ตอนที่ 2

1451 Words
แบบนี้เองผมจะจัดการให้คุณย่าแบบโดยด่วนที่สุด ไม่ต้องถึงขนาดตามตัวไปที่กรุงเทพหรือว่าจ้างนักสืบเสาะหาบ้านเลขที่นี้หรอก แค่ที่อยู่หลักฐานแค่นี้ก็สามารถส่งไปถึงมือลูกหนี้ที่กรุงเทพได้ "แล้วผมจะทำการให้คุณย่าดำเนินเรื่องเองทั้งหมด เขาจะต้องชดใช้หนี้แน่" "ก็เอาตามนั้น" คุณมธุรส แม่ใหญ่พยักหน้าตามหลานชาย "เรื่องนี้ใช่มั๊ยที่แม่ใหญ่กังวลนัก ต้องให้ผมเข้ามาจัดการโดยด่วน" "ใช่แล้วลูก" นางตอบหลาน "ประมาณไม่เกินอาทิตย์หนึ่งก็มีผลตอบกลับมาครับ" หลานชายเป็นคนบอก "ถ้างั้นแม่ใหญ่จะได้สบายใจ คอยดู" นางพูดอีกเหมือนสั่งหลานชายถึงงานประจำที่เขาเคยปฏิบัติมา "แล้วนี่ ไปดูควายให้แม่ใหญ่แล้วยัง" "เรียบร้อยแล้วครับ พวกเด็กๆกำลังขนหญ้าไปให้กิน กับพาพวกมันไปอาบน้ำล้างตัวอยูในบ่อท้ายไร่ของเรา" "ดี สุขภาพควายปัญหาอนามัยก็มีความสำคัญนะลัค แม้ควายจะเป็นสัตว์แต่ก็มีบุญคุณอันประเสิรฐ สำหรับชาวนาที่ใช้แรงงานมันเพื่อปลูกข้าว" เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลมากแล้ว แต่คุณย่าก็ยังคงใช้บรรดาควายหลายร้อยตัวเหล่านี้เป็นสัตว์ใช้แรงงาน แต่ท่านก็ไม่ได้ใช้มันอย่างหักโหม ส่วนเครื่องจักรทันสมัยอย่าง รถไถ หรือรถเกี่ยวข้าวก็มีเช่นกัน มีเยอะ แต่คุณย่าหัวนักการค้าและทำธุรกิจ รถไถตั้งห้าหกคัน กับพอถึงหน้าเกี่ยวข้าว คุณย่าหรือแม่ใหญ่ให้ลูกน้องทุกคนนำรถออกไปบริการประชาชน คือให้ชาวนาว่าจ้างผลตอบแทนอาจจะเป็นข้าวเปลือกมาสักสามสี่กระสอบ หรือเป็นเงินสด ประมาณ เกือบหกพัน ผมลัคสิทธิ์หลานชายคนเดียวของคุณย่าหรือแม่ใหญ่ที่ทุกคนในหมู่บ้านนี้ต่างรู้จักและไม่มีใครที่ไม่รู้เนื่องจากคุณย่าผมหรือแม่ใหญ่เป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลในถิ่นนี้มากที่สุด นางเป็นหญิงม่ายที่แข็งแกร่ง ทำธุรกิจด้วยตัวเอง จนเป็นปึกแผ่นหลังจากที่ปู่ผมเสียไปเมื่อครั้งที่พ่อของผมเพิ่งคลอดมาได้ไม่นาน คุณย่าคือบุคคลที่เอาเป็นเยี่ยงอย่างและเป็นต้นแบบ แต่คุณย่าก็มีพี่น้องที่เป็นหญิงด้วยกันสามคนแต่อยู่กันคนละหมู่บ้าน เพราะการแต่งงานอพยพย้ายถิ่น แต่ก็ไม่ได้ไกลกันนัก อยู่ในจังหวัดเดียวกัน มีต่างอำเภอสอง และอยู่ในอำเภอเดียวกันแต่ต่างหมู่บ้าน คนหนึ่ง มีชื่อเรียกตามกันว่า แม่ใหญ่ แม่กลางแม่เล็ก คุณย่า หรือ แม่ใหญ่ นางมธุรส เป็นพี่สาวคนโต เรื่องที่คุณย่าแสนปวดหัวแล้วก็เล่าให้ผมฟังคือ อาแผน ลูกชาบุญธรรมของท่านในอดีตที่เพิกเฉยต่อหนี้สินจำนวนล้านกว่าบาทที่หยิบยืมคุณย่าครั้งไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพและนำไปลงทุนทำธุรกิจ จนเงียบหายแบบไม่มีการติดต่อข่าวคราวกลับมา ทั้งๆที่อาแผนในปัจจุบันนี้มีตำแหน่งใหญ่โตถึงระดับรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่ง แต่กลับไม่มีเงินมาใช้หนี้หรือคิดจะเอามาใช้หนี้แต่เดิมที่ติดค้างคุณย่าไว้ แต่เป็นเพราะว่าคุณย่ามีหนังสือสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ระบุเอาไว้ จึงให้ผมตามเรื่อง ฝ่ายฐานะทนายความของผมนั้นได้ส่งหนังสือนี้ไปถึงบ้านพักที่กรุงเทพแล้ว คาดว่าอีกไม่นานคงได้รับการตอบกลับมา ผมเชื่อแน่ว่า ทางอาแผนจะต้องตอบรับกลับมาอย่างแน่นอน อีกสามวันต่อมา "ลัคส่งไปแล้วใช่ไหมลูก" "ครับ แม่ใหญ่ ผมส่งไปแล้ว คาดว่าไม่เกินอีกอาทิตย์ อาแผนคงจะได้รับทราบ" "แม่ใหญ่กลัวเหลือเกิน แผนนั้นมีทางหลบเลี่ยงตลอด แม่ใหญ่ไม่นึกเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนั้น" แม่ใหญ่เอ่ยกับเขา แล้วก็เรียกหลานชายเข้ามากระซิบใกล้หู "เอางี้มั้ย หลาน เป็นข้อแลกเปลี่ยนกัน ถ้าฝ่ายของแผนไม่ยอมชดใช้หนี้ แม่ใหญ่ก็จะให้ลัคแต่งงานกับลูกสาวของเขาเป็นการขัดดอกไปในตัว" คนที่กำลังจะได้เมียหรือเจ้าสาวโดยไม่ทันตั้งตัวเพราะคำจากปากของแม่ใหญ่ของเขาถึงกับตกใจ "แม่ใหญ่ครับ" "ทำไมลัค แม่ใหญ่คิดอย่างนี้ถูกต้องแล้ว ไงก็เชื้อสายเดียวกัน แผนน่ะเป็นหลานของย่าห่างๆ เป็นลูกพี่ลูกน้องของฝั่งทวด ลัค ซึ่งเชื้อสายห่างกันไม่ได้ชิดกัน" ลัคสิทธิ์เลยยอมจำนนกับสิ่งที่ผู้เป็นย่าหรือแม่ใหญ่เอ่ย แต่เขาไม่เคยเห็นหน้าค่าตาลูกสาวของอาแผนสักนิด ทราบแต่เพียงว่ามีลูกสาวแต่ไม่รู้กี่คน "ลัคเชื่อย่านะ ย่าอยากให้ลูกหลานทางสายของแผน สืบสกุลกับทางเรา โดยมีลัคนี่แหละเชื่อมโยง" "แล้วเจ้าสาวเอ้อ ลูกของอาแผน ผมไม่รู้ว่าจะเข้ากับลัคได้แค่ไหนครับ เรายังไม่เคยเจอหน้ากัน" เรื่องนี้นางมธุรสก็คาดคิดไว้เหมือนกันแต่สำหรับนางไม่ใช่เรื่องยาก "เรื่องนี้ไม่ยากสำหรับย่าและลัคหรอกก็เอามาดัดนิสัยปรับตัวให้เป็นคนชนบทที่นี่ก็สิ้นเรื่อง แม่ใหญ่วางแผนแล้ว จะให้มาเลี้ยงควายแก้เผ็ดสักหน่อย ให้ชินกับเป็นคนบ้านนอนกางดินกินกลางทรายได้ นี่แหละคือแผนของแม่ใหญ่ ลัคเตรียมตัวด้วย" ลัคสิทธิ์เดาไม่ออกว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาก็ยอมเชื่อผู้เป็นย่าหรือแม่ใหญ่ทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆที่ลัคสิทธิ์มักไม่เคยขัดใจผู้เป็นย่าของเขา "แล้วลัคล่ะครับ" เขาถามถึงตนเองกับผู้เป็นย่า "ลัคก็ต้องใช้ฝีมือสิลูก แม่ใหญ่คิดว่า ลัคต้องทำได้แน่ เป็นถึงทนายความ ลัค รับปัญหาพวกนี้ได้แน่ แม่ใหญ่อยากให้ลัคเตรียมรับมือและเตรียมจัดการด้วย เชื่อแน่ว่า แผนต้องมาที่นี่แน่ ถ้าเราบีบบังคับเขาด้วยชื่อเสียงตำแหน่ง เขาอาจจะกลัวเรื่องเสียชื่อเสียเกียรติจนกระทั่งยินยอมทางเรา" แม้ลัคสิทธิ์จะคิดว่าแบบนี้มันเหมือนกันข่มเขาโคขืนให้กินหญ้ามากกว่า ทางฝ่ายหญิงจะยินยอมตกลง รับคำหรือเปล่า ซึ่งลัคสิทธิ์ต้องมีการเล่นละครอย่างแน่นอน ในการที่ไม่ให้หล่อน ลูกสาวของอาแผนรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา หนึ่งอยากลองใจ สอง คิดว่าเธอพอจะรับกับผู้ชายบ้านนอกอย่างเขาได้ไหม ที่ไม่ใช่คนในสังคมเมืองกรุง แม้ว่าฐานะหน้าตาของเขาจะไม่เป็นรองของหนุ่มเมืองกรุงก็ตาม และลัคสิทธิ์ก็เคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองกรุงในระดับการเรียนมหาวิทยาลัยมาก่อนจนกระทั่งเขาจบการศึกษาสอบได้ตั๋วทนายเนติบัณฑิตมา ก่อนที่จะได้เป็นทนายเต็มตัว เปิดสำนักงานว่าความของตัวเองอยู่ในตัวจังหวัด ไปกลับวันละ ยี่สิบห้ากิโลทุกวัน ซึ่งไม่ไกลสำหรับเขา ลัคสิทธิ์ยังโสดและเนื้อหอมมากที่สุด แต่เขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนมาก่อนอย่างจริงจัง แต่นี่ดูเหมือนจะเป็นคำขอร้องแกมบังคับจากแม่ใหญ่หรือคุณย่าสุดที่รักของเขา ไม่รู้คุณย่าอยากได้สายพันธ์ุอะไรจากอาแผนนักหนาก็ไม่รู้ อีกอย่างเขาไม่ใช่พ่อพันธ์ุนะ ที่จะมีหน้าที่ผลิตลูกให้คุณย่าได้เชยชมเหลน แต่เอาเถอะ ในเมื่อคนแก่ขอร้องก็ต้องทำตาม แผนนิ่งคิดอยู่ครู่ หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปมีซองเอกสารสีน้ำตาลจ่าหน้าซองถึงเขาและชื่อเขาด้วยระบุ พอเห็นชื่อคนส่งมาเท่านั้น แผน หรือรัฐมนตรีแผน ถึงกับตกใจมากที่สุด ห้องที่เป็นแอร์เย็นจัดขนาดนี้กลับทำให้เขาเครียด ทั้งๆที่เพิ่งกลับมาจากทำงานที่กระทรวง เขาอดนึกถึงอดีตไม่ได้หนี้สินจำนวนมากที่เขาหยิบยืมจากแม่ใหญ่ผู้หญิงที่เขาเคารพดุจแม่อีกคนที่เลี้ยงดูเขาเด็กกำพร้าเหมือนลูกอย่างแท้จริง รวมทั้งให้หยิบยืมเงินจำนวนมาก ณเวลานี้ถ้าดอกเบี้ยพุ่งตามก็เยอะโข แต่ตลอดเวลาเขาทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ นางเคยส่งเอกสารมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เขาให้คนเอาไปทิ้งเสีย หายไปนาน จนคราวนี้มีครั้งที่สอง จนแผนต้องคิดว่า เขาไม่มีทางหลีกเลี่ยงแล้วอ่านดูคร่าวในเนื้อหาจดหมายนั้นถึงกับใช้ทนายความร่างขึ้นมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD