยักหน้ารับคำ ทั้งหมดคือสิ่งที่นางต้องกระทำ เรื่องนี้จะพลาดพลั้งไม่ได้ การเดินทางครั้งนี้ลำบากมิน้อย และหยุดพักเพียงเปลี่ยนรถม้าเท่านั้น ซึ่งนางพยายามสวดภาวนา ขอให้เสี่ยวปารอดปลอดภัย หน้าที่นางมีเพียงเท่านี้ ส่งอีกฝ่ายให้อยู่ในความคุ้มครองของผู้คุ้มกันในเมืองจิง แผ่นดินที่ปกครองด้วยเผ่าคนเลี้ยงม้า เรื่องราวยุ่งเหยิงนี้ ซึ่งอย่างที่เล่าถึง ต้นสายปลายเหตุก็คือ ราชครูสวี่ได้ฟังคำทำนายของนักพรตคิ้วขาว ที่แจ้งว่า หากใครในสกุลสวี่คลอดลูกแฝด หนึ่งชีวิตรอด อีกหนึ่งชีวิตต้องถูกนำเซ่นไหว้ ด้วยการแยกร่างออกเป็นห้าส่วน! มันคือการแก้เคล็ดเรื่องร้ายๆ ด้วยราชครูสวี่ มักคุ้มคลั่งกล่าวว่ามีวิญญาณตามรังควาน วิญญาณดังกล่าวย่อมเป็นพี่ชายฝาแฝดเขา ดังนั้นเมื่อนักพรตรู้จุดอ่อน จึงร่วมมือกับฮูหยินใหญ่ราชครูสวี่ และก่อนหน้าหมอจากสำนักการแพทย์ได้จับชีพจรอี๋เหนียงสาม เขาล่วงรู้ว่า นางท้องลูกฝาแฝด ทว่าเรื่องนี้ไม่ได้แพร่งพรายออกไป เนื่องจากอี๋เหนียงสาม กลัวว่าลูกของนางที่จะลืมตาขึ้นมาดูโลกอาจมีคนใดคนหนึ่งต้องเสียชีวิต กระนั้นเพื่อให้ตนเองได้รับความคุ้มครองลับๆ นางจึงส่งจดหมายถึงญาติฝ่ายมารดา เขาเป็นผู้ที่มีพระคุณนางซึ่งก็คือไท่ซางหวงแคว้นหัวห ยาง คนผู้นี้ที่สละบัลลังก์ให้น้องชายร่วมสาบานดูแลบริหารบ้านเมือง และฮ่องเต้ก็ดีพร้อมทุกอย่าง ผิดแต่ใจอ่อนกับสตรี โดยเฉพาะนางผู้ที่มีนามว่า จวงเทียน ! กระทั่งเวลาผ่านไป จนถึงคืนที่ท้องฟ้าปั่นป่วน เรือนหลังใหญ่วุ่นวายไปหมด หมอตำแย หมอหลวงวิ่งแทบจะชนกัน ส่วนด้านนอกเกิดจลาจลเนื่องจากมีข่าวว่ามีกบฏจากกลุ่มของไท่ซางหวง เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นการใส่ร้ายของพระสนมจวงเทียน นางต้องการตัดกำลังไท่ซางหวง อีกทั้งในอดีต เป็นนางที่มีใจให้เขา หากเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการยกบัลลังก์ให้น้องชายนางจึงสลัดรักอย่างไม่ใยดี แล้วโผไปซบอกฮ่องเต้ ภายหลังก็หาทางใส่ความอีกฝ่าย ว่าเป็นผู้ก่อกบฏ ด้วยนางสืบรู้แน่ชัดว่า ในภายภาคหน้าลูกชายของไท่ซางหวง จะได้เป็นรัชทายาท และปกครองแคว้นหัวหยาง แต่เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อนางให้กำเนิดองค์ชายสาม ผู้ที่สกุลของนางหมายมั่นจะให้นั่งบัลลังก์มังกรต่อจากฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน! ในคืนที่อี๋เหนียงสามคลอดฝาแฝด เหมือนมีเงาภูตผีและกลิ่นอายของปีศาจปกคลุมไปทั่ว นกหลายร้อยตัวบินวนอยู่เหนือหลังคาเรือนที่อี๋เหนียงสาม เมื่อมองขึ้นไป มันเป็นภาพชวนให้อกสั่นขวัญแขวนที่สุด ดวงตานกสีแดงก่ำดั่งเลือด แมวดำหลายตัวก็วิ่งวนอยู่บนกำแพง ส่งเสียงร้องราวกับทารกเสียขวัญ ทั้งหมดเกิดขึ้นสลับเสียงหวีดร้องของอี๋เหนียงสาม นางเป็นสตรีที่ค่อนข้างเจ้าเนื้ออยู่สักหน่อย ตลอดระยะเวลาที่อยู่คฤหาสน์หลังนี้ ผู้เป็นสามีให้ความรักมากกว่าใคร เนื่องจากนางมาจากตระกูลขุนนางใหญ่ และทำให้เขาได้ขึ้นเป็นถึงราชครูที่ฮ่องเต้แห่งแคว้นหัวหยางไว้วางใจ และอี๋เหนียงสามคลอดลูกคนแรกเป็นหญิง ซึ่งเด็กนั้นตัวใหญ่นางจึงเสียเลือดมิน้อย อาการเลยไม่สู้ดี ยามนั้นแม่นมผู้รู้แจ้งว่าในท้องของอีกฝ่ายยังมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ จึงพยายามสร้างเรื่องวุ่นวาย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจผู้อื่น ประจวบเหมาะที่ทั่วเมืองหลวงมีเหตุการณ์ไม่ปกติ จึงไม่มีใครเอะใจ เสียงร้องให้คนดับไฟที่ลุกลามจากโรงเรือนด้านหลังดังทั้งจวนราชครู เป็นโอกาสดีที่แม่นมกับอีกหมอตำแยจะเร่งทำคลอดอี๋เหนียงสาม “อี๋เหนียงของบ่าว แข็งใจอีกสักหน่อยเถิด” แม่นมว่า และคอยมองไปข้างนอก คนของนางเตรียมการต่างๆ ไว้แล้ว ขอเพียงทุกอย่างสำเร็จ หนึ่งชีวิตจะอยู่ในจวนต่อไป อีกหนึ่งชีวิตนางต้องพาออกไปจากที่นี้ เพื่อรักษาให้รอดชีวิต “ขะ ข้า...ไร้เรี่ยวแรง ฝากบอกท่านลุงด้วย ให้เขาดูแลหลานแทนข้า” นางหมายถึงไท่ซางหวง ผู้ที่อี๋เหนี่ยงสามนับถือดั่งลุงแท้ๆ อีกฝ่ายคือญาติห่างๆ คนละสายเลือดฝ่ายมารดา หากเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับบิดานางที่ล่วงลับไปแล้วของนาง “มิได้เจ้าค่ะ อี๋เหนียงต้องช่วยให้คุณหนูแปด และอีกหนึ่งชีวิตปลอดภัย” แม่นมเอ่ยจบก็หันไปรับถ้วยยามา มันคือสิ่งที่จะกระตุ้นการคลอดครั้งนี้ แน่นอนอันตรายอาจถึงขั้นพรากเอาลมหายใจได้ แต่นางเลือกกระทำเช่นนั้น หาไม่แล้วทุกชีวิตที่เกี่ยวพันกับอี๋เหนียงสามที่ยังอยู่ในเรือนนี้อาจต้องพบความตาย “แข็งใจนะเจ้าคะ ทุกชีวิตขึ้นอยู่กับอี๋เหนียง” เมื่อเวลาผ่านไปราวๆ หนึ่งก้านธูปดับทารกอีกคนก็ลืมตาขึ้นมาดูโลก เด็กแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่ได้ร้องเสียงดัง ราวกับล่วงรู้ว่ายามนี้สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย “อี๋เหนียง นางเป็นเด็กผู้หญิงเจ้าค่ะ” “พานางมาใกล้ๆ ให้ข้าได้เห็นชัดๆ” อี๋เหนียงสามพยายามรวบรวมพลังของตนเฮือกสุดท้าย เมื่อเห็นใบหน้าทารกนางก็รู้สึกรักอย่างหมดหัวใจ ดวงหน้านี้ คล้ายนางอยู่หลายส่วน งดงาม ดูอ่อนหวาน ราวกับเทพธิดาองค์น้อย ส่วนเด็กที่คลอดออกมาก่อน จริงอยู่ที่ใบหน้าละม้ายกัน ทว่าลำคอนั้นกลับมีตำหนิชัดเจน เป็นปานสีแดงเข้ม แม้ไม่น่าเกลียด ทว่าทำให้แยกฝาแฝดคู่นี้ได้! ยานนี้ คำทำนายเป็นจริง นางกำเนิดหงส์ไฟ ที่ในภายภาคหน้าคือสตรีที่เป็นใหญ่เหนือแผ่นดิน ทว่า...นางจะเลือกให้ใครอยู่ หรือคนใดรอด เรื่องนี้ผู้ที่เป็นมารดายากตัดสินใจ “นางงดงาม ไร้ตำหนิใดๆ เจ้าจงให้นางเป็นชาย และพาออกจากจวนแห่งนี้เสีย!” แม่นมพยักหน้ารับ ยามนั้นน้ำตานางไหลพราก จึงพยายามกลั้นก้อนสะอื้นอย่างหนัก “ชื่อล่ะเจ้าคะ คะคุณหนู เอ่อ คุณชายน้อย มีชื่อหรือไม่” “เสี่ยวปา...” สิ้นคำอี๋เหนียงสาม ประตูด้านหน้าก็มีเสียงสาวใช้ดังขึ้น และผู้ที่จะบุกเข้ามาดูทารกที่คลอดใหม่จะเป็นใครได้ หากไม่ใช่ฮูหยินใหญ่จอมบงการ ยามนั้น จางเจิ้นส่งเสียงดังอย่างเกรี้ยวกราด และสั่งคนของตนบุกเข้ามา และเสียงนางดังราวกับนักแสดงงิ้ว ทั้งที่ข้างนอกไฟกำลังรุกไหม้เรือนเก็บวัตถุดิบ รวมถึงศาลบรรพชน “ไป ทุกคนต้องรู้เพียงว่า ข้าคลอดคุณหนูแปด สวี่หยางซินคนเดียวเท่านั้น” แม่นมพยักหน้ารับ ก่อนอุ้มทารกแนบอก พร้อมกันนั้นก็หันไปจ้องหมอตำแยเพียงเล็กน้อย ซึ่งด้านหลังนางมีสาวใช้รุ่นเล็กอีกคนนามเซี่ยงอี่ยืนประกบอยู่ ฝ่ายนั้นเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก สีหน้าซีดเซียวราวกับตื่นเต้นจัด แต่ดวงตาเรียวเล็กฉายความมุ่งมั่น แม่นมกระแอมไปส่งสัญญาณ และเซี่ยงอี่ไม่รอช้า ทุกสิ่งที่วางแผนไว้ นางย่อมต้องเชื่อฟัง มิเช่นนั้น ชีวิตของคนในครอบครัวนางคงไม่เหลือ เข็มเงินเล่มหนึ่งปักเข้าหลังต้นคอหมอตำแย รวดเร็วแม่นยำ และพิษมันออกฤทธิ์ในทันที “ข้าง่วง ง่วงเหลือเกิน” หมอตำแยว่า นางพยายามฝืนตาลืมขึ้น ทว่าร่างท้วมกลับล้มหน้าฟาดใส่กับอ่างน้ำอุ่น ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่แม่นมกับสาวใช้รุ่นเล็กใช้วิชาตัวเบากระโดดขึ้นบนกำแพง แล้วหายตัวไปในความวุ่นวายที่ทั่วทั้งเมืองหลวงมีเสียงโห่ร้องว่าเกิดการก่อกบฏของไท่ซางหวง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD